วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (๓)
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
วัดโพธิ์ หรือนามทางราชการว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรี เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาวัดโพธาราม วัดเก่าข้างพระบรมมหาราชวัง ความสำคัญอีกหนึ่งคือที่ใต้พระแท่นประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานในพระอุโบสถเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระองค์ไว้ด้วย
อ่านเพิ่มเติมที่เว็บของวัด คลิกเลยค่ะ
วันนี้ ตอนที่ ๓ ต่อเลยนะคะ ยังอยู่ที่วิหารพระพุทธไสยาส
บาตรแรกอยู่สุดประตูด้านโน้นค่ะ เค้าว่ามีทั้งหมด ๑๐๘ บาตร
แจกันใหญ่มาก
สุดปลายเลนส์ 270 mm. มือสั่น ภาพเบลอ เพื่อจะเอาภาพเครื่องแขวนให้ได้
ออกมาจากวิหารพระพุทธไสยาส ๑๐.๐๓ น. วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ นักท่องเที่ยวเริ่มเยอะขึ้น
ตุ๊กตาจีนแต่งกายแบบฝรั่ง
เป็นรูปมาร์โคโปโล คือ ฝรั่งคนแรกที่เดินทางเข้าไปในประเทศจีน และเผยแพร่อารยธรรมตะวันตกให้แก่ชาวจีน มีอยู่ ๔ คู่ เป็นภาพสะท้อนของชาวจีน มองเห็นฝรั่งสมัยล่าอาณานิคม เป็นคนดุร้าย ก่อสงครามชิงเอาบ้านเมืองอยู่เนืองๆ
จุดขายของที่ระลึกค่ะ
พระมหาเจดีย์ ๔ รัชกาล
ซ้ายมือ ตุ๊กตาจีนขุนนางฝ่ายพลเรือนหรือฝ่ายบุ๋น ขวามือ ตุ๊กตาหน้าฝรั่ง มาร์โคโปโลค่ะ
พระระเบียง
สร้างรอบพระอุโบสถอยู่สองชั้น ทั้งสองชั้นเชื่อมต่อด้วยพระวิหารทิศ อยู่รอบพระอุโบสถทั้งสี่ทิศ พระระเบียงชั้นในประดิษฐานพระพุทธรูป ๑๕๐ องค์ พระระเบียงชั้นนอกประดิษฐานพระพุทธรูป ๒๔๔ องค์ เป็นพระพุทธรูปที่รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญมาจากหัวเมืองฝ่ายเหนือ
ถะ (เจดีย์ศิลปะจีน) ตั้งอยู่ระหว่างพระระเบียงชั้นนอกและชั้นใน รวม ๒๐ องค์
ตุ๊กตาจีนขุนนางฝ่ายพลเรือนหรือฝ่ายบุ๋น
หน้าตาอมยิ้มนิดๆ สวมหมวกทรงสูง มือข้างหนึ่งถือหนังสือ ข้างหนึ่งลูบเคราเหมือนกำลังครุ่นคิด สวมเสื้อคลุมยาวกรอมรองเท้า มองเป็นคนภูมิฐาน เป็นนักปกครอง นักวางแผนและขุนนางแห่งราชสำนัก
กำแพงแก้ว
ล้อมลานพระอุโบสถ มีซุ้มประตู ๘ ซุ้มและซุ้มพัทธสีมา ๘ ซุ้ม ทำแปลกจากของเดิม กำแพงแก้วด้านนอกประดับศิลาลายฉลัก(สลัก) เป็นรูปภูเขาต้นไม้และรูปสัตว์ต่างๆ ซุ้มประตูทางเข้า ๘ ซุ้ม (ประตูทรงมงคล) สร้างด้วยหินแกรนิตแกะสลัก มีรูปหล่อสางแปลงเนื้อสำริดประตูละหนึ่งคู่
พนักระหว่างเสาเฉลียงพระอุโบสถด้านนอกประดับศิลาจำหลักภาพเรื่องรามเกียรติ์ ๑๕๒ ภาพมีโคลงจารึกบอกเนื้อเรื่องติดไว้ ภาพสลักศิลาเหล่านี้ มาจากภาพหนังใหญ่ รัชกาลที่ ๓ ทรงมีพระราชปรารภว่า "หนังใหญ่เป็นการเล่นมหรสพของไทยมาแต่อยุธยาตอนต้นถึงสมัยรัตนโกสินทร์ การเล่นหนังใหญ่ต้องใช้ศิลปะชั้นสูงหลายด้าน เพราะเหตุนี้ การเล่นหนังใหญ่จึงเป็นของเล่นให้ดีได้ยาก นับวันแต่จะโทรมลงไป เพื่อให้อนุชนได้ชมภาพตัวหนังดังกล่าวจึงให้เอาตัวหนังใหญ่มาแกะลงบนแผ่นศิลาให้เหมือนหนังฉลุทุกส่วนติดไว้ให้ชม"
พระมหาสถูป หรือพระปรางค์
ประดิษฐานอยู่มุมลานพระอุโบสถชั้นนอกทั้ง ๔ ด้าน ๔ องค์ พระปรางค์แบบนี้มีชื่อเรียกเฉพาะว่า "พระอัคฆีย์เจดีย์" บุด้วยหินอ่อน มีเทวรูปท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ หล่อด้วยดีบุกลงรักปิดทองประดับกระจกประจำทั้งสี่ทิศขององค์พระปรางค์
