'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)
กนกลายโบตั๋น ~ ศรีฟ้า ลดาวัลย์






กนกลายโบตั๋น
ศรีฟ้า ลดาวัลย์ / แต่ง
สนพ.โชคชัยเทเวศร์ / พิมพ์ (ปกแข็ง พ.ศ. ๒๕๓๔)






เรื่องย่อ : เมื่อรู้ว่า"วิภาดา" หลานสาวกำลังจะเดินทางไปทัศนาจรประเทศจีน คุณยายก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เรียกเธอมาเล่าให้ฟังถึงน้าหญิงคนเล็กของเธอ..
.ม.ร.ว.หญิงริมทอง...ว่าได้เดินทางไปเมืองจีนแล้วก็เลยไม่กลับ
เพราะไปแต่งงานกับคนจีนที่นั่น...คุณยายคิดถึงและเป็นห่วงลูกสาวมากแต่ไม่รู้จะติดตามถามข่าวกับใคร เพราะลูก ๆ คนอื่น ๆ ของคุณยายต่างก็รู้สึกไม่พอใจที่น้องคนเล็กตัดสินใจเช่นนั้น ทุกคนตัดใจจากน้องได้ แต่คนเป็นแม่ย่อมตัดลูกสาวของตนไม่ได้

คุณยายขอให้วิภาดาช่วยติดตามหาน้าหญิงของเธอให้ได้ วิภาดารับปากคุณยาย แม้จะรู้ว่าโอกาสที่จะพบคุณน้านั้นมีน้อยเต็มที เพราะประเทศจีนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลเหลือเกิน...แต่อาจเป็นด้วยโชคชะตาหรือฟ้ากำหนดก็เหลือคาด วิภาดาได้พบกับน้าหญิงของเธอจนได้ เพราะลูกชายของน้าบังเอิญมาทำงานเป็นไกด์ให้กับกลุมนักทัศนาจรที่วิภาดาเดินทางมาด้วยพอดี

วูซูหลิน...เป็นหนุ่มชาวจีนที่มีสายเลือดไทยครึ่งหนึ่งจากผู้เป็นแม่...
แม่ผู้ถือกำเนิดมาในตระกูลศักดินา...
เขารู้สึกประทับใจในตัววิภาดาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ด้วยความสดใสร่าเริงของหญิงสาว...จากความผูกพันทางสายเลือดในเบื้องต้น ก่อตัวเป็นความรู้สึกอันลึกซึ้งระหว่างกัน เพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ ที่วิภาดาไปพักอยู่ที่บ้านหลังเล็ก ๆ ของครอบครัววู

วิภาดากลับมาเมืองไทยพร้อมด้วยกำลังใจอันสำคัญยิ่งที่มอบให้กับคุณยายของเธอ ในขณะที่ญาติ ๆ คนอื่น ๆ ไม่มีใครสนใจใยดี

เมื่อเวลาผ่านไป ธุรกิจของครอบครัวเกิดซวดเซ วิภาดาจำต้องรับหมั้นกับชายหนุ่มรุ่นพี่...และแต่งงานกันในเวลาต่อมา...
แต่การแต่งงานของเธอนั้นเป็นไปเพียงเพื่อหน้าที่และความรับผิดชอบโดยแท้ หัวใจของเธอยังผูกพันลึกซึ้งอยู่กับญาติหนุ่มชาวจีน

เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในจีน (หลังการเสียชีวิตของประธานเหมา ช่วงประมาณปี ๒๕๒๐-๒๕๒๑) จีนเปิดประเทศมากขึ้น ผู้คนเดินทางไปมาระหว่างประเทศได้มากขึ้น วูซูหลินมีโอกาสติดตามคณะผู้แทนรัฐบาลจีนมาเยือนประเทศไทย
วิภาดาได้พยายามติดต่อจนสามารถพาวูซูหลินมาเยี่ยมคุณยายของเขาได้ ท่ามกลางสายตากึ่งสนอกสนใจ กึ่ง ๆ ประเมินท่าทีจากบรรดาญาติ ๆ ...
และในตอนนี้เอง ซูหลินก็ได้รับรู้ว่า...วิภาดาแต่งงานแล้ว...

