|

ดอกไม้ปลายสวน โดย สิริมา อภิจาริน พิมพ์(ครั้งที่ ๒)โดย สนพ.อรุณ พฤษภาคม ๒๕๕๑
หนังสือรางวัลชมเชยประเภทนวนิยาย การประกวดหนังสือดีเด่นประจำปี ๒๕๔๑ งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ หนึ่งใน ๕๐๐ เล่ม หนังสือดีสำหรับเด็กและเยาวชน คัดสรรโดยสมาพันธ์องค์กรเพื่อพัฒนาหนังสือและการอ่าน

เรื่องย่อ :
นวนิยายสะท้อนชีวิตของ "ดวงดอม" ผู้ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและการพลัดพรากหลายครั้งหลายหนนับแต่วัยเยาว์ เริ่มตั้งแต่ครั้งที่เธอยังเล็กนักจนแทบจำความไม่ได้ ที่จู่ ๆ แม่ก็อุ้มน้องชายวัยเพียงไม่กี่เดือนก้าวออกจากบ้านไป ทิ้งเธอไว้ตามลำพังกับพ่อ พ่อพาเธอไปฝากให้ป้าดูแลจนเธอเริ่มผูกพันกับป้าและญาติพี่น้องที่บ้านนอก แต่เมื่ออายุถึงเกณฑ์ต้องเข้าโรงเรียน พ่อก็มารับเธอกลับสู่เมืองหลวงเพื่อเข้าเรียนหนังสือ
พ่อบอกว่าพ่อเป็นผู้ชาย พ่อเกรงว่าพ่ออาจจะอบรมเธอได้ไม่ดีพอ พ่อจึงนำเธอไปฝากไว้กับอาเจือทอง - - เพื่อนร่วมงานของพ่อซึ่งพ่อทั้งรักและเคารพ อาเจือทองมอบความรัก ความอบอุ่น และความปรารถนาดี ประดุจเธอเป็นลูกในไส้ เธอจึงสามารถก้าวข้ามภาวะเด็กบ้านแตก กลายเป็นหญิงสาวที่มีรูปโฉมและจิตใจอันดีงาม สงบ มั่นคง แม้ในช่วงวัยวันอันเยาว์เธอจะอ่อนแอ อ่อนไหวบ้าง หากเธอก็หยัดยืนและพร้อมยอมรับรสชาติอันขมขื่นเจ็บปวดของความผิดหวังได้อย่างทรนง เสมือนหนึ่ง "ดอกไม้งาม" ที่ยืนต้นท้าแดดฝนและพร้อมจะฝ่าฟันอุปสรรคนานาที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต และ...แม้บั้นปลายชีวิตเธอจะเป็น "ดอกไม้ปลายสวน" ที่ไม่มีชายใดเอื้อมคว้าก็ตามที...

เป็นนวนิยายที่อ่านจบด้วยความอิ่มเอมใจเป็นที่สุด จริง ๆ แล้วเคยอ่านนิยายเรื่องนี้เป็นตอน ๆ สมัยที่ลงสตรีสารเมื่อเกือบ ๆ ยี่สิบปีก่อน แต่ไม่ได้อ่านจนจบ ดูเหมือนว่านิตยสารจะปิดตัวไปเสียก่อน หรือตัวเองย้ายที่อยู่เสียก่อนก็จำได้ไม่แน่ชัด วันก่อนไปห้องสมุดประชาชนกับน้อง เจอหนังสือเล่มนี้เลยคว้าหมับ เพราะเป็นแฟนคุณสิริมาอย่างเหนียวแน่นมาเนิ่นนาน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าก่อนหน้านี้พลาดเล่มนี้ไปได้ยังไง...? แต่กาดอกจันดอกโต ๆ ไว้แล้วค่ะว่าหลังจากคืนหนังสือห้องสมุดไปแล้วจะต้องซื้อมาไว้เป็นสมบัติของตัวเองให้ได้ เพราะหนังสือสำนวนสวย ๆ เรื่องราวละเมียดละมุนแบบนี้ให้อ่านอีกกี่สิบรอบก็อ่านได้ค่ะ
อ่านเรื่องราวชีวิตของดวงดอม ผ่านสำนวนภาษาที่นุ่มนวลแล้วหวนนึกถึงชีวิตของเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งในหนังสือเล่มที่รีวิวไปเมื่อสัปดาห์ก่อน... การล่มสลายของสถาบันครอบครัว ที่ความรักไม่อาจเยียวยา... ช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหว ทั้ง ๆ ที่ทั้งคู่เป็นเด็กบ้านแตกเหมือนกัน ชีวิตของดวงดอมแม้จะพบกับความทุกข์ ความเหงา อ้างว้าง แต่เธอโชคดีที่ผู้คนทีแวดล้อมล้วนแต่เป็นคนดี
หรือจะเป็นด้วยฉากของสังคมที่แตกต่าง ดวงดอมน่าจะเป็นเด็กสาวในยุคต้น ๆ ปี ๒๕๐๐
ในขณะที่ "ฉัน" ในการล่มสลายของสถาบันครอบครัวฯ เป็นวัยรุ่นยุค"นิกส์" สิ่งแวดล้อมจึงแตกต่างกันมากมาย
ไม่ได้ตั้งใจจะเปรียบเทียบนิยายสองเรื่องนี้หรอกค่ะ เพียงแต่ขณะที่อ่านมันแว่บนึกถึง เท่านั้นเอง

