'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

~ ดอกไม้สีม่วง โดย "วราภา" ~





ดอกไม้สีม่วง
ผู้เขียน วราภา
ผู้พิมพ์ สนพ.พลอยจันท์ (ครั้งที่ ๕ / ๒๕๕๔)


เรื่องย่อ (จากปกหลัง) :


'โจนาส' หนุ่มไทยสัญชาติอเมริกันที่ต้องแบกรับปัญหาทุกอย่างจนกลายเป็นคนเก็บกด
ดีว่าได้รับความรักล้นเหลือจาก 'คุณลิเลียน' มารดานัยน์ตาบอด

ต่างจาก 'แนต' น้องสาวต่างบิดา ผู้เกลียดชังความเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน
อีกทั้งยังเป็นคนขาดรักไปเสียทุกอย่าง
หลังจากบิดาชาวอเมริกันเสียชีวิตลง ก็กลายเป็นเด็กวัยรุ่นมีปัญหาจนหลงผิดไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด
ในที่สุดถูกจับขึ้นศาลเยาวชน

และที่สำคัญคือเป็นผู้ทำให้มารดาต้องเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน

ปัญหารุมเร้าเหล่านี้...
ไม่ว่าจะเป็น น้องสาวที่ไม่สามารถเข้ากันได้ ดุจ'น้ำ' กับ'น้ำมัน'...
ไม่ว่าจะเป็น 'ดาว'... หญิงสาวที่เขาเฝ้าหลงรักแต่เพียงฝ่ายเดียว
และรัฐมนตรี 'จรัญ รามรุจ'...บิดาที่ทอดทิ้งเขากับมารดาจนต้องระเห็จมาประเทศอเมริกา...
แล้วโจนาสจะแก้ปัญหาอย่างไรดี...







โครงเรื่องย่อ ๆ ก็ตามปกหลังนั่นเลยค่ะ...
แต่ถ้าเทียบจากความหนาของหนังสือแล้ว เรื่องย่ออาจจะสั้นไปนิดหนึ่ง...
ออกจะผิดคอนเซ็ปต์ของบล็อกนี้ไปหน่อย เอาเป็นว่าเพิ่มเติมจากข้างบนอีกเล็กน้อยค่ะ...

คุณลิเลียน มารดาของโจนาสถูกพล่าพรหมจรรย์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กสาวรุ่น โดยผู้ที่มีศักดิ์เป็นอาเขย
จนเธอตั้งท้อง และให้กำเนิดบุตรชาย...

ด้วยแรงบีบคั้นจากสภาพของตนเองและอาหญิง ผู้เป็นภรรยาหลวง
เธอตัดสินใจหอบลูกน้อยบินข้ามฟ้ามาตั้งต้นชีวิตใหม่ยังต่างแดน

ชะตาชีวิตของคุณลิเลียนพลิกผัน..เมื่อเธอพบรักและแต่งงานใหม่กับเศรษฐีชาวอเมริกันที่รักและยกย่องเธออย่างสุดหัวใจ
รวมถึงยอมรับเลี้ยงดู โอบอุ้มลูกชายของเธอประหนึ่งเป็นบุตรชายของตนเอง...
นั่นทำให้มีน้อยคนนักในสังคมที่จะรู้ความจริงว่า...
แท้จริงแล้ว โจนาส รอเบิร์ตสันไม่ได้เป็นชาวอเมริกันแต่กำเนิด
หากแต่เป็นชาวไทยแท้ ๆ 100%...

แต่แล้ว...เมื่อสามีของเธอเสียชีวิตลง เธอก็ต้องเผชิญมรสุมชีวิตอีกครั้ง อันมีสาเหตุมาจากลูกสาวของเธอเอง...

แนต หรือนาตาชา เด็กสาววัยรุ่นผู้รังเกียจชาติกำเนิดของตนเอง
เธอกลายเป็นสาเหตุให้มารดาต้องสูญเสียการมองเห็น...
นั่นยิ่งทำให้เธอประพฤติตัวเหลวแหลก เพื่อเป็นการประชดชีวิต...
ด้วยคิดเอาเองว่า...แม่รักเธอน้อยกว่าโจนาส...พี่ชายต่างบิดา

..............
ดาว...นักศึกษาสาวชาวไทยหนีความเจ็บช้ำจากความรักมาเรียนต่อที่นั่น...สมทบกับศากุน เพื่อนสนิทของเธอ
เธอได้พบกับโจนาส...และรู้สึกว่าเขามีบางส่วนที่ละม้ายกับทัดเทพ...เพื่อนชายของเธอ
และรู้ว่าเขาเองก็สนใจในตัวเธอไม่น้อย
แต่เธอต้องก่อกำแพงกั้นหัวใจตนเองไว้...เพราะเขาเป็นชาวต่างชาติ...
.................
โจนาสตกหลุมรักดาวทันทีที่พบหน้า...เขาพยายามพาตัวเข้ามาใกล้ชิด
แล้วก็สมใจเมื่อดาวตกลงรับทำงานพิเศษที่เขาเสนอ นั่นคือการดูแลคุณลิเลียน...
แม้ดาวจะยังคงมีท่าทีห่างเหิน แต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังค่อย ๆ เปิดใจยอมรับเขามากขึ้น