หรือวิภาดาจะเป็นเพียงความฝันสำหรับเขาไปแล้วจริง ๆ อย่างที่แม่ของเขาเคยพร่ำเตือน...
ถ้าเช่นนั้น...ดอกโบตั๋นจะเกี่ยวพันร้อยรัดกับกิ่งก้านลายกนกได้อย่างไร...?





นิยายรักลึกซึ้งและมั่นคงระหว่างคนสองคนที่ต่างสัญชาติ ต่างวัฒนธรรม มีเพียงเสี้ยวส่วนของสายเลือดที่เป็นสายใยโยงกันไว้...
กับความผูกพันอันลึกซึ้งที่อุปสรรคใด ๆ ก็มิอาจกั้นขวาง...


ภาพดอกโบตั๋นค่ะ(พักสายตา)




หนังสือเล่มนี้วางอยู่บนชั้นมาเนิ่นนานมาก รู้ว่าเป็นนิยายน้ำดี แต่เมื่อก่อนไม่ได้หยิบมาอ่านเพราะติดพันอยู่กับนิยายยุคใหม่ ๆ ที่มีออกมามากมายเหลือเกินในโลกหนังสือ
ประกอบกับได้ดูละครทีวีแว่บ ๆ คิดว่าเป็นนิยายรักต่างชนชั้นฐานันดร
ธรรมดา ๆ...

แต่เผอิญเมื่อคืนก่อนแม่เขานอนไม่หลับก็เลยนอนคุยกัน แม่ก็เล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ฟัง แน่ล่ะ เรื่องเล่าของแม่ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเก่า ๆ ...
เก่าตั้งแต่เรายังไม่เกิดโน่นทีเดียว...

ตอนหนึ่งแม่ก็เล่าถึง "ป้า" กับลูกของป้าให้ฟัง...
แม่เล่าว่าป้าแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย กับชายชาวจีนคนหนึ่งซึ่งเดินทางมาจากประเทศจีนตั้งแต่หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง ตอนนั้นแม่เองก็ยังเป็นเพียงเด็กหญิงวัยประมาณเก้าขวบเท่านั้น...

ป้าแต่งงานได้สองปีก็มีลูก...แต่ป้าอาภัพนัก ลูกชายป้าอายุเพียงสองขวบป้าก็เสียชีวิตด้วยโรคที่คนโบราณเรียกว่า โรคผิดเดือน...
หลังจากป้าตาย สามีของป้าก็หอบลูกชาย(หลานของแม่)กลับไปเมืองจีน แล้วก็หายเงียบไปเลยไม่ได้ส่งข่าวคราวมาทางเมืองไทยอีก...
แม่บอกว่าแม่กับพี่ ๆ คนอื่น ๆ ต่างก็รักและอาลัยหลานชายตัวน้อยเป็นนักหนา เพราะเคยได้อุ้มชูเลี้ยงดูกันอยู่ในช่วงที่เขาเป็นทารก...แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะคนที่เอาไปนั่นก็เป็นพ่อของเขาเอง...

จนเวลาล่วงเลยไป...นานมากเกือบสี่สิบปีได้...ตอนนั้นแม้ว่าฉันจะยังเด็กมาก แต่ก็จำภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แม่นยำ...
มีรถเก๋งคันโก้คันหนึ่งมาจอดที่หน้าบ้านเรา มีชายหนุ่มใหญ่ท่าทางภูมิฐาน อายุน่าจะราว ๆ สี่สิบต้น ๆ ก้าวลงมายืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่หน้าบ้าน
พี่สาวคนโตของฉันปราดออกไปถามไถ่อย่างคนเจนมารยาท เสียงเขาถามว่าที่นี่บ้านน้า...(ชื่อแม่ฉัน)ใช่ไหม พี่สาวก็ตอบว่าใช่
เขาดูมีท่าทีตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด...ถามต่อว่าแล้วน้า...อยู่หรือเปล่า...พี่สาวฉันจึงหันมาตะโกนเรียกแม่ ซึ่งนั่งเย็บจักรอยู่หลังบ้าน
เมื่อแม่ออกมา...ชายคนนั้นก็จ้องมองแม่อย่างตื่นตะลึง แล้วก็ทรุดตัวลงคุกเข่า ยกมือไหว้แม่ปะหลก ๆ พร้อมกับน้ำตาไหลพราก ๆ ...สร้างความแปลกใจและตกใจให้กับพวกเราที่ออกันอยู่ที่ประตูเป็นอย่างยิ่ง