นอกจากชีวิตของดวงดอม ที่เปรียบดังดอกไม้งามแล้ว ในสวนอักษรเล่มนี้ ยังมีดอกไม้งามดอกอื่น ๆ เช่น...
เจือทอง...หญิงสาวผู้เพียบพร้อมทั้งชาติวุฒิ คุณวุฒิ และวัยวุฒิ ผู้เฝ้าถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกนอกไส้ - - ลูกสาวของชายหนุ่มหม้าย ผู้มีใจภักดีให้แก่เธอ แต่เขามิบังอาจเอื้อมคว้า ด้วยยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้แก่มารดาของเธอ รวมทั้งสำนึกในบุณคุณอันเหลือล้น จนเขามิอาจจะตอบแทนเธอได้ด้วยการดึงเธอให้มาตกต่ำ
และ... จุลลา...สาวมั่น ทันสมัยผู้หน่ายการเรียนหนังสือ เมื่อรักแรกที่เธอทุ่มเทใจให้ นำความเจ็บร้าวมาสู่ เธอจึงฮึดสู้ ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่า...จะไม่รักใครที่ไม่รักเธออีกต่อไป

หลายคนที่เคยอ่าน"กุหลาบสีแดง" ของคุณสิริมามาแล้ว อาจจะรู้สึกกับคุ้นเคยกับดวง หรือดวงดอมเป็นพิเศษ
เพราะวิถีชีวิตของเธอก็เป็นเส้นทางเดียวกันกับ 'ตอง' แห่งกุหลาบสีแดงนั่นเอง... พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเล็ก... เธอต้องไปอยู่กับเพื่อนสนิทของพ่อที่ไม่ได้เกี่ยวพันฉันญาติแต่อย่างใด... พบรักในวัยเรียนกับหนุ่มน้อยที่แสนดี...แต่ต้องผิดหวัง...อกหักแต่ยังเข้มแข็งมั่นคง ฯลฯ
แต่ถึงจะรู้สึกเช่นนั้น เราไม่ยักกะรู้สึกถึงความซ้ำซากจำเจเลยแม้แต่นิด เรื่องเล่าที่เรียบเรื่อยดุจน้ำใสไหลรินของผู้เขียน ยังคงให้ความซาบซึ้งใจ ประทับใจ อบอุ่นใจ และสะท้อนสะเทือนใจได้อย่างครบครันเหมือนเคย คุณสิริมามีวิธีการใช้สำนวนภาษาที่สละสลวย และลึกซึ้งกินใจมาก บทจะอารมณ์ดีเธอก็ทำให้ผู้อ่านอมยิ้มตามได้โดยง่าย บทจะเศร้าหรือสะเทือนใจ...แม้ไม่ต้องบรรยายอะไรมากมาย เธอก็สามารถทำให้ผู้อ่านอารมณ์อ่อนไหวน้ำตาซึม...บางครั้งถึงกับไหลรินเลยทีเดียว
สรุปว่า...เล่มนี้ชวนอ่านอย่างแรงอีกเล่มค่ะ

**เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ค่ะ  
|