'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
นิยายรักสองแผ่นดิน 'เขมรินทร์ ~ อินทิรา' บทประพันธ์ของ ก.สุรางคนางค์





เขมรินทร์ ~ อินทิรา
ประพันธ์โดย ก.สุรางคนางค์
พิมพ์โดย สนพ.โอเดียนสโตร์พ.ศ. ๒๕๓๑






เรื่องย่อ :
อินทิรา วัลลภานุรักษ์ ตัดสินใจเดินทางไปทำงานเป็นครูสอนภาษาไทยให้กับเจ้านายเล็ก ๆ ของเขมรที่พนมเปญ
เพื่อหลบเลี่ยงการถูก'จับคู่' โดยมารดาและพี่ชายของเธอ
ทั้งนี้ก็เพราะเธอมี 'ชายในฝัน' อยู่แล้วในใจของเธอ นับตั้งแต่ที่เธอได้พบกับเขาโดยบังเอิญ ณ ปราสาทเขาพระวิหาร โดยที่เธอไม่มีโอกาสได้รู้จักว่าเขาเป็นใคร...

เธอเฝ้าวิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ได้พบกับเขาอีกครั้ง...
แต่เมื่อเธอได้พบกับเขาจริง ๆ เธอกลับรู้สึกเศร้าใจในชะตาชีวิตของตนเองเพราะชายในฝันที่เธอเฝ้าใฝ่ฝันถึงนั้นกลับกลายเป็นเจ้าชายเขมรินทร์ พระนัดดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงกัมพูชา...

เจ้าชายเขมรินทร์ทรงแสดงออกอย่างเปิดเผยว่า "โปรด" ครูสาวชาวไทยเป็นพิเศษ และมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อได้เธอมาเป็นคู่ชีวิต

แต่ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ไทยและกัมพูชากำลังมีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องของสิทธิครอบครองปราสาทเขาพระวิหารอยู่และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทยอีกด้วย

อินทิราจึงตัดสินใจ...ตัดใจอำลาจากเขมรินทร์กลับเมืองไทยก่อนกำหนด
เขมรินทร์ติดตามอินทิรามาเมืองไทย ท่ามกลางความไม่พอใจของพระญาติพระวงศ์บางส่วน
และทนยอมรับความไม่เข้าใจและความคลางแคลงใจของญาติ ๆ ทางฝั่งอินทิรา...

ทั้งสองพบรักกันที่ปราสาทเขาพระวิหาร.........ฤาจะต้องพรากจากกันด้วย "เขาพระวิหาร" เป็นเหตุ...?





อ่านนิยายตามกระแสค่ะ
ด้วยความหนาและหนักของหนังสือสองเล่มนี้ ประกอบกับเคยผ่าน ๆ ตาจากละครโทรทัศน์มาบ้าง
ทำให้ก่อนหน้านี้ไม่ได้หยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านอย่างจริงจังนัก...
เพียงแต่เคยพลิก ๆ อ่านบางบทบางตอน
และแน่นอนที่สุด...ตอนจบของเรื่อง
แล้วสรุปในใจตัวเองว่าเป็นนิยายรักแสนเศร้า
จึงทำให้ไม่กล้าอ่านละเอียด

จนเมื่อเกิดกรณี "เขาพระวิหาร" ขึ้นอีกครั้ง
จึงได้อัญเชิญหนังสือเล่มนี้ลงมาจากหิ้ง...และอ่านอย่างจริงจัง






เป็นนิยายรักที่อิงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศคือไทยและกัมพูชาในช่วงนั้น ๆ อย่างสอดคล้อง

ฉากของนิยายเป็นช่วงปีพ.ศ.๒๔๙๕ - ๒๕๐๑ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชาในระยะนั้นเป็นไปแบบกระชับแล้วคลาย กระชับแล้วคลายอยู่หลายหน

