Bloggang.com : สายหมอกและก้อนเมฆ - ทัวร์ไหว้พระ ๙ วัด ตอนที่ ๗ >>> วัดศรีสุดารามวรวิหาร, วัดชัยพฤกษมาลาราชวรวิหาร

ทัวร์ไหว้พระ ๙ วัด ตอนที่ ๗ >>> วัดศรีสุดารามวรวิหาร, วัดชัยพฤกษมาลาราชวรวิหาร

จันทร์สวัสดีค่ะ ลาบล็อกเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว ว่าพาลูกไปเที่ยวทะเล ๓-๔ วัน ไปมาเมื่อวันที่ ๑๗-๑๙ มีนาคมค่ะ วันที่ ๒๐ เข้า รพ. แอดมิท อีกแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรมากมาย ติดเชื้อไวรัสทั่วไปนี่ล่ะค่ะ แต่ชาวบ้านชาวช่องเค้าไม่เป็นอะไรเนาะ เราก็เกิดจะบอบบางไม่สมตัวซะงั้น เลยต้องลาป่วยยาวเลย...ยังตั้งใจเหมือนเดิมนะคะ อยากจะอัพบล็อก จันทร์ พุธ ศุกร์ ไม่รู้จะทำได้แค่ไหน ตอนนี้ยังพอทำได้ก็จะทำไว้เรื่อยๆ อาจจะแวะไปหาช้าหน่อยถึงช้ามากเลยนะคะ ทริปนี้ก็ชนปีแล้วค่ะนี่ ยังอัพบล็อกไม่จบเลย ทัวร์ไหว้พระ ๙ วัด จากดีลเอ็นโซโก้ ซื้อ ๑ แถม ๑ ทริปนี้ ตั้งแต่วันที่่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ต่อเลย...วัดที่ ๖ และ ๗ ค่ะ วัดศรีสุดารามวรวิหาร และวัดชัยพฤกษมาลาราชวรวิหาร

วัดศรีสุดารามวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อยฝั่งตะวันตก เลขที่ ๘๓ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่ทั้งสิ้น ๑๓ ไร่ ๑ งาน ๒๐ ตารางวา

ประวัติความเป็นมา

วัดนี้เดิมเป็นวัดโบราณ ชื่อวัดชีปะขาว หรือวัดชีผ้าขาว บางทีเรียกวัดปะขาวก็มี สันนิษฐานว่า สร้างมาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อมาในรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ (แก้ว) ซึ่งเป็นพระพี่นางเธอของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ ได้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์มาแต่ในรัชกาลนั้น ครั้นล่วงมา น้ำได้เซาะตลิ่งพังเข้ามาจนถึงหน้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาขุนมนตรี เป็นแม่กองสร้างพระอุโบสถขึ้นใหม่ โดยเลื่อนขึ้นจากที่เดิม ทรงโปรดฯ ให้เจ้าพนักงานปักกำหนดเขตรอบโรงพระอุโบสถลงใหม่ใช้แทนวิสุงคามสีมาเดิม โดยให้มีความยาว ๑๕ วา กว้าง ๗ วา แล้วโปรดฯ ให้ลงเขื่อนหน้าวัด เพื่อป้องกันน้ำเซาะตลิ่งจนเป็นผลสำเร็จ ครั้นการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้พระราชทานนามวัดใหม่ว่า วัดศรีสุดาราม ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ทั้งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ในสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชอัยยิกาเจ้าของพระองค์ ทรงสถาปนาพระราชทานไว้ตั้งแต่วันจันทร์ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีเถาะ นพศกพุทธศักราช ๒๔๑๐ เป็นปีที่ ๑๕ ในรัชกาล (ปลายรัชกาล) ตามพระราชโองการพระราชทานวิสุงคามสีมา ซึ่งมีหลักฐานอยู่ในพระอุโบสถ (พระอุโบสถหลังเก่าปรากฏเป็นวิหาร อยู่หน้าพระอุโบสถปัจจุบัน)

บริเวณที่ตั้งวัด

วัดมีเนื้อที่ทั้งหมด ๑๓ ไร่ ๑ งาน ๒๐ ตารางวา แบ่งเป็นเขตพุทธาวาส และ สังฆาวาส เฉพาะส่วนที่เป็นธรณีสงฆ์ มีจำนวน ๕ ไร่ ๓ งาน ๒๐ ตารางวา เมื่อก่อนใช้ศาลาการเปรียญ เป็นโรงเรียนชั้นประถมศึกษาวัดศรีสุดาราม สังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ครั้นต่อมาได้เปลี่ยนสังกัดไปเป็นโรงเรียนเทศบาล ของเทศบาลนครธนบุรี ในบัดนี้ได้สร้างอาคารโรงเรียนขึ้นใหม่ด้านหลังพระอุโบสถเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ โดยเงินงบประมาณจำนวน ๒๕๐,๐๐๐ บาท ซึ่งยังคงเปิดสอนอยู่ ปัจจุบันนี้ เป็นโรงเรียนประถมสังกัดกรุงเทพมหานคร

