BlogGang.com : : navagan : *** Aquaman *** เชื่อมโยงความต่างอย่างมีสไตล์

*** Aquaman *** เชื่อมโยงความต่างอย่างมีสไตล์

*** Aquaman ***

หนังเรื่องล่าสุดในจักรวาล DC เล่าเรื่องของ Arthur Curry /Aquaman (Jason Momoa) ที่ต้องกลับไปสะสางเรื่องราวในอดีตที่เขาพยายามละทิ้งมาตลอด เมื่อ King Orm (Patrick Wilson) น้องชายต่างบิดาที่ครองอาณาจักร Atlantis หนึ่งในอาณาจักรใต้ทะเลทั้งเจ็ด กำลังพยายามรวบรวมกองกำลังเพื่อบุกโลกของมนุษย์ หลังจากที่ต้องทนรับกับความเสื่อมโทรมที่มนุษย์ก่อไว้มายาวนาน

นี่เองที่ทำให้ Aquaman ได้เข้าใจความหมายของคำว่า Superhero พร้อมๆกับสะสางปมในใจเรื่องครอบครัว

ประเด็นสำคัญของ Aquaman ว่าด้วย

“การเชื่อมโยงสิ่งที่ต่างกันเข้าด้วยกัน”

ซึ่งจะว่าไปนี่คือสิ่งที่ Aquaman เป็นมาตั้งแต่เกิดในฐานะ “ผลผลิตจากการเชื่อมโยงโลกใต้น้ำและโลกบนบกเข้าด้วยกัน” เพราะ Aquaman เป็นลูกผสมระหว่างมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนบกกับชาว Atlantis ที่อาศัยอยู่ใต้น้ำ

ถ้า Aquaman คือ “การเชื่อมโยงสิ่งที่แตกต่างเข้าด้วยกัน” ตัวร้ายของหนังอย่าง King Orm จึงถูกสร้างให้เป็นขั้วตรงข้ามในฐานะ “ผู้สร้างความแตกแยกระหว่างสิ่งที่แตกต่างกัน”

ไม่ใช่แค่เนื้อเรื่องที่ว่าด้วยการเชื่อมโยงสิ่งที่แตกต่างกันเอาไว้ด้วยกัน การนำเสนอตัวเองของหนังก็ยังเป็นการเชื่อมโยงแนวทางของหนัง (genre) ที่ต่างกันเอาไว้ด้วยกันอีกด้วย ซึ่งนี่คืออีกจุดเด่นสำคัญของหนังเรื่องนี้

อย่างที่ทราบกันดีว่าผู้กำกับ James Wan โด่งดังมาจาก franchise หนัง thriller ระทึกขวัญอย่าง Saw, Insidious และ The Conjuring ซึ่งเป็น franchise original ของเขาเอง

แต่เมื่อเข้ามารับหน้าที่ผู้กำกับในหนัง franchise อื่นๆ เราจะเห็นว่า Wan สนุกกับการผสมผสานแนวทางอื่นๆเข้าไปในแนวทางเดิมของหนัง

อย่างเช่นใน Fast & Furious 7 ก็มีการผสมผสานความเป็น "หนังสายลับ 007" เข้าไปในความเป็นหนัง action แบบดั้งเดิมของ franchise Fast & Furious

สำหรับใน Aquaman นั้น Wan ได้เชื่อมโยงหนังหลายแนวที่แตกต่างกันเอาไว้ด้วยกัน ดังต่อไปนี้

- หนังเทพนิยาย fantasy สไตล์ Disney

เราจะพบว่ามันเป็นโครงหลวมๆครอบทับหนังเอาไว้ ทั้งเรื่องความรักของพ่อและแม่ของ Aquaman ที่คล้ายกับรักต่างชนชั้นในเทพนิยาย หรือเรื่องราวของตัว Aquaman เองที่ต้องกลับไปทวงบัลลังก์ของเขา

รวมถึงเสียง voice over ที่บรรยายมาในบางช่วงราวกับการเล่านิทาน

- หนัง Epic Fantasy ย้อนยุคสไตล์ Lord of the Rings

ทั้งเนื้อเรื่องที่ว่าด้วยการแย่งชิงบัลลังก์และความขัดแย้งในครอบครัว และในส่วนของเรื่องราวการพุ่งรบระหว่างเผ่าพันธ์ประหลาดทั้งหลายใต้ทะเล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของหนังอย่าง Lord of the Rings

- หนัง Superhero

นี่คือโครงเรื่องพื้นฐานของหนังที่ปรากฏมาให้เห็น (แน่นอนอยู่แล้ว) ทั้งตอนที่ Aquaman ช่วยผู้คนในเรือดำน้ำ และเรื่องราวความขัดแย้งกับศัตรูคู่อาฆาตอย่าง Black Manta ตามสไตล์หนัง Superhero

หนังยังมีการให้ความหมายของคำว่า Superhero ในแบบของตนเอง แบบที่หนัง Superhero นิยมทำกัน

ซึ่งสำหรับความหมายของ Superhero ใน Aquaman ก็คือ "คนที่ช่วยเหลือทุกคนโดยไม่เลือกว่าคนเหล่านั้นเป็นคนที่เหมือนหรือแตกต่างกับตัวเอง"

- หนัง Adventure ไขปริศนาล่าสมบัติสไตล์ Indiana Jones

ปรากฏอยู่ในส่วนของเรื่องราวในช่วงกลางเรื่องเป็นต้นไป ที่ว่าด้วยการออกเดินทางตามหาตรีศูลไปยังสถานที่ต่างๆที่มาพร้อมกับการไขปริศนาคำใบ้รายทาง ของ Aquaman และ Mera

