มัทนะพาธา - ตำนานเกี่ยวกับดอกกุหลาบ
มัทนะพาธา คนเรามักเจ็บป่วยด้วยรัก
ก่อนจะลงไปรื่นรมย์กับเนื้อเรื่องย่อ อยากให้ปูพื้นอารมย์ด้วยบทงามๆ ของวรรณกรรมในพระราชนิพนธ์นี้สักสองสามบท แล้วอาจจะอยากหามาอ่านทั้งเรื่อง
เริ่มด้วยบทบรรยายความงามของดอกกุหลาบเปรียบเทียบกับความงาม ของแสงอรุณและแก้มระเรื่อของสาวน้อยเมื่อเธอเอียงอาย
ไม้เรียกผะกากุพ....... ชะกะสีอรุณแสง ปานแก้มแฉล้มแดง.........ดรุณี ณ ยามอาย ดอกใหญ่และเกสร.........สุวคนธะมากมาย อยู่ทน บ วางวาย.........มธุรสขจรไกล อีกทั้งสะพรั่งหนาม.........ดุจะเข็มประดับไว้ ผึ้งเขียวสิบินไขว่............บ่มิใคร่จะห่างเหิน
บทนี้เป็นบทสนทนาโต้ตอบระหว่างจอมเทพสุเทษณ์และเทพธิดามัทนา ที่สุเทษณ์ไม่สามารถโน้มน้าวเธอให้ปลงใจรักตนได้
สุเทษณ์... รักจริงมีจริงฤก็ไฉน อรไทบ่แจ้งการ มัทนา... รักจริงมีจริงก็สุระชาญ ชยะโปรดสถานใด สเทษณ์... พี่รักและหวังวธุจะรัก และบทอดบทิ้งไป มัทนา... พระรักสมัครณพระหทัย ฤจะทอดจะทิ้งเสีย? สุเทษณ์... ความรักละเหี่ยอุระระทด เพราะมิอาจจะคลอเคลีย มัทนา... ความรักระทดอุระละเหี่ย ฤจะหายเพราะเคลียคลอ สุเทษณ์... โอ้โ๋อ๋กระไรนะมะทะนา บมิตอบพะจีพอ? มัทนา... โอ้โอ๋กระไรอะมระง้อ มะทะนามิพอดี
บทต่อไปเป็นคำปฏิญาณรักของท้าวชัยเสนต่อมัทนา ที่มิอาจรักษาได้ ด้วยรักที่ยังระแวง
อ้าอรุณแอร่มระเรื่อรุจี ประดุจมโนภิรมย์ระตี..... ณ แรกรัก แสงอะรุณวิโรจน์นะภาประจักษ์ แฉล้มเฉลาและโสภินัก..... นะฉันใด หญิงและชาย ณ ยามระตีอุทัย สว่าง ณ กลางกมลละไม..... ก็ฉันนั้น แสงอุษาสะกาวพะพราว ณ สรรค์ ก็เหมือนระตีวิสุทธิอัน..... สว่างจิต อ้าอนงคะเชิญดำเนิรสนิธ ณ ข้าตะนูประดุจสุมิตร..... มโนมาน ไปกระทั่ง ณ ฝั่งอุทกจีระธาร และเปล่งพจี ณ สัจจะการ..... ประกาศหมั้น ต่อพระพักตร์สุราภิรักษะอัน เสด็จสถิต ณ เขตอะรัณ -..... ยะนี่ไซร้ ว่าตะนูและน้องจะเคียงคระไล และครองตลอด ณ อายุขัย..... บ่คลาดคลา
บทที่นำมาสุดท้ายนี้เป็นคำเปรียบความรักที่เป็นอมตะทีเดียว
ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้ ก็โลดออกจากคอกไป บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ หวนคิดถึงเจ็บกาย
มัทนะพาธา เป็นบทละครพูดคำฉันท์ 5 องค์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2466 เล่าเรื่องว่าด้วยตำนานเกี่ยวกับดอกกุหลาบ
