All the girls standing in the line for the bathroom !!!

*** หมายเหตุ : สงวนลิขสิทธิ์ บทความและผลงาน ใน Blog นี้ครับ ***
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2561
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
17 กุมภาพันธ์ 2561
 
All Blogs
 
*** Black Panther *** Wakanda First และการกลายเป็น Superhero

*** Black Panther ***







หนังเดี่ยวของตัวละครสำคัญในจักรวาล Marvel ที่มีชื่อเดียวกับชื่อเรื่อง เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นหนังวิพากษ์วิจารณ์การเมืองในยุค Donald Trump กับเรื่องราวชีวิตต้องสู้ของคนผิวสีในสังคม ซึ่งประเด็นเหล่านี้ถูกบอกเล่ากันแบบตรงไปตรงมาและชัดเจนพอๆกับการพยายามสร้างความบันเทิงตามแบบฉบับหนัง Superhero ของ Marvel



(จากนี้ไปเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ เหมาะกับผู้ที่ชมแล้วเท่านั้นครับ
และเป็นการวิเคราะห์ตามความเห็นส่วนตัว ซึ่งไม่แน่ใจว่าทางผู้สร้างตั้งใจหรือไม่)






คำถามที่หนังโยนใส่ผู้ชมพร้อมกับ T’Challa ก็คือ


ในฐานะผู้มีอำนาจมากล้น ทั้งด้านการเงิน (ในฐานะกษัตริย์) ทั้งพละกำลัง (ครอบครองยาวิเศษจากสมุนไพร) ทั้งทรัพยากร (แร่พิเศษนาม Vibranium ที่มีเฉพาะในประเทศของตน) เราควรจะทำอะไรกับโลกใบนี้ได้บ้าง ?

แน่นอนว่าทุกทางเลือกย่อมมีผลกระทบเกิดขึ้นดังนั้น ทั้ง 2 ทางเลือกมาพร้อมเงื่อนไขคือ


1. ใช้อำนาจเพื่อปกป้องพรรคพวกเดียวกัน ไม่ต้องสนใจคนอื่น แต่เราจะปลอดภัยและสงบสุขไปอีกนาน


2. ใช้อำนาจเพื่อช่วยเหลือคนอื่นในโลก แต่เราจะมีอันตรายและอาจสูญเสียความสุขสบายไป



สำหรับทางเลือกแรก มันสอดคล้องกับนโยบาย America First ของ Donald Trump ที่ชาติมหาอำนาจอย่าง America จะลดมาตรการการช่วยเหลือต่างประเทศที่ทำให้ America เสียเปรียบ ทั้งทางทหาร ทั้งเศรษฐกิจ แล้วหันมาให้ความสำคัญกับคนใน America ก่อนเป็นอันดับแรก ทั้งการพยายามดึงงานกลับมาผลิตในประเทศ รวมถึงแผนการสร้างกำแพงกั้นพรมแดน Mexico เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาแย่งงานและเงินของพวกลักลอบเข้าเมือง



เมื่อมองกลับมาที่ตัวหนัง Wakanda คือประเทศที่ร่ำรวยทรัพยากรและอำนาจ แถมยังมีกำแพงกั้นพรมแดน (ที่ทันสมัยกว่ากำแพงกั้น Mexico เยอะ) ในการป้องกันตัวเองจากโลกภายนอก



Wakanda คือภาพสะท้อนของ America ในยุค Donald Trump ที่ใช้นโยบาย America First







เราจะพบว่า T’Chaka พ่อของ T’Challa ยอมฆ่าน้องชายของตนเองชื่อ N’Jobu และทิ้งลูกของน้องชายไว้ตามลำพัง เพื่อรักษาความสงบสุขและฐานอำนาจที่ซ่อนเอาไว้เพื่อพวกพ้องชาว Wakanda


