~ "ความเอย...ความรัก" นิยายรักคลาสสิคของนักเขียนรุ่นเก่า "ศรีฟ้า ลดาวัลย์" ~
|

ความเอย...ความรัก ผู้เขียน : ศรีฟ้า ลดาวัลย์ ผู้พิมพ์ : สนพ.โชคชัยเทเวศร์ (ปกแข็ง ๒ เล่มจบ)
เรื่องย่อ : (อาจจะยาวนิดหนึ่งค่ะ...)
เหมือนหมายเป็นหนุ่มนักเรียนนอก ลูกชายของอดีตท่านทูตที่เพิ่งเกษียณใหม่หมาด...
เมื่อเขากลับมาเมืองไทยก็เข้าทำงานด้านธุรกิจกับญาติของตัวเอง และได้รู้จักกับบุหรง สาวใหญ่แม่ม่ายที่ทั้งสวยและทำงานเก่ง ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน โดยต่างก็รับรู้กันในทีว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีข้อผูกมัดใด ๆ
ต่อมาพ่อของเขาก็พยายามหาคู่ให้กับเขา โดยหมายตาพรอุมา... ลูกสาวนักธุรกิจเกี่ยวกับเงินทุนหลักทรัพย์ที่ร่ำรวยและมั่นคง...
เมื่อได้พบและรู้จัก เหมือนหมายก็ดูเหมือนจะชอบพรอุมาในระดับหนึ่ง แต่เขายังไม่ได้คิดไปถึงขั้นแต่งงาน...
แล้วเขาก็ได้รู้จักเก็ตถวา...หญิงสาวที่ชื่อแปลกและท่าทางเรียบร้อย เขาก็เกิดสะดุดใจในตัวเธอเข้าอย่างจัง
เก็ตถวาเป็นเพื่อนสนิทของพรอุมามาตั้งแต่วัยเด็ก ... เธอเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ฐานะยากจน แต่ได้รับการอุปถัมภ์เกื้อกูลจากพรอุมามาโดยตลอด แม้ถึงวัยทำงาน เธอก็เข้าทำงานในบริษัทของพรอุมา... และมารดาของเธอก็ทำงานเป็นแม่ครัวในโรงแรมที่แม่ของพรอุมาเป็นหุ้นส่วนใหญ่อยู่ ซึ่งเธอและแม่ก็สำนึกในบุญคุณอันยิ่งใหญ่นี้อยู่เสมอ...
เมื่อเหมือนหมายแสดงท่าทีว่าสนใจในตัวของเก็ตถวา...เธอจึงพยายามหลีกหลบ และต่อมา เมื่อพรอุมารู้เข้า เธอก็ต่อว่าเก็ตถวาอย่างรุนแรง เก็ตถวาจึงตัดสินใจลาออกจากงานและชวนแม่กลับบ้านเกิด...โดยพรอุมาช่วยฝากงานที่เชียงใหม่ให้
เหมือนหมายรู้สึกเสียใจ จึงไปตามหาเก็ตถวาถึงเชียงใหม่ แต่เขาไม่ได้พบเธอ...
หลังจากนั้นอีกร่วมปีเขาจึงตัดสินใจแต่งงานกับพรอุมา ตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ส่วนตัวเขาเองก็ตั้งใจว่าเขาจะเป็นสามีที่ดี และเลิกยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงอื่นโดยเด็ดขาด... ทั้ง ๆ ที่ลึก ๆ ในใจ...เขายังคงนึกถึงเก็ตถวาอยู่ไม่คลาย
เขาย้ายไปอยู่บ้านพรอุมาและเข้าทำงานในบริษัทของแม่ยาย...โดยมีตำแหน่งที่เป็นรองภรรยาของเขา
หลังจากแต่งงานไม่นาน...การได้อยู่ร่วมบ้านกัน ได้ใกล้ชิดกัน ... เหมือนหมายก็ได้เรียนรู้ว่า นิสัยที่แท้จริงของพรอุมานั้น ถอดแบบออกมาจากแม่ของเธอโดยตรง นั่นคือ...ชอบเอาแต่ใจตัวเองและวางอำนาจ...ข่มผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา... โดยเฉพาะสามี เพราะคิดว่าตัวเองเก่งกว่า และรวยกว่า ...
วันหนึ่ง...บังเอิญทั้งคู่ได้พบกับบุหรง...เมื่อไปทำงานร่วมกันในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทั้งสองคนกำลังขัดแย้งกันเรื่องงาน จนเหมือนหมายคิดจะแยกตัวเองมาทำบริษัทของตัวเองที่ทำร่วมกันกับเพื่อน ๆ
พรอุมากล่าวหาว่าเหมือนหมายนอกใจเธอ และนัดพบกับบุหรง...