เนื้อเรื่องย่อ จอมเทพสุเทษณ์เป็นเทพผู้ใหญ่บนสรวงสวรรค์ เป็นทุกข์อยู่ด้วยความลุ่มหลงเทพธิดามัทนา แม้จิตระรถผู้สารถีคู่บารมีจะนำรูปของเทพเทวีผู้เลอโฉม หลายต่อหลายองค์มาถวายให้เลือกชม สุเทษณ์ก็มิสนใจไยดี จิตระรถจึงนำมายาวินวิทยาธรมาเฝ้า สุเทษณ์ให้มายาวิน ใช้เวทมนตร์เรียกนางมัทนามาหา เมื่อมาแล้วนางมัทนาก็เหม่อลอยมิมีสติสมบูรณ์ เพราะตกอยู่ในฤทธิ์มนตรา สุเทษณ์มิต้องการได้นาง ด้วยวิธีเยี่ยงนั้น จึงให้มายาวินคลายมนตร์ แต่ครั้นได้สติแล้ว นางมัทนาก็ปฏิเสธว่ามิมีจิตเสน่หาตอบด้วย มิว่าสุเทษณ์จะเกี้ยวพาและรำพันรักอย่างไร สุเทษณ์โกรธนักจึงจะสาปมัทนาให้ไปเกิดในโลกมนุษย์
มัทนาขอให้นางได้ไปเกิดเป็นดอกไม้มีกลิ่นหอมเพื่อให้มีประโยชน์บ้าง สุเทษณ์จึงสาปมัทนาให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบที่งามทั้งกลิ่นทั้งรูป และมีแต่เฉพาะบนสวรรค์ยังไม่เคยมีบนโลกมนุษย์ โดยที่ในทุกๆ 1 เดือน นางมัทนาจะกลายร่างเป็นคนได้ชั่ว 1 วัน 1 คืน ในเฉพาะวันเพ็ญของแต่ละเดือนเท่านั้น และถ้านางมีความรักเมื่อใด นางก็จะมิต้องคืนรูปเป็นกุหลาบอีก แต่นางจะได้รับความทุกข์ทรมาน เพราะความรักจนมิอาจทนอยู่ได้ และเมือนั้นถ้านางอ้อนวอน ขอความช่วยเหลือ ตนจึงจะงดโทษทัณฑ์นี้ให้แก่นาง
นางมัทนาไปจุติเป็นกุหลาบงามอยู่ในป่าหิมะวัน บรรดาศิษย์ของฤษีนามกาละทรรศินมาพบเข้าจึงนำความไปบอก พระอาจารย์ กาละทรรศินจึงให้ขุดไปปลูกในบริเวณอาศรมของตน ในขณะที่จะทำการขุดก็มีเสียงผู้หญิงร้อง กาละทรรศินเล็งญาณดู ก็รู้ว่าเป็นเทพธิดามาจุติ จึงได้เอ่ยเชิญและสัญญาว่า จะคอยดูแลปกป้องสืบไป เมื่อนั้นการจึงสำเร็จด้วยดี
วันเพ็ญในเดือนหนึ่งท้าวชัยเสนกษัตริย์แห่งหัสตินาปุระ ได้เสด็จออกล่าสัตว์ในป่าหิมะวันและได้แวะมาพักที่อาศรมพระฤๅษี ครั้นได้เห็นนางมัทนาในโฉมของนารีผู้งดงามก็ถึงกับตะลึงและตกหลุมรัก จนถึงกับรับสั่งให้มหาดเล็กปลูกพลับพลาพักแรมไว้ใกล้อาศรมนั้นทันที
ท้าวชัยเสนรำพันถึงความรักลึกซึ้งที่มีต่อนางมัทนา ครั้นเมื่อนางมัทนาออกมาที่ลานหน้าอาศรมก็มิเห็นผู้ใด ด้วยเพราะท้าวชัยเสนหลบไปแฝงอยู่หลังกอไม้ นางมัทนาได้พรรณา ถึงความรักที่เกิดขึ้นในใจอย่างท่วมท้น ท้าวชัยเสนได้สดับฟัง ทุกถ้อยความจึงเผยตัวออกมา ทั้งสองจึงกล่าวถึงความรู้สึกอันล้ำลึก ในใจที่ตรงกันจนเข้าใจในรักที่มีต่อกัน จากค่ำคืนถึงยามรุ่งอรุณ ท้าวชัยเสนจึงทรงประกาศหมั้นและคำสัญญารัก ณ ริมฝั่งลำธารใกล้อาศรมนั้น
เมื่อมีความรักแล้ว นางมัทนาก็ยังคงรูปเป็นนารีผู้งดงาม มิต้องกลายรูป เป็นกุหลาบอีก ท้าวชัยเสนได้ทูลขอนางมัทนา พระฤษีก็ยกให้ โดยให้จัดพิธีบูชาทวยเทพและพิธีวิวาหมงคลในป่านั้นเสียก่อน
