นิยายรักสองแผ่นดิน 'เขมรินทร์ ~ อินทิรา' บทประพันธ์ของ ก.สุรางคนางค์
|

เขมรินทร์ ~ อินทิรา ประพันธ์โดย ก.สุรางคนางค์ พิมพ์โดย สนพ.โอเดียนสโตร์พ.ศ. ๒๕๓๑
เรื่องย่อ : อินทิรา วัลลภานุรักษ์ ตัดสินใจเดินทางไปทำงานเป็นครูสอนภาษาไทยให้กับเจ้านายเล็ก ๆ ของเขมรที่พนมเปญ เพื่อหลบเลี่ยงการถูก'จับคู่' โดยมารดาและพี่ชายของเธอ ทั้งนี้ก็เพราะเธอมี 'ชายในฝัน' อยู่แล้วในใจของเธอ นับตั้งแต่ที่เธอได้พบกับเขาโดยบังเอิญ ณ ปราสาทเขาพระวิหาร โดยที่เธอไม่มีโอกาสได้รู้จักว่าเขาเป็นใคร...
เธอเฝ้าวิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ได้พบกับเขาอีกครั้ง... แต่เมื่อเธอได้พบกับเขาจริง ๆ เธอกลับรู้สึกเศร้าใจในชะตาชีวิตของตนเองเพราะชายในฝันที่เธอเฝ้าใฝ่ฝันถึงนั้นกลับกลายเป็นเจ้าชายเขมรินทร์ พระนัดดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงกัมพูชา...
เจ้าชายเขมรินทร์ทรงแสดงออกอย่างเปิดเผยว่า "โปรด" ครูสาวชาวไทยเป็นพิเศษ และมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต
แต่ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ไทยและกัมพูชากำลังมีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องของสิทธิครอบครองปราสาทเขาพระวิหารอยู่และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทยอีกด้วย
อินทิราจึงตัดสินใจ...ตัดใจอำลาจากเขมรินทร์กลับเมืองไทยก่อนกำหนด เขมรินทร์ติดตามอินทิรามาเมืองไทย ท่ามกลางความไม่พอใจของพระญาติพระวงศ์บางส่วน และทนยอมรับความไม่เข้าใจและความคลางแคลงใจของญาติ ๆ ทางฝั่งอินทิรา...
ทั้งสองพบรักกันที่ปราสาทเขาพระวิหาร.........ฤาจะต้องพรากจากกันด้วย "เขาพระวิหาร" เป็นเหตุ...?

อ่านนิยายตามกระแสค่ะ ด้วยความหนาและหนักของหนังสือสองเล่มนี้ ประกอบกับเคยผ่าน ๆ ตาจากละครโทรทัศน์มาบ้าง ทำให้ก่อนหน้านี้ไม่ได้หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านอย่างจริงจังนัก... เพียงแต่เคยพลิก ๆ อ่านบางบทบางตอน และแน่นอนที่สุด...ตอนจบของเรื่อง แล้วสรุปในใจตัวเองว่าเป็นนิยายรักแสนเศร้า จึงทำให้ไม่กล้าอ่านละเอียด
จนเมื่อเกิดกรณี "เขาพระวิหาร" ขึ้นอีกครั้ง จึงได้อัญเชิญหนังสือเล่มนี้ลงมาจากหิ้ง...และอ่านอย่างจริงจัง

เป็นนิยายรักที่อิงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศคือไทยและกัมพูชาในช่วงนั้น ๆ อย่างสอดคล้อง
ฉากของนิยายเป็นช่วงปีพ.ศ.๒๔๙๕ - ๒๕๐๑ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาในระยะนั้นเป็นไปแบบกระชับแล้วคลาย กระชับแล้วคลายอยู่หลายหน
นิยายรัก โรแมนติกตามแบบฉบับนักประพันธ์ชั้นครู จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงสาระและความบันเทิงตลอดถึงรสทางวรรณศิลป์ที่ผู้อ่านจะต้องได้รับแน่นอนจากนวนิยายเรื่องนี้
แต่ที่ได้นอกเหนือไปจากนั้นก็คือเกร็ดทางวรรณคดี ประวัติศาสตร์ รวมทั้งเกร็ดอันเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ของราชสำนักฝ่ายในของเขมรที่ผู้ประพันธ์ได้สอดแทรกไว้ประปรายตลอดทั้งเรื่อง จึงทำให้นวนิยายเรื่องนี้ทรงคุณค่า น่าอ่านเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนตัวประทับใจในบุคลิกลักษณะและการวางตัวของตัวละครอย่างเขมรินทร์และอินทิรามาก ๆ เต็มไปด้วยความจริงใจและมีความมั่นคงในอารมณ์สูงพอที่จะไม่กระทำการใด ๆ ให้เกิดความเสียหายให้แก่ทั้งตนเองและผู้อื่น รวมถึงแง่คิดและมุมมองต่อปัญหาความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ ชนชั้นและภาษา....
ไฉนหนอ เมื่อฟ้าดินบันดาลให้หม่อมฉันเกิดมาเป็นคนไทย แล้วไยจึงให้ฝ่าพระบาทประสูติในราชสกุลของกัมพูชา เพื่อให้เราแตกต่างกันทั้งเชื้อชาติ ภาษา ทำให้แลดูเหมือนมีทะเลประเพณี วัฒนธรรมกั้นขวางอยู่เบื้องหน้า..."
เชื้อชาติ ภาษา ทำให้เราแตกต่างกันเพียงภายนอก แต่หัวใจมิได้เป็นเช่นนั้นไม่ ถ้าคุณมีหัวใจตรงกับผม คุณจะกลัวไปไย ขอให้เชื่อมั่นในตัวผม ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คุณมาเคียงข้าง และจะทำโดยให้สมเกียรติของคุณที่สุด... อินทิรา ความรักเกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าจะแตกต่างกันเพียงใด ผิดกันเพียงว่า เราสองคนต้องฝ่าฟันอุปสรรคนั้นให้ได้ และผมเชื่อ
ความรักที่ผมมีต่อคุณ มากพอที่จะต่อสู้ให้ถึงจุดหมายของเรา
"...เขมรกับไทยแท้จริงก็มิได้แตกต่างกันมากนัก...เรามีภาษาซึ่งเกือบจะคล้ายคลึงกัน เรามีศาสนาที่เหมือนกันคือพุทธศาสนา ของผมจะด้อยกว่าคุณอยู่บ้างมีอยู่อย่างหนึ่งก็คือ เราเพิ่งจะเป็นอิสระ เพิ่งตื่นตัวเมื่อไม่นานนักนี่เอง ผิดกับประเทศของคุณ ซึ่งดำรงความเป็นเอกราชมาตลอดอย่างน่านับถือ...
...เรารักกันด้วยเหตุผล จะเห็นว่าเรื่องคนละชาติคนละภาษาไม่ใช่สิ่งสำคัญ ผมรักอินทิรา จะว่าผมทรยศต่อชาติบ้านเมืองผมก็หาใช่ไม่ บ้านเมืองของผมผมก็รักก็เคารพูชา
อินทิราก็เช่นเดียวกัน...เธอเป็นสุภาพสตรีที่รักศักดิ์ศรีของเธอไม่น้อยกว่าคนอื่น เธอภูมิใจและหยิ่งในความเป็นไทย แต่ทว่าบังเอิญเราทั้งสองมาชอบพอรักใคร่กัน เราจำเป็นต้องช่วยกันประคับประคองให้ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปจนได้..."