ความรักของเขาเกือบจะลงเอยด้วยดีอยู่แล้วเชียว เมื่อ...คนรักเก่าของดาวติดตามมา
และพาตัวเข้ามาพัวพันกับนาตาชา...น้องสาวของเขา

ถึงเวลาที่โจนาสจำเป็นต้องเลือก...ระหว่างน้องสาวกับ "ดาว"...





หลังอ่าน...(เรื่องย่ออะไรย๊าว-ยาว...)

นิยายเรื่องนี้ผู้เขียนเขียนและพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๑๖ โน่นแน่ะค่ะ
ส่วนตัวเคยอ่านเป็นตอน ๆ ที่ลงใน"ดรุณี" เมื่อสมัยเด็ก ๆ
ยังจำได้ถึงความรู้สึกเศร้า ซาบซึ้ง สะเทือนอารมณ์ในขณะที่อ่านได้เป็นอย่างดี...

แต่เมื่อหยิบมาอ่านทวนในรอบนี้ ในขณะที่ชีวิตผ่านอะไรมากขึ้น
(แก่ลง...ว่างั้นเถอะ) กลับไม่ค่อยรู้สึกเศร้ามากมายสักเท่าไหร่...
แต่ยังคงซาบซึ้งกับความรักอันมั่นคงอยู่เช่นเดิม...

จะมีส่วนที่ได้เพิ่มเติมมาจากการอ่านรอบแรกก็คือ...
ชื่นชมที่ผู้เขียนได้สอดแทรกเรื่องราวของความจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์
และความภาคภูมิใจในคุณค่าทางวัฒนธรรมของไทยไว้ในเรื่องอย่างกลมกลืน ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป...
ทั้ง ๆ ที่เรื่องราวทั้งหมดในนิยายดำเนินอยู่ในต่างประเทศตลอดทั้งเรื่อง

ชื่อเรื่อง "ดอกไม้สีม่วง" ...
นอกจากจะสื่อความหมายถึงตัวละครหลักของเรื่องนี้อย่างคุณลิเลียน มารดาของโจนาสแล้ว
ยังมีความหมายต่อ"ศากุน" เพื่อนสาวของดาว...
หญิงสาวผู้มีความวุฒิภาวะทางอารมณ์ค่อนข้างสูง ...สามารถแยกแยะได้ระหว่าง"รัก" และ "หลง"
พาตัวและหัวใจให้พ้นจากห้วงรักเหวลึกได้ในที่สุด

เป็นนิยายรัก โรแมนติกรุ่นเก่าที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกนุ่มนวลอ่อนหวาน ละเมียดละไมในอารมณ์ยิ่งนัก

ตัวละครแต่ละตัวในเรื่องล้วนมีมิติแห่งชีวิตที่เป็นธรรมชาติมาก มีร้ายมีดี ปะปนกัน
แต่ละคนมีเหตุมีผลในการกระทำของตัวเอง...

นับว่าเป็นนิยายรักที่ให้ภาพจำลองของชีวิตจริงของมนุษย์
ที่ต่างไขว่คว้าหาความรัก...ไม่ว่าจะเป็นความรักในแง่มุมใดก็ตาม...
เพราะความรักเป็นสิ่งสวยงามและเป้นยอดปรารถนาของผู้คนบนโลกนี้เสมอมา

จึงหยิบมาชวนอ่านในวันนี้ค่ะ
















 

Create Date : 07 ธันวาคม 2554    
Last Update : 7 ธันวาคม 2554 12:09:41 น.
Counter : 6381 Pageviews.  

~ พระจันทร์หลงเงา นิยายยุคเก่า โดย กฤษณา อโศกสิน ~





“พระจันทร์หลงเงา”
ผู้เขียน กัญญ์ชลา (กฤษณา อโศกสิน)
ผู้พิมพ์ : สนพ.ดอกหญ้า

โปรยปกหลัง:


ไม่ว่าจะค่าของคน...หรือค่าของความรัก
เธอเคยมองผ่านและตีราคาได้เสมอ
แต่แล้ว...
เขาก็สอนให้เธอรู้ว่า...คุณค่าแห่งจิตใจที่อยู่ลึกเข้าไปนั้นต่างหาก
ที่มีค่ามีราคายิ่งกว่าภาพลวงตาภายนอกที่เธอใช้เป็นมาตรวัด






เรื่องย่อ : (ย่อเองแบบยาวววว...)