ท้าวชัยเสนเสด็จกลับวังหลายเพลาแล้วแต่ก็มิได้เสด็จไปยัง พระตำหนักข้างในด้วยว่ายังทรงประทับอยู่แต่ในอุทยาน พระนางจัณฑี มเหสีให้นางกำนัลมาสืบดูจนรู้ว่าพระสวามีนำสาวชาวป่า มาด้วย จึงตามมาพบท้าวชัยเสนกำลังอยู่กับนางมัทนาพอดี เมื่อพระนางจัณฑีเจรจาค่อนขอดดูหมิ่นนางมัทนา ท้าวชัยเสนก็กริ้วและทรงดุด่าว่าเป็นมเหสีผู้ริษยา
พระนางจัณฑีแค้นใจนัก ให้คนไปทูลฟ้องพระบิดาผู้เป็นเจ้าแห่ง มคธนครให้ยกทัพมาทำศึกกับท้าวชัยเสน จากนั้นก็คบคิด กับนางค่อมอราลีและวิทูรพราหมณ์หมอเสน่ห์ ทำอุบายกลั่นแกล้ง นางมัทนาโดยส่งหนังสือไปทูลท้าวชัยเสนว่านางมัทนาป่วย ครั้นเมื่อท้าวชัยเสนรีบเสด็จกลับมาเยี่ยมนางมัทนา ก็กลับพบหมอพราหมณ์กำลังทำพิธีอยู่ใกล้ๆต้นกุหลาบ วิทูรกับนางเกศินีข้าหลวงของนางจัณฑีจึงทูลใส่ความว่านางมัทนา ให้ทำเสน่ห์เพื่อให้ได้ร่วมชื่นชูสมสู่กับศุภางค์ ท้าวชัยเสนกริ้วนัก รับสั่งให้ศุภางค์ประหารนางมัทนา แต่ศุภางค์ไม่ยอม ท้าวชัยเสนจึงสั่งประหารทั้งคู่
พระนางจัณฑีได้ช่องรีบเข้ามาทูลว่าตนจะอาสาออกไปห้ามศึกพระบิดา ซึ่งคงเข้าใจผิดว่านางกับท้าวชัยเสนนั้นบาดหมางกัน แต่ท้าวชัยเสน ตรัสว่าทรงรู้ทันอุบายของนางที่คิดก่อศึกแล้วจะห้ามศึกเอง พระองค์จะขอออกทำศึกอีกคราแล้วตัดหัวกษัตริย์มคธพ่อตา เอามาให้นางผู้ขบถต่อสวามีตนเอง
ขณะตั้งค่ายรบอยู่ที่นอกเมือง วิทูรพรหมณ์เฒ่าได้มาขอเข้าเฝ้าท้าวชัยเสนเพื่อสารภาพความทั้งปวง ว่าพระนางจัณฑีเป็นผู้วางแผนการร้าย ซึ่งในที่สุดแล้วตนสำนึกผิด และละอายต่อบาปที่เป้นเหตุให้คนบริสุทธิ์ต้องได้รับโทษประหาร ท้าวชัยเสนทราบความจริงแล้วคั่งแค้นจนดำริจะแทงตนเองให้ตาย แต่อำมาตย์นันทิวรรธนะเข้าห้ามไว้ทันและสารภาพว่าในคืนเกิดเหตุนั้น ตนละเมิดคำสั่ง มิได้ประหารศุภางค์และนางมัทนา หากแต่ได้ปล่อยเข้าป่าไป ซึ่งนางมัทนานั้น ได้โสมะทัตศิษญ์เอกของฤษีกาละทรรศินนำพากลับสู่อาศรมเดิม แต่ศุภางค์นั้นแฝงกลับเข้าไปร่วมกับกองทัพแล้วออกต่อสู้กับข้าสึก จนตัวตาย ท้าวชัยเสนจึงรับสั่งให้ประหารท้าวมคธที่ถูกจับ มาเป็นเชลยไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ส่วนพระนางจัณฑีมเหสีนั้น ทรงให้เนรเทศออกนอกพระนคร ด้วยทรงเห็นว่าอันนารีผู้มีใจมุ่งร้าย ต่อผู้เป็นสามีก็คงต้องแพ้ภัยตนเอง มิอาจอยู่เป็นสุขได้นานแน่
ฝ่ายนางมัทนานั้นได้ทำพิธีบูชาเทพและวอนขอร้องให้สุเทษณ์จอมเทพ ช่วยนางด้วย สุเทษณ์นั้นก็ยินดีจะแก้คำสาปและรับนางเป็นมเหสี แต่นางมัทนาก็ยังคงปฏิเสธและว่าอันนารีจะมีสองสามีได้อย่างไร สุเทษณ์เห็นว่านางมัทนายังคงปฏิเสธความรักของตนจึงกริ้วนัก สาปส่งให้นางมัทนาเป็นดอกกุหลาบไปตลอดกาล มิอาจกลายร่างเป็นมนุษย์ได้อีกต่อไป
