ทำไมหัวหน้าถึงไม่กล้าประเมินผลพนักงานอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อไรที่พูดถึงเรื่องการประเมินผลงาน เมื่อนั้นฝ่ายบุคคลก็มักจะหนักใจเสมอ ว่าจะมีวิธีการใดบ้างที่ทำให้การประเมินผลงานของบริษัทออกมาได้ตามผลงานของ พนักงานจริงๆ ซึ่งจากที่ผมได้เห็นผู้จัดการและหัวหน้างานทำการประเมินผลงานลูกน้องของตน เองแล้ว ก็พบว่า หัวหน้าส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะประเมินผลงานลูกน้องแบบตรงไปตรงมา หรือถ้าพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ หัวหน้ามักจะประเมินผลงานลูกน้องตัวเองสูงกว่ามาตรฐานเสมอ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น จาก ที่ผมเคยประสบเหตุมาโดยตรงในเรื่องของการวางระบบการประเมินผลงานให้กับ บริษัทต่างๆ สิ่งแรกที่เห็นก็คือ เวลาที่ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมากำหนดผลงาน ไม่มีตัวชี้วัดผลงานใดๆ หัวหน้าก็จะประเมินผลงานพนักงานในลักษณะที่ว่า “ถ้าผลงานพนักงานได้ตามเป้าหมาย หรือมาตรฐาน นั่นแสดงว่าผลงานของพนักงานอยู่ในระดับ A” เมื่อคิดเช่นนั้น ผลงานของทั้งฝ่ายก็ออกมา A เกือบหมดทุกคน เพราะทุกคนทำงานได้ตามมาตรฐาน คำ ถามก็คือ แล้วถ้าพนักงานคนใด ทำงานได้ดีกว่า หรือสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ล่ะครับ เราจะให้คะแนนผลงานเขาเท่าไร เพราะระบบของบริษัทไม่มี A+ แน่นอนครับ ก็เลยต้องมานั่งปรับแนวคิดใน การประเมินผลงานกันใหม่ โดยให้ผู้จัดการแต่ละคนกับลูกน้องของตนเองทำการกำหนดตัวชี้วัดของตำแหน่งงาน ขึ้นมา เพื่อที่จะใช้ในการพิจารณาผลงานอย่างตรงไปตรงมา ชัดเจน วัดได้ และเมื่อไหร่ที่พนักงานทำงานได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ผลงานก็จะเป็น C ซึ่งแปลว่า ดีแล้ว เพราะทำงานได้ตามเป้า การเปลี่ยนแนวความคิดนี้ก็ต้องใช้เวลา และใช้ทักษะในการนำเสนอเพื่อให้พนักงานเข้าใจ บางแห่งเปลี่ยนตัวหนังสือจาก C เป็นคำว่า Good ไปเลยก็มีนะครับ และเมื่อไหร่ที่พนักงานทำงานได้ดีว่าเป้าหมายหรือมาตรฐานที่เรากำหนดไว้แล้ว พนักงานคนนั้นก็จะได้คะแนนผลงานที่มากว่า C ไล่ขึ้นไป พอทำความเข้า ใจเรียบร้อยแล้ว พอถึงเวลาประเมินผลงานกันจริงๆ กลับกลายเป็นว่า พนักงานส่วนใหญ่ออกมาได้ B ส่วนC ก็มีแต่ก็ไม่มาก และนอกนั้นก็คือ A แต่ D กับ E ไม่มีเลย!! คำถามที่ถามตามมาก็คือ พนักงานทุกคนในองค์กรทำงานได้ดีกว่าเป้าหมายจริงๆ หรือ แต่ทำไมบริษัทกลับไม่เคยได้เป้าหมายเลย พอไปขุดหาสาเหตุก็กลายเป็นว่า ผู้จัดการมองว่า ผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร บางรายหนักกว่านั้น ตั้งเป้าให้พนักงานแบบง่ายๆ จะได้บรรลุได้ไม่ยากนัก แล้วก็ประเมินผลงานให้พนักงานได้ B หรือ A ก็มี สุดท้ายระบบประเมินผลงานที่อุตสาห์ทำขึ้นโดยหวังว่าผลน่าจะออกมาดี