อีสา - รวีช่วงโชติ โดย "สีฟ้า"
|
อีสา & รวีช่วงโชติ โดย "สีฟ้า" พิมพ์โดย สนพ. ณ บ้านวรรณกรรม
อีสาและรวีช่วงโชติ เป็นนวนิยายชิ้นเอกของสีฟ้า ที่บรรจงถ่ายทอดเหตุการณ์ของยุคสมัยช่วงเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านชีวิตความเป็นอยู่ และเหตุการณ์ของบ้านเมืองได้อย่างสมจริง โดยมีฉากชีวิตของอีสานำพาบอกกล่าวเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

เรื่องย่อ:(แบบยาวววว...)
สา หรืออุษาเป็นลูกทาสที่เกิดและโตในวังของหม่อมเจ้าโชติช่วงงระวี รวีวาร ที่แม้จะมีการเลิกทาสแล้วแต่บรรดาทาสหลายคนซึ่งไม่มีที่จะไปก็ยังสมัครใจอยู่ใต้บารมีท่านเป็นสิบ ๆ คน
สาเกิดมาไม่มีพ่อ...และแม่ก็ตายหลังสาเกิดเพียงสองวัน สาจึงเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของป้าเจิม อดีตทาสที่อาวุโสสูงสุดในวัง เมื่อสาอายุได้สิบสองปีป้าเจิมก็พาสาไปฝากตัวไว้กับหม่อมนิ่มหม่อมน้อย ให้ช่วยฝึกหัดขัดเกลา จนสาเติบโตเป็นสาวแรกรุ่นที่เรียนรู้เรื่องของการวางตัวอย่างผู้ดี และยังได้หัดรำละครอีกด้วย สาแอบชื่นชมบูชาท่านชายมาตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยแรกรุ่น จนวันหนึ่ง เมื่อสาอายุได้สิบหกปี หม่อมทั้งสองก็"ถวายตัว" สาให้กับท่านชาย ธรรมชาติสอนให้สาเรียนรู้ที่จะมีจริตจก้านตามวัย ทำให้ท่านชายลุ่มหลงในตัวสามากกว่าหม่อมคนอื่น ๆ แต่ถึงกระนั้นสาก็ยังไม่ได้รับการยกย่องให้เป็น "หม่อม" อย่างออกหน้าออกตา จนกระทั่งสาตั้งท้องและคลอดลูกชาย ซึ่งเป็นลูกชายคนแรกและคนเดียวของท่านชาย หม่อมพริ้มซึ่งเป็นหม่อมใหญ่ก็ได้โอบอุ้ม "คุณชาย" ไปเลี้ยงดูฟูมฟักเสมอลูกชายของตน... ให้สาได้พบลูกบ้างเป็นครั้งคราวและเรียกลูกชายของตนเหมือนคนอื่น ๆ ว่า "คุณชาย"
หลังจากนั้นไม่นาน ท่านชายก็สิ้นพระชนม์ลง... และจำเพาะต้องมาสิ้นลงในคืนที่สาเพิ่ง "ถวายงาน" เสร็จ ฐานะของสาที่ทำท่าว่าจะดีขึ้นมาหน่อยหนึ่งหลังจากคลอดลูกชายก็ดูเหมือนจะตกต่ำลงไป ด้วยข้อหา "กาลกิณี หรือผู้หญิงกินผัว" ที่แม้สาเองก็ไม่รู้ความหมาย