แม่เองก็ออกอาการเงอะๆ งะๆ ด้วยไม่รู้จักและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...ชายคนนั้นจึงแนะนำตัวตะกุกตะกักว่าเขาชื่อ...เป็นลูกของแม่... (ชื่อป้า)
นาทีนั้น...แม่ก็เข่าอ่อนทรุดลงต่อหน้าหลานชายนั่นเอง...

ปกติแม่เราเป็นคนหัวโบราณ ไม่ค่อยแสดงความรักกับลูก ๆ (ที่โต ๆ แล้ว) ด้วยการสัมผัสใกล้ชิดสักเท่าไหร่
แต่ภาพที่พวกเราเห็นในวันนั้นก็คือ แม่เกาะกอดผุ้ชายคนนั้นไว้แน่น ลูบหลังลูบไหล่ ทั้งจับต้องหน้าตาเขาอยู่นั่นแหละ...ราวกับเขาเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ วัยเพียงสี่ห้าขวบ ไม่ใช่ชายวัยสี่สิบ รูปร่างสูงใหญ่อย่างที่เราเห็นอยู่...

นั่นคือภาพที่ติดตาเรามาจนบัดนี้ และก็คงติดตรึงอยู่ในใจแม่เช่นกัน เมื่อพูดถึงทีไรแม่ก็น้ำตาไหลทุกที...
(ปัจจุบันหลานชายแม่คนนี้เสียชีวิตแล้ว...)






และนั่นก็คือแรงบันดาลใจให้หยิบหนังสือเล่มนี้ลงมาปัดฝุ่นแล้วก็อ่านอย่างจริงจัง...รวดเดียวจบ...นึกเสียดายว่า ตัวเองช่างโง่งมอยู่เป็นนานที่ไม่ได้หยิบเพชรแห่งวรรณกรรมชิ้นนี้มาชื่นชมทั้ง ๆ ที่...วางอยู่ตรงหน้าแท้ ๆ

มีหลายบทหลายตอนมากที่ชอบ...ขอยกตัวอย่างมาเพียงเล็กน้อยแล้วกัน...

"...ซูหลินจะพูดภาษาไทยกับมารดา...แม่เรียกเขาว่า..."ลูกรัก" เขาชอบฟังภาษาไทยคำนี้จากปากแม่ของเขานัก สำเนียงมันไพเราะอ่อนหวาน แม่เป็นคนมีน้ำเสียงไพเราะอยู่ด้วย เมื่อพูดจาด้วยภาษาที่มีวรรณยุกต์สูง ๆ ต่ำ ๆ คล้ายเสียงดนตรี จึงยิ่งฟังไพเราะคล้าย ๆ เสียงนกในฤดูชิวเทียน...(ฤดูใบไม้ร่วง)..."

หรือตอนที่ซูหลินรู้ว่าวิภาดาเป็นญาติของเขา...

"จิตใจและอารมณ์ของซูหลิน แต่ไหนแต่ไรมาเคยสงบราบเรียบอยู่เสมอ...
เมื่อเริ่มปฏิวัติวัฒนธรรมเขาเพิ่งจะมีอายุเพียง ๑๕-๑๖ ปี กำลังเป็นเยาวชนที่มีหัวรุนแรง ...
แต่อาจจะเป็นเพราะความรักและการกล่อมเกลาอย่างอ่อนโยนของแม่ ทำให้เขาเกิดความรู้สึกต่อต้านการกระทำอันโหดร้ายและบ้าคลั่งบางอย่าง...
เป็นเพียงความรู้สึกเท่านั้น ไม่มีใครกล้าแสดงออก หรือขัดขวาง...
แต่เป็นด้วยความรักแม่และคงเป็นเพราะอายุของเขาผ่านวัย"ไฟ"มาแล้ว รวมทั้งพวกเรดการ์ดถูกยับยั้งความบ้าคลั่งให้สงบซาลง...
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จิตใจและอารมณ์ของเขาก้พลอยสงบราบเรียบ...
ไม่เคยมีเหตุการณ์หรือมีใครทำให้เขาเกิดความรู้สึกหวั่นไหวแปลก ๆ ...
ดังที่กำลังเกิดขึ้นกับเขาขณะนี้..."