ก็ล้มเหลวอีกเช่นเคย เพราะไม่สามารถที่จะประเมินผลงานพนักงานที่แท้จริงได้ สุด ท้าย และท้ายสุด ก็คือ ถ้าจะให้ระบบประเมินผลงานออกมาได้ตามเนื้อผ้าจริงๆ จะต้องพัฒนาที่คนประเมิน ให้ให้มี Leadership ในเรื่องของ Integrity ให้มากขึ้น และให้มีความเป็นมืออาชีพในเรื่องของการเป็นผู้จัดการที่แท้จริง ไม่ใช่ spoil พนักงานอย่างเดียว คนของเราเราว่าดี แต่รอบๆ ข้างกลับยี้กันเป็นแถวๆ ก็มีนะครับ บางหน่วยหัวหน้ายังมาบ่นให้หน่วยงานข้างเคียงฟังเลยว่าลูกน้องคนนี้ผลงานแย่ แต่สุดท้ายพอประเมินกลับไม่กล้าให้แบบตรงไปตรงมา แต่ให้ B ซะงั้นก็มี คำ ที่ผมมักจะได้ยินจากผู้ประเมินก็คือ “ไม่เป็นไร ผิดพลาดแค่นี้ไม่น่าจะหนักหนาอะไร” ถ้าทุกคนคิดแบบนี้หมด แล้วให้ผลงานพนักงานในเกณฑ์ที่ดี หรือดีมาก แบบนี้ระบบประเมินผลงานจะมีประโยชน์อะไรจริงมั้ยครับ ยิ่งทำให้คนเก่งรู้สึกหมดแรง และไม่อยากสร้างผลงานเข้าไปอีก อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ หัวหน้าขี้เกียจไปถกเถียงกับพนักงานคนนั้น ก็เลยให้แบบดีๆ ไป เพื่อจะได้ไม่ต้องไปนั่งคุยเรื่องผลงานแบบแย่ๆ หรือบางคนก็กลัวพนักงานจะรู้สึกไม่ดีกับผลการประเมินก็เลยไม่กล้าให้แบบตรง ไปตรงมา ผมคิดว่าหัวหน้างานคิดไปเองหรือเปล่า เพราะพนักงานบางคนกลับรับได้ถ้าหัวหน้าสามารถบอกเขาได้ว่าทำไมเขาถึงทำงาน ได้ไม่ดี และพนักงานเองก็อยากจะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นด้วยซ้ำไป แต่หัวหน้าเองนั่นแหละที่ประเมินออกมาทุกปีก็บอกว่าดีทุกปี ไม่ต้องพัฒนาอะไร พนักงานก็เลยคิดว่าตัวเองทำดีอยู่แล้วทั้งๆ ที่ยังสามารถพัฒนาได้อีกมากมาย สิ่งแรกในการเปลี่ยนมุมมองของผู้ ประเมินก็คือ จะต้องประเมินไปเพื่อการพัฒนาพนักงาน ประเมินเพื่อพิจารณาว่า พนักงานแต่ละคนมีจุดดี จุดด้อยอะไร ไม่ใช่เพื่อจับผิด แต่เพื่อจับถูก ว่าจะต้องพัฒนาอะไรให้ผลงานดีขึ้นไปอีก มิฉะนั้นหัวหน้างานหรือผู้จัดการก็จะมีลูกน้องที่ไม่เคยมีฝีมือที่ดีขึ้นเลย แล้วก็มานั่งบ่นว่า ลูกน้องทำงานไม่ได้ รับผิดชอบงานที่ยากขึ้นไม่ได้ ก็เพราะเราประเมินเขาไว้เวอร์ไปหน่อย ก็เลยไม่ได้คิดว่าจะต้องพัฒนาเรื่องอะไร ผลก็คือแต่ละปี ผลงานพนักงานก็ไม่ได้กระเตื้องขึ้นเลย บางคนผิดอะไรก็ผิดอยู่อย่างนั้น นายก็แก้ไขให้อยู่อย่างนั้น พร้อมเสียงบ่นตลอดทุกปี ดังนั้นก่อนที่จะ ทำให้ระบบประเมินผลงานเป็นระบบที่ชัดเจน จะต้องพัฒนาคนใช้ระบบทุกคนให้มีมุมมองเรื่องการประเมินผลงานที่ถูกต้อง และให้มีภาวะผู้นำ และมีความเป็นมืออาชีพในการเป็นผู้จัดการจริงๆ แล้วระบบประเมินผลงานของบริษัทจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ
Free TextEditor
Create Date : 09 ธันวาคม 2554 |
Last Update : 9 ธันวาคม 2554 7:18:29 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1039 Pageviews. |
|
|
|