ระวัง!!! คนอ้วน-ลดน้ำหนักไม่ถูกวิธีมีสิทธิ์สมองเสื่อม
รูปร่างที่สวยงามหุ่นผอมเพรียว มีสุขภาพดีและแข็งแรง เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนาอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองอยู่แล้ว อย่างที่เห็นทุกวันนี้มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยพยายามหาวิธีลดน้ำหนัก ด้วยการหลงเชื่อไปกับอุปกรณ์การลดน้ำหนักที่โฆษณาทางโทรทัศน์ บางคนหันไปพึ่งยาลดความอ้วน กินแล้วใจสั่น หงุดหงิดอารมณ์ฉุนเฉียว สมองเสื่อม และบางคนกินยาจนเสียชีวิตเลยก็มีได้
เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จัดอภิปรายเรื่อง "ลดน้ำหนักอย่างไร ไม่ให้สมองเสื่อม"
เมทินี กิ่งโพยม กับลูกและสามี
ดารานางแบบหุ่นเพรียว "ลูกเกด" เมทินี กิ่งโพยม เล่าถึงประสบการณ์ลดความอ้วนว่า เคยลดความอ้วนมาหลายวิธี ตั้งแต่อดอาหาร ล้วงคอให้อาเจียน ไปจนทั้งกินยาลดความอ้วน กินแล้วรู้สึกได้เลยว่าหัวใจจะเต้นอยู่ตลอดเวลา เพราะยาลดความอ้วนจะมีส่วนผสมของเด็บต์ออฟเฟตามีนผสมอยู่ ยาจะไปกดตรงจุดทำให้ไม่อยากทานข้าว หงุดหงิด กระวนกระวาย จำอะไรไม่ได้ คอแห้งหิวน้ำตลอดเวลา พอได้ทราบถึงผลข้างเคียงของการทานยาลดความอ้วนว่า มีผลต่อหัวใจและร่างกายในอนาคตว่าเป็นวิธีที่ผิด จึงหยุดกินยา และไม่อยากให้คนที่จะลดความอ้วนทำตามอย่าง
"ได้เข้าใจถึงวิธีการลดความอ้วนที่ถูกวิธีว่า การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และควบคุมอาหารจะเป็นพวกสลัดผักและผลไม้ที่รสชาติไม่หวาน ถือเป็นวิธีการลดความอ้วนที่ดีที่สุด อย่างปัจจุบันก็เล่นฟิตเนส ดื่มนมเสริมแคลเซียมเสริมกระดูกให้แข็งแรง การลดความอ้วนด้วยวิธีนี้เหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลย"
ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ
ด้าน ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ หัวหน้าหน่วยงานโภชนาการ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เผยถึงวิธีลดความอ้วนว่า คนที่มีน้ำหนักเยอะนั้น การถ่ายเทของออกซิเจนที่จะไปเลี้ยงสมองนั้นมีน้อยกว่าคนปกติ มีโอกาสเสี่ยงทำให้สมองเสื่อมได้ วิธีการลดความอ้วนที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักชอบทำกัน อย่างทานยาลดความอ้วน อบเซาน่า ตบไขมัน ดูดไขมัน การรัดท้อง รัดเอวให้สั่น ให้ลดเฉพาะจุดนั้นเป็นการลดความอ้วนที่ปลายเหตุ ไม่มีผลยืนยันทางการแพทย์ว่าสามารถลดน้ำหนักได้ ตัวเลขชี้วัดความอ้วนที่ทุกคนสามารถวัดได้ด้วยตัวเองนั่นคือผู้หญิงถ้าเส้นรอบเอวมากกว่า 80 เซนติเมตร ส่วนของผู้ชายเส้นรอบเอวเกิน 90 เซนติเมตร ถือว่าอ้วน ต้องควบคุมน้ำหนัก
"การลดความอ้วนที่ถูกต้องต้องควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย โดยวิธีการเคลื่อนกล้ามเนื้อใหญ่ ให้แขน ขาได้เคลื่อนไหว อย่างการเต้นแอโรบิค วิ่งเบาๆ เดิน หรือเข้าฟิตเนส ทำอย่างต่ำวันละประมาณ 30 นาที การออกกำลังกายทุกวันจะมีผลดีต่อร่างกาย ทำให้มีกลูโคสไปเลี้ยงสมองมากขึ้น สมองจะกระปี้กระเปร่า จะรู้สึกสดชื่น หายอ่อนเพลีย
ส่วนการรับประทานอาหาร มื้อเช้าควรเป็นข้าวต้ม โจ๊ก หรือเกาเหลา มื้อกลางวันเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำ ทุกมื้อต้องจำกัดปริมาณ 1 ชามต่อมื้อ มื้อเย็นก็เป็นข้าวหนึ่งทัพพีพร้อมกับข้าวไขมันต่ำอย่างผักนึ่ง ผัดผักไร้น้ำมัน ปลานึ่ง และควรทานเนื้อสัตว์ให้ครบทุกมื้อเพื่อเสริมโปรตีน ก่อนนอนบางคนอาจจะหิว ก็ควรเป็นพวกผลไม้ หรือนมขาดมันเนย ไม่ควรเป็นนมพร่องมันเนย เพราะนมพร่องมันเนยจะมีไขมัน 2 เปอร์เซ็นต์ ควรทานนมวันละ 2 แก้ว
เป็นสูตรง่ายๆ และถูกต้องให้ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักนำไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน จะได้ไม่ต้องหลงเข้าใจผิดไปกับวิธีการลดความอ้วนแบบผิดๆ อีกต่อไป
ข้อมูลโดย : //www.matichon.co.th ที่มา : //www.dmh.go.th
สารบัญ ลดอ้วน ลดน้ำหนัก
Create Date : 26 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2554 13:43:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2030 Pageviews. |
|
|
|
|
|