อีกตอนที่ซูหลินพูดถึงความแตกต่างของโลก...เมื่อถูกวิภาดาถามไถ่...

"ผีก็อยู่โลกหนึ่ง คนก็อยู่โลกหนึ่ง คนละโลกกัน...แล้วทีนี้ โลกของคนที่ปกครองแตกต่างกันล่ะคะ อย่างโลกประชาธิปไตยกับโลกคอมมูนิสต์ พี่ซูหลินว่าเป็นคนละโลกเหมือนโลกคนกับโลกผีหรือเปล่า...?"
ซูหลินตอบด้วยหน้าตาเคร่งขรึมว่า..."โลกผีกับโลกคนแตกต่างกันเพราะมันเป็นโลกของคนตายกับคนเป็น แต่โลกที่มีการปกครองแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นโลกคอมมิวนิสต์กับประชาธิปไตย หรือลัทธิอะไรก็ตามคือโลกของคน...ถึงโลกจะแตกต่างกัน แต่ความเป็นคนไม่แตกต่างกัน...ผมหมายถึงคนอย่างเรา ๆ ...อย่างคุณกับผม""


ผู้ชายที่เติบโตมาในโลกคอมมิวนิสต์ก็มีความรักอันดื่มด่ำได้...แต่ต้องควบคุมให้อยู่ในกรอบในเกณฑ์...

"เราเป็นปุถุชน แม้บางคนจะถูกหลอมมาให้แข็งกระด้าง แต่พื้นฐานจิตใจของทุกคนไม่เหมือนกัน แม้แต่ประเทศเสรีก็เถอะ
ใช่ว่าทุกคนจะแต่งงานด้วยความรักเสมอไปหมด...หรือคุณจะปฏิเสธว่า ทุกคนในโลกเสรีแต่งงานด้วยความรัก ทุกคนและทุกคู่...
ผมไม่ได้รักคุณอย่างผู้ชายรักผู้หญิงอย่างเดียว แต่มันลึกซึ้งผูกพันกันยิ่งกว่านั้น รักอย่างภรรยา รักอย่างน้อง รักอย่างคนที่เข้าใจกันผูกชีวิตจิตใจเอาไว้ด้วยกัน..."






โห...บล็อกนี้ยาววววว.........จะอ่านข้ามมั่งก็ได้นะคะ เพียงแต่อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วเกิดความประทับใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกิดอารมณ์สะเทือนใจในบางบทบางตอน...จึงนำมาบอกเล่ากันค่ะ








Create Date : 29 พฤษภาคม 2551
Last Update : 11 เมษายน 2556 12:25:58 น. 42 comments
Counter : 12753 Pageviews.

 
อ่านนานแล้ว ประทับใจเช่นกันค่ะ


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:28:59 น.  

 
แม่ไก่น่าจะถ่ายรูป ชั้นวางหนังสือบ้านแม่ไก่ดูเนอะ ป่านนี้มันคงเยอะมากๆเลย หนูยออยากเห็นจัง อิอิ


โดย: ยอพระกลิ่น วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:39:10 น.  

 
ที่ติดใจที่สุดต้องบอกว่าดอกโบตั๋นค่ะ สวยมากๆ ไม่เคยเห็นค่ะ
ชมชอบความเป็นตัวเองของวิภาดาค่ะ

ดีค่าคุณแม่ไก่ฟ้าฝนเป็นงัยบ้างเอ่ย..
คิดถึงค่า


โดย: โมกสีเงิน วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:47:45 น.  

