วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (๕)
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
วัดโพธิ์ หรือนามทางราชการว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ แห่งราชวงศ์จักรี
วันจันทร์...มาเที่ยววัดต่อค่ะ ศุกร์ที่ผ่านมาไม่ได้อัพบล็อก บอกเล่าเก้าสิบให้ฟังหน่อยเนาะ
เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๘ กันยายน เราเป็นไข้ตัวร้อนเป็นมาก่อนหน้านั้น ๒ วัน ตอนนั้นนึกอยู่ในใจกลัวเป็นไข้เลือดออก เพราะที่บ้านยุงเยอะเหมือนกัน หมอเจาะเลือด เม็ดเลือดขาวหมื่นหนึ่งนิดหน่อย (คนปกติเม็ดเลือดขาวจะอยู่ที่ ๗-๘ พันค่ะ) แต่ไม่มีเชื้อไข้เลือดออก คุณหมออธิบายให้ฟังว่ามีการติดเชื้อ ให้เอายาฆ่าเชื้อ ยาแก้ไอมากินก่อน ตอนนั้นเราไอด้วยแต่ไม่มาก วันจันทร์ที่ ๓๐ กันยายน ขอนัดมาดูใหม่ ถ้ายังไม่หาย ต้องหาสาเหตุอีกรอบว่าติดเชื้อจากที่ไหนแน่ เรากินยาครบทุกมื้อที่หมอให้มา ไข้ลดลง วันจันทร์ที่หมอนัดเลยไม่มาซะงั้น
พอวันอังคาร รู้สึกยังไม่ค่อยดี อาการปวดเนื้อปวดตัวก็ยังมี แต่ก็ทำงานบ้าน และกิจวัตรประจำวันตามปกติ จนปะป๊ากลับมาตอนเย็น เลยบอกให้พาไปหาหมออีกรอบ คุณหมอเห็นหน้าปุ๊บ บอกว่าไข้หวัดใหญ่แน่นอน และตรวจยืนยันผลอีกทีโดยวิธีป้ายจมูก คือการตรวจหาโรคจากเชื้อ ไม่ใช่การตรวจหาจากภูมิ แล้วเรียกปะป๊าให้เข้ามา บอกว่าจะต้องแอดมิท เพราะเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี (ไข้หวัดใหญ่แบ่งเป็น ๓ กลุ่มใหญ่ๆ คือชนิดเอ, บี, 2009 หรือ H1N1 น่าจะมีไข้หวัดใหญ่แบบซีด้วยมังคะ ไม่แน่ใจ) จริงๆ ชนิดบีไม่ได้รุนแรงมาก แต่จะหายช้า และเพลียมาก
จากประวัติ เราเคยเป็นแล้ว ครั้งนี้เลยเป็นครั้งที่สอง ไม่เคยฉีดวัคซีนเพราะคิดว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยฉีด แต่ลูกๆ จะฉีด หมอบอกว่า หวังว่าผมคงไม่เจอคุณเป็นไข้หวัดใหญ่อีกเป็นครั้งที่สาม ครั้งนี้หนักกว่าครั้งที่แล้วเพราะปอดอักเสบติดเชื้อ สรุปว่าไปหาหมอเย็นวันอังคารที่ ๑ ตุลาคม ออกจาก รพ. วันศุกร์ที่ ๔ ช่วงเย็น คราวก่อนหมอกนอนเฝ้าแม่ รอบนี้ หมอกอยู่ต่างจังหวัด และติดสอบด้วย เมฆก็ยังเล็ก หมอบอกว่ากลัวเค้าติด ปะป๊าเลยต้องลางานดูลูก สายๆ ก็หอบกันมาอยู่ที่ รพ. เดินเล่นแถวนั้นบ้าง อะไรบ้าง เย็นก็กลับบ้านไปนอน
ที่อัพบล็อกได้เมื่อวันพุธ เพราะมีดราฟท์อยู่ตอนเดียว พยายามอัพบล็อกขึ้นจากโทรศัพท์ ยากเย็นมากค่ะ เข้าบล็อกแก๊งค์ยาก กว่าจะพิมพ์เำพิ่มคำว่า "ลาป่วยนะคะ" ได้นี่ก็ยากเย็น น้องแพท-blueberryblossom เลยอาสาแจ้งข่าวบอกเพื่อนบล็อกให้...