ทั้งคู่มีปากเสียงกันจนเหมือนหมายย้ายออกมาอยู่คอนโดส่วนตัว...แต่ยังไม่สามารถหย่ากันได้ด้วยเหตุโยงใยทางธุรกิจ เหมือนหมายรับบุหรงเข้าทำงานในบริษัทของเขา...และเผลอไผลมีความสัมพันธ์กันอีก...
พรอุมาโกรธมาก เธอรู้สึกทั้งเสียใจและเสียหน้า สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอคือชัยชนะ... เธอหวนนึกถึงเก็ตถวาขึ้นมา จึงไปขอโทษเก็ตถวาและขอให้เธอกลับมาทำงานด้วยเหมือนเดิม...
เก็ตถวาดีใจที่พรอุมาขอโทษ จึงตามกลับมาทำงานด้วย...
โดยหารู้ไม่ว่า...เธอกำลังจะถูกเพื่อนใช้เป็นเครื่องมือในการเอาชนะเหมือนหมาย...

ยังไม่จบค่ะ...นั่นเป็นเพียงเสี้ยวเดียวของเรื่องราวทั้งหมด....
เรื่องราวความรักสามสี่เส้าของเหมือนหมายจะลงเอยยังไง...น่าสนใจมากค่ะ อ่านไปลุ้นไป
และด้วยสำนวนภาษาอันลุ่มลึก คมคายของผู้ประพันธ์ ทำให้นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักที่ให้นิยามความหมายของความรักได้ลึกซึ้งกินใจมาก
ตัวละครแต่ละตัวที่ผู้เขียนได้รังสรรค์ขึ้นก็มีชีวิตชีวาและสมจริงเป็นที่สุด... ทุกคนมีข้อดีข้อเสีย เป็นมนุษย์ปุถุชนที่จับต้องได้จริง ๆ
การดำเนินเรื่องก็เป็นไปอย่างละเมียดละไม ค่อยเป็นค่อยไป คล้อยเคลื่อนเลื่อนไหลไปอย่างเป็นธรรมชาติ สอดคล้องกับครรลองชีวิตของแต่ละคนที่ดำเนินไป... และข้อสำคัญ...สมเหตุสมผล
ตัวละครแต่ละตัวในเรื่องเขาทำงานทำการกันจริง ๆ มีปมขัดแย้ง มีการคลี่คลายของปมปัญหา...
เรื่องย่อที่เล่าไปข้างบนนั่น...เล่าจำเพาะเจาะจงเฉพาะความรักของหนุ่มสาวรุ่นลูกหรอกค่ะ... แต่เสน่ห์ที่แท้จริงของนิยายเรื่องนี้อยู่ที่ความรักของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่นั่นต่างหาก...
โดยนิยายเปิดตัวมาด้วยการครุ่นคำนึงถึงความหลังของอดีตท่านทูตเหมือนชนก..ในวัยหกสิบปี ที่หวนรำลึกไปถึงความรักของเขากับคุณพลับพลึง เมื่อสามสิบปีก่อนหน้านั้น... เพราะกำลังรอเวลาที่จะเดินทางไปรับเหมือนหมาย-บุตรชายที่จากบ้านเกิดไปเรียนที่เมืองนอกตั้งแต่เด็ก ๆ .. .จึงทำให้ท่านทูตหวนนึกถึงตัวเองในช่วงวัยเดียวกันกับลูกชายขึ้นมา แล้วรำพึงว่า...จะเป็นอย่างไร หากลูกชายจะเดินซ้ำรอยของเขา...แล้วไม่ได้ลงเอยด้วยดีเหมือนเขา...?
(ไม่เล่าหรอกค่ะ อยากให้ได้อ่านกันเองจริง ๆ เพราะตัวเองอ่านแล้วประทับใจมาก...ชอบมาก... อดีตท่านทูตท่านเก๋...เท่...และเปรี้ยวมาก ๆ ค่ะ (ในสมัยหลังสงครามโลกสิ้นสุดใหม่ ๆ ))
ความรักของหนุ่มสาวสมัยนั้นช่างเป็นความรักที่งดงาม ใสสะอาด บริสุทธิ์และมั่นคงจริง ๆ เข้าใจเลยว่าทำไมเหมือนหมายถึงได้ฝังจิตฝังใจอยู่กับเก็ตถวานักหนา... เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวล อ่อนโยนและเยือกเย็นแบบมารดาของเขาในตัวของเก็ตถวานั่นเอง...

มีตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงตอนที่ชอบ ๆ ค่ะ...เป็นบทสนทนาระหว่างพ่อ แม่ ลูก ที่ทำให้เรารู้สึกและสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดสนิทสนมและความอบอุ่นในครอบครัว...