 
อ่านรีวิวแล้ว รู้สึกประทับใจมากครับ อยากอ่านขึ้นมาทันที



โดย: Boyne Byron วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:53:58 น.  

 
มาฟื้นความทรงจำใหม่คะ
เล่าได้ความ หมดเลย
สุดยอดนักอ่านจริงๆ


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:36:27 น.  

 
เรื่องนี้ดูเป็นละครก่อนแล้วมาอ่านหนังสือค่ะ จำได้ว่าประทับใจมากๆ กับคู่พระ-นาง (นพพล-ปรียานุช)

เพลงประกอบก็เพราะ...
"เหมือนจิตรกรรม ที่ฟ้าไม่เจตนา วาดกนกมาเปรียบดอกโบตั๋น"


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:10:44 น.  

 
ได้ดูละครแว้ปๆ ค่ะพี่แม่ไก่
หนังสือยังไม่ได้อ่าน
แต่ดูจากความยาวของบล็อกแล้วแสดงว่าคงสนุกแน่ๆ ...

เห็นด้วยกับพี่โมก ภาพดอกโบตั๋นสวยมากๆค่ะ


โดย: BeCoffee วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:02:53 น.  

 
อ่านเรื่องลูกชายคุณป้าของคุณแม่ไก่แล้วขนลุกค่ะ เอามาเขียนเป็นนิยายได้เลยนะคะเนี่ย

กนกลายโบตั๋น จะสั่งซื้อมาอ่านโดยด่วนเลยค่ะ


โดย: กุลธิดา IP: 206.74.208.250 วันที่: 29 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:17:13 น.  

 
ได้ยินมานานแล้ว..ว่าเป็นนวนิยายน้ำดี
แต่ก็ยังไม่เคยได้อ่านเลยค่ะ
หนังสือมันมีมากมาย.จนแทบจะเลือกอ่านไม่หวาดไม่ไหว
แต่ถ้ามีโอกาส...จะมามาอ่านค่ะ
เห็นรีวิวแล้ว..น่าอ่านดี เรื่องของหลานชายของคุณแม่คุณพราแม่ไก่
อ่านแล้ว..ก็น่าสะเทือนใจนะคะ
ดอกโบตั๋น.สวยจังค่ะ เห็นคำว่าโบตั๋นแล้ว
นึกถึง"อเวจีสีชมพู"ของโบตั๋น
ว่างๆคุณพี่แม่ไก่...เอามารีวิวบ้างนะคะ...อยากอ่าน


โดย: nikanda วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:5:35:30 น.  

 
มาตอบคำถามค่า โมกชอบครอบครัวนี้เป็นพิเศษจริงๆ ด้วยล่ะค่ะ อิ อิ อิ

ไปๆมาๆ รู้สึกว่าหนังสือของคนในครอบครัว นี้อยู่ในมือหลายเล่มเชียว...
อิสานน่ากลัวฝนจะทิ้งช่วงแล้วค่ะ..ลมแล้งพัดโชยมาแล้ว
ฟ้าเป็นสีฟ้า เมฆลอยสูงลิบ
ผีเสื้อบินว่อน..รับรู้ได้ด้วยความรู้สึกว่า ฝนคงทิ้งไปอีกนานวัน..

คิดถึงค่ะ


โดย: โมกสีเงิน วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:12:05 น.  

 
ภาพโบตั๋นสวยมาก..


จัดห้องพระ ทิศใด ตรงไหนเล่า?
ที่จักเข้า ถึงดวงใจ แห่งเจ้าของ
จัดไว้ที่ที่มีธรรมะครอง
จัดทุกห้องหัวใจ...ให้ครองธรรม...


เพราะมาก
จับใจ


โดย: treehouse วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:11:39:05 น.  

 
ไม่เคยอ่านนะคะ แต่เคยดูตอนเป็นละคร
ปรียานุช กับ นพพล เล่น (ถ้าจำไม่ผิด)

เป็นเรื่องที่ประทับใจมากค่ะ
..ยิ้ม ยิ้ม..


