ทัศนคติ กับความสามารถของพนักงาน
ในระยะนี้หลายบริษัทอาจจะกำลังฟื้นตัว จากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เมื่อปีที่ผ่าน และกำลังเริ่มที่จะวางแผนกำลังคน และการสรรหาพนักงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจของตน
ฝ่ายบุคคลของลูกค้าผมหลายรายเริ่มได้รับความต้องการกำลังคนเพิ่มเติมจาก หน่วยงานหลัก เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเพิ่มเติม บางบริษัทก็ยังไม่รู้ทิศทางว่าควรจะดำเนินการอย่างไรต่อดี เพราะปัญหาการเมืองก็เริ่มเข้ามามีผลต่อธุรกิจที่จะต้องปิดดำเนินการชั่ว คราว
อย่างไรก็ดี สำหรับบริษัทที่ต้องการพนักงานเพิ่มเติมเพื่อเข้ามาเสริมกำลังทัพของเรานั้น จะต้องไม่ลืมว่าปัจจัยสำคัญในการคัดเลือกพนักงานก็คือเรื่องของ ทัศนคติของพนักงานคนนั้น ว่ามีทัศนคติต่อสิ่งต่างๆ อย่างไร มองโลกอย่างไร เพราะจากประสบการณ์ของผมนั้น เรื่องทัศนคติมีความสำคัญยิ่งไปกว่าเรื่องของความรู้ความสามารถเสียอีก
พนักงานบางคนเก่งมาก เรียนจบมาด้วยเกรดที่สูง แต่กลับสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในการทำงานมากมาย ในทางตรงกันข้าม พนักงานบางคนเรียนหนังสือปานกลาง แต่กลับเป็นคนที่คอยผลักดันผลงานให้กับบริษัทได้อย่างดี สิ่งที่ทำให้เกิดผลดังกล่าวก็คือ “ทัศนคติ” ของพนักงานคนนั้น
ทัศนคติก็คือ ความเชื่อที่คนคนหนึ่งมีต่อเหตุการณ์ต่างๆ และเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงยากมาก การที่เราจะพัฒนาทัศนคติของพนักงานให้ดีขึ้นนั้น ยากกว่าการพัฒนาทักษะความรู้ในการทำงานหลายเท่านัก ดังนั้นการที่เราหาพนักงานที่เก่งสุดยอดเข้ามาทำงาน แต่ทัศคติไม่ดีเลย แล้วเราหวังจะพัฒนาทัศนคติของเขานั้น ผมขอบอกเลยว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ดังนั้นในการคัดเลือกพนักงานเข้ามาทำงานในองค์กรนั้น สิ่งแรกที่ผมมักจะมองหาก่อนก็คือ ทัศนคติของผู้สมัครคนนั้นเป็นอย่างไร ก็อาศัยการสัมภาษณ์นี่แหละครับ เพราะแบบทดสอบมันก็เชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง หาคนสัมภาษณ์สักอย่างน้อย 3 คน สัมภาษณ์เสร็จก็มาคุยกันถึงมุมมองของแต่ละคนที่มีต่อผู้สมัครคนนั้นๆ โดยเน้นไปในเรื่องของทัศนคติ และความเข้ากันได้ของเขากับวัฒนธรรมองค์กรของเรา
จากนั้นจึงค่อยไปพิจารณาเรื่องของความรู้ความสามารถอีกครั้งว่า พอจะทำงานที่เรามอบหมายให้ได้หรือไม่
ทัศนคติที่ผมเคยเจอะเจอมา แล้วทำให้ทีมงานเกิดความระส่ำระส่ายอย่างมาก ก็มีดังนี้
* มองว่าความคิดตนเองดีที่สุด ส่วนของคนอื่นก็ปฏิเสธอย่างเดียวเลย ไม่ดี ไม่ได้ ไม่ทำ * มีข้อจำกัดในความเชื่อของตนเอง เชื่อว่ามันเป็นไปไม่ได้ * มองโลกในแง่ร้าย และมีความอ่อนไหวมากๆ กับคำพูดของคนอื่น * แข็งเกินไป เชื่อมั่นในตนเองมากเกินไป จนมองคนอื่นต่ำต้อยไปหมด
สิ่งเหล่านี้อาจจะพิสูจน์โดยการสัมภาษณ์เพียงชั่วโมงกว่าๆ ได้ยาก แต่ก็น่าจะพอมองเห็น ถ้าเราเลือกใช้คำถามได้เหมาะสม ช่วงเวลาอีกช่วงหนึ่งที่เป็นช่วงสำคัญในการมองว่าทัศนคติของเขานั้นดีหรือ ไม่ ก็คือช่วงเวลาทดลองงานนั่นเอง เราต้องใช้ช่วงเวลานี้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด โดยให้ความใส่ใจ และดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อดูความเหมาะสมของเขาต่องาน ต่อทีม และต่อองค์กร
มิฉะนั้นแล้ว เราอาจจะได้พนักงานที่เก่งแต่ความรู้ แต่ทำงานกับคนอื่นไม่ได้ แถมยังพัฒนายาก และจะเอาออกก็ไม่ได้อีก เพราะมีข้อจำกัดมากมาย
Create Date : 30 เมษายน 2553 |
Last Update : 30 เมษายน 2553 7:02:14 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1667 Pageviews. |
|
|
|
|
| |