"ความเอ๋ย ความรัก เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน... ......................................."
"โรแมนติกจัง จวนจะหกสิบแล้ว ยังโรแมนติกได้อีกนะแม่นี่... มีแต่คำถาม แล้วแม่ตอบโต้หรือเปล่าว่ามันสมัครชั้นต้น ณ หนไหน?"
เหมือนหมายจำได้แม่นยำที่แม่ท่องด้วยเสียงขัน ๆ ต่อไปว่า...
"ตอบเอ๋ย ตอบถ้อย เกิดเมื่อเห็นน้องน้อยอย่าสงสัย .............................................."
"แล้วมันเกิดขึ้นที่ไหนกันแน่ ...หัวใจหรือสมอง?" "ความรักที่สมองจะเป็นความรักได้ยังไง...ความรักมันก็ต้องเกิดที่ใจก่อน รักด้วยสมองนั่นมันเกิดทีหลัง หรืออีกอย่าง...ใช้สมองรักก็คือพิจารณาว่าเหมาะสมกันแล้ว อยู่ด้วยกันได้ รักทีหลังได้ คือรักอย่างมีส่วนประกอบ"
"พ่อกับแม่รักกันด้วยหัวใจหรือสมอง?"
"ลองถามพ่อเขาดูสิ"
เหมือนชนกหัวเราะเมื่อตอบลูกชายว่า...
"รักด้วยใจสิแก...เกิดเมื่อเห็นน้องน้อยอย่าสงสัย ตาประสบตารักสมัครไซร้...จริง ๆ เลยแกเอ๊ย... แต่ก็...พูดจริง ๆ นะพ่อกับแม่เป็นคู่หมั้นกันมาก่อน รักด้วยใจก็จริง แต่สมองพิจารณาแล้วว่าเหมาะสมกัน แต่งงานกันได้โดยไม่มีปัญหาอะไร..."
.........
กับอีกตอนที่เหมือนหมายนึกถึงเก็ตถวา...แล้วให้คำตอบกับตัวเองว่าทำไมเขาถึงรักเธอ...
'...ดูหล่อนช่างเป็นตัวตนของหล่อนแท้ ๆ ...ผู้หญิงแบบบาง ผิวเหลืองนวล ท่าทางเรียบร้อย ทว่าใจคอเข้มแข็ง... ยามตัดใจว่า 'ไม่' หล่อนก็หลีกลี้หนีหน้าไม่เหลียวกลับ... ยามโอนอ่อนก็ไร้จริตแง่งอน เป็นเสน่ห์อ่อนหวานรัดร้อยหัวใจ...'
...........
มีอีกหลายตอนมากที่ชอบ...แต่ยกตัวอย่างแค่นี้แล้วกัน เดี๋ยวบล็อกจะยาวเกินเหตุ แหะ ๆ 
เป็นนิยายรักที่คนอ่านรู้สึกวูบไหวตามอารมณ์ที่ลึกซึ้งของตัวละครได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีเลิฟซีนแม้แต่ฉากเดียว!!!
อยากให้นักเขียนนิยายรักรุ่นหลัง ๆ ได้อ่านและศึกษาวิธีเขียนเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีบทอัศจรรย์ล้ำลึกให้รกหน้ากระดาษแบบนี้กันเยอะ ๆ จังค่ะ..
ไม่ได้แอนตี้บทเลิฟซีนนะคะ... อ่านได้อยู่... แต่บทบรรยายที่ละเอียดโจ่งแจ้งเกินไปมันทำลายจินตนาการของคนอ่านลงอย่างน่าเสียดาย...จริง-จริ๊ง

|
Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2555 |
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2555 10:57:26 น. |
|
14 comments
|
Counter : 6379 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:40:54 น. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:13:07:40 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:18:27 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:20:44:58 น. |
|
|
|
โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:33:25 น. |
|
|
|
โดย: PhueJa วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:23:50:13 น. |
|
|
|
โดย: กุลธิดา (kdunagin ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:0:30:12 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:5:53:16 น. |
|
|
|
โดย: สุวรรณอัมพร IP: 161.200.122.109 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:12:44:25 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:5:48:20 น. |
|
|
|
โดย: คนขับช้า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:23:27:09 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:5:53:05 น. |
|
|
|
โดย: PhueJa วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:46:29 น. |
|
|
|
| |
|
|
ขอเข้ากระแสวาเลนไทน์กับเค้าหน่อย ด้วยการหยิบนิยายรักรุ่นเก่าที่อ่านได้ไม่พ้นสมัยมาบอกเล่าในวันนี้...วันที่ความรักอบอวล อิอิ...
ขอให้ความรักจงสถิตในหัวใจทุกดวงค่ะ..