นิยายรัก โรแมนติกตามแบบฉบับนักประพันธ์ชั้นครู จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงสาระและความบันเทิงตลอดถึงรสทางวรรณศิลป์ที่ผู้อ่านจะต้องได้รับแน่นอนจากนวนิยายเรื่องนี้

แต่ที่ได้นอกเหนือไปจากนั้นก็คือเกร็ดทางวรรณคดี ประวัติศาสตร์ รวมทั้งเกร็ดอันเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ของราชสำนักฝ่ายในของเขมรที่ผู้ประพันธ์ได้สอดแทรกไว้ประปรายตลอดทั้งเรื่อง จึงทำให้นวนิยายเรื่องนี้ทรงคุณค่า น่าอ่านเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนตัวประทับใจในบุคลิกลักษณะและการวางตัวของตัวละครอย่างเขมรินทร์และอินทิรามาก ๆ เต็มไปด้วยความจริงใจและมีความมั่นคงในอารมณ์สูงพอที่จะไม่กระทำการใด ๆ ให้เกิดความเสียหายให้แก่ทั้งตนเองและผู้อื่น
รวมถึงแง่คิดและมุมมองต่อปัญหาความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติ ชนชั้นและภาษา....

“ไฉนหนอ เมื่อฟ้าดินบันดาลให้หม่อมฉันเกิดมาเป็นคนไทย แล้วไยจึงให้ฝ่าพระบาทประสูติในราชสกุลของกัมพูชา
เพื่อให้เราแตกต่างกันทั้งเชื้อชาติ ภาษา ทำให้แลดูเหมือนมีทะเลประเพณี วัฒนธรรมกั้นขวางอยู่เบื้องหน้า..."



“เชื้อชาติ ภาษา ทำให้เราแตกต่างกันเพียงภายนอก
แต่หัวใจมิได้เป็นเช่นนั้นไม่ ถ้าคุณมีหัวใจตรงกับผม คุณจะกลัวไปไย
ขอให้เชื่อมั่นในตัวผม ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คุณมาเคียงข้าง
และจะทำโดยให้สมเกียรติของคุณที่สุด...

อินทิรา ความรักเกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าจะแตกต่างกันเพียงใด
ผิดกันเพียงว่า เราสองคนต้องฝ่าฟันอุปสรรคนั้นให้ได้
และผมเชื่อ…ความรักที่ผมมีต่อคุณ
มากพอที่จะต่อสู้ให้ถึงจุดหมายของเรา”

"...เขมรกับไทยแท้จริงก็มิได้แตกต่างกันมากนัก...เรามีภาษาซึ่งเกือบจะคล้ายคลึงกัน
เรามีศาสนาที่เหมือนกันคือพุทธศาสนา
ของผมจะด้อยกว่าคุณอยู่บ้างมีอยู่อย่างหนึ่งก็คือ เราเพิ่งจะเป็นอิสระ
เพิ่งตื่นตัวเมื่อไม่นานนักนี่เอง
ผิดกับประเทศของคุณ ซึ่งดำรงความเป็นเอกราชมาตลอดอย่างน่านับถือ...

...เรารักกันด้วยเหตุผล จะเห็นว่าเรื่องคนละชาติคนละภาษาไม่ใช่สิ่งสำคัญ
ผมรักอินทิรา จะว่าผมทรยศต่อชาติบ้านเมืองผมก็หาใช่ไม่
บ้านเมืองของผมผมก็รักก็เคารพูชา

อินทิราก็เช่นเดียวกัน...เธอเป็นสุภาพสตรีที่รักศักดิ์ศรีของเธอไม่น้อยกว่าคนอื่น เธอภูมิใจและหยิ่งในความเป็นไทย
แต่ทว่าบังเอิญเราทั้งสองมาชอบพอรักใคร่กัน
เราจำเป็นต้องช่วยกันประคับประคองให้ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปจนได้..."