องค์ที่ประดิษฐานด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านหน้าพระอุโบสถนามว่า "พระพุทธมังคละกายพันธนามหาสถูป" ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้นามว่า "พระพุทธธรรมจักปวัตะนะปาทุกามหาสถูป" ด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้หลังพระอุโบสถนามว่า "พระพุทธวิไนยปิฏกะสูจิฆรามหาสถูป" และด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือนามว่า "พระพุทธอภิธรรมธระวาสีปริกขาระมหาสถูป"
พระอุโบสถ
สร้างสมัยรัชกาลที่ ๑ ตามแบบศิลปะอยุธยาตอนปลาย และขยายใหญ่ขึ้นเท่าที่เห็นในสมัยรัชกาลที่ ๓ ซุ้มจรนัมประจำประตูหน้าต่างฉลัก (สลัก) ด้วยไม้แก่น ยอดเป็นทรงมงกุฎลงรักปิดทอง ประดับกระจก บานประตูพระอุโบสถ ด้านนอกลายประดับมุก เป็นลายภาพเรื่องรามเกียรติ์ ด้านในเขียนลายรดน้ำรูปพัดยศพระราชาคณะ พระครูสัญญาบัตร ฐานานุกรมเปรียญทั้งฝ่ายคามวาสีและอรัญวาสีในกรุงและหัวเมือง
พระประธานพระอุโบสถ
เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ นามว่า พระพุทธเทวปฏิมากร ที่ฐานชุกชีก่อไว้ ๓ ชั้น ชั้นที่ ๑ บรรจุพระบรมอัฐิและพระราชสรีรางคารรัชกาลที่ ๑ ไว้ ชั้นที่ ๒ ประดิษฐานรูปพระอัครสาวกทั้งสององค์ฐานชุกชี ชั้นล่างสุดประดิษฐานพระมหาสาวก ๘ องค์ (พระอรหันต์ ๘ ทิศ)
จิตรกรรมประดับผนังพระอุโบสถเหนือหน้าต่างขึ้นไปเขียนเรื่องมโหสถบัณฑิต (มหาบัณฑิตแห่งมิถิลานคร) คอสองในประธานทั้งสองข้างเขียนเรื่องเมืองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ผนังประตูหน้าต่างเขียนเรื่องพระสาวกเอตทัคคะ ๔๑ องค์ บานหน้าต่างด้านในเขียนลายรดน้ำ เป็นรูปตราประจำตำแหน่งเจ้าคณะสงฆ์ในกรุงและหัวเมือง สมัยรัชกาลที่ ๓ ด้านนอกแกะสลักเป็นลายแก้วชิงดวง
พูดเหมือนเดิมค่ะ ภาพที่เห็นตรงหน้าของจริง งามกว่านี้มาก ไม่รู้จะบรรยายยังไง
ส่วนมากนักท่องเที่ยวไปที่วิหารพระพุทธไสยาส มากกว่าพระอุโบสถค่ะ
นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นค่ะ น่ารักดี
เบื้องหลังภาพ...พี่ไกด์คนไทยค่ะ ทุ่มสุดตัว
ภาพสุดท้ายของตอนนี้ค่ะ นักท่องเที่ยวเข้ามากลุ่มใหญ่ ถ่ายภาพไม่สะดวกแล้ว ไปดีกว่าเนาะ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์ ท่าเตียน) เลขที่ ๒ ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพ ๑๐๒๐๐
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น.
ชาวต่างชาติซื้อบัตรเข้าชมคนละ ๑๐๐ บาท สำหรับนักท่องเที่ยวต้องแต่งกายสุภาพ
สำหรับศูนย์การศึกษาต่างๆ ที่ต้องการจะนำนักศึกษามาทัศนะศึกษา ณ วัดโพธิ์ กรุณาทำหนังสือแจ้งทางวัด เพื่อจะได้รับความสะดวกในเรื่องสถานที่ ข้อมูล และพระวิทยากรที่จะนำทัศนศึกษา หรือ
สอบถามข้อมูลได้ที่
โทร.๐-๒๒๒๖-๐๓๓๕, ๒๒๕-๙๕๙๕, ๒๒๑-๙๔๔๙ โทรสาร ๐-๒๒๒๖-๐๓๗๐, ๒๒๒-๙๗๗๙
การเดินทาง
รถประจำทางธรรมดา สาย ๑, ๓, ๖, ๙, ๑๒, ๒๕, ๓๒, ๔๔, ๔๗, ๔๘, ๕๑, ๘๒, ๑๐๓
รถประจำทางปรับอากาศ ปอ.๑, ปอ.๖, ปอ.๗ ,ปอ.๘, ปอ.๑๒, ปอ.๔๔
เรือด่วนเจ้าพระยา สามารถขึ้นฝั่งที่ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือท่าเตียน หรือท่าเรือปากคลองตลาด แล้วเดินเข้าประตูทางถนนท้ายวังได้
Create Date : 23 กันยายน 2556 |
Last Update : 23 กันยายน 2556 6:00:46 น. |
|
58 comments
|
Counter : 9738 Pageviews. |
|
|
|
มีความสุขกับการทำงานนะคะ...
- Happy Morning - คะ... ( ^◡^)/
ภาพแรกดูขลังมากเลยคะ คุณหนู
คนเยอะเนอะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น