สินาดและสิโรตน์เป็นพี่น้องสองชายที่ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและนิสัยใจคอ
ในขณะที่สินาดผู้เป็นพี่ชายนั้นจริงจัง เงียบขรึม และเอางานเอาการ
แต่สิโรตน์น้องชายกลับเป็นคนฟุ้งเฟ้อ อ่อนแอ เป็นลูกแหง่ติดแม่อยู่ตลอดเวลา
ซึ่งแม่อย่างคุณนายตลับก็รักลูกชายคนนี้ทูนหัวทูนเกล้า จนแสดงออกถึงความลำเอียงให้สินาดเห็นอยู่เสมอ ๆ

สิโรตน์แต่งงานแล้ว กับอินทิรา หญิงสาวผู้สงบเสงี่ยม...
เพียงสองเดือนที่เธอเข้ามาเป็นสะใภ้คุณนายตลับเธอก็รู้สึกเหลือจะทนกับความรักความหลงที่แม่สามีมีต่อลูกชายคนเล็ก-สามีของเธอ
จนย่างเข้าเดือนที่สามของชีวิตคู่ เธอรู้ตัวว่าเธอตั้งครรภ์ จึงเอ่ยปากชวนสามีให้แยกออกไปเช่าบ้านตามลำพัง
แต่สิโรตน์เกรงใจมารดาจึงไม่กล้า อินทิราจึงกลับไปอยู่บ้านป้า โดยมีสินาดไปดูแลอย่างห่วงใย

สินาดไปเฝ้าบ้านเช่าให้เพื่อน ทำให้ได้รู้จักกับวิฬารี หญิงสาวแสนสวยผู้หยิ่งผยองและชอบดูถูกคนอื่นจนติดนิสัย
เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าของบ้านที่เพื่อนสินาดเช่าอยู่
เมื่อเจอกันสินาดแสดงอาการไม่แยแสหญิงสาวจนเธอรู้สึกขุ่นเคืองใจ
ในตอนนั้นวิฬารีกำลังคบหาอยู่กับเลิศชาย ชายหนุ่มผู้ทำตัวโก้เก๋ ทั้ง ๆ ที่ฐานะทางบ้านกำลังง่อนแง่นเต็มทีจนแม่ของเขาต้องไปกู้เงินจากคุณนายตลับมาใช้อยู่บ่อยครั้ง...ซึ่งสินาดรู้เรื่องดีเพราะเขาเป็นคนทำบัญชีให้แม่…
บางครั้งเขาจึงเผลอพูดจากระทบกระทั่งวิฬารี ยิ่งทำให้ฝ่ายนั้นเกลียดหน้าเขามากขึ้น

พ่อแม่ของวิฬารีชื่นชมสินาดมาก เมื่อรู้ว่าน้องสะใภ้ของเขามีปัญหา จึงเอ่ยปากชวนให้มาเช่าบ้านของตน
สินาดจึงไปเกลี้ยกล่อมให้สิโรตน์เห็นแก่ภรรยาที่กำลังท้อง
สิโรตน์เชื่อพี่ชายจึงแอบหนีแม่มาอยู่กับอินทิรา แต่มาอยู่ได้เพียงวันเดียว คุณนายตลับก็มาตามกลับไป
พร้อมกับด่าทออินทิราสาดเสียเทเสีย...
เมื่อรู้ว่าเป็นความคิดของสินาด เธอจึงโกรธมาก ถึงกับออกปากเผยความลับว่า สินาดไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเธอ...
สินาดจึงรู้สึกเจ็บปวดและขมขื่นใจมาก เขาย้ายออกจากบ้านมาอยู่บ้านเช่าแทนที่อินทิรากับสิโรตน์...
อินทิรากลับไปอยู่บ้านป้าและแท้งลูกในเวลาต่อมา…

เมื่ออินทิราแท้งลูก คุณนายตลับจึงยุส่งให้สิโรตน์หย่ากับอินทิรา แล้วพยายามจับวิฬารีซึ่งมีภาษีดีกว่า...
เลิศชายกำลังเข้าตาจน คิดว่าสิโรตน์จะมาเป็นคู่แข่งจึงจ้างคนมาดักทำร้ายสิโรตน์
เมื่อสิโรตน์ตายคุณนายก็หาว่าสินาดเป็นคนฆ่าน้องชายเพื่อหวังฮุบสมบัติ ทำให้สินาดเครียดมาก...

และนั่นเอง ที่ทำให้วิฬารีเกิดความเห็นอกเห็นใจชายหนุ่มขึ้นมา...






เรื่องย่อยืดยาวอีกตามเคย แหะ ๆ
แต่...เรื่องราวยังอีกยาวนานค่ะ...

ไหนจะปมกำเนิดของอินทิรากับวิฬารีอีก
ที่เฉลยออกมาในตอนท้ายว่าทำไมทั้งสองถึงมีหน้าตาคล้ายคลึงกันราวกับเป็นคนคนเดียว...