บางส่วนจากคำนำหนังสือโดย นเรศ นโรปกรณ์

"...ผมขอกราบเรียนตรง ๆ ในฐานะแฟนอ่านนวนิยายของ ก.สุรางคนางค์คนหนึ่ง ในช่วงนั้นผมไม่กล้าอ่านนวนิยายของท่านที่มีตัวเอกเป็นเจ้าชายเขมรคือ"เขมรินทร์" นี้

และวิตกแทนก.สุรางคนางค์เงียบ ๆ ด้วยซ้ำว่าประชาชนจะไม่ต้อนรับเรื่องดังกล่าวของท่าน แต่ปรากฏว่า ก.สุรางคนางค์ ได้ใช้ศิลปะการประพันธ์ และความรักอันยิ่งใหญ่ประจำโลกพร้อมด้วยเหตุผล ผ่านเรื่องนี้ด้วยดีเหมือนเรื่องอื่น ๆ ของท่าน
สมกับเป็นนักประพันธ์ใหญ่จริง ๆ ..."






**นิยายเรื่องนี้จบลงก่อนที่ศาลโลกจะได้ตัดสินให้ตัวปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 3 นับเป็นการเสียดินแดนครั้งสุดท้ายของประเทศไทย โดยบริเวณดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 150 ไร่

(ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก//www.sisaket.go.th/nation_park/prasat_khaopravihan_th.htmlค่ะ


***ภาคต่อของนิยายเรื่องนี้คือเล่มนี้ค่ะ... คุณครูอินทิรา





เป็นเรื่องราวต่อเนื่องจากเรื่องข้างบน แต่เน้นบริบทของสังคมไทยในยุคนั้นมากกว่า มีการสอดแทรกปัญหาทางสังคม ปัญหาของเด็กวัยรุ่น
และบทบาทของคนเป็น"ครู" และครอบครัวในการจัดการกับปัญหาเหล่านั้น...

ขอนำมาแทรกไว้ด้วยกัน ณ ตรงนี้สั้น ๆ แล้วกันค่ะ














Create Date : 03 กรกฎาคม 2551
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 20:34:02 น. 26 comments
Counter : 15190 Pageviews.

 
ขอบคุณครับ

ถ้ามีโอกาศจะหามาอ่านแน่ ๆ


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:41:10 น.  

 
รวดเดียวจบ ฉบับย่อของแม่ไก่ สั้นๆเข้าใจแต่ ท่าจะเศร้า เน๊าะเจ้า

เจียงฮายฝนตก กะลังเพิ่งหยุดบ่าเดี่ยวนี้ เจ้า


โดย: 2times4t วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:03:04 น.  

 
หมิงหมิงมาแน่นอนครับ อิอิอิ

บ่าต้องห่วงครับ



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:29:30 น.  

 
น่าสนใจค่ะ

ไม่ค่อยได้อ่านงานของท่านเท่าไหร่

แต่น่าสนใจมากๆ



อ่าน H2O อยู่เหรอคะ? รีวิวหรือเปล่า? จะรออ่าน


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:35:40 น.  

 
คิดถึงค่า คอมพ์ฯ น้องส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บเรื้อรัง แล้วล่ะค่ะ รวนและเกเรซะเหลือเกินนี่คะ
งานยุ่งอย่างเดียวก้อเดี้ยงแล้วค่ะ อย่าให้ยุ่งใจเลยยย 5555
ไม่รู้เป็นยังงัยช่วงนี้ น้ำหนักขึ้นค่ะ ไม่รู้มีความสุขมากไปรึเป่า อิ อิ เมื่อคืนไปเป็นเถ้า แก่ สู่ขอ ให้ลูกหลานรู้สึกว่าตัวเองแก่แล้วล่ะค่า 5555
ก่อนหน้ายังคิดว่าตัวเอง 18 อีกครั้งอยู่ตลอด ฮาๆๆๆ
ฝนฟ้าปีนี้ดีจังตก และชุกซะด้วยค่ะ เเปลกค่ะ สัญญาณว่าไม่ปกติ เพราะเดือนนี้อิสานฝนต้องทิ้งช่วงอ่ะค่ะ
ดูแลสุขภาพ นะคะ
คิดถึงค่ะ


โดย: โมกสีเงิน วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:14:42:14 น.  