นั่นก็เพราะว่า N’Jobu ได้สัมผัสชีวิตอันตกต่ำและเหลื่อมล้ำของคนนอก Wakanda ซึ่งคนที่มีอำนาจแบบเขายอมไม่ได้ที่จะเพิกเฉย ทางเลือกที่สองที่ว่าด้วย “การใช้อำนาจเพื่อช่วยเหลือผู้คนบนโลก” จึงเป็นอุดมการณ์อันแรงกล้าของ N’Jobu แม้มันจะขัดกับนโยบายของ Wakanda ก็ตาม

(ทางเลือกข้อสองของเรื่องราวในหนังกับในโลกแห่งความจริงนี้ต่างกัน ซึ่งในหนังมันหมายถึงการช่วยเหลือผู้อื่นอย่างตรงไปตรงมาแต่ในโลกความจริงเราไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า America เข้าไปเพื่อช่วยเหลือต่างประเทศ หรือเข้าไปเพื่อหาประโยชน์จากต่างประเทศกันแน่)




นั่นเองที่เชื้อไฟในการต่อต้านนโยบาย Wakanda First ได้เติบโตขึ้นมาพร้อมกับ Killmonger ลูกชายของ N’Jobu ที่ถูกทิ้งไว้ที่ America หลังพ่อเขาตาย


Killmonger สานต่อแนวทางของพ่อเขาในการพยายามใช้ "อำนาจของ Wakanda" ในการ “สร้างโลกที่ดีขึ้น” แต่จากสิ่งที่เขาเผชิญมาในอดีตทำให้เขาหัวรุนแรงและก้าวร้าวกว่า

และบางทีการที่เขาเติบโต America ทำให้สิ่งที่ Killmonger ต้องการไม่ใช่แค่การ “ทำให้โลกดีขึ้น” แต่เขาต้องการ “โลกที่ดีขึ้นภายใต้การควบคุม” ของตัวเขาเอง



ซึ่งนี่คือความเหมือนของ America ในยุคก่อนหน้า Trump ที่เข้าไปช่วยเหลือประเทศอื่นๆเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าที่ต้องการเข้าไปเพื่อช่วยเหลือจริงๆ



Killmonger คือภาพสะท้อนของ America ในยุคก่อน Donald Trump

ที่พยายามใช้อำนาจแทรกแซงและควบคุมโลกเพื่อประโยชน์ของตัวเอง






หากตัดเรื่องการเมืองที่หนังพยายามจะนำเสนอ แล้วมอง Black Panther ในฐานะหนัง Superhero เรื่องหนึ่ง

และถ้าความหมายของ Superhero ไม่ใช่แค่ผู้ที่มีพลังพิเศษ แต่ต้องเป็นผู้ที่มีพลังพิเศษที่ทำประโยชน์หรือช่วยเหลือสังคมด้วยแล้วล่ะก็


ตลอดทั้งเรื่องคือหนังที่ว่าด้วยการกลายมาเป็น Black Panther หรือกษัตริย์แห่ง Wakanda อย่างสมบูรณ์แบบของ T’Challa ซึ่งเป็นหนังการเมือง


ส่วน T’Challa ที่กลายมาเป็น Black Panther ได้กลายมาเป็น Superhero ตามความหมายข้างต้นจริงๆก็ตอนท้ายเรื่องแล้ว ซึ่งนั่นคือตอนที่เขาตัดสินใจใช้อำนาจพิเศษของตัวเองเพื่อประโยชน์แก่โลกมนุษย์อย่างแท้จริง



ประโยคสุดท้ายในช่วง End credit แรก ที่ T’Challa แถลงการณ์ต่อสหประชาชาติว่า



“คนฉลาดสร้างสะพาน คนโง่สร้างกำแพง”



ที่นอกจากจะเป็นประโยคด่าทางอ้อมต่อรัฐบาล Donald Trump แล้ว มันยังเป็นสมดุลระหว่างความสุดโต่งของทั้งสองแนวทางของ Wakanda ที่ปิดกั้นประเทศ กับ Killmonger ที่จะเปิดประเทศทั้งหมด