แล้วในที่สุด...
สินาดกับวิฬารีผู้มีชะตากรรมคล้าย ๆ กันจะลงเอยกันได้อย่างไร...
ต้องไปตามอ่านในนิยายแล้วล่ะค่ะ เท่าที่เล่าไปข้างบนก็ค่อนข้างเยอะไปแล้ว

อ่านตอนแรก ๆ เอื่อยเฉื่อยมาก ๆ เพราะเป็นนิยายยุคเก่า เน้นไปที่เรื่องราวของแม่ผัวลูกสะใภ้เสียเยอะ
มาเริ่มสนุกเอาตอนกลาง ๆ เรื่อง เมื่อปมชาติกำเนิดของพระเอกนางเอกเริ่มแพลม ๆ ออกมา

อ่านจนจบแล้วรู้สึกว่านิยายเรื่องนี้น่าทำเป็นละครจัง...
เป็นดราม่าน้ำเน่าแบบโบราณ ๆ แต่ธีมหลักของเรื่อง (ปมปัญหาชีวิตครอบครัว ปัญหาแม่ผัว-ลูกสะใภ้...ฯลฯ) ค่อนข้างคลาสสิคร่วมสมัยอยู่...
ไม่ว่ายุคใดสมัยใด...เรื่องพวกนี้ยังขายได้อยู่เสมอ

และแม้จะเป็นดราม่าจัดและค่อนข้างหนักอย่างที่บอก แต่สามารถทำให้กุ๊กกิ๊ก ๆ ได้ด้วยบทของนางเอกที่ต้องสวยเริ่ดเชิดหยิ่ง...แต่ก็ค่อย ๆ ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นในภายหลังเมื่อรู้ถึงชาติกำเนิดของตนเอง

จากกระแสนวนิยายรุ่นใหม่ที่กำลังถั่งโถมอยู่ในตลาดวรรณกรรมทุกวันนี้
แล้วเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูว่า...
ส่วนใหญ่เป็นนิยายแนวเอาใจตลาดด้วยการเพิ่มบทอีโรติกจนหลายคนออกอาการเป็นห่วงนักอ่านเยาวชนว่าจะถูกมอมเมาด้วยบทที่ว่าหรือเปล่า...

ทำให้คิดถึงนิยายรักยุคเก่า ๆ แบบนี้ขึ้นมา
เพราะนิยายยุคเก่าถึงแม้จะน้ำเน่า...แต่ยังแฝงไว้ด้วยสาระแห่งชีวิตอยู่มากมาย
เพราะในยุคนั้น ว่ากันว่า ถ้านิยายที่ไม่ให้อะไรกับผู้อ่านเลย...
ย่อมอยู่ไม่ได้โดยตัวของมันเอง...

หยิบนิยายน้ำเน่า...(แต่มีเงาจันทร์)เล่มนี้มาชวนอ่านสวนกระแสกันค่ะ








 

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2554 12:15:14 น.
Counter : 5556 Pageviews.  

~ 'มินทราลัย หัวใจแห่งนาง' โดย "อุษณกร" ~





มินทราลัย หัวใจแห่งนาง
เล่ม ๑ หนึ่งคำมั่น
เล่ม ๒ สัญญาใจ กำไลนาคราช
ผู้แต่ง : อุษณกร
สำนักพิมพ์อรุณ (ครั้งแรก ก.ค. ๒๕๕๔)


คำโปรย(จากปกหลัง) :

เล่ม ๑ ตอน หนึ่งคำมั่น


ศึกรบยังพอมีเวลาหยุดพัก แต่ศึกรักกลับปะทุคุโชนอยู่ร่ำไป
“ความรักที่คงมั่นและจะตราตรึงหัวใจไปชั่วนิรันดร์”

ท่ามกลางการแก่งแย่งช่วงชิงความเป็นใหญ่ในแผ่นดินขอม
เจ้าชายศรีสุริยเทพเสด็จไปช่วยเมืองพันธมิตรรบกับศัตรู และได้พบเจ้านางสิริสุภา
เจ้าหญิงต่างแคว้น ผู้ที่ทำให้หัวใจเยี่ยงนักรบอ่อนยวบราวขี้ผึ้งถูกไฟลน
เมื่อยิ่งได้ใกล้ชิด ก็ยิ่งรู้สึกสิเน่หาอาลัยจนไม่อยากกลับเมือง
ทว่าเจ้าชายก็มิอาจทำตามที่หัวใจปรารถนาได้ ด้วยจำต้องไปร่วมรบกับพระนครอังกอร์ใหญ่
จึงได้แต่เอ่ยปากฝากรักแลให้สัญญาว่าจะมาสู่ขอ
เพื่อไปอภิเษกและครองคู่กันที่ศรีศนะจปุระ

ทว่าการณ์เบื้องหน้าหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อมีกลการเมืองอันแยบคายเข้ามาเกี่ยวข้อง
เจ้านางอมราวตี พระภคินีของเจ้านางสิริสุภา
กลับกลายเป็นผู้ที่เดินทางไปอภิเษกกับพระองค์
แถมนางอันเป็นที่รักจะถูกส่งตัวไปเป็นพระชายาเมืองอื่น
เหตุการณ์กลับตาลปัตรไปเยี่ยงนี้แล้วไซร้ เจ้าชายศรีสุริยเทพจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร...