 
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่อ่านแล้วประทับใจ ชอบมาก


โดย: pumpond วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:50:04 น.  

 
ยังไม่เคยอ่านเล่มคุณครูอินทิราเลยค่า

ดูเรื่องนี้ตอนเป็นละครแล้วถึงไปหาหนังสือมาอ่านน่ะค่ะ อ่านแล้ว อื๊ออออออ อยากไปเที่ยวเขมร


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:15:50:57 น.  

 


ป้าเคยอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยเรียน ป. 4มั๊ง
ตอนนั้นคงอายุ ยังไม่ถึง10 ขวบเลย
อ่านแล้วติดเป็นตังเม
อินมากมาย สลดหดหู่ไปกะชีวิตตัวละคร


เรื่องอ่านนิยายนี่ไม่มีใครว่าป้าเป็นหนอนสักคน
มีแต่ว่าบ้าอ่าน
ก็คงบ้าจริงๆละเพราะอ่านแบบไม่กินไม่นอน
อ่านยังกะจะเตรียมสอบทีเดียวเชียว
แต่ตอนนี้หูตาไม่ดีแล้ว บ้าอ่านแบบเก่าไม่ไหวจ๊ะ



โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:31:37 น.  

 
เข้ากระแสเลยนะคะแม่ไก่เรื่องนี้
ท่าจะช่วยลดความร้อนแรงของ
เรื่องเขาพระวิหารได้เยอะเลย


โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:17:29:38 น.  

 
แวะมาฟื้นความทรงจำค่ะ อ่านนานมากแล้วเรื่องนี้แต่ยังประทับใจบทค่ะ


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:59:51 น.  

 
เพิ่งรู้ตัวว่า..ลืมเนื้อเรื่องเรื่องนี้ไปแล้ว

สมัยก่อน ตอนนิยายชุดนี้พิมพ์ใหม่ เราตามอ่านทุกเล่มเลยค่ะ

มาเลิกอ่านเพราะรู้สึกว่า ถ้าอ่านงานของ ก. สุรางคนางค์มาก ๆ จะอ่านงานคนอื่นได้ยาก เพราะน้อยคนจะละเอียดลออเท่า

แล้วก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พออ่านบ่อยเข้า ตัวเองกลายเป็นคนคิดหยุมหยิมแบบผู้หญิ๊งผู้หญิงมากขึ้นด้วย
(ชอบนิยายชุ่ย ๆ แบบผู้ชายของตัวเองมากกว่าน่ะ)


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:04:47 น.  

 
ไม่ค่อยได้อ่านงานของ ก. สุรางคนางค์เลยค่ะ
ดูเหมือนว่าจะอ่านจบ ก็แค่เรื่องชุด "ภูชิต-นริศรา" เท่านั้นเอง
เพราะเป็นงานเขียนที่ละเอียดละออ ...จนเรารู้สึกว่ามันยืดยาดอ่ะ .... วุฒิภาวะทางอารมณ์ ณ ช่วงวัยที่อ่าน ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น ก็เลยไม่ได้อ่านเรื่องอื่นๆ อีก แม้กระทั่งเรื่องดังอย่าง บ้านทรายทอง
...
วัยเปลี่ยนไปเยอะ ...ทำให้อยากอ่านขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ
ก็คงต้องไปขุดคุ้ยที่ร้านเช่าก่อนล่ะ ....


โดย: นัทธ์ วันที่: 3 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:16:29 น.  

 
เล่มนี้พลาดไปได้ยังไง

มีโอกาสหามาอ่านบ้างดีกว่า


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:7:39:59 น.  