หลังจากท่านชายสิ้น ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในวัง ทั้งด้านผู้คนที่แยกย้ายกันออกไปเป็นบางส่วน ทั้งด้านสภาพบ้านเรือนที่รายรอบวัง ในความเปลี่ยนแปลงนั้น สาก็ได้รู้จักกับสมศักดิ์ ชายหนุ่มรูปงามที่มีกิริยาท่าทีสุภาพอ่อนโยน สาหลงรักเขาโดยง่าย ด้วยวัยที่ยังเยาว์ และธรรมชาตในตัวอันลึกล้ำ แต่เป้าหมายของนายสมศักดิ์ไม่ได้อยู่ที่สา... เขาเพียงอาศัยสาเพื่อเข้าถึงตัวคุณหญิงโสภาพรรณวดี ลูกสาววัยรุ่นของหม่อมพริ้มต่างหาก
สานั้นชื่นชมนายสมศักดิ์จนถึงขั้นยอมตัวเป็นสะพานสื่อรักให้ แม้จะรู้ว่าผิดแต่เธอก็ทนแรงอ้อนวอนของนายสมศักดิ์ไม่ไหว ในที่สุดถึงกับพาคุณหญิงหนีตามนายสมศักดิ์ออกจากวัง ทั้ง ๆ ที่สาเองก็กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สองของท่านชายอยู่ด้วย
(ขออนุญาตเล่าข้าม ๆ มั่งนะคะ ยาวจัด)
สาคลอดลูกคนที่สองเป็นผู้หญิง จึงยกให้เป็นลูกของคุณหญิงโสภาฯ กับนายสมศักดิ์ ซึ่งคุณหญิงก็รักหนูน้อยมากเช่นกัน ตั้งชื่อให้ว่าโสภิตพิไล
สานั้นลึก ๆ รู้สึกผิดต่อคุณหญิงที่พาเธอมาตกต่ำจึงเฝ้าดูแลไม่ให้คุณหญิงต้องลำบาก แรก ๆ ก็ดูเหมือนจะมีความสุขกันตามประสา แต่นานวันเข้า ทรัพย์สินที่คุณหญิงมีติดตัวมาเริ่มร่อยหรอ สาจึงออกหางานทำ และด้วยความที่เคยเป็นนางรำมาก่อน สาก็ได้งานแสดงละครเวที กลายเป็นอุษาวดี - -นางละครผู้มีชื่อเสียงในเวลาไม่นาน

คุณหญิงโสภาฯ เริ่มป่วยกระเสาะกระแสะ และชืดชาในเรื่องบนเตียงจนนายสมศักดิ์เกิดความเบื่อหน่าย
แม้จะยังรักคุณหญิงอยู่มาก แต่ความเห็นแก่ตัวมีมากกว่า วันหนึ่งนายสมศักดิ์ก็ย่องเข้าหาสาและได้เสียกัน ... สารู้สึกผิด แต่ด้วยแรงปรารถนาในใจก็ผลักดันให้สาดำดิ่งลงสู่ ห้วงแห่งดำกฤษณาอย่างยากที่จะถอนตัว จนวันหนึ่งคุณหญิงก็จับได้ และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันคุณหญิงก็หายตัวไปและเสียชีวิตด้วยการจมน้ำตายในเวลาต่อมา
หลังงานศพคุณหญิง สาตัดสินใจแต่งงานกับนายวิทย์ นักดนตรีหนุ่มที่มาติดพันเธออยู่ในช่วงนั้น เพื่อหนีบาปในใจที่ตามหลอกหลอน นายสมศักดิ์เสียใจมากจนกินเหล้าเมาและตกน้ำตายตามคุณหญิงไป
สาอยู่กินกับนายวิทย์อย่างไม่ราบรื่นนักเพราะนายวิทย์นั้นต้องอาศัยอยู่กับพี่สาว ซึ่งไม่ยอมรับในตัวน้องสะใภ้อย่างสา ประกอบกับนายวิทย์เป็นนักดนตรีที่มีอารมณ์ศิลปินสูง ถึงเขาจะรักสามากแต่เขาก็ไม่เข้าใจในความต้องการของสาได้ดีเพียงพอ...
ทำให้เมื่อวันหนึ่ง สาได้พบกับนายเซกิ นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นและมีความสัมพันธ์กัน สาจึงตัดสินใจขอแยกทางกับนายวิทย์ เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ญี่ปุ่นแพ้สงคราม นายเซกิต้องกลับไปญิ่ปุ่น ก็ได้มอบมรดกเป็นเงินจำนวนมากให้กับสา