โดย: ปลิวตามลม วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:22:24 น.  

 


Comment Zuzaa...

แวะมาฟังทั้งเรื่องจริงทั้งอิงนิยายค่ะ


ได้มีโอกาสดูแว๊บๆ ตอนเล่นที่ช่อง 7 สี
ก้อยังไม่ได้อรรถรสเท่าที่คุณแม่ไก่เล่า
แล้วก็ทำให้เกิดคำถามต่อว่าทำไมในเรื่องจริง
เค้าถึงตายหละคะ น่ารักจังเลยนอนคุยกับคุณแม่



โดย: หอมกร วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:06:56 น.  

 
สวัสดีวันศุกร์ที่แสนสุขค่ะแม่ไก่
วันนี้รีวีวซึ้งจังค่ะแม่ไก่
เดี๋ยวไปยืมห้องสมุดมาอ่านดีกว่า อิอิ
มีความสุขทุกวันนะคะ ^^

ปล.เรื่องเน็ตอืดคอมเจ้ง เป็นเรื่องปกติของคนใช้คอมเลยค่ะ
คอมเปิ้ลก็เพิ่งโดนไวรัส เซ็งสุดๆเลย


โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:20:07 น.  

 
คุณแม่ไก่ขามาอีกรอบมาอ้อนให้คุณแม่ไก่ไปช่วยตรวจคำผิด เดี๋ยวคนบางคนเค๊าคุยโอ่ว่าคุณแม่ไก่รักเค๊าคนเดียวไม่รักน้อง อิ อิ อิ
อัพหนังสืออีกแระนะคะ


โดย: โมกสีเงิน วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:33:38 น.  

 
สวัสดีค่า...

ขออนุญาตเล่าเรื่องของลูกพี่ลูกน้องคนนั้นต่ออีกนิดนะ...

พี่เขาเล่าให้แม่และพวกเราฟัง...(ด้วยภาษาไทยที่เจือสำเนียงจีนอยู่มาก)ว่า เมื่อพ่อพาเขากลับเมืองจีนนั้น พ่อก็กลับไปอยู่กับภรรยาคนเดิมที่พ่อทิ้งเขามาเมืองไทยเมื่อหลายปีก่อน จนมีน้องให้อากอ(แม่ให้เราเรียกเขาว่าอากอ)อีกหนึ่งคน...

อากอเรียนหนังสือในเมืองจีน บ้านของพ่ออากออยู่ในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งค่อนข้างห่างไกลเมืองหลวง ทำให้ครอบครัวไม่ได้รับผลกระทบอันเกิดจากการปฏิวัติวัฒนธรรมสักเท่าไหร่ พ่ออากอเป็นพ่อค้า...เดินทางไปมาระหว่างจีน - ฮ่องกง

จนโตพ่อก็เล่าถึงแม่ให้ฟัง...และสั่งไว้ว่าถ้าได้ไปเมืองไทยให้ไปตามหาญาติ ๆ ของแม่ด้วย เพราะพ่ออากอเขาบอกว่าเขารู้สึกผิดที่พรากอากอไปจากตายาย(ซึ่งตอนนั้นยังมีชีวิตอยู่ )และพี่ป้าน้าอาทางโน้น...

อากอเป็นหนุ่มก็แต่งงานกับหญิงสาวชาวฮ่องกงคนหนึ่ง ...อากอเลยย้ายไปอยู่ฮ่องกงและทำธุรกิจที่นั่น ได้เดินทางมาเมืองไทยบ่อย ๆ จนสุดท้ายก็มาซื้อบ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ ย้ายครอบครัวมาเมืองไทยในที่สุด...

หลังจากนั้นเขาก็เลยออกตามหาญาติด้วยรูปถ่ายของแม่กับที่อยู่เดิมของตากับยาย...
จนมาพบแม่ตามที่เล่าข้างบน...