 
สวัสดีค่า...

มีเกร็ดเล็ก ๆ เกี่ยวกับชื่อเจ้าชายเขมรองค์นี้ที่อยากเล่าแล้วลืมไป
ตอนเด็ก ๆ แม่ไก่อ่านชื่อ"เขมรินทร์" เป็น เขม-มะ-ริน ตลอดเลย มีใครอ่านเหมือนอิชั้นไหมเนี่ย...จนเมื่อมาดูละครทีวีก็รู้สึกขัดอกขัดใจเป็นอันมากที่ได้ยินบทเขาเรียกท่านว่า ขะ-เหม๋-ริน...มันฟังดูไม่เพราะเอาเสียเลย จนมาได้อ่านคำนำหนังสือผู้ประพันธ์ท่านระบุว่าชื่อนี้ต้องออกเสียงว่าขะ-เหม๋-ริน ถูกต้องแล้วเพราะคำนี้มาจากคำว่าเขมร สนธิกับคำว่า อินทร์ จึงเป็นเขมรินทร์...

จึง...อือเนาะ...

อีกนิดนึง...ถ้าได้อ่านคุณครูอินทิราตามด้วย คุณจะรักและสงสารเจ้าชายเขมรองค์นี้สุดใจทีเดียวค่ะ

ท่านช่าง"ลออองค์"ทั้งภายนอกภายในโดยแท้จริง!


โดย: แม่ไก่ วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:06:04 น.  

 

ไพล่ไปนึกถึงคลาสสิคฝรั่ง อันที่จริงอ่านงานของ ก.สุรางคนางค์ คั่นบ้างก็ดีนะคะ เหมือนชะลอการอ่านให้ช้าลง ไม่อ่านตะกรุมตะกราม อันนี้หมายถึงตัวเองนะ



ทำใจเรื่องเปี๊ยกมานานแล้วค่ะ เหมือนที่แพนด้าชุนเคยบอกว่าเขามาเพื่อให้เรารู้ว่ารักไม่มีเงื่อนไข เป็นอย่างไร

สิ่งที่ได้เพิ่มมาตั้งแต่เปี๊ยกเริ่มแก่คือได้ฝึกอุเบกขาในระดับหนึ่งด้วย ไม่มากแต่เห็นอยู่ทุกวันๆ เพราะตั้งใจแล้วว่าไม่ตัดกรรมของเขาง่ายๆ ด้วยการทำให้หลับไป เราไม่มีสิทธิ์จะทำอย่างนั้น ถึงเราจะเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง แต่ยังไง ชีวิตก็เป็นของเขาเอง ไม่เห็นมันอยากตายเดินเอาหัวโขกผนังสักที ถ้าวันนั้นมาถึง คงคิดถึงเพื่อนรักของเราแล้วมีน้ำตาคลอเหมือนคุณแม่ของคุณแม่ไก่นะคะ เศร้านิดๆ แต่คิดถึงมากกว่า

หมอคงเห็นเจ้าของหน้าจ๋อยมั๊ง เพราะทีแรกถามว่าอีกนานไหม (ถามเพราะจะได้เตรียมตัว เตรียมใจ วางแผนชีวิตได้ถูก) หมอก็ไม่ตอบ ปล่อยมุขแทนแน่ะ กลัวเราปล่อยโฮมั้ง เคยเห็นเหมือนกันที่เจ้าของต่อมน้ำตาแตก คนรอบข้างตกใจทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ น่าสงสาร..


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:32:34 น.  