- หนังสัตว์ประหลาด Horror ระทึกขวัญ

ชัดเจนที่สุดในตอนที่ Aquaman และ Mera ต้องเผชิญหน้ากับ The Trench สัตว์ประหลาดในทะเล

- หนังที่ว่าด้วยปมในครอบครัว

ปมของตัวละครในหนังล้วนมีที่มาที่ไปจากคนในครอบครัว

ไม่ว่าจะเป็น Aquaman และ King Orm ที่มีปมเกี่ยวกับแม่, Mera กับความขัดแย้งกับพ่อ รวมถึง Black Manta กับความแค้นที่เกิดจากความตายของพ่อ

(ซึ่งจะว่าไปแล้วเรื่องครอบครัวคือประเด็นที่มักถูกสอดแทรกมาในงานของ Wan เสมอ ที่เด่นชัดคือ franchise The Conjuring)

การผสมผสานหลายหลายแนวของหนังแสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของ Wan
จากผลลัพธ์ที่ได้ ต้องชม Wan ว่าสามารถผสมผสานแนวทางเหล่านี้เอาไว้ด้วยกันได้อย่างลื่นไหลไม่สะเปะสะปะ

แต่การผสมผสานของ Wan ยังทำได้ไม่ลงตัวนัก เพราะบางครั้งตัวละครอย่าง Aquaman กลับดูคล้ายกับว่ามาจากหนังคนละเรื่อง เมื่ออยู่ในบางช่วงบางตอนของหนัง

ในเรื่องของบท แม้หนังจะเล่าถึงโลกใต้ทะเลลึก แต่บทหนังไม่ได้ลึกตามไปด้วย ซึ่งจะว่าไปแล้วน่าจะเป็นเพราะความตั้งใจที่จะทำอะไรไม่ซับซ้อนเพื่อให้ข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ชม

แต่สิ่งที่น่าจะเป็นปัญหาของบทหนังอยู่ที่การคลี่คลายปมปัญหาต่างๆที่ง่ายดายเกินไป หนังจึงไม่เข้มข้นและไม่ชวนติดตามเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตามงานภาพและ visual effect เป็นความสวยงามที่ชวนให้ตะลึงในแทบจะทุกช่วงตอน โดยเฉพาะฉากใต้ทะเล
องค์ประกอบเหล่านี้นี่เองที่ช่วยดึงดูดสายตาให้จดจ่อกับเรื่องราวบนจอไปจนจบ

Aquaman ว่าด้วยการเชื่อมโยงโลกที่แตกต่างกันเข้าด้วยกัน
ทั้งในแง่ของเนื้อเรื่องที่ว่าด้วยการพยายามเชื่อโยงโลกบนบกและโลกใต้น้ำของ Aquaman

ขณะเดียวกัน ในแง่ของภาษาหนัง ผู้กำกับ James Wan ก็พยายามเชื่อมโยงการเล่าเรื่องของหนังหลากหลายประเภท (genre) เข้าไว้ด้วยกัน

ส่วนตัวแล้วสนุกกับการเห็น Wan หยิบเอาเอกลักษณ์ของหนังหลายหลายสไตล์มาผสมผสานกัน

แม้ผลลัพธ์จะไม่ได้ยอดเยี่ยมมากนัก แต่มันก็มีดีพอที่จะเสียเวลาดู
และแนะนำว่าควรชมในโรงภาพยนตร์ เพราะงานด้านภาพคุ้มค่ากับการดูด้วยจอใหญ่

7 / 10 ครับ

Create Date : 29 ธันวาคม 2561

Last Update : 29 ธันวาคม 2561 0:28:44 น.

6 comments

Counter : 2106 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณnewyorknurse

เสียดายที่ยังไม่ว่างไปดูหนังเรื่องนี้เลยค่ะ

โดย: สมาชิกหมายเลข 3445381

วันที่: 29 ธันวาคม 2561 เวลา:5:13:29 น.

รักละครเรื่องนี้มากทุกตัวละครมีชีวิตชีวา ไม่เน้นดาร์กเหมือน DC ก่อนหน้าเลยทำให้ธีมหนังมีความสว่างออกมา รอดูภาคต่อไปครับ

โดย: สมพร IP: 49.229.232.114 วันที่: 29 ธันวาคม 2561 เวลา:14:55:49 น.

ต้องไปชมครับ

โดย: สองแผ่นดิน

วันที่: 29 ธันวาคม 2561 เวลา:22:27:04 น.

กระทู้ที่ตั้งใน pantip

https://pantip.com/topic/38407928

โดย: navagan

วันที่: 2 มกราคม 2562 เวลา:12:25:25 น.

ตอบคุณ สมาชิกหมายเลข 3445381

ผมว่าหนังยังอยู่ในโรงไปถึงสิ้นเดือนมกราคมครับ ว่างๆค่อยไปดูยังทันครับ

ตอบคุณสมพร

ใช่ครับ น่าจะเป็นหนังที่โทนออกสว่างสดใสที่สุดแล้ว รอดูเหมือนกันครับ

ตอบคุณสองแผ่นดิน

แนะนำนะครับ ถ้าชอบงานแบบบันเทองดูง่ายๆ แต่ถ้าเน้นเข้มข้น ดราม่า อาจไม่ตอบโจทย์ครับ

โดย: navagan

วันที่: 2 มกราคม 2562 เวลา:12:28:39 น.

แนะนำ page ของผมเองใน facebook นะครับ เผื่อไปกดติดตามกัน
ทำมาหลายปีแล้วครับ เนื้อหาก็เหมือนใน blog นี่ล่ะ

เอาเป็นว่าสะดวกช่องทางไหนก็ชวนไปติดตามครับ

MovieNavigator

โดย: navagan

วันที่: 2 มกราคม 2562 เวลา:12:39:54 น.