เวลาผ่านไป... อุษาส่งโสภิตพิไลเข้าเรียนในโรงเรียนประจำที่ดีที่สุด ส่วนตัวเธอใช้เงินที่ได้มาจากนายเซกิเปิดธุรกิจสถานบันเทิงโดยมีประธาน - -หนุ่มรุ่นน้องที่กลายเป็นสามีลับ ๆ ของเธอด้วยเป็นผู้ช่วย
อาชีพและชื่อเสียงของอุษามีผลกระทบต่อโสภิตไม่น้อย... เมื่อโสภิตเรียนจบชั้นมัธยมปลายก็ออกจากโรงเรียนกลับมาอยู่ที่บ้าน เธอเรียกอุษาว่าป้า เพราะคิดว่าตัวเองเป็นลูกของคุณหญิงที่ตายจากไป และอุษาก็มีฐานะเป็นเพียงกึ่งญาติห่าง ๆ กึ่ง "ข้าเก่า"ของแม่เธอเท่านั้น
วันหนึ่งโชคชะตาบันดาลให้อุษาได้พบกับคุณชายรวีช่วงโชติ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้พิพากษาหนุ่มที่เพิ่งสำเร็จการศึกษามาจากเมืองนอก อาจจะด้วยความผูกพันทางสายเลือดที่ทำให้หม่อมราชวงศ์หนุ่มรู้สึกดีกับอุษา ถึงแม้ใคร ๆ จะเล่าลือถึงอดีตและเบื้องหลังของสาวใหญ่ผู้นี้ในทางไม่ดีนักก็ตาม หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเขามีใจให้กับอุษาเสียแล้ว... รวมทั้งโสภิตพิไล ซึ่งรู้สึกขัดใจขัดตาต่อผู้เป็นป้ามาแต่ต้น
โสภิตพิไลเกิดความรู้สึกอยากจะท้าทายผู้เป็นป้าจึงพาตัวเข้าไปพัวพันกับทั้งคุณชายรวีช่วงโชติและนายประธาน นั่นทำให้อุษายิ่งร้อนรนด้วยเกรงว่าโสภิตกับคุณชาย- -ลูกชาย-หญิงของเธอเอง จะชอบพอกันขึ้นมาจริง ๆ

วันหนึ่งก็เกิดเหตุ โสภิตพิไลถูกนายประธานปลุกปล้ำ อุษาเข้าขัดขวางและยิงนายประธานตาย อุษากลายเป็นผู้ต้องหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา เพราะเธอไม่ต้องการให้โสภิตต้องมาเสื่อมเสียชื่อเสียง
แต่โสภิตทนเห็นอุษาต้องมารับโทษเพราะปกป้องเธอไม่ได้จึงมาเป็นพยานในศาล และขอให้คุณชายรวีช่วงโชติช่วยในด้านกฏหมายด้วยอุษาจึงพ้นผิดจากคดี แต่อุษาไม่อาจเลี่ยงพ้นผลกรรมของตัวเอง เมื่อเสร็จสิ้นคดีหม่อมพริ้มก็ให้รับโสภิตพิไลซึ่งท่านเข้าใจว่าเป็นลูกสาวของคุณหญิงโสภาเข้าไปอยู่ในบ้าน
โสภิตเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่ออุษาเพราะคิดว่าอุษาปิดบังชาติกำเนิดของตน เธอคิดว่าการที่เธอเข้าไปเป็นพยานให้อุษาจนพ้นข้อกล่าวหานั้นเป็นการตอบแทนบุญคุณที่อุษาเลี้ยงดูเธอมาอย่างเพียงพอแล้ว นับแต่นี้เธอก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอุษาอีกต่อไป
ในตอนท้ายของ"อีสา" อุษาหันหน้าเข้าหาธรรมะ พยายามเอาชนะกิเลสของตนเองจนลุล่วงได้ในระดับหนึ่ง

ในเล่ม "รวีช่วงโชติ" ซึ่งเป็นภาคต่อนั้นก็เป็นเรื่องราวของลูกทั้งสองคนของสา... ซึ่งต้องมาร่วมรับผลกรรมของสาโดยไม่ได้ตั้งใจ
จากคำนำผู้เขียนบอกไว้ว่า หลังจากละครเรื่อง"อีสา"จบลง มีผู้ท้วงหรือปรารภด้วยความกังวลว่า...
"มันรู้สึกค้างคาอยู่ในหัวใจพิกล เรื่องไม่ยอมให้ลูกรู้ว่าอีสาเป็นแม่..." และ... "การที่ลูกไม่รู้จักแม่ อาจล่วงเกินโดยไม่รู้ ซึ่งถึงแม้จะไม่รู้ลูกก็คงจะบาป"...
ผู้เขียนจึงตัดสินใจเขียนเรื่อง 'รวีช่วงโชติ' สุภาพบุรุษลูกชายของ'อีสา' พ่วงด้วย'โสภิตพิไล' ซึ่งโดยศักดิ์กำเนิดแล้วต้องเป็น'คุณหญิง' เพื่อให้มีเรื่องราวเชื่อมโยงนำพาให้ลูกชายและลูกสาวได้รู้จักแม่เสียที
คุณชายรวีช่วงโชติ และ(คุณหญิง)โสภิตพิไลเป็นหนุ่มสาวใน พ.ศ. ๒๕๐๔-๒๕๐๕ เพราะฉะนั้น ความเป็นไปของสังคมก็จะอยู่ในช่วงนั้น

