เดิน…ควบคุมน้ำหนัก
จากการศึกษาพบว่า ในชีวิตของคนคนหนึ่ง จะต้องเดินประมาณ 160,000 กิโลเมตร และหากคุณเพิ่มระยะทางการเดินในชีวิตของคุณให้มากกว่านี้อีกนิด ด้วยการเดินให้ไกลอีกหน่อย หรือเดินให้เร็วขึ้นสักเล็กน้อย ก็จะเกิดประโยชน์ต่อร่างกายที่มากกว่าความแข็งแรง เพราะจะช่วยให้น้ำหนักของคุณนั้นลดลงได้ด้วย และถ้าคุณเลือกการเดิน เป็นการออกกำลังเพื่อการลดน้ำหนักแล้ว สิ่งสำคัญก็คือพยายามที่จะเดินให้ไกลขึ้น ไม่ใช่เพิ่มความเร็วของการเดิน
มา "เดิน-ออกกำลังกาย" กันเถอะ เริ่มจากหาเวลาว่างวันพรุ่งนี้ ประมาณ 20-40 นาที เพื่อออกเดินกัน เตรียมเสื้อผ้า และรองเท้าที่ใส่สบายๆ แล้วมาเดินออกกำลังกายกันเถอะ แต่ก่อนจะออกเดิน ลองมาดู คำแนะนำสำหรับการเดินเพื่อสุขภาพกันสักหน่อย
* คิดไว้เสมอว่า การเดินเพื่อสุขภาพไม่ควรทำให้รู้สึกเหนื่อยอ่อน แต่ควรจะทำให้คุณรู้สึกสนุก คุณอาจจะนัดเพื่อนของคุณ และคุยกันระหว่างเดิน แทนที่จะนัดกันที่ร้านกาแฟ หรือคุณอาจใช้วิธีเดินไปซื้อของแทนการใช้รถ และถ้าคุณมีของที่ต้องนำติดตัวไปด้วย ลองใช้กระเป๋าที่ใช้สะพายหลังเพื่อเก็บของ การถือของในมือ จะทำให้คุณเหนื่อยและเมื่อยล้า
* เตรียมร่างกายของคุณก่อนการเดิน (วอร์มอัพ) คุณควรจะรู้สึกสนุกเช่นเดียวกันขณะที่คุณกำลังวอร์มอัพ การเตรียมร่างกายให้พร้อม จะช่วยลดการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการออกกำลัง การวอร์มอัพจะเพิ่มเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ เพิ่มออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ และพร้อมสำหรับการออกกำลังกาย การวอร์มอัพจะดึงยืดกล้ามเนื้อ เอ็นให้พร้อม รวมทั้งสภาพทางจิตใจของคุณด้วย คุณอาจวอร์มอัพด้วยการเดินช้าๆ ประมาณ 5-10 นาทีก่อนเริ่มเดินจริง
* ค่อยๆ เพิ่มการเดินทีละน้อย เพราะร่างกายต้องการการปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป การเริ่มต้นออกกำลังมากๆ โดยทันทีอาจจะทำให้ร่างกายคุณได้รับบาดเจ็บได้ คุณอาจจะเริ่มด้วยการเดินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ประมาณ 2 เดือน แล้วเพิ่มขึ้นเป็นวันเว้นวันอีกประมาณ 2 เดือน เพิ่มเป็น 4-5 วันต่อสัปดาห์ จนในที่สุดก็เดินทุกวัน
* อย่าหักโหมจนเกินไป คุณอาจทดสอบว่าตัวเองหักโหมไปหรือไม่ ด้วยวิธีง่ายๆ โดยลองพูดในระหว่างการเดิน ถ้าคุณต้องหยุดพูดเพื่อหายใจ แสดงว่าคุณกำลังหักโหมมากเกินไป
* จดบันทึกการเดินของคุณ จดบันทึกทุกอย่างที่สามารถนับได้ โดยจดบันทึกทุกสัปดาห์ เช่น จำนวนวันที่คุณเดินต่อสัปดาห์ เวลาที่คุณใช้ในการเดิน ระยะทางที่เดิน เป็นต้น แล้ววางบันทึกการเดินของคุณในตำแหน่งที่คุณเห็นง่ายๆ บันทึกเหล่านี้จะเป็นเพื่อนที่ช่วยเตือนคุณให้กำลังใจคุณ และเมื่อคุณทำได้ตามเป้าที่วางไว้ให้รางวัลกับตัวเอง ด้วยอุปกรณ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการเดิน เช่น รองเท้า ถุงเท้า หรือไปเดินในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
* หลังจากเริ่มต้นเดินไปได้ 2-3 เดือน ลองสำรวจความรู้สึกของตัวคุณเอง อย่าหวังว่าตัวคุณจะรู้สึกแข็งแรง หรือรู้สึกว่ามีพละกำลังมาก สิ่งที่คุณจะรู้สึกคือ คุณไม่รู้สึกอ่อนเพลียจากการเดิน หรือถ้ามีก็หายไปใน 1-2 ชั่วโมง แต่อารมณ์และความรู้สึกของคุณจะดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
* เปลี่ยนบรรยากาศในการเดิน เมื่อคุณเดินทุกวันได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว คุณจะไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการเดินใดๆ ลองเปลี่ยนบรรยากาศการเดินไปเดินในที่ต่างๆ หรืออาจลองเดินให้เร็วขึ้น หรือเดินให้ได้ระยะทางมากขึ้น
* พยายามเดินตัวตรง ขณะเดินให้เท้าคุณสัมผัสพื้นจากส้นเท้าไปปลายเท้า ถ้าเดินขึ้นเนิน เดินให้ช้าลง เอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย แกว่งแขนให้มากขึ้นเล็กน้อย เมื่อเดินลงเนิน พยายามควบคุมความเร็วไว้ ก้าวสั้นๆ และวางเท้าเบาๆ
การเดินเพื่อควบคุมน้ำหนักให้คงที่ ควรเดินวันละประมาณ 45 นาที สัปดาห์ละ 3-4 วัน แต่ถ้าคุณต้องการลดน้ำหนัก คุณต้องเดินออกกำลังทุกวัน
ในกรณีที่คุณไม่มีเวลามากพอที่จะเดินวันละ 45 นาทีในครั้งเดียว การเดินครั้งละ 15 นาที วันละ 3 ครั้ง ก็ใช้พลังงานได้เท่ากัน และถ้าคุณเดินร่วมกับการกินอาหารไขมันต่ำ คุณควรจะมีน้ำหนักตัวลดลงประมาณ 1 กิโลกรัมต่อเดือน หรือ 12 กิโลกรัมใน 1 ปี
ข้อมูลจาก หนังสือ นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 27 ที่มา : //www.elib-online.com
เรื่องที่เกี่ยวข้อง : เดินให้ผอม กอล์ฟ - กีฬาดีที่สุดสำหรับการลดน้ำหนัก
สารบัญ ลดอ้วน ลดน้ำหนัก
Create Date : 30 มกราคม 2552 |
Last Update : 20 เมษายน 2554 13:53:40 น. |
|
1 comments
|
Counter : 785 Pageviews. |
|
|
|