 
อ่าน เขมรินทร์ อินทิรา ครั้งแรกเมื่อยังเล็กมากเลยค่ะ จำได้ว่าเป็นนิยายเล่มที่ 12 ที่อ่าน คือหลังจากอ่านนิยายเรื่องยาวทุกเรื่องของ ดอกไม้สด หมดแล้ว 30 ปีมาแล้วค่ะ (บอกอายุซะเลย อิอิ) ตอนที่อ่านคราวนั้นจำได้ว่าซาบซึ้งไปกับความรักของนักองค์ธมกับอินทิรา แต่ 30 ปีผ่านไป มาอ่านอีกรอบ ความรู้สึกต่างออกไปค่ะ ยังซาบซึ้งกับความรักของ 2 คนนี้นะคะ แต่มีความรู้สึกว่าอินทิราออกจะเรื่องมากไปหน่อย บางทีเรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทำให้เป็นเรื่องขึ้นมาจนได้ เขมรินทร์อุตส่าห์ตามมาถึงเมืองไทยแล้ว ก็ยังเรื่องมาก ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าคงเป็นเพราะตัวอ่านเองมองสังคมและขอบเขตการวางตัวของผู้หญิงด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปค่ะ คือเปลี่ยนตามความนิยมและการยอมรับเรื่องขอบเขตความสัมพันธ์ของผู้หญิงผู้ชายของสมัยนั้นกับสมัยนี้ที่ต่างกันนะคะ

ก็เลยคล้ายๆเป็นตัวอย่างของความเปลี่ยนแปลงและค่านิยมของสังคมที่ทำให้บางครั้งก็ยากจะเข้าใจว่าทำไมคนสมัยนั้นสมัยนี้ถึงได้คิดได้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมอินทิราถึงได้ปิดกั้นตัวเองขนาดนั้น ทั้งๆที่รัก และฝ่ายผู้ชายก็ยินดีจะร่วมฟันฝ่าอุปสรรคด้วย แต่กลับมัวแต่ห่วงเรื่องโน้นเรื่องนี้เสีย ทั้งๆที่ถ้ามองจากสายตาคนสมัยนี้อาจไม่เห็นว่าเป็นปัญหาที่จะฟันฝ่าไปไม่ได้ถ้ารักกันเสียอย่างนะคะ


โดย: กุลธิดา (kdunagin ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:41:44 น.  

 
เคยอ่านแต่บ้านทรายทองค่ะ

ชอบงานของท่านนะค ละเมียดละไมดี แต่บางทีอ่านแล้วไม่ทันใจคนใจร้อนแบบเรา คิดว่าคงเป็นที่วัยด้วยน่ะค่ะ


โดย: piccy วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:45:28 น.  

 
ชอบวิธีเขียนแนะนำหนังสือของแม่ไก่จัง


โดย: kiimujii วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:12:20 น.  

 
เคยแต่ดูละคร


โดย: Boyne Byron วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:16:16:51 น.  

 
หมิงหมิงช่วงนี้ตื่นน่นขึ้นครับ
แต่กลางคืนก็นอนยาวขึ้นด้วยเช่นกันครับ
ช่วงนี้เลยสบายๆครับ

ไม่เหนื่อยเหมือนอาทิตย์แรกๆครับ



โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:25:48 น.  

 
แวะมาทดสอบกล่องคอมเมนต์ใหม่ของตัวเอง แหะ ๆ หลังจากปลุกปล้ำอยู่เป็นนานสองนานเมื่อคืนนี้ แต่ปรากฏว่าเน็ตล่มไปเสียก่อน วันนี้ก็ติดงานทั้งวัน เพิ่งจะมีเวลาเข้าบล็อกตัวเองตอนนี้

ขอบคุณทุก ๆ คอมเมนต์ค่ะ

เห็นด้วยกะคุณอออ.นะคะว่าอ่านแล้วนึกถึงคลาสสิคฝรั่ง ประเภทนางเอกเป็นครูสอนตามบ้าน อะไรประมาณนี้

และก็เห็นด้วยกะคุณกุลธิดาอีกนั่นแหละค่ะว่า...อ่านแรก ๆ เอาตัวเองเข้าไป"อิน"ในเนื้อหาแล้วรู้สึกหมั่นไส้นางเอกอยู่เหมือนกันว่า...จะอะไรกันนักหนา ตัวเองก็รักเขา ผู้ใหญ่ฝ่ายเขาก็เปิดไฟเขียวแล้ว ยังจะเรื่องมากอีก...