เล่ม ๒ ตอนสัญญาใจ กำไลนาคราช

ความรัก ความหวัง และความผูกพันเกี่ยวร้อยสองดวงหทัยให้เป็นหนึ่งเดียว

“สาวงามหนึ่งเดียวที่บุรุษต่างแย่งชิงเพื่อให้ได้ครอบครอง
จนนำพาไปสู่สงครามครั้งใหญ่ในแผ่นดิน”

ท่ามกลางความแค้นฝังลึกในจิตใจจากรุ่นพ่อแม่
เจ้านางบุษบามินตรา กลับต้องรับโทษทัณฑ์ที่มิได้ก่อ

ด้วยในครั้งนี้ประวัติศาสตร์ยังคงซ้ำรอยเดิม
เมื่อเจ้าชายมหิยเตศวร องค์รัชทายาทแห่งนครอังกอร์ใหญ่
บุรุษรูปงามซึ่งเป็นที่หมายปองของเจ้านางทั้งหลาย
มีจิตปฏิพัทธ์ให้เจ้านางบุษบามินตราอย่างลึกซึ้ง

มีหรือที่ผู้เป็นพี่อย่างเจ้านางแสนอัปสรจะยอมรับได้
เมื่อนางก็มีหัวใจรักให้เจ้าชายมหิยเตศวรเช่นกัน

ศึกรักสามเส้าจึงเริ่มต้น...และครั้งนี้นางต้องชนะเท่านั้น

ท้ายที่สุดแล้วเจ้าชายมหิยเตศวรจักทำเยี่ยงใด...
ในเมื่อหัวใจและหน้าที่มิอาจแยกจากกันอย่างเด็ดขาดได้







หลังอ่าน...
เรื่องย่อ ๆ ก็ตามข้างบนนั่นเลยค่ะ
เล่มหนึ่งและสองเนื้อหาต่อเนื่องกัน
แต่ที่แบ่งออกเป็นสองตอนก็เพราะคู่พระ-นางของแต่ละตอนเป็นคนละคู่กัน
เล่มแรกเป็นเรื่องราวของรุ่นพ่อ-แม่ ในขณะที่เล่มหลังเป็นเรื่องของรุ่นลูก ๆ

ผู้เขียนได้หยิบยกเอาประวัติศาสตร์ของชนชาติขอมในยุคสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗
อันถือว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดของอารยธรรมขอม มาสอดร้อยกับจินตนาการ
และความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง ผูกเป็นเรื่องเป็นราวขึ้น
ในจุดนี้ต้องขอชื่นชมผู้เขียนล่ะค่ะ ว่าเธอได้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีทีเดียว

ทำให้คนอ่านได้รับสาระความรู้ในแง่ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และการเมืองในยุคนั้น ๆ
ควบคู่ไปกับอรรถรสของนิยายรัก โรแมนติก ที่ค่อนข้างครบรสเลยเชียวแหละ

คือมีทั้งรักซาบซึ้ง สุขสมหวัง ทุกข์ระทม
มีโศกศัลย์รันทด มีอิจฉาริษยา แก่งแย่งชิงดี
มีฉากรบพุ่งให้ชวนหวาดเสียว...
แถมยังมีบทรักวาบหวามอยู่หลายบทหลายตอนด้วย

และด้วยฉากของเรื่องเกี่ยวกับชนชาติขอม
จึงมีเรื่องราวของไสยศาสตร์ มนตร์ดำเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ไม่น้อย
ซึ่งเธอก็ทำได้อย่างสมเหตุสมผล ไม่เหนือธรรมชาติจนเกินพอดี
.
.
.
แต่...แต่...แต่...
ใช้เวลาอ่านนานเหมือนกันค่ะนิยายชุดนี้
ด้วยสำนวนภาษาที่ไม่คุ้น...กับบรรยายโวหาร พรรณนาโวหารที่(พยายาม)ให้ฟังอลังการมากไปนี๊ดดดด....

ทั้ง ๆ ที่โดยปกติแล้ว ส่วนตัวเป็นคนชอบนิยายที่ใช้ภาษาสูง ๆ สวย ๆ ศัพท์แสงพราวพราย
ชนิดที่อ่านแล้วต้องแปลไทยเป็นไทยอีกที อะไรประมาณนั้น...

