All the girls standing in the line for the bathroom !!!

*** หมายเหตุ : สงวนลิขสิทธิ์ บทความและผลงาน ใน Blog นี้ครับ ***
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
10 พฤศจิกายน 2558
 
All Blogs
 

*** Spectre *** ผี, นักฆ่า และ ผู้หญิง

*** Spectre ***






หลังจากหยุดคนร้ายใน Mexico ตามคำสั่งที่ M คนเก่า (Judi Dench) ทิ้งเอาไว้ James Bond (Daniel Craig) ได้เงื่อนงำใหม่ขององค์กรร้ายในนาม Spectre ที่น่าจะอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายๆทั้งหมด

ขณะเดียวกัน MI6 ก็กำลังถูก C (Andrew Scott) เจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยการพยายามยุบหน่วยสายลับรหัส 00 แล้วหันมาสร้างเครื่องข่ายข้อมูลที่เอาไว้เป็นเครื่องมือในการสอดส่องเฝ้าระวัง



นี่คือเรื่องย่อของ 007 ภาคต่อของผู้กำกับ Sam Mendes สานต่อแนวทางที่ได้ปูเอาไว้ใน Skyfall นั่นก็คือการผสมผสานระหว่าง 007 ยุคเก่าที่เป็นแฟนตาซีของผู้ชายและขายความบันเทิงแบบไม่เน้นจริงจังเข้ากับ 007 ในยุคต้นของ Daniel Craig ที่เน้นไปที่ความดิบและความจริงจังเป็นหลัก



ฟังดูเป็นเป็นไอเดียที่ไม่เลว และ Skyfall ก็ให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่แน่เสมอไปสำหรับ Spectre

(จากนี้ไปเปิดเผยเนื้อหาสำคัญครับ)







ผี



หนังเริ่มเรื่องด้วย Day of the Dead เทศกาลเฉลิมฉลองความตายใน Mexico ที่เป็นวันระลึกถึงคนในครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งก็เข้ากับ Theme ของหนังได้อย่างดี

เพราะภาคนี้ว่าด้วยการนำตัวละครที่ตายไปแล้วใน Casino Royale, Quantum of Solace และ Skyfall มาใช้ผูกโยงเรื่องใหม่ให้กับภาคนี้



นอกจากนี้ในอีกมุมมองหนึ่ง นี่คือการหยิบเอาสไตล์หนัง 007 ในอดีตกลับมาเล่าใหม่ และนำตัวร้ายเจ้าประจำอย่าง Ernst Stavro Blofeld (Christoph Waltz) ให้กลับมาอีกครั้ง



Spectre ที่นอกจากจะหมายชื่อองค์กรร้ายตามเนื้อเรื่องแล้ว มันยังมีอีกความหมายที่แปลว่า “ผี” อีกด้วย







นักฆ่า



สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัว James Bond ที่หนังเลือกจะนำเสนอให้เห็นในหนังภาคนี้ไม่ใช่การเป็น “สายลับ” หากแต่เป็น Bond ในฐานะ “นักฆ่า” มากกว่า
และน่าสนใจว่าการเป็นนักฆ่าของ Bond นั้น เป็นไปทั้งแบบ “รู้ตัว” และ “ไม่รู้ตัว”



- รู้ตัว: Bond คือนักฆ่าโดยอาชีพ ซึ่งการฆ่าคนถือเป็นเรื่องปกติ

- ไม่รู้ตัว: Bond คือตัวการที่ทำให้คนที่เขารักต้องตายไปมากมาย ทั้งผู้หญิงทั้งหลายของเขา, M รวมทั้งพ่อบุญธรรม



หนังยังเลือกที่จะนำเสนอว่าการตายของ “คนที่ Bond รัก” ทั้งในภาคนี้และ 3 ภาคก่อนหน้า ต่างก็มาจากฝีมือของ Blofeld ที่ต้องการทรมาน Bond
(จากปมในวัยเด็กที่พ่อแท้ๆของ Blofeld แบ่งความรักไปให้ Bond ที่เป็นลูกบุญธรรม)



นี่เป็นการเพิ่มน้ำหนักให้เห็นว่าการที่คนที่ Bond รักถูกฆ่า สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวเขาเอง







