สธ.เผยไทยมีคนอ้วนร้อยละ 22 แนะลดน้ำหนักที่ปลอดภัย
โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำรวจความอ้วนของคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป ล่าสุดพบอ้วนเฉลี่ย ร้อยละ 22 แนะวิธีการลดน้ำหนักที่ปลอดภัย อย่าหักดิบ ให้ค่อยเป็นค่อยไป โดยใช้หลัก 3 อ. คือออกกำลังกาย ควบคุมอาหารและควบคุมอารมณ์ ไม่แนะอดอาหาร เนื่องจากจะทำให้เครียด และกินหนักกว่าเดิม
จากการที่มีอาจารย์ชายอายุ 30 ปี น้ำหนักตัว 160 กิโลกรัม ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำโรงเรียนสาธิตชื่อดังแห่งหนึ่งในกทม. เสียชีวิตอยู่ในท่านั่งพิงบนโซฟาภายในโรงเรียน วันที่ 21 มิถุนายน 2553 เบื้องต้นแพทย์สันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตว่า น่าจะมาจากหัวใจวายเฉียบพลัน โดยเพื่อนผู้เสียชีวิตให้การว่าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 มิถุนายน 2553 มีคนเห็นผู้เสียชีวิตวิ่งจ็อกกิ้งอยู่ในโรงเรียน โดยผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นคนรูปร่างใหญ่ หนักประมาณ 160 กิโลกรัม และในช่วงหลังเพื่อนร่วมงานสังเกตเห็นผู้เสียชีวิตผอมซูบไปผิดตา จึงได้สอบถาม ผู้เสียชีวิตตอบว่า เข้าคอร์สรักษาโรคอ้วน โดยน้ำหนักลดลงไปได้ประมาณ 17 กิโลกรัม
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้คนไทยเผชิญปัญหาโรคอ้วนมากขึ้น ผลสำรวจของกรมอนามัยในประชาชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปล่าสุด ในพ.ศ. 2552 พบว่าอยู่ในข่ายอ้วนทั่วประเทศโดยเฉลี่ยร้อยละ 22 โดยจากการตรวจประเมินรอบเอวทั้งหมดจำนวน 12 ล้านคน พบเข้าข่ายอ้วน
รอบเอวอยู่เกินเกณฑ์ปกติคือผู้หญิงเกิน 80 ซม. ชายเกิน 90 ซม. จำนวน 2 ล้าน 7 แสนกว่าคน ซึ่งข่าวการเสียชีวิตของคนอ้วนที่อยู่ระหว่างลดน้ำหนักตัว เป็นเรื่องเตือนใจให้ทุกคนเกิดความตระหนัก ให้ดูแลสุขภาพอย่าให้น้ำหนักตัวเกิน ส่วนคนอ้วนที่ต้องการลดน้ำหนักจะต้องใช้วิธีการที่ปลอดภัย
นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อว่า การลดน้ำหนักที่ปลอดภัย ใช้หลัก 3 อ. คือออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และควบคุมอารมณ์ การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่สำคัญในการลดน้ำหนัก เพราะหากควบคุมอาหารอย่างเดียว จะทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายหย่อนยานและลดลง 25 เปอร์เซ็นต์
ส่วนการควบคุมอารมณ์เพื่อควบคุมน้ำหนักตัว ขอแนะนำให้ประชาชนใช้หลัก 3 ส. คือสกัด สะกด และสะกิด โดยสกัดสิ่งที่กระตุ้นให้รู้สึกอยาก รู้สึกหิว เช่นไม่เดินผ่านร้านขายไก่ทอด ขนมต่างๆ สะกดใจตัวเองไม่ให้กินเกิน เช่นอาจกินลดปริมาณลงหรือแบ่งให้คนอื่นกินบ้าง ส่วนสะกิดหมายถึงให้คนข้างๆ ช่วยเตือนว่ากินมากไม่ได้หรือไม่ควรกินหรือสะกิดกันให้ออกกำลังกาย ทั้งหมดนี้ ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าเร่งหักดิบ เพราะอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์
ด้านนายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ ผอ.กองออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กล่าวว่า การควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักตัว ต้องกินให้ครบทั้ง 3 มื้อ ไม่ควรอดอาหาร เนื่องจากจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร และเกิดอาการเครียดทำให้กินอาหารมากกว่าเดิม วิธีการกินอาหารให้แบ่งอาหารเป็น 4 ส่วน เป็นผัก 2 ส่วน แป้ง 1 ส่วน โปรตีน 1 ส่วน แล้วค่อยๆ ลดปริมาณการกิน โดยเฉพาะมื้อเย็นต้องลดลง และกินก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อลดการสะสมไขมัน คนอ้วน ผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน ควรเริ่มจากการออกกำลังกายในน้ำหรือเดินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเดินได้วันละ 30 นาทีโดยค่อยๆ เพิ่มเวลา อย่างน้อยอาทิตย์ละ 5 วัน ถ้าต้องการลดน้ำหนักให้ออกกำลังกายวันละ 40-60 นาที อย่างน้อยอาทิตย์ละ 5 วัน โดยใน 1 เดือนให้ค่อยๆ ลดน้ำหนักให้ได้ร้อยละ 5-10 ของน้ำหนักตัว หรือเดือนละประมาณ 4 กิโลกรัม ถ้ามากกว่านั้นอาจทำให้ร่างกายอ่อนเพลียมาก น้ำหนักอาจกลับมามากกว่าตอนเริ่มลด และจะลดยากกว่าเก่า
ประชาชนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ คลินิกไร้พุง กรมอนามัย โทร 02-590-4415 และที่ศูนย์อนามัย กระทรวงสาธารณสุขทั้ง 12 ศูนย์ทั่วประเทศ
ที่มา : //www.komchadluek.net
สารบัญ ลดอ้วน ลดน้ำหนัก
Create Date : 31 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 31 พฤษภาคม 2554 13:02:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1491 Pageviews. |
|
|
|
|
|