ทั้งสองเล่มนี้ภาษาอลังการนะคะ แต่...ส่วนตัวอ่านแล้วชวนอึกอัดคับข้องใจยังไงไม่รู้...
คล้าย ๆ กับว่ามันยังไม่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติเท่าที่ควร...(สักเท่าไหร่)

คือถ้าถามว่า...เขาเขียนดีไหม ก็ตอบได้เลยว่าเขียนได้ดีมาก การใช้ภาษานี่เป๊ะ ๆ ทุกอย่าง...

แต่มันอดไม่ได้น่ะค่ะ ที่ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับจินตนิยายของนักเขียนชั้นครูยุคเก่า ๆ ที่เคยอ่าน...
อย่างเลือดขัตติยา ดั่งดวงหฤทัย ฯลฯ
คืออารมณ์ ความรู้สึกมันยังไม่ได้อ่ะ...
มันยังไม่ชวนเคลิ้มคล้อย ดื่มด่ำเท่าที่ควรจะรู้สึก...แหะ ๆ

จึงออกแนวก้ำ ๆ กึ่ง ๆ ว่าชอบหรือเปล่า...
เอาเป็นว่า...ก็อ่านได้ และอ่านจบแล้ว...

บอกอย่างนี้คนเขียนอย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะคะ
ตรงนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวของคนอ่าน(เรื่องมาก)คนเดียวเท่านั้นค่ะ
หลายคน(ถ้าได้)อ่านแล้วอาจจะชื่นชอบก็ได้....

จึงหยิบมาชวนอ่านในวันนี้ค่ะ

อ้อ...ที่เลือกหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน มีเหตุผลอีกอย่าง คือ...ปกสวยมากกกกก...เกี่ยวกันไหมเนี่ย...












 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2554 12:42:52 น.
Counter : 2633 Pageviews.  

~ พุดสามสี : Yesterday, Today, and Tomorrow...โดย "นายา ~





พุดสามสี
ผู้เขียน นายา
สำนักพิมพ์ : เพื่อนดี

ปกหลัง :


สวรรยา...เธอพยายามพิสูจน์ถึงความบริสุทธิ์ของมารดาผู้จากไป
ภายใต้ความอยุติธรรม
ภูษิต หนุ่มใหญ่รูปงาม ผู้แบกความทุกข์หนักจากการสูญเสียภรรยาที่ตนรัก
เขาและเธอจะช่วยกันคลี่คลายปมต่างๆได้หรือไม่






หนังสือหนามาก รายละเอียดเยอะมาก แต่จะพยายามย่นย่อค่ะ

แวนหรือสวรรยาเพิ่งรู้ในภายหลังว่าเธอไม่ใช่ลูกของแม่ที่เลี้ยงดูเธอมา
แต่เป็นลูกของเพื่อนแม่คนหนึ่งที่ไปมีสามีต่างชาติ แล้วถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร ฆ่าสามีตาย...
เธอเสียชีวิตในคุก โดยฝากจดหมายไว้กับเพื่อนบอกว่าเธอตายโดยไม่มีความผิด

แวนจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปยังเมืองที่เธอเคยไปเรียนหนังสือ
เพื่อหาทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของแม่

เธอสมัครไปเป็นพี่เลี้ยงให้กับลูกสาวของภูษิต พ่อม่ายหนุ่มใหญ่ผู้ถูกกล่าวหาว่าฆ่าภรรยาที่แย่งมาจากน้องชาย...

เรื่องบังเอิญมาก ในขณะที่เธอสืบเสาะเรื่องของแม่...
เธอก็ไปค้นพบเงื่อนงำบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของภูษิตเข้า...

ทั้งสองคดีมีความสัมพันธ์กันอย่างไร และในที่สุดเธอจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ทั้งของแม่ของเธอและของภูษิตได้หรือไม่...น่าติดตามค่ะ

.........

ส่วนนี่เป็นเรื่องย่อจากสนพ.ค่ะ...

“พุดสามสี ดอกไม้ที่ ฝรั่งเค้าเรียกดอกนี่ว่าอะไรรู้มั้ยลูก...
เค้าเรียกว่า Yesterday, Today, and Tomorrow จ้ะ”

จุดความคิดให้ สวรรยา สาวน้อยผู้กำพร้า ติดตามสืบเสาะความเป็นไปใน ‘อดีต’ อันลึกลับของตัวเธอเอง

พร้อมกับดำเนินชีวิตในปัจจุบันอย่างสับสน ไม่แน่ใจ และไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้

กว่าเธอจะได้รับคำตอบว่า “เมื่อวานนี้...วันนี้...และพรุ่งนี้” จะเป็นเช่นไร
เธอก็ต้องพานพบกับเหตุการณ์ต่างๆ นานาที่นำมาทั้งความทุกข์ ความสุข ความขมขื่น และความหวานชื่น

สลับสับเปลี่ยนไปมาเสมือนทะเลที่ไม่เคยขาดคลื่นลม
โดยมี ความรักที่ ‘ซุกซ่อน’ อยู่ในเบื้องลึกของหัวใจ
และภูษิต ชายหนุ่มพ่อม่าย เป็นพลังเร้นลับที่เกื้อหนุนให้เธอผ่านพ้นอุปสรรค
จนกระทั่งพบกับ ‘Tomorrow’ ที่สดใสในที่สุด






หลังอ่าน...