แต่เมื่อนึกถึงบริบทของสังคมไทยยุคนั้น รวมถึงปัญหาความขัดแย้งระหว่างสองประเทศก็เริ่มเข้าใจและเห็นใจ มาอ่านตอนนี้กลับรู้สึกชื่นชมเธอเข้าไปใหญ่ว่า...เข้มแข็งและอยู่ในโลกของความเป็นจริง จริง ๆ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ (ยิ้ม)


โดย: แม่ไก่ วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:38:55 น.  

 

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]


หลับสบายและฝันดีนะคะ



โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 5 กรกฎาคม 2551 เวลา:22:17:17 น.  

 
เล่มนี้เคยแต่พลิกดูค่ะ ยังไม่ได้หยิบมาอ่านสักที
อ่านแต่บ้านทรายทอง พจมานสว่างวงศ์
เห็นทีต้องกลับไปหามาอ่านให้จบซะแล้วค่ะ
^ ^


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:58:01 น.  

 
ยังไม่เคยอ่านเล่มนี้เลยค่ะ
เพิ่งรู้ด้วยว่า..เป็นงานของคุณ ก.สุรางคนางค์

แต่จำได้ว่า..เคยดูละครตอนที่)ยที่ช่องห้า(รึเปล่า)
ที่ศรันยูเป็นองค์ชายเขมรินทร์
และแคทรียา อิงลิช..เป็นอินทิรา
หากไม่ใช่ขออภัยด้วย..จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าอย่างนั้น
ละครก็ดูบ้างค่ะ...แต่จำได้ว่าเพลงติดหูมาก

"หนึ่งชีวิต หัวใจของชายขแมร์
กับรักแท้ที่มี..ไม่เคยเสื่อมคลาย"

"ฝากไปกับลม..กับฝนที่ลอยพัดผ่าน
แม้จะยาวนาน..แต่ยังไม่ยอมผันเปลี่ยน
รักยังคงมั่นคง ซื่อตรง ตราบโลกยังคงหมุนเวียน
ฉันจะขีดเขียน..คำรัก..ลงในหัวใจ"

ชอบมากเลยค่ะ..เมื่อช่วงที่ละครเรื่องนี้กำลังฉาย
ขอบคุณค่ะ..ที่ทำให้นึงถึงความประทับใจที่ลางเลือนเหลือเกิน
ขออณุญาตินำไปเป็นแรงบันดาลใจในการอัพบล็อกครั้งต่อไปนะคะ



โดย: nikanda วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:5:00:13 น.  

 
ถามนิดนึงค่ะ..แทบไม่เคยอ่านงานของผู้เขียนท่านนี้เลย
แต่เคยอ่านนวนิยายเรื่อง"ทางสายใหม่"ตั้งแต่ตอนเด็กๆ
แล้วชอบ..และไม่เคยลืมเลย
แต่ตอนนั้น....ไม่ได้อ่านว่าใครแต่ง

มีคนเคยบอกว่า..เป็นงานของนักเขียนท่านี้
อยากถามพี่แม่ไก่ค่ะ..ว่าใช่หรือไม่
เคยอ่านหรือยังคะ?แล้วชอบไหม
ถ้ามี...เอามารีวิวนะคะ..จะรออ่าน


โดย: nikanda วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:5:06:18 น.  

 
ปล.อีกนิด..ลืม
จะบอกว่า..นิยายเก่า
ทำไมปกมันช่างเหมือนโวมานซ์จริงๆเลย.งเหอ เหอ


โดย: nikanda วันที่: 15 กรกฎาคม 2551 เวลา:5:10:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.