อากอเสียชีวิตเมื่อสิบปีก่อนด้วยโรคไตวายเฉียบพลันค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุก ๆ คอมเมนต์นะคะ

ช่วงนี้ญาติเสียอีกคนหนึ่ง...งานศพอยู่ใกล้ ๆ บ้าน คงไม่ได้อัพบล็อกอีกหลายวัน ยังไง ๆ ขอแช่ไว้ที่บล็อกนี้ก่อนนะคะ


โดย: แม่ไก่ วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:34:55 น.  

 
สวัสดีครับแม่ไก่
ภาพดอกโบตั๋น สวยงามมากครับ
พึ่งเคยเห็นครับ



โดย: ดอกเสี้ยวขาว วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:00:54 น.  

 
สวัสดีครับคุณแม่ไก่

คุณนี่เป็นยอดนักอ่านจริงๆเลยนะครับ

คุณอ่านนิยายเรื่อง ไร้เลือด หรือยังครับ เป็นเรื่องแปลเล่มบางๆ ที่คุณงามพรรณ แปลน่ะครับ

ผมเพิ่งอ่านไม่นานมานี้แล้วชอบวิธีเล่าเรื่องของเขาจัง

ไม่ทราบว่าคุณอ่านแล้วหรือยัง ถ้าอ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ ?


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:15:04 น.  

 


นำบุญมาฝากค่ะ มีแต่ความสุขมากๆ นะคะ
ทิวาอ่านเรื่อง " ผ้าทอง " อยู่ค่ะ ไว้จบแล้วจะอ่านเรื่องกนกลายโบตั๋นต่อค่ะ ขอบคุณที่แนะนำนะคะ


โดย: ทิวาจรดราตรี วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:34:02 น.  

 

ผมเคยอ่านเรื่องนี้ครับ

และเห็นด้วยกับคุณแม่ไก่ครับ

ว่าเค้าเป็นเพชรของวรรณกรรมเล่มหนึ่งเลยทีเดียว

ที่เค้าเอามาทำเป็นละคร
ผมก็เลยดีครับ

เป็นเรื่องที่ดีมากเรื่องหนึ่งเลยเนอะ

เหมือนจิตกรรมที่ฟ้าไม่เจตนา

สร้างกนกมาเปรียบดอกโบตั๋น

งามสวยทั้งคู่... แต่ไม่อยู่คู่กัน


ร้องเพลงโชว์เลย


โดย: ธรรม (ห่วงใย ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:4:03:16 น.  

 


โดย: นายแจม วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:18:19 น.  

 
คุณแม่ไก่มาชวนไปเขียน บล็อกนี้นะครับ

//gotoknow.org

สนใจมั้ย...


โดย: กวินทรากร วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:18:17 น.  

 
น่าอ่านจังเลยค่ะ


โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:9:11:12 น.  

 
สวัสดีวันจันทร์ค่ะแม่ไก่
มีความสุขทุกวันนะคะ


โดย: ดอกคูณริมฝั่งโขง วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:11:44:55 น.  

 
แม่ไก่มีของดีมาฝากอีกแว้ว...


โดย: kiimujii วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:17:04:09 น.  

 

มาอีกทีแล้วกราบงามๆ 3 หน


โดย: กวินทรากร วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:17:25:53 น.  

 
ชอบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ คุณแม่ไก่อ่านเรื่องกรอบไม้ลายรักของคุณช่อลัดา(ถ้าจำไม่ผิด) หรือยังคะ ตัวละครน่ารักไม่แพ้ กนกลายโบตั๋นและกิ่งไผ่ใบรักนะคะ คุณแม่ไก่ไม่คิดจะรีวิวเรื่องกำลังภายในบ้างเหรอคะ สนุกดีนะ ตู้หนังสือนิยายที่บ้านมีเรื่องที่คุณแม่ไก่รีวิวแล้วเกือบทุกเรื่องค่ะ


โดย: ลูกปัดแก้ว วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:22:00:50 น.  

 


เรื่องนี้เคยอ่านนานมากกกกกจนลืมไปแล้ว

เคยเป็นละครทีวีดูแล้วประทับใจมากกกกก แต่ก็นานจนลืมไปแล้วเช่นกัน

วันนี้ได้กลับมาอ่านเรื่องย่ออีกครั้ง ประทับใจมากค่ะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ



โดย: ยายกุ๊กไก่ วันที่: 2 มิถุนายน 2551 เวลา:22:01:20 น.  

