บูลิเมีย อนอเร็กเซียภาพหลอนของคนกลัวอ้วน
'หุ่นดีเหมือนนางแบบ' ดูจะเป็นคำชมที่สร้างความพึงพอใจให้กับสาวๆ ยุคนี้ไม่น้อย เพราะเมื่อเปิดโทรทัศน์หรือแมกกาซีนแล้วพบว่า นางแบบตัวจริงส่วนใหญ่มักเป็นสาวน้อยหุ่นเพรียวลม และรูปร่างเช่นนี้ได้กลายเป็นต้นแบบแห่งความงามที่หลายคนใฝ่ฝัน บางคนยอมทรมานร่างกายด้วยการอดอาหาร จนเป็นสาเหตุของโรคกลัวอ้วน
บูลิเมียและอนอเร็กเซีย สองโรคอันตรายของคนอยากสวย
บูลิเมีย เป็นโรคในกลุ่มของอาการผิดปกติในการกิน (Eating Disoder) ส่วนใหญ่พบในหญิงสาวช่วงวัยรุ่น อายุตั้งแต่ 14-15 ไปจนถึง 30 ปี ประวัติศาสตร์การแพทย์มีการค้นพบโรคนี้ครั้งแรก ในกลุ่มของนักบัลเล่ต์เมื่อคริสตศตวรรษที่ 15 แต่ปัจจุบันโรคนี้แพร่หลายในกลุ่มผู้หญิงรักสวยรักงาม ในสังคมที่มีความเป็นอยู่แบบตะวันตก ส่วนคนไข้รายแรกๆ ในเมืองไทยเป็นกลุ่มของหญิงสาวที่มีอาชีพนางแบบ ดารา เพราะต้องใช้รูปร่างเพื่อพรีเซนต์เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
สาเหตุหลักของบูลิเมีย
เกิดจากค่านิยมเรื่องความอ้วนผอมเป็นสำคัญ แต่มีการศึกษาพบว่ายังมีสาเหตุร่วมอื่นๆ อีก เช่น ผลจากกรรมพันธุ์ มีการศึกษาพบว่าแม่ที่เป็นบูลิเมียมีโอกาสถ่ายทอดไปถึงลูกสาวได้ และระดับของสารเคมีในเซลล์สมอง พบว่าผู้ป่วยที่มีระดับของฮอร์โมนซีโรโทนินในสมองต่ำกว่าคนปกติ อาจทำให้สูญเสียประสิทธิภาพควบคุมการกินอาหาร
ผู้ป่วยบูลิเมีย มักอยากกินอาหารในทันทีแบบที่บังคับตัวเองไม่ได้ ทำให้กินมากเกินไป แล้วจึงกินยาถ่ายหรือล้วงคอให้อาเจียนเพราะกลัวอ้วน ก่อให้เกิดอันตรายทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น ความดันโลหิตต่ำ ประจำเดือนไม่มา เครียดกังวล ซึมเศร้า
อีกทั้งการใช้ยาระบายและทำให้อาเจียนเป็นประจำ ทำให้เกิดความผิดปกติกับไต กระเพาะปัสสาวะ อาการขาดน้ำและปัญหาการไหลเวียนของเลือด
แต่ผู้มีความผิดปกติในการกิน มักไม่ยอมรับว่าตัวเองมีปัญหา ไม่สนใจอาการที่เกิดขึ้น และมักพยายามหาทางปิดบังผู้อื่นเกี่ยวกับความผิดปกติของตน การรักษาด้วยตัวเองจึงไม่ได้ผล ต้องอาศัยบุคคลใกล้ชิดช่วยดูแลและสร้างแรงจูงใจ
ส่วน อนอเร็กเซีย หรืออนอเร็กเซีย เนอโวซ่า (Anorexia Nervosa) เป็นโรคของความผิดปกติในการกินเช่นเดียวกัน ผู้ป่วยจะมีปัญหาทางด้านจิตใจ มักรู้สึกว่าหากควบคุมการกินอาหารของตัวเองได้ ก็จะสามารถควบคุมชีวิตของตัวเองได้ ทำให้ร่างกายผ่ายผอมมากเนื่องจากพยายามลดอาหารและออกกำลังมากเกินไป มักเกิดในวัยรุ่นผู้หญิงอีกเช่นกัน อาการที่เด่นชัดคือพยายามอดอาหารหรือกินให้น้อยที่สุด เพราะรู้สึกมีปมด้อย ไม่พึงพอใจเรื่องรูปร่างของตนเอง
อาการของโรคในช่วงแรกคือ เด็กผู้หญิงมักประจำเดือนขาด ชอบชั่งน้ำหนักตัวบ่อยๆ วิตกกังวลเรื่องน้ำหนักตัวเกินเหตุ เลือกกินมากขึ้น ชอบคะยั้นคะยอให้คนอื่นกินแทน น้ำหนักตัวลดลงอย่างฮวบฮาบ และหมกมุ่นอยู่กับการออกกำลังกายให้มากที่สุดแต่กินให้น้อยที่สุด บางรายพยายามล้วงคออาเจียนเอาอาหารที่กินเข้าไปออกมา บังคับตัวเองให้อดอาหารน้ำหนักลดลงมาเรื่อยๆ จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ระบบต่างๆ ในร่างกายแปรปรวน การเจริญเติบโตชะงักงัน ภาวะการเจริญพันธุ์ลดลง และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากคุณค้นพบว่าตัวเองเริ่มมีแนวโน้มความผิดปกติเรื่องการกินอาหาร พึงปฏิบัติดังนี้
● กินเป็นมื้อและกินให้อิ่ม หาความสุขระหว่างมื้ออาหาร ด้วยการผ่อนคลายในบรรยากาศสบายกับเพื่อนฝูง ครอบครัว
● อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง ความเบื่อหน่ายและความเหงาเมื่ออยู่คนเดียว อาจทำให้คุณหยิบอะไรใส่ปากโดยไม่รู้สึกหิว และหมกมุ่นกับตัวเองมากเกินไป
● ควรหาคนพูดคุยระบายความรู้สึก การเก็บกดอารมณ์โกรธและความคับข้องใจ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณกินเกินพอดี
● ควรให้รางวัลตัวเองด้วยการกินของโปรดประเภทช็อกโกแลต ขนมหวาน เป็นครั้งคราว เพื่อไม่ให้รู้สึกเก็บกดกับของต้องห้ามเหล่านี้จนเกินไป
● ไม่ควรตุนของกินเล่นที่มีแคลอรี่สูงไว้ที่บ้าน ● ไม่ควรกินของเล่นระหว่างมื้ออาหาร ● ไม่ควรใช้ยาระบาย หรือล้วงคอให้อาเจียน การกินตามตามใจปากมากเกินไป มีผลร้ายน้อยกว่าการอาเจียนและการใช้ยาระบาย
ที่มา นิตยสาร Health & Cuisine
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : ภาวะวิกฤติของการลดน้ำหนักเกิดขนาด
สารบัญไดเอท ลดน้ำหนัก
Create Date : 07 มกราคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2553 17:34:32 น. |
Counter : 1205 Pageviews. |
|
|
|