นิยายเรื่องนี้เคยอ่านแบบไม่ต่อเนื่องนักเมื่อนานมากแล้ว(ลงเป็นตอน ๆ ในนิตยสาร)
ความที่อ่านไม่ต่อเนื่องก็ให้รู้สึกว่ามันยืดยาดน่ะ
ตอนนั้นแอบรู้สึกว่า สำนวนภาษาของคนเขียนยังไม่ค่อยดึงดูดสักเท่าไหร่
จนลืมที่จะติดตามเมื่อพิมพ์รวมเล่ม...
พอมาเจอหนังสือเล่มนี้บนชั้นบ้านน้องสาว เลยหยิบมา...
ตั้งใจอ่านใหม่...ปรากฏว่าอ่านสนุกค่ะ

ผู้เขียนวางพล็อต ผูกและดำเนินเรื่องได้อย่างซับซ้อนซ่อนเงื่อนน่าสนใจมากทีเดียว...
มีการขมวดปมไว้หลาย ๆ ปมในตอนต้นเรื่อง แล้วตอนท้ายก็ค่อย ๆ คลี่คลายออกทีละเปลาะ ๆ
อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ตรึงความสนใจของผู้อ่านให้ตามลุ้นตามเชียร์อยู่ตลอด...

เป็นได้ทั้งนิยายรักโรแมนติก (แม้จะไม่ค่อยมีบทรักหวาน ๆ สักเท่าไหร่)
ที่ผสมผสานด้วยปมคลาสสิค(น้ำเน่านิด ๆ )แบบไทย ๆ

และเป็นได้ทั้งนิยายสืบสวนสอบสวน...ลึกลับซับซ้อน...
โดยในเรื่องผู้เขียนได้แทรกความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย การทำคดีความต่าง ๆในต่างประเทศ อยู่ไม่น้อย

ส่วนตัวชอบการดำเนินเรื่องแบบมีปมสองปมคู่ขนานกันไป
เมื่อคลายปมหนึ่งก็ทำให้อีกปมหนึ่งคลี่คลายไปตามกัน...

แล้วสุดท้าย เหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันก็โยงมาเกี่ยวกันจนได้...
อย่างสมเหตุสมผลอีกต่างหาก....

ชวนอ่านค่ะ





* ยังคงเป็นช่วง"เก็บของเก่ามาเล่าใหม่" อยู่เรื่อย ๆ ค่ะ
หลังจากดูแต่ข่าวน้ำท่วมมากว่าสามเดือน...ตอนนี้หันเข้าหาซีรียส์อีกแล้ว ติดแล้วติดเลย ถอนตัวยากจัง แหะ ๆ







 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2554 10:47:22 น.
Counter : 2433 Pageviews.  

~ คิวปิด ตัวกวนป่วนรัก : สาธิตา...นิยายใส ๆ อ่านคลายเครียดค่ะ ~





คิวปิด ตัวกวนป่วนรัก
ผู้เขียน สาธิตา
ผู้พิมพ์ อรุณ (ครั้งแรก กันยายน ๒๕๕๔)


จากสำนักพิมพ์ :


รักจากศรคิวปิดที่คิดว่าแน่ แต่ยังแพ้รักแท้จากหัวใจ

เมื่อเซเลน่า คิวปิดสาวดันแผลงศรพลาด ทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวตกหลุมรักพี่ชายของสาวคนรัก
เรื่องป่วนๆสลับคู่สลับหัวใจจึงเริ่มขึ้น

งานนี้เธอจึงต้องลงไปแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะเกิดเรื่องเดือดร้อนกับมนุษย์เหล่านั้น

แต่ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นอีก เมื่อเธอถูกรถของรักษิยาชนเข้าอย่างจัง!

คิวปิดสาวจึงเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ทำเป็นความจำเสื่อม
และได้ไปอาศัยอยู่กับสามพี่น้องตระกูลรัก...
รอคอยให้ได้พบกับภูมิเพื่อดึงศรออก

แต่รักษิตพี่ชายของหญิงสาวที่ขับรถชนเธอกลับรู้สึกไม่ไว้ใจจึงคอยจับตาดูพฤติกรรมของหญิงสาว
โชคดีที่มีลักกี้หมาหนุ่มสุดหล่อคอยให้ความช่วยเหลือ

และความใกล้ชิดนี่เองได้ทำให้ทั้งสองรู้จักตัวตนของกันและกัน
ขณะที่ภูมิก็เกิดอาการหึงเพื่อนสนิทอย่างควบคุมไม่ได้ จนต้องขอเลิกกับรักษิยา!