ส่วนตัวค่อนข้างชอบอ่านนิยายชีวิตย้อนยุคอย่างนี้นะคะ ได้เห็นฉากชีวิตและสังคมที่เป็นยุคสมัยเดียวกับคนรุ่นพ่อกับแม่เราเขาอยู่กัน ประกอบกับการเล่าเรื่องที่กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ ด้วยสำนวนภาษาของนักประพันธ์ชั้นครูเช่นนี้ ทั้งมีการสอดแทรกข้อคิดธรรมะอันว่าด้วยเรื่องกิเลสตัณหาและกรรมตลอดทั้งเรื่อง ทำให้นอกจากจะได้อรรถรสจากการอ่านแล้ว ยังได้ซึมซับแง่คิดธรรมะเพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตตัวเองอีกต่างหาก
ขออนุญาตหยิบยกบทกลอนสั้น ๆ จากวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีที่ท่านผู้ประพันธ์นำมาประกอบไว้ท้ายเล่มมาลงไว้ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
เป็นวิสัยไตรภพจบจังหวัด ย่อมเวียนว่ายในวัฏสงสาร ที่พ้นทุกข์สุโขมโหฬาร คือนิพพานพูนสวัสดิ์วัฒนาฯ
*ไปเสิร์ชเจอภาพปกรวีช่วงโชติสีออกทึบ ๆ ทึม ๆ ก็ขออนุญาตนำมาแปะตรงนี้แล้วกันค่ะ ฉบับนี้พิมพ์โดย ณ บ้านวรรณกรรมค่ะ แต่ฉบับที่จขบ.มีอยู่เป็นหนังสือรุ่นเก่าที่พิมพ์โดยสนพ.โชคชัยเทเวศร์ จำกัด เป็นหนังสือรุ่นเก่าที่ปกสีเดียวน่ะค่ะ


|
Create Date : 17 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 24 ธันวาคม 2556 11:59:09 น. |
|
26 comments
|
Counter : 26930 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:07:38 น. |
|
|
|
โดย: pumpond วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:54:05 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:28:16 น. |
|
|
|
โดย: BeCoffee วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:02:03 น. |
|
|
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:30:24 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 17 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:02:43 น. |
|
|
|
โดย: fondakelly วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:15:30 น. |
|
|
|
โดย: nikanda วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:2:24:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:49:55 น. |
|
|
|
โดย: thezircon IP: 125.24.242.229 วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:19:39 น. |
|
|
|
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:4:04:42 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:33:20 น. |
|
|
|
โดย: ลูกปัดแก้ว วันที่: 19 กรกฎาคม 2552 เวลา:22:29:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:34:39 น. |
|
|
|
โดย: be-oct4 วันที่: 20 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:42:33 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:49:22 น. |
|
|
|
โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 22 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:30:38 น. |
|
|
|
โดย: แพน IP: 203.144.144.164 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:9:57:35 น. |
|
|
|
โดย: yayee IP: 118.172.125.9 วันที่: 2 ธันวาคม 2556 เวลา:14:42:03 น. |
|
|
|
โดย: แพน IP: 180.180.37.128 วันที่: 25 ธันวาคม 2556 เวลา:16:52:56 น. |
|
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 29 ธันวาคม 2556 เวลา:21:34:48 น. |
|
|
|
โดย: แม่กวาง IP: 171.100.78.10 วันที่: 3 มกราคม 2557 เวลา:1:32:59 น. |
|
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 3 มกราคม 2557 เวลา:12:06:56 น. |
|
|
|
โดย: ปอย IP: 49.230.143.51 วันที่: 17 เมษายน 2557 เวลา:19:17:00 น. |
|
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 18 เมษายน 2557 เวลา:11:56:49 น. |
|
|
|
| |
|
|
**ขออนุญาตฝากโครงการดี ๆ ไว้ตรงนี้หน่อยนะคะ...แค่วันละคลิกเราก็ได้บริจาคหนังสือวันละเล่มแล้ว