BlogGang.com : : navagan : *** A Quiet Place Part II *** มากกว่า "การสื่อสาร" คือ "การตีความสาร"

*** A Quiet Place Part II *** มากกว่า "การสื่อสาร" คือ "การตีความสาร"

*** A Quiet Place Part II ***

ได้ฉายสักทีสำหรับภาคต่อของ A Quiet Place Part II หลังจากเลื่อนมานานเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19

ต้นฉบับคือหนังสัตว์ประหลาดทุนต่ำที่เล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่กำลังจะให้กำเนิดทารก แต่ต้องเผชิญหน้ากับ Alien จากนอกโลกที่ไม่มีดวงตาแต่มีประสาทการรับเสียงอันยอดเยี่ยม

ในภาคสอง หนังเล่าเรื่องต่อจากภาคแรกแบบต่อเนื่องทันทีจนสามารถดูหนังทั้งสองภาคต่อกันเลยก็ได้ (อย่างไรก็ตามในช่วงต้นเรื่อง หนังมีฉากเล่าย้อนไปในวันแรกที่ Alien เหล่านี้บุกเข้ามาในโลก เพื่อปูให้เห็นความสัมพันธ์ของตัวละครกันเล็กน้อย)

โดยภาพรวมนี่คือหนังที่ยังดูสนุกไม่ด้อยไปกว่าภาคแรก แม้ความสดใหม่จะลดลง แต่ประเด็นของหนังได้รับการต่อยอดอย่างน่าสนใจ

***คำเตือน ***

จากนี้ไปจะเป็นการตีความซึ่งจะมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนัง ใครที่ยังไม่ได้ดูหนังแนะนำให้หยุดอ่านแค่ตรงนี้

ประเด็นของหนัง A Quiet Place ทั้งสองภาคยังคงว่าด้วยเรื่องของ "การสื่อสาร" อยู่เช่นเคย

ในภาคแรกว่าด้วย "การสื่อสารที่ล้มเหลว" ระหว่าง Regan เด็กสาวผู้พิการทางการได้ยินกับพ่อของเธอ

ปัญหาของการสื่อสารในภาคแรกนั้น ไม่ได้อยู่ที่หูที่ไม่ได้ยินของ Regan เพราะRegan สามารถสื่อสารผ่านภาษามือได้

แต่ปัญหาคือการที่พ่อกับลูกไม่ยอมสื่อสารกัน

Regan รู้สึกผิดที่ทำให้น้องเธอต้องตาย และคิดว่าพ่อโกรธเธอ ในขณะที่พ่อเองก็ไม่ยอมสื่อสารให้เข้าใจว่าเขาไม่ได้โกรธเธอและให้อภัยเธอแล้ว

แต่สุดท้ายเมื่อทั้งคู่สื่อสารกันเข้าใจสภาพการเป็นคนนอกของ Regan (สภาวะการเป็น Alien) ก็ถูกกำจัด พร้อมกับการกำจัด Alien ในเรื่อง

"เครื่องช่วยได้ยิน" คือสัญลักษณ์สำคัญในภาคแรก เพราะมันเป็นเครื่องมือในการทำลายปมในใจของ Regan และเป็นอาวุธทำลาย Alien ไปพร้อมกัน

จาก "เครื่องช่วยได้ยิน" ในภาคแรก มาสู่ "วิทยุ" ในภาคที่สอง

หนึ่งวันหลังจากฆ่า Alien ในตอนจบภาคแรก Regan และครอบครัวของเธออพยพไปหาที่ปลอดภัยแห่งใหม่ ซึ่งที่แห่งนั้นพวกเธอได้พบกับ Emmett เพื่อนเก่าของพ่อ

ที่นี่เองที่ Regan ได้ยินเพลง "Beyond the sea" จากวิทยุของ Emmett

แม้คนอื่นๆจะคิดว่ามันเป็นเพลงที่เล่นซ้ำๆเพื่อแสดงว่ายังมีคนรอดชีวิต
แต่สำหรับ Regan แล้ว เธอคิดว่ามันมีความหมายบางอย่าง ซึ่งเธอตีความว่า

"สถานที่ปลอดภัยนั้น อยู่ข้ามขอบทะเล"

Regan ตัดสินใจเดินทางไปที่ชายฝั่งทะเล พร้อมกับ Emmet ที่ตามมาดูแลเธอ
จากนั้นทั้งคู่ก็ได้พบว่า นอกจาก Alien จะมองไม่เห็นแล้ว มันยังว่ายน้ำไม่เป็นอีกด้วย

สุดท้ายพวกเขาก็เจอเกาะที่ปลอดภัยจากการโจมตีของ Alien

ดังนั้น

หาก A Quiet Place ภาคแรกว่าด้วยคุณประโยชน์จาก "การสื่อสาร" แล้ว

ภาคสองก็ว่าด้วยคุณประโยชน์ของ "การตีความสาร"

แม้เนื้อเรื่องของหนังรวมถึงกลวิธีในการเล่าเรื่องของ A Quiet Place Part II จะไม่ได้มีอะไรต่างไปจากภาคแรก ราวกับเป็นการย่ำอยู่กับที่

แต่ความแข็งแรงในจังหวะการสร้างความกดดัน รวมถึงทีมนักแสดงที่มอบการแสดงที่ดี ก็ทำให้หนังเป็นความสนุกชวนลุ้นได้ไม่แพ้ภาคแรก แม้ความสดใหม่จะหายไปเยอะก็ตาม

อย่างไรก็ตามส่วนที่มีพัฒนาการจากภาคแรกอย่างยอดเยี่ยมก็คือ การต่อยอดประเด็นของหนังที่ยังคงว่าด้วยเรื่องของการสื่อสาร ซึ่งหนังบอกกับเราว่า

สำหรับการสื่อสาร บางที "การรับสาร" เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ

"การตีความสาร" คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การสื่อสารสัมฤทธิ์ผลมากขึ้น

และมันอาจสำคัญถึงขั้นทำให้เรามีชีวิตรอดต่อไปได้