HR Management and Self Leadership
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
4 ตุลาคม 2554

ข่าวล่าสุดในการปรับเงินเดือนราชการ


ในที่สุดข่าวเรื่องของการปรับเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบก็น่าจะมาถึงบทสรุปซักทีนะครับ ข่าวล่าสุดที่ผมได้รับมาก็เป็นไปตามข้างล่างนี้ครับ


เมื่อวันที่ 29 ก.ย. มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่างๆ ได้ข้อสรุปร่วมกันถึงการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการที่มีวุฒิปริญญาตรีเข้าใหม่ เดือนละ 15,000 บาท


โดยที่ประชุมจะนำเสนอแนวทางการปรับฐานเงินเดือนเข้าสู่การพิจารณาของครม.ในวันที่ 4 ต.ค.นี้ ซึ่งไม่ใช่การปรับขึ้นแค่ 6% ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้เพราะการขึ้น 6% เป็นตัวเลขของการปรับขึ้นเงินเดือนทั้งระบบราชการในแต่ละปี


สำหรับแนวทางการปรับฐานเงินเดือนนั้น ทางก.พ.จะเสนอครม.ปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ ตั้งแต่วุฒิ ปวช.ไปจนถึงปริญญาเอก ในช่วง 2 ปี เริ่ม 1 ม.ค. 2555  โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


กลุ่มข้าราชการวุฒิ ปวช.


ปัจจุบัน ผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 6,400 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 14,000 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ


-    ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกจะได้ปรับฐานเงินเดือนขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,380 บาท


-    ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกจะได้ปรับขึ้น 1,000 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้นอีก 1,000 บาท


-    ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกจะได้ปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้นอีก 700 บาท


-    ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 7-8 ปี ปีแรกได้ปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 400 บาท


-    ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกได้ปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 100 บาท


ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบ ปวช.ที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 10,690 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 17,110 บาท


กลุ่มข้าราชการวุฒิ ปวส.


ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 7,670 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 16,710 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ


- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,290 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,590 บาท


- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,000 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,200 บาท


- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 900 บาท


- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 7 ปี ปีแรกปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท


- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท


- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 100 บาท


ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบ ปวส.ที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 12,010 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 19,810 บาท


กลุ่มวุฒิปริญญาตรี


ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 9,140 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดที่ 19,910 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ


- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 1 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,540 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 3,320 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 2-3 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,800 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,700 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,300 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,300 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,800 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 7-8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 900 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,300 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 9 ปี ปีแรกปรับขึ้น 500 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 800 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท


ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาตรีที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 16,310 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 23,810 บาท


กลุ่มวุฒิปริญญาโท


ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 12,600 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 23,110 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ


- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 1 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,700 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,300 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,000 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,500 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,700 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 5 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,400 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 900 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,100 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 7 ปี ปีแรกปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 900 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 300 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท


ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาโทที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 18,710 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 26,610 บาท


กลุ่มวุฒิปริญญาเอก


ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 17,010 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 28,110 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ


- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,690 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,800 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 3-5 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,200 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 6-8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท


- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท


ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาเอกที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 24,810 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 33,210 บาท


พออ่านจบแล้วผมก็พยายามหาตรรกะ และวิธีการปรับที่เขาเสนอ แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอครับ เท่าที่ได้ทดลองคำนวณดูก็คือจะมีการปรับภายในสองปีแรกแบบสองเด้ง คือ เด้งแรกเป็นการปรับขึ้นเงินเดือนประจำปี (อาจจะประมาณ 5-6%) และอีกเด้งในปีเดียวกันก็คือ ปรับตามตัวเลขที่เขาให้มา จากนั้นในปีที่สองก็ปรับตาม% ขึ้นเงินเดือนอีกครั้งและปรับฐานตามตัวเลขที่ให้มาในปีที่สอง ผลออกมาเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่เขาคำนวณมาแต่ก็ไมเป๊ะ ก็เลยเกิดความสงสัยเล็กน้อยว่า ทำไมไม่อธิบายวิธีการคำนวณให้มันชัดๆ ไปเลยจะได้เข้าใจกันง่ายๆ และไม่ต้องให้แต่ละคนไปคิดกันเอาเอง ไอ้คิดกันไปเองนี่แหละครับที่จะเกิดความสับสนตามมาอีกมากมาย


หรือทำให้มันซับซ้อนเข้าใจยาก จะได้ดูเหมือนดี เหมือนเก่ง เพราะจะได้ไม่มีใครถามถึงที่มาที่ไป เพราะแค่อ่านจบก็สับสนแล้วจนไม่รู้จะถามอะไร






Free TextEditor




 

Create Date : 04 ตุลาคม 2554
3 comments
Last Update : 4 ตุลาคม 2554 7:27:52 น.
Counter : 1598 Pageviews.

 

เห็นด้วยเจ้าค่ะ

 

โดย: kratai8 4 ตุลาคม 2554 10:36:58 น.  

 

 

โดย: rakpama07 4 ตุลาคม 2554 11:23:00 น.  

 

ขอบคุณครับ ติดตามๆๆๆ
................................................................................ . . . .
//www.twitvid.com/MSRCZ' target='_blank'>. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

 

โดย: aodblo22 12 ตุลาคม 2554 5:04:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


singhip
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




ประคัลภ์ ปัณฑพลังกูร
ที่ปรึกษาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
และการพัฒนาภาวะผู้นำ

วางระบบการบริหารค่าจ้างเงินเดือน ระบบบริหารผลงาน และระบบการบริหารงานทรัพยากรบุคคลให้กับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน
[Add singhip's blog to your web]