HR Management and Self Leadership
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
14 กรกฏาคม 2554

เสี้ยวหนึ่งของชีวิตคนกรุง

วันนี้ขอนอกเรื่องสักวันนะครับ สัปดาห์ที่ผ่านมาผมใช้บริการรถไฟฟ้า
ทั้งบนฟ้าและใต้ดิน เป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน
เวลาขึ้นไปแล้วไม่มีอะไรทำก็เลยนั่งสังเกตพฤติกรรมของผู้โดยสารว่าเป็นอย่าง
ไรกันบ้าง จริงๆ ผมได้เห็นพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดีน่ะครับ เลยอยากระบายมากกว่า
ลองมาดูว่าพฤติกรรมคนสมัยใหม่เขาเป็นอย่างไรกันบ้าง
เอาตั้งแต่รอรถไฟฟ้าเลยล่ะกันครับ



  • ตอนรอขึ้นรถไฟฟ้า ก็จะมีการเข้าแถวกันโดยอัตโนมัติ
    ตามเส้นลูกศรที่เขาวาดไว้ที่พื้น ซึ่งนี่ก็คือพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่
    แต่ก็มีส่วนน้อย ซึ่งจู่ๆ ก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้
    เวลาที่รถไฟฟ้ามาเทียบชานชลาปร



  • พอได้เข้าไปในรถเรียบร้อย
    สิ่งที่ผมเห็นในช่วงเช้าวันหนึ่งที่คนเบียดเสียดกันค่อนข้างมาก ก็คือ
    มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ยังดูแข็งแรงอยู่เลยนะครับ
    ท่านยืนหลังพิงเสากลางของรถไฟฟ้า (นึกภาพออกมั้ยครับ
    เสาเหล็กที่ไว้ให้คนอื่นเขาจับ)
    ท่านยืนพิงเสาแบบเต็มหลังโดยไม่สนใจว่าคนอื่นที่ขึ้นมาทีหลังนั้นไม่มีที่จะ
    จับยึดอะไรเลย แถมยังทำหน้าแบบทองไม่รู้ร้อนด้วยนะครับ
    คนอื่นก็พยายามจะยื่นมือมาจับเสาไว้ตอนที่รถออกตัว
    แต่ท่านนั้นก็ยังคงยึดเสาไว้เป็นที่พักพิงไปตลอดทาง



  • พฤติกรรมการได้นั่งแล้วหลับ หรือไม่สนใจคนอื่นก็พอจะเห็นได้บ้าง เช่น
    คนท้องแก่เดินเข้ามาในรถ หรือคนแก่เดินเข้ามายืนใกล้ๆ
    แต่ก็ไม่มีใครลุกให้นั่งเลย ทั้งๆ ที่มีบางที่นั่งเขียนไว้ตัวใหญ่โตว่า
    “ที่นั่งสำรองสำหรับ เด็ก สตรีมีครรภ์ และคนชรา”
    โดยเป็นป้ายสัญลักษณ์ติดไว้เหนือที่นั่ง แต่กลับไม่มีใครสนใจ
    น้ำใจหายไปไหนกันหมด (ไม่ใช่ทุกคนนะครับ ที่มีน้ำใจก็เยอะครับ)
    ถ้าเป็นต่างประเทศ คนที่นั่งที่นั่งสำรองนี้จะต้องรีบลุกทันทีครับ
    เพราะถือว่าที่นั่งนี้เป็นที่นั่งพิเศษครับ
    มีอยู่วันหนึ่งผมเห็นคนท้องลุกให้คนแก่นั่งเฉยเลยครับ
    คนปกติไม่มีใครลุกให้เลย ผมแอบยืนชื่นชมคนท้องแก่คนนั้นมากเลย
    และผมเชื่อว่าคนข้างๆ แถวนั้นคงไม่กล้าที่จะสู้หน้าคนอื่นเลยล่ะครับ
    เห็นแล้วรู้สึกหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว



  • ขึ้นรถเรียบร้อย
    คนส่วนใหญ่ควักโทรศัพท์มือถือออกมากันเกือบทุกคนเลยครับ
    ผมเห็นครั้งแรกก็ตกใจเหมือนกันนะครับ มองไปทั้งขบวนรถ ผู้โดยสารประมาณ 60%
    นั่งกดโทรศัพท์เล่น ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับโทรศัพท์ของตนเอง
    โดยไม่สนใจคนรอบข้าง บางคนก็เสียบหูฟังครับ ฟังเพลง
    แถมยังเปิดเสียงดังเผื่อคนอื่นโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย


นอกจากรถไฟฟ้าที่เล่ามาให้อ่านกันแล้ว ก็ยังมีพฤติกรรมการเรียกรถแท็กซี่
แบบว่าผมยืนรอรถแท็กซี่อยู่ริมถนน จู่ๆ ก็มีคนมายืนตัดหน้า
แบบว่ามาทีหลังแต่ไม่มีมารยาท เรียกตัดหน้าผมไปเฉยเลยครับ
แถมยังทำหน้าตาเฉย อีกทั้งยังหัวเราะร่วนกับเพื่อนร่วมแก๊งค์อีกต่างหาก
ผมเองก็พยายามมองเพื่อที่จะสบตาให้รู้ตัว แต่เขากลับไม่รู้ตัว
และไม่สนใจอะไรเลย ผมงงมาก มาเล่าให้พี่ๆ เพื่อนๆ ในบริษัทฟัง
ว่าเจอเหตุการณ์แบบนี้ กลับกลายเป็นว่าทุกคนพูดด้วยเสียงเดียวกันว่า
“เพิ่งเคยเจอหรอ” ซะงั้น ผมเลยเข้าใจเลยว่า
นี่คือพฤติกรรมการเรียกแท็กซี่ของคนไทยหรือนี่
ผิดกลับต่างประเทศที่มีจุดเรียกแท็กซี่
และจะต้องยืนเข้าคิวใครมาก่อนก็เรียกก่อน


อีกเรื่องที่เจอก็คือ เดินข้ามทางม้าลาย แต่โดยบีบแตรไล่เฉยเลยครับ
หรือไม่ก็กว่าจะได้ข้ามทางม้าลาย ก็ต้องรอจนรถโล่ง จริงๆ
แล้วรถเมื่อเห็นคนจะข้ามทางม้าลายจะต้องหยุดทันทีเพื่อให้คนข้ามก่อน
แต่นี่แทนที่จะชะลอความเร็วรถ กลับเร่งเครื่องขึ้นมาอีก
เพื่อบอกว่าขอข้าไปก่อน ไม่รู้ว่าได้ใบขับขี่มาได้อย่างไร
ทางม้าลายเป็นสิทธิของคนเดินถนน ซึ่งโดยกฎแล้วจะต้องให้คนเดินถนนไปก่อน
แล้วรถถึงจะไป แต่บ้านเรารถต้องไปก่อน คนเดินถนนไว้ทีหลัง
ต่างประเทศนี่คนขับรถจะต้องระวังคนเดินถนนอย่างมาก
เพราะถ้าคนเดินถนนเดินมาที่ทางม้าลายแล้วเขาไม่ค่อยมองรถหรอกครับ
เพราะเขาเชื่อว่ารถต้องหยุดให้เขาข้าม เพราะนี่คือกฎหมาย
และคือประเพณีปฏิบัติ แต่ถ้าคนคนนี้มาเดินแบบนี้ในบ้านเรา
รับรองว่าโดนรถชนตายแน่นอนครับ


ที่เขียนมานี้ไม่ได้มีเจตนาจะไปว่ากล่าวอะไรใครนะครับ
เป็นเพียงอีกมุมมองของประชาชนอีกคนหนึ่งที่ได้เห็นวิถีชีวิตของคนกรุง
ซึ่งนับวันจะยิ่งมองตัวเองเป็นที่ตั้งมากขึ้น ขาดความใส่ใจ
ความมีน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ
ผมก็เป็นได้แค่เพียงเสียงสะท้อนให้ท่านผู้อ่านได้อ่านและได้คิด
เผื่อจะช่วยกันทำให้สังคมเราดีกว่านี้
แม้อีกสักนิดเดียวก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย






Free TextEditor




 

Create Date : 14 กรกฎาคม 2554
1 comments
Last Update : 14 กรกฎาคม 2554 7:41:41 น.
Counter : 1244 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ..

แวะเข้ามาอ่านวิถีชีวิตขิงคนเมืองค่ะ..

เป็นความจริงที่เกิดขึ้น..ยอมรับว่าเกิดจริงๆค่ะ..ฮิๆ

แต่ก็ยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนนะค่ะ

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 14 กรกฎาคม 2554 9:43:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]