ผู้หญิง



ประเด็นเกี่ยวกับ 2 สาว Bond ในภาคนี้ ได้แก่


1. Lucia Sciarra (Monica Bellucci) ภรรยาม่ายของวายร้ายที่ถูก Bond ฆ่าใน Mexico
เพื่อให้ Lucia คายความลับ Bond มอบ “ Sex และความปลอดภัยในชีวิต” เป็นข้อแลกเปลี่ยน


2. Dr. Madeleine Swann (Léa Seydoux) ลูกสาวของ Mr. White (Jesper Christensen) ที่ Bond ส่งปืนให้ฆ่าตัวตาย
เพื่อให้ Dr. Madeleine พาไปหาเป้าหมาย Bond อ้างถึง “ความปลอดภัยในชีวิต” เป็นข้อแลกเปลี่ยน



ดังนั้นสิ่งที่น่าสนใจนอกจากการมี Sex หลังจากเพิ่งฆ่าคนมาหมาดๆของ Bond คือ



คนที่ Bond มี Sex ด้วยคือคนที่เขาเพิ่งหยิบยื่นความตายให้คนรักของพวกเธอ

และข้ออ้างในการสานสัมพันธ์ของ Bond ก็คือ “เพื่อความปลอดภัยในชีวิต”



มองในมุมนี้ คล้ายกับว่า Bond คือคนที่ฆ่าและมี Sex เพื่อผลประโยชน์ ซึ่งบางครั้งก็ดูคล้ายการใช้อำนาจที่เหนือกว่าในการหาประโยชน์จากเพศหญิงในทางอ้อม และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งคำจำกัดความของผู้หญิงของ Bond







หากพิจารณาถึงตัวร้ายประจำเรื่อง มองเผินๆ Blofeld คือตัวร้าย 007 ยุคเก่าที่คิดจะครองโลก แต่ถ้าพิจารณาจากการกระทำที่ขาดตรรกะเหตุผล และเลือกที่จะเล่นเกมกับ Bond มากกว่าจะฆ่าให้จบๆไป

นั่นแสดงว่าเป้าหมายของ Blofeld ที่ยิ่งใหญ่กว่าการครองโลก คือการทรมาน Bond เพื่อแก้แค้นที่ Bond แย่งความรักจากพ่อไปจากตัวเอง



Blofeld แค้น Bond แต่เขาเองก็อยากจะเป็นคนที่ถูกรักแบบ Bond



ภาพสะท้อนในกระจกของ Blofeld ที่ทาบทับไปบนตัว Bond ในตึกเก่าของ MI6 ในองก์สุดท้ายของหนัง เป็นภาพสะท้อนให้เห็นว่า Blofeld ที่อยู่ด้านตรงข้ามกับ Bond ต้องการที่จะแทนที่ Bond







เหมือนกับ Poster ของหนังที่เป็นภาพของ Bond (นักฆ่า) ผี และผู้หญิง นี่คือสิ่งที่เป็นประเด็นที่โดดเด่นใน 007 ภาคนี้


ถ้า Skyfall ของ Sam Mendes คือการวิพากษ์วิจารณ์หนังชุด 007 บางที Spectre อาจเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ตัวละคร 007 ของ Mendes



อย่างไรก็ตามการ “เขย่าแต่ไม่คน” ของ Mendes ในครั้งนี้ขาดซึ่งความกลมกล่อม

ด้วยวัตถุดิบสำคัญอย่างบทหนังที่ทิ้งตรรกะและลดความเป็นเหตุผลลงไปจากเดิม อาจเป็นเพราะต้องการกลับไปหาความเป็น 007 ยุคเก่า แต่ความจริงจังของเนื้อเรื่องที่ยังพยายามคงความเคร่งเครียดเอาไว้ นั่นทำให้ทั้งสองสิ่งที่ต่างกันเข้ากันได้ไม่เต็มที่นัก

อีกทั้งการพยายามเชื่อมโยงไปถึง 3 ภาคก่อนหน้า ที่สไตล์และโทนของหนังค่อนข้างจะแตกต่างกันมาก นั่นทำให้ความน่าเชื่อและความเชื่อมโยงดูไม่เป็นเนื้อเดียวกัน