ภาพแผนที่จากอินเตอร์เน็ตค่ะ

๑๑.๔๑ น. วันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ พอมองเห็นไหมคะ เด็กๆ โดดน้ำเล่น

ถึงแล้วค่ะ วัดที่ ๖

ทริปไหว้พระ ๙ วัด รอบนี้ ส่วนมากเป็นวัดที่เราเพิ่งเคยมาครั้งแรกเกือบทั้งหมดค่ะ

เป็นภาพเดียวที่มองเห็นเจดีย์ พอเข้าไป...ด้วยเวลาที่จำกัด ลืมเลยค่ะ

ของไหว้พระราหู ๘ อย่าง

จุดประสงค์ของทริปคือ เพื่อมานมัสการรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

วัดนี้เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ศึกษาของสุนทรภู่ กวีเอกของโลก เมื่อครั้งเยาว์วัย / หอวรรณกรรม พระสุนทรโวหาร (สุนทรภู่)

หอไตร ที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระศรีอาริย์

พระศรีอาริย์ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง ๒ ศอก ปางมารวิชัย

พระหัตถ์ซ้ายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวา ถือพัด เป็นลักษณะพระสาวก ประดิษฐานอยู่ที่หอไตร

พระบรมรูปสมเด็จเจ้าฟ้ากรมศรีสุดารักษ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑

ผู้ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์วัดศรีสุดาราม

พระอุโบสถปิด...

เป็นพระอุโบสถหลังใหม่ ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดฯ ให้สร้าง

มุมแคบมากค่ะ

พระวิหารเดิมเป็นพระอุโบสถหลังเก่า ดัดแปลงเป็นวิหาร มีลักษณะคล้ายอุโบสถ ไม่มีช่อฟ้าใบระกา

หน้าบันเป็นพานสองชั้น มีรูปปิ่นประดิษฐานไว้บนพาน หมายถึงพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ

๑๒.๐๘ น. ไปแล้วค่ะ

เรืออีกลำที่มาด้วยกัน

ผ่านค่ะ ยังไม่ใช่วัดที่ ๗

คลองบางกอกน้อย (น่าจะใช่)

จำได้ว่าเป็นทางรถไฟที่อยู่ตรงตลาดน้ำตลิ่งชัน

สะพานข้ามคลองมหาสวัสดิ์

วัดชัยพฤกษมาลาราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย ปากคลองมหาสวัสดิ์ อดีตขึ้นกับตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ปัจจุบัน ขึ้นกับเขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร

เป็นวัดร้างโบราณ มีมาตั้งแต่สมัยครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เดิมชื่อวัดชัยพฤกษ์ เมื่อสร้างกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. ๒๓๒๖ ในสมัยรัชกาลที่ ๑ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ขณะพระองค์ทรงเป็นนายด่านท่ากำแพงพระนครด้านหนึ่ง ได้ขอพระบรมราชานุญาตไปรื้อเอาอิฐจากวัดชัยพฤกษ์ร้างมาก่อสร้างทำกำแพงพระนคร

ครั้นปี พ.ศ. ๒๓๒๘ เมื่อการก่อสร้างกำแพงและราชมณเฑียรสำเร็จลงแล้ว พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร บูรณะสถาปนาวัดขึ้นใหม่ในที่เดิม ทำนองเป็นผาติกรรมตามประเพณีและเพื่อความเป็นสิริมงคล

ครั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๕๒ แล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้วัดชัยพฤกษ์มาอยู่ในบัญชีพระอารามหลวง และทรงมอบให้เป็นพระธุระของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฏ เสด็จฯ ไปทรงจุดเทียนพรรษา และถวายผ้าพระกฐินทุกปี นับแต่ พ.ศ. ๒๓๕๒ จนสิ้นรัชกาล อ่านต่อคลิกเลยค่ะ

พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๒ ผู้ทรงปฏิสังขรณ์วัด

ใบเสมา งามมากค่ะ

ด้านในพระอุโบสถ พระประธานเป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ลักษณะพระพุทธชินราชลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย พระนามว่า พระพุทธชัยมงคล

หน้าบันชั้นบนประดับลายปูนปั้นรูปพระครุฑพ่าห์ ซึ่งเป็นพระบรมราชสัญลักษณ์ในรัชกาลที่ ๒

ปูนปั้นเป็นรูปพระมหามงกุฎ ซึ่งเป็นพระบรมราชสัญลักษณ์ในรัชกาลที่ ๔