ขอบคุณแพท ขอบคุณเพื่อนพี่น้องที่แวะมาเยี่ยม มาส่งกำลังใจให้ด้วยค่ะ คอมเมนท์ตอนเก่าก็ค้าง ยังไม่ได้แวะไป เกรงใจมาก...แต่ก็เหมือนเดิมไม่อยากปิดคอมเมนท์ ตอนนี้ดีขึ้นแล้วค่ะ หมอนัดเอ็กซ์เรย์อีกรอบวันเสาร์ที่ ๑๒ ให้พักผ่อนเยอะๆ แต่พักของเราก็ตามประสาเนาะ ยังไงอยู่บ้านก็ยังดีกว่าอยู่ รพ. อยู่แล้วค่ะ
อ่านเพิ่มเติมที่วิกิพีเดีย คลิกเลยค่ะ
ทางเข้าเจดีย์สี่รัชกาล และซ้ายมือของภาพ ศาลารายค่ะ
พระเจดีย์ราย มีทั้งหมด ๗๑ องค์ อยู่รายรอบพระระเบียงชั้นนอก
ตุ๊กตาสาวจีน ส่วนมากหน้าตาสดชื่นยิ้มแย้ม มีทั้งรูปเกล้ามวยผูกผ้า และมีผ้าคลุมผมพลิ้วบาง สวมเสื้อคลุมยาวกรอมรองเท้า
เขามอในวัดโพธิ์มีทั้งหมด ๒๔ ลูก เช่น เขาประดู่ เขาสะเดา เขาอโศก เขาสมอ เขาฤษีดัดตน เขาศิวลึงค์ เป็นต้น
ตุ๊กตารูปสิงโตคาบแก้ว
รูปสลักสิงโตนิยมตั้งประทับที่เชิงบันได หรือหน้าประตูทางเข้าออกตามแต่ขนาด ในปากมีหินก้อนกลมเล็กๆ สามารถเอามือสอดเข้าไปกลิ้งเล่นได้
รูปสลักสิงโตนี้ ช่างสลักได้จัดทำไว้ ๒ เพศ ตัวเมียมีลูกเล็กๆ อยู่ที่ซอกอกและเท้าเป็นสัญลักษณ์ ตัวผู้ในท่าวางเท้ามีกงเล็บจับลูกแก้ว หรือลูกโลก หรือสิ่งมงคลตามความเชื่อในคติจีน
พักเหนื่อย พักสายตาเป็นพักๆ ค่ะ
จากสวนหย่อมภายในวัดโพธิ์
เขามอ
หรือสวนหย่อม เป็นสวนหินปลูกไม้ประดับที่รัชกาลที่ ๓ โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง ปลูกต้นไม้ไว้ตามเชิงเขาและบนเขา เขามอมีทั้งหมด ๒๔ ลูก เช่น เขาประดู่ เขาสะเดา เขาอโศก เขาฤษีดัดตน เป็นต้น พรรณไม้ที่ปลูกประดับส่วนใหญ่เป็นพรรณไม้สมุนไพร
ตุ๊กตาจีน
เป็นเครื่องอับเฉาที่ใช้เป็นอุปกรณ์ถ่วงเรือสำเภา ตอนขากลับจากการนำสินค้าไปขายที่ประเทศจีน นับเป็นเสน่ห์ของวัดโพธิ์ รองจากพระพุทธไสยาสที่งดงาม มีทั้งที่สลักจากหินและปูนปั้น เป็นรูปสัตว์ รูปคน ประดับตามลานบริเวณเขตพุทธาวาส
หน้าบันศาลาราย
ตามมาเรื่อยๆ นะคะ เราไม่มีแผนที่ เดินมั่วไปหมด
ศาลารายอีกจุดค่ะ
พระเจดีย์รายรวมทั้งหมด ๗๑ องค์
นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่่นค่ะ
๑๐.๕๗ น. วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อีกกลุ่มใหญ่
มองตรงเข้าไปที่เห็นเป็นซุ้มโค้ง ทางเข้าพระอุโบสถค่ะ
หอระฆัง อยู่ด้านหน้าวิหารพระพุทธไสยาส
เขามอ และสวนหย่อม จุดแวะพัก
เดี๋ยวเราเดินไปที่นี่กันค่ะ พระมณฑป (หอไตรจตรุมุข)
พระมณฑป (หอไตรจตุรมุข)
รัชกาลที่ ๓ โปรดฯ ให้สถาปนาเป็นสถาปัตยกรรมจตุรมุข เครื่องยอดทรงมงกุฎ ประดับกระเบื้องเคลือบ เครื่องถ้วยหลากสี ลวดลายงามวิจิตร
ยักษ์วัดโพธิ์
