ปรับค่าจ้างขั้นต่ำแล้ว ย่อมคาดหวังผลงานที่ดีขึ้น

หลังจากที่หยุดสงกรานต์กลับมา ก็ถือได้ว่าได้พักผ่อนสมองกันไปบ้างเล็กน้อย แต่ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังกลุ้มใจในเรื่องของการปรับค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ เพราะยังเป็นเรื่องที่จะต้องรีบดำเนินการก่อนที่จะจ่ายเงินเดือนในเดือนนี้ บางองค์กรก็ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องปรับกันอย่างไรบ้าง แต่ก็มีหลายองค์กรที่ดำเนินการปรับไปแล้ว สิ่งที่นายจ้างพูดเหมือนกันเกือบทุกแห่งก็คือ หลังจากที่ปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้ไปแล้ว ก็จะต้องคาดหวังผลงานที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน

ผลที่ตามมาสำหรับบริษัทส่วนใหญ่ก็คือ นำเอาระบบบริหารผลงานมาใช้อย่างจริงจัง กล่าวคือ จะเริ่มมีการตั้งเป้าหมายและตัวชี้วัดผลงานกันอย่างเคร่งครัด ให้กับพนักงานในทุกระดับ องค์กรจะคาดหวังผลงานจากพนักงานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ก็เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น ก็ต้องมีการสร้างรายได้ให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดผลกำไรตามมานั่นเองครับ

หลายบริษัทมีการให้พนักงานกำหนดตัวชี้วัดผลงานกัน และหัวหน้างานก็จะเริ่มบริหารงานตามตัวชี้วัดที่กำหนดไว้อย่างจริงจัง ผิดจากเดิมที่อาจจะทำงานกันแบบเรื่อยๆ ไม่ค่อยใส่ใจตัวชี้วัดที่กำหนดขึ้นมาสักเท่าไหร่

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ลืมเลยก็คือ การที่เราคาดหวังผลงานพนักงานอย่างจริงจังนั้น แปลว่าพนักงานเองจะต้องมีความรู้และมีความสามารถเพียงพอที่จะทำงานที่ยากขึ้น เป้าหมายสูงขึ้น ถ้าพนักงานยังคงรู้เท่าเดิม และทำงานแบบเดิมๆ โดยที่นายจ้างมานั่งกำหนดและควบคุมการทำงานโดยใช้ตัวชี้วัดผลงานนั้น ควบคุมให้ตายพนักงานก็ไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะเขาทำไม่ได้นั่นเอง

คำถามก็คือ แล้วจะทำอย่างไร ถ้าเราต้องการผลงานที่ดีขึ้นจากพนักงาน

คำตอบก็คือ องค์กรจะต้องมีการวางระบบการพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่องครับ แต่เชื่อมั้ยครับว่า เวลาผมพูดประโยคนี้ทีไร นายจ้างมักจะส่ายหัว และคิดในใจว่า

“ค่าจ้างก็เพิ่มให้ไปแล้ว ยังต้องมาเสียงบประมาณพัฒนาคนอีกหรือ แล้วกำไรจะมาจากไหน”

แต่ถ้าเราลองคิดง่ายๆ ว่า ถ้าพนักงานทำไม่ได้ ไม่มีความสามารถ หรือเก่งไม่พอ หรือไม่รู้ว่าจะต้องทำผลงานให้ดีขึ้นได้อย่างไร แล้วเราเพิ่มค่าจ้างเงินเดือนให้โดยคาดหวังว่าเงินเดือนที่เพิ่มให้นั้นจะทำให้พนักงานไปหาทางเพิ่มผลงานของตนเองมา ผมบอกได้เลยว่า “คิดผิดครับ”

การที่องค์กรคาดหวังผลงานที่ดีขึ้นจากพนักงาน แปลว่า เราก็ต้องมีวิธีการในการพิจารณาความรู้ความสามารถของพนักงานแต่ละคนด้วย ว่าใครยังขาดอะไร ต้องเพิ่มความรู้ ทักษะ อะไรบ้าง เพื่อทำให้พนักงานมีความสามารถเพียงพอที่จะสร้างผลงานให้กับองค์กร

ถ้าเรากำหนดเป้าหมายให้สูงขึ้น แต่ปล่อยให้พนักงานทำงานแบบเดิมๆ กี่ปีๆ ก็ทำแบบเดิมๆ ไม่มีการพัฒนาอะไรมากขึ้นกว่าเดิมเลย ผมคิดว่า แค่จะทำให้องค์กรได้เป้าหมายเท่าเดิม ก็ยากแล้วครับ อย่าหวังจะเพิ่มเป้าหมายเลยครับ เพราะพนักงานยังมีความรู้ความสามารถไม่พอ

ผมเชื่อเลยว่า หลังจากที่ขึ้นค่าจ้างให้พนักงานไปแล้ว หลายองค์กรอาจจะลดงบประมาณทางด้านการฝึกอบรมพนักงานลงไปเพื่อจะได้บริหารต้นทุนให้อยู่ในขอบเขตที่กำหนด แต่การทำเช่นนี้ มันจะไม่ได้ทำให้องค์กรมีผลงานที่ดีขึ้นในระยะยาวเลยนะครับ จะยิ่งทำให้อนาคตขององค์กรหดสั้นลงไปอีก เพราะการที่พนักงานไม่ได้รับการพัฒนาใดๆ เลยนั้น ก็เท่ากับว่าเขากำลังถอยหลังไปเรื่อยๆ แล้วองค์กรเองก็จะต้องเสียค่าจ้างสูงๆ ให้พนักงานไปโดยที่ไม่มีมูลค่าเพิ่มใดๆ จากพนักงานเลย

ต้นทุนเรื่องค่าจ้างจะสูงขึ้นสักแค่ไหน แต่การลงทุนทางด้านการพัฒนาคนก็ไม่ควรจะถูกลดความสำคัญลงนะครับ เพราะมิฉะนั้นแล้วเราจะได้พนักงานที่ไม่มีมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทเลย ทั้งๆ ที่เราจ่ายค่าจ้างให้เขาสูงขึ้นมากมาย

Create Date : 17 เมษายน 2555		3 comments
Last Update : 17 เมษายน 2555 6:31:54 น.
Counter : 1438 Pageviews.
Share Tweet