ส่วน Daniel Craig ดูจะเหมาะกับบท Bond ที่ลุยกับผู้ร้ายแบบถึงลูกถึงคนและเจ็บได้ตายเป็นในแบบ 3 ภาคที่ผ่านมา มากกว่าจะเป็น Bond ยุคเก่าที่ผู้ร้ายเป็นสิบคนยิงยังไงก็ไม่โดน แต่พอ Bond ยิงสวนไปนัดเดียวก็เข้าเป้าตายทันที







Spectre ยังคงมีประเด็นและแง่มุมที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวมันเองอยู่ ซึ่งในครั้งนี้สิ่งที่โดดเด่นก็คือ การวิพากษ์วิจารณ์ตัวละคร James Bond


แต่ที่ทำได้ไม่ดีนักคือความกลมกล่อมของเนื้อเรื่อง นั่นทำให้หนังเป็นเพียงแค่ความบันเทิงที่พอดูได้เพลินๆ แต่ไม่น่าจดจำ







6 / 10




ปล. อาจไม่เกี่ยวอะไรกับหนัง แต่ต่อม Anagram ในสมองดันทำงาน Spectre เมื่อเรียงตัวอักษรใหม่จะได้คำว่า Respect อีกด้วย หรือมันจะหมายถึง การ Respect 007 ยุคเก่าของ Mendes




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2558
3 comments
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2558 22:27:42 น.
Counter : 3663 Pageviews.

 

ตั้งแต่ skyfall มาจนถึงหนังตอนนี้ ดูเหมือนคนสร้างหมดไอเดียในการสร้างเนื้อหาเรื่องราวใหม่ๆ และรูปแบบใหม่ๆ จะเห็นได้ว่าเอาแต่รูปแบบเดิมๆ มาใช้ เพียงแต่ใช้มุมกล้อง การตัดต่อ ให้ดูแบบหนังสมัยใหม่เท่านั้นเอง เช่นการต่อสู้กันบนรถไฟในเรื่องนี้ก็เหมือนกับการต่อสู้กับจอว์ สมัยโรเจอร์ มัว การเอาตัวร้ายหัวหน้าที่ตายไปแล้วในภาคก่อนๆ เอามาปัดฝุ่นกลับมาใช้ใหม่ นี่แสดงให้เห็นถึงการเริ่มอับจนปัญญาแล้ว ความโดดเด่นของเจมส์ บอนด์แท้จริงแล้วมันมาจากจินตนาการหนังสือของเอียน แฟรมมิ่งนั่นเอง หนังเน้นการขายบรรยากาศเก่าๆ ซะมากกว่า

 

โดย: เอกภพ IP: 182.52.7.107 11 พฤศจิกายน 2558 21:36:38 น.  

 

เห็นด้วยครับว่าหนังหยิบเอาของเก่ามาเล่น แต่ก็น่าจะเป็นในเชิงคารวะของเก่าด้วย

แต่ 007 ยุค Daniel Craig เหมือนเป็นคนละจักรวาลกันกับ 007 ที่ผ่านมาก่อนหน้า Casino Royale น่ะครับ

 

โดย: navagan 12 พฤศจิกายน 2558 12:06:11 น.  

 

กระทู้ที่ตั้งใน Pantip

//pantip.com/topic/34426865

 

โดย: navagan 15 พฤศจิกายน 2558 12:25:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


navagan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 73 คน [?]




นวกานต์ ราชานาค
Navagan Rachanark


สนใจใน ภาพยนตร์, การวิเคราะห์-วิจารณ์ ภาพยนตร์,ดนตรี, งานเขียน และ ศิลปะอื่นๆ

สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ทดลอง และ งานดนตรีทดลอง และ งานเขียน


ปัจจุบันทำงานด้านการตลาด การวิจัยและพัฒนายางสังเคราะห์และยางธรรมชาติ

เริ่มจัดเก็บข้อมูลสถิติการเข้าชม

Time 09:00 Date 31/01/2010

by Histats.com

blogger web statistics

ถูกใจบทความ หรืออยากสนับสนุนเจ้าของ Blog

ก็ช่วย click ที่ Link โฆษณาครับ

ขอบคุณครับ

Friends' blogs
[Add navagan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.