เมื่อท้าวชัยเสนตามมาถึงในป่า นางปริยัมวะทาที่ตามมาปรนนิบัติดูแลนางมัทนาด้วย ก็ทูลเล่าความทั้งสิ้นให้ทรงทราบ ท้าวชัยเสนจึงร้องร่ำให้ ด้วยความอาลัยรักแล้วขอให้พระฤษีช่วย โดยใช้มนตราและกล่าวเชิญนางมัทนาให้ยินยอมกลับเข้าไป ยังเวียงวังกับตนอีกครา
เมื่อพระฤษีทำพิธีแล้ว ท้าวชัยเสนก็รำพันถึงความหลงผิดและความรัก ที่มีต่อนางมัทนาให้ต้นกุหลาบได้รับรู้ จากนั้นจึงสามารถขุดต้นกุหลาบ ได้สำเร็จ ท้าวชัยเสนได้นำต้นกุหลาบขึ้นวอทองเพื่อนำกลับ ไปปลูกในอุทยาน และขอให้ฤๅษีกาละทรรศินให้พรวิเศษว่า กุหลาบจะยังคงงดงามมิโรยราตราบจนกว่าตัวพระองค์เองจะสิ้นอายุขัย พระฤษีก็อวยพรให้ดังใจ และประสิทธิประสาทพรให้กุหลาบนั้น ดำรงอยู่คู่โลกนี้มิมีสูญพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นไม้ดอกที่กลิ่น อันหอมหวานสามารถช่วยดับทุกข์ในใจคนและดลบันดาล ให้จิตใจเบิกบานเป็นสุขได้ ชาย-หญิงเมื่อมีรักก็จักใช้ดอกกุหลาบ เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักแท้สืบต่อไป
(ขอบคุณ วิกิพีเดีย)
เพลงประกอบ: Relax Music 1 Piano
ความรัก หากสองฝ่ายมีใจรักมั่นคงจริง จะคงอยู่ไม่เสื่อมสลาย แต่จะสลายง่ายนัก ก็เพราะฝ่ายใดหรือทั้งสอง... รักไม่มั่นคงจริง หรืออาจไม่เคยใช่ความรักเลย เป็นแค่ความหลงไป เพราะปัจจัยบางประการ
อาจเป็นแค่หลงไปในความเพ้อฝัน ที่พอตื่นจากฝันนั้นแล้ว แม้แต่คำที่เคยสัญญาก็อยากให้เลือนไป
เป็นสัจธรรมที่ควรเข้าใจและทำใจ โลกนี้มีแต่อนิจจังเท่านั้นที่เป็นนิรันดร์ และทั้งหลายทั้งปวงนั้น ก็คงไม่ใช่ความผิดของใคร เพราะนั่นคิอวัฏจักรของชตากรรม
ผู้ใดทำใจได้ว่า ตัวตนนั้นมาผู้เดียวและ จะไปผู้เดียว พบพานผู้ใดก็เพียงเพื่อใช้กรรมเก่า ทำทุกวันให้ดีที่สุด และหลับให้ได้สนิท เมื่อสิ้นอายุขัย ก็จะเป็นความสุขสงบยิ่งนัก มิตรร่วมชีวิตพึงพิเคราะห์
Create Date : 05 กรกฎาคม 2554 |
|
44 comments |
Last Update : 6 กรกฎาคม 2554 12:56:18 น. |
Counter : 17264 Pageviews. |
|
|
|
อีกสองวันจะตัดไหมข้างที่สองแล้ว อาการทั่วไป
สบายดี หมอก็ไม่ได้ห้ามใช้คอม แต่อยากพัก
เสียบ้าง คนในครอบครัวก็อยากให้พัก พี่ปูก็
อุตส่าห์มาดูแลบล็อกให้ทั้งที่มีงานล้นพ้นตัวอยู่
ขอขอบคุณเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมและขอบคุณพี่ปูด้วย
อีกสักสามสี่วันจขบ.คงกลับมาสู่สภาพปกติ
ได้เสียที