เพราะคนฉลาดจะไม่ปิดกั้นโดยการสร้างกำแพง แต่ก็ไม่เปิดทั้งหมด เพียงแต่ใช้สะพานซึ่งเป็นช่องทางที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเปิดบางส่วน อีกทั้งยังสามารถควบคุมได้ง่ายกว่าการเปิดทั้งหมด






ผู้กำกับ/เขียนบท Ryan Coogler ฉลาดในการดัดแปลงเรื่องจริงในสังคมการเมืองปัจจุบันมาเป็นแก่นของหนัง ทำให้ Black Panther กลายเป็นบทบันทึกแห่งยุคสมัย ที่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วหากมองย้อนกลับมาก็จะเข้าใจสังคมการเมืองในช่วงนี้ได้ผ่านหนังเรื่องนี้โดยไม่ยาก



แม้หนังจะมีความโดดเด่นในแง่ของ Production design แต่บทหนังกลับไร้ซึ่งความแปลกใหม่


อีกทั้งการคลี่คลายปมปัญหาที่ง่ายเกินไป ทำให้หนังขาดความน่าติดตามในช่วงท้ายเรื่อง โดยเฉพาะฉากต่อสู้ตอนท้ายที่ไร้พลัง กลายเป็นงานโชว์เทคนิคพิเศษที่จะว่าไปก็ไม่ได้น่าตื่นตาเท่าที่ควร แถมยังลดระดับความจริงจังของเรื่องราวลงไปมาก



Killmonger คือตัวละครที่น่าสนใจและมีมิติความซับซ้อนที่สุดในเรื่อง แต่ก็ยังไปได้ไม่สุด เมื่อช่วงครึ่งหลัง บทหนังทำให้ตัวละครนี้กลายเป็นผู้ร้ายที่แบนราบไร้ความเป็นมนุษย์เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ฝ่ายตัวเอกของเรื่องมากเกินไป






Black Panther ทำได้ดีมากในฐานะหนังที่ยิบยกประเด็นการเมืองและสังคมในปัจจุบันมาเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราว

แต่หากพิจารณาในแง่ของความเป็นหนังโดยไม่อิงกับประเด็นใดๆ หนังยังทำได้ดีในระดับพอใช้ ทั้งในแง่ความบันเทิงและความสร้างสรรค์








7 / 10 ครับ




Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2561 17:01:11 น. 3 comments
Counter : 3409 Pageviews.

 
วากานด้านี่เขาแปลงมาจากอูกันด้าใช่มั้ยครับ


โดย: สมแมน IP: 110.77.176.61 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:16:49:13 น.  

 
ตอบคุณสมแมน

คิดว่าประมาณนั้นนะครับ เพราะตำแหน่งในหนังก็อยู่แถวๆ Uganda กับ Rwanda


โดย: navagan วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:19:49:49 น.  

 
กระทู้ที่ตั้งใน Pantip

https://pantip.com/topic/37384166


โดย: navagan วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:19:52:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

navagan
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 73 คน [?]




นวกานต์ ราชานาค
Navagan Rachanark


สนใจใน ภาพยนตร์, การวิเคราะห์-วิจารณ์ ภาพยนตร์,ดนตรี, งานเขียน และ ศิลปะอื่นๆ

สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ทดลอง และ งานดนตรีทดลอง และ งานเขียน


ปัจจุบันทำงานด้านการตลาด การวิจัยและพัฒนายางสังเคราะห์และยางธรรมชาติ

เริ่มจัดเก็บข้อมูลสถิติการเข้าชม

Time 09:00 Date 31/01/2010

by Histats.com

blogger web statistics

ถูกใจบทความ หรืออยากสนับสนุนเจ้าของ Blog

ก็ช่วย click ที่ Link โฆษณาครับ

ขอบคุณครับ

Friends' blogs
[Add navagan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.