ตั้งอยู่ที่ซุ้มประตูทางเข้าพระมณฑป โดยมีสีกายเป็นสีแดงและสีเขียว ลักษณะคล้ายยักษ์ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งมักมีผู้เข้าใจผิดว่าตุ๊กตาสลักหินรูปจีน หรือ ลั่นถัน นายทวารบาลที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าประตูวัดนั้นคือ ยักษ์วัดโพธิ์
นอกจากนี้ ยังมีตำนานเกี่ยวกับยักษ์วัดโพธิ์และยักษ์วัดแจ้ง ซึ่งทำให้เกิดท่าเตียนในปัจจุบัน นั่นคือ ยักษ์วัดโพธิ์ซึ่งทำหน้าที่ดูแลวัดโพธิ์และยักษ์วัดแจ้งซึ่งทำหน้าที่ดูแลวัดแจ้งนั้น ทั้ง ๒ ตนเป็นเพื่อนรักกัน วันหนึ่งยักษ์วัดแจ้งไปขอยืมเงินจากยักษ์วัดโพธิ์ เมื่อถึงกำหนดส่งเงินคืน ยักษ์วัดโพธิ์กลับไม่ยอมจ่าย ดังนั้น ยักษ์ทั้ง ๒ ตนจึงเกิดทะเลาะกัน แต่เพราะรูปร่างที่ใหญ่โตและพละกำลังที่มหาศาลของยักษ์ทั้ง ๒ ตน เมื่อเกิดต่อสู้กันจึงทำให้บริเวณนั้นราบเรียบโล่งเตียนไปหมด เมื่อพระอิศวรทราบเรื่องนี้ จึงได้ลงโทษให้ยักษ์วัดโพธิ์ยืนเฝ้าพระอุโบสถวัดโพธิ์ และยักษ์วัดแจ้งยืนเฝ้าวิหารวัดแจ้งตั้งแต่นั้นมา
ลองผลักประตูดู เข้าไปได้ค่ะ
รอบๆ มีศาลา ๓ หลัง เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงพระพุทธรูปศิลปะแบบต่างๆ พระไตรปิฎกใบลาน และ เครื่องถ้วยเครื่องแก้วเจียรไน
ทั้งหอไตร และพิพิธภัณฑ์ไม่เปิดให้เข้าชมค่ะ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์ ท่าเตียน)
เลขที่ ๒ ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพ ๑๐๒๐๐
เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น.
ชาวต่างชาติซื้อบัตรเข้าชมคนละ ๑๐๐ บาท สำหรับนักท่องเที่ยวต้องแต่งกายสุภาพ
สำหรับศูนย์การศึกษาต่างๆ ที่ต้องการจะนำนักศึกษามาทัศนะศึกษา ณ วัดโพธิ์ กรุณาทำหนังสือแจ้งทางวัด
เพื่อจะได้รับความสะดวกในเรื่องสถานที่ ข้อมูล และพระวิทยากรที่จะนำทัศนศึกษา หรือ
สอบถามข้อมูลได้ที่
โทร.๐-๒๒๒๖-๐๓๓๕, ๒๒๕-๙๕๙๕, ๒๒๑-๙๔๔๙ โทรสาร ๐-๒๒๒๖-๐๓๗๐, ๒๒๒-๙๗๗๙
การเดินทาง
รถประจำทางธรรมดา สาย ๑, ๓, ๖, ๙, ๑๒, ๒๕, ๓๒, ๔๔, ๔๗, ๔๘, ๕๑, ๘๒, ๑๐๓
รถประจำทางปรับอากาศ ปอ.๑, ปอ.๖, ปอ.๗ ,ปอ.๘, ปอ.๑๒, ปอ.๔๔
เรือด่วนเจ้าพระยา สามารถขึ้นฝั่งที่ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือท่าเตียน หรือท่าเรือปากคลองตลาด แล้วเดินเข้าประตูทางถนนท้ายวังได้
ช่วงนี้เมฆปิดเทอมค่ะ แวะไปหาเพื่อนพี่น้อง ช้า...ถึงช้ามาก...
รวมกับช่วงลาป่วยอีก ทบต้นทบดอกกลายเป็นค้างคอมเมนท์ ๓-๔ ตอนแล้วค่ะ 
| Create Date : 07 ตุลาคม 2556 |
| Last Update : 7 ตุลาคม 2556 9:19:59 น. |
|
70 comments
|
| Counter : 5998 Pageviews. |
 |
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 165 คน [
เป็นอีกวัดที่สวยงามมากเลยครับ
ชอบศิลปะจีนครับ