เรื่องราววุ่นวายต่างๆจะจบลงอย่างไร คงต้องตามไปลุ้นกันต่อข้างในแล้วละ







เรื่องย่อ (เพิ่มเติมจากข้างบนอีกนิดหน่อย)

เซเลน่า...คิวปิดสาวแสนซนรู้สึกสงสัยในอิทธิฤทธิ์ของคันธนูที่เทพคิวปิดอย่างเธอและเพื่อน ๆ ต้องแบกไว้บนหลังตลอดเวลา หากเผลอถอดออกเป็นต้องถูกทำโทษ...ซึ่งเธอเองก็เคยโดนมาแล้ว…

ในระหว่างการทำงานเพื่อชำระโทษนั้น เธอได้พบกับโปรแกรมเนื้อคู่-คู่ถัดไปเข้าโดยบังเอิญ
ทำให้เธอได้รู้ว่า ที่แท้ หน้าที่ของพวกเธอคือการทำให้มนุษย์ชาย-หญิงรักกันนั่นเอง …
เพียงแต่ในระยะหลัง เทพผู้ดูแลโปรแกรมนี้ได้แก่ชราและดับสูญไปจึงไม่มีการแผลงศรมานับสิบ ๆ ปี
ทำให้มนุษย์ไม่รักกันยืนยงเหมือนเมื่อก่อน

เซเลน่าคิดจะรื้อฟื้นภารกิจนี้เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของเทพคิวปิดคืนมา...

เมื่อดูรายชื่อจากโปรแกรมเนื้อคู่-คู่ถัดไปรายล่าสุด เธอก็ได้พบชื่อของ รักษิต กับดาลัดเข้า...

เซเลน่าเดินทางมายังโลกมนุษย์ เพื่อแผลงศรให้ทั้งคู่...
เธอไปปรากฏตัวที่เวดดิ้งสตูดิโอแห่งหนึ่ง ที่รักษิยา น้องสาวของรักษิตกำลังลองชุดวิวาห์อยู่พอดี...

เมื่อภูมิ...เจ้าบ่าวของเธอเดินทางมาสมทบ พร้อมกับดาลัด...เซเลน่าจึงแผลงศรเข้าใส่รักษิต
ในจังหวะที่ดาลัดก้าวเข้าร้านมา…กะจะให้รักษิตปิ๊งดาลัดทันทีที่พบหน้า...

แต่เธอก็พลาด...เมื่อบังเอิ๊ญ...รักษิตก้มตัวลงเก็บของที่ตกลงบนพื้น...
คันธนูนั้นจึงพุ่งเข้าเสียบกลางอกของภูมิผู้เดินนำหน้าดาลัดเข้าอย่างจัง

และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้น คนแรกที่เขาสบตาด้วยจึงเป็นเพื่อนชายคนสนิทอย่างรักษิตนั่นเอง...

แล้วอะไรจะเกิดขึ้นล่ะ เมื่อชายหนุ่มผู้กำลังจะเป็นเจ้าบ่าวอยู่รอมร่อ...
เกิดรู้สึกตกหลุมรักพี่ชายว่าที่เจ้าสาวของตัวเองเข้าเสียแล้ว...

เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ที่เซเลน่าจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว...

เธอจะต้องถอนคันธนูออกจากอกของภูมิให้ทันเวลา...
ก่อนที่คันธนูนั้นจะละลายและซึมลึกเข้าในใจชายหนุ่ม...

และจัดการแผลงศรใหม่ให้ถูกคู่...นั่นคือ...รักษิตกับดาลัด...

แต่นั่น...เท่ากับว่า...เธอต้องยอมเจ็บปวดเสียเอง ที่เผลอไผลไปหลงรักรักษิตเข้าเสียแล้ว...





หลังอ่าน...
แค่เปิดเรื่องก็ขำกิ๊กกับความซุกซนของคิวปิดสาวแล้วล่ะค่ะ...
เป็นแฟนตาซีผสมคอมเมดี้ที่ผู้เขียนผูกเรื่องได้น่ารักมาก อ่านสนุกทีเดียว...

ทั้งพล็อตเรื่องที่เก๋ไก๋ การดำเนินเรื่องกระชับฉับไวไม่เยิ่นเย้อยืดยาด
ตัวละครแต่ละตัวก็สมเหตุสมผลดีค่ะ ไม่เวอร์
(ชอบ ๆ เจ้าลายจุดลักกี้มาก...ขโมยซีนพระ-นางได้ใจจริง ๆ )

ทั้งสำนวนภาษาที่ทันสมัยและลื่นไหลอ่านไม่สะดุด ทำให้อ่านได้เพลิน รวดเดียวจบ

แถมตอนท้ายมีหักมุมให้ได้ลุ้นได้เชียร์กันอีกด้วย...

นิยายคลายเครียด...น่ารักแบบใส ๆ อ่านแล้วอยากบอกต่อค่ะ










 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2554 12:07:31 น.
Counter : 5585 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.