บางส่วนจากคำนำหนังสือโดย นเรศ นโรปกรณ์
"...ผมขอกราบเรียนตรง ๆ ในฐานะแฟนอ่านนวนิยายของ ก.สุรางคนางค์คนหนึ่ง ในช่วงนั้นผมไม่กล้าอ่านนวนิยายของท่านที่มีตัวเอกเป็นเจ้าชายเขมรคือ"เขมรินทร์" นี้
และวิตกแทนก.สุรางคนางค์เงียบ ๆ ด้วยซ้ำว่าประชาชนจะไม่ต้อนรับเรื่องดังกล่าวของท่าน แต่ปรากฏว่า ก.สุรางคนางค์ ได้ใช้ศิลปะการประพันธ์ และความรักอันยิ่งใหญ่ประจำโลกพร้อมด้วยเหตุผล ผ่านเรื่องนี้ด้วยดีเหมือนเรื่องอื่น ๆ ของท่าน สมกับเป็นนักประพันธ์ใหญ่จริง ๆ ..."

**นิยายเรื่องนี้จบลงก่อนที่ศาลโลกจะได้ตัดสินให้ตัวปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 3 นับเป็นการเสียดินแดนครั้งสุดท้ายของประเทศไทย โดยบริเวณดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 150 ไร่
(ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก//www.sisaket.go.th/nation_park/prasat_khaopravihan_th.htmlค่ะ
***ภาคต่อของนิยายเรื่องนี้คือเล่มนี้ค่ะ... คุณครูอินทิรา

เป็นเรื่องราวต่อเนื่องจากเรื่องข้างบน แต่เน้นบริบทของสังคมไทยในยุคนั้นมากกว่า มีการสอดแทรกปัญหาทางสังคม ปัญหาของเด็กวัยรุ่น และบทบาทของคนเป็น"ครู" และครอบครัวในการจัดการกับปัญหาเหล่านั้น...
ขอนำมาแทรกไว้ด้วยกัน ณ ตรงนี้สั้น ๆ แล้วกันค่ะ
|
Create Date : 03 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 20:34:02 น. |
|
26 comments
|
Counter : 15190 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: 2times4t วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:03:04 น. |
|
|
|
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:29:30 น. |
|
|
|
โดย: โมกสีเงิน วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:42:14 น. |
|
|
|
โดย: pumpond วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:50:04 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:31:37 น. |
|
|
|
โดย: กชมนวรรณ วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:59:51 น. |
|
|
|
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:04:47 น. |
|
|
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:16:29 น. |
|
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:06:04 น. |
|
|
|
โดย: อั๊งอังอา วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:32:34 น. |
|
|
|
โดย: กุลธิดา (kdunagin ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:41:44 น. |
|
|
|
โดย: piccy วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:45:28 น. |
|
|
|
โดย: kiimujii วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:12:20 น. |
|
|
|
โดย: Boyne Byron วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:16:51 น. |
|
|
|
โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:25:48 น. |
|
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:38:55 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:17:17 น. |
|
|
|
โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:58:01 น. |
|
|
|
โดย: nikanda วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:5:00:13 น. |
|
|
|
โดย: nikanda วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:5:06:18 น. |
|
|
|
โดย: nikanda วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:5:10:16 น. |
|
|
|
| |
|
|
ถ้ามีโอกาศจะหามาอ่านแน่ ๆ