 
สวัสดีเจ้าแม่ไก่ สบายดีน่อเจ้า

อ่านเรื่องย่อละม่วนดีแต้เจ้า ถ้ามีโอกาสท่าจะไปเซาะมาอ่านพ่องละเจ้า แม่ไก่ดูแลรักาสุขภาพและมีความสุขนักๆเน่อเจ้า


โดย: แม่เฮือน วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:2:06:14 น.  

 
สวัสดีค่า...
เพิ่งเสร็จสิ้นงานศพญาติค่ะ
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะเวียนมาทายทักนะคะ ขออนูญาตตอบคำถามบางท่านนะคะ

คุณพ่อพเยียคะ แม่ไก่ยังไม่เคยอ่านไร้เลือดค่ะ เคยอ่านแต่"ไหม"ของนักเขียน นักแปลคนเดียวกัน ประทับใจวิธีเล่นคำ เล่นสำนวนของนักเขียนคนนี้อยู่เหมือนกันค่ะ สั้น ๆ ซ้ำ ๆ แต่กินใจ คงได้ไปหาไร้เลือดมาอ่านมั่งแล้ว

คุณกวินฯเจ้าขา เรื่องอะไรมากราบอิฉัน เดี๋ยวได้อายุสั้นกันพอดี อิอิ เรื่องที่ชวนไปเขียนบล็อกที่อื่น ...แหะ ๆ แค่นี้แม่ไก่ก็หลังยาววววว....แล้วล่ะค่ะ ขอบอกว่าไม่ใช่คนขยันเขียนเลย ปกติขยันอ่านอย่างเดียว แต่ที่มาเขียนมาเล่นที่นี่...คงเป็นเพราะความผูกพันกระมังคะ เพราะตั้งแต่เล่นเน็ตเป็นก็เข้าแต่พันทิปมาตลอด...โลกไซเบอร์ของอิฉันจึงแคบมาก ๆ แคบแค่พันทิปนี่เอง

คุณลูกปัดแก้วคะ เรื่องกรอบไม้ลายรักมีอยู่บนชั้นค่ะ แต่ไม่ใช่เรื่องที่ชอบที่สุดของช่อลัดา จึงยังไม่ได้หยิบมาอ่านและเล่าลงบล็อกน่ะค่ะ แหะ ๆ นิยายกำลังภายในแม่ไก่มิบังอาจรีวิวอ่ะ...(อ่านเยอะอยู่ค่ะ ชื่นชอบด้วย...)เพราะสำนวนเขามีแบบอย่างที่เฉพาะตัวมาก ๆ ...มิกล้า มิกล้า...

ขอบคุณทุก ๆ คอมเม้นท์อีกครั้งค่ะ


โดย: แม่ไก่ วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:10:09:05 น.  

 
แวะมาขออนุญาต add blog นะคะ วันหลังจะได้ไม่ต้องอ่านเอง มาอ่านที่คุณแม่ไก่รีวิวไว้ก็เหมือนได้อ่านเอง อิอิ


โดย: ลูกปัดแก้ว วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:20:11:34 น.  

 
เกยฝ่อตอนเป็นละครเจ๊าม้วนขนาดเลย


โดย: มุกสีทอง วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:22:01:46 น.  

 
วันนี้ได้มีโอกาสไปฟังเพลงจากเพื่อน blog เพลงกนกลายโบตั๋นอินอย่างบอกไม่ถูก เพราะเคยฟังครั้งแรกเมื่อยังเป็นเด็ก ไม่รู้ว่าเพราะ เพราะอย่างไรถึงลึกซึ้งนัก แต่ตอนนี้เมื่อฟังแล้ว แค่เพลงก็รู้สึกได้อารมณืร่วมที่แปลกไปจากทุกวันทั้งที่ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้

ได้มาอ่านทั้งเรื่องย่อ และเรื่องที่เกิดขึ้นจริงของ จขบ แล้ว น้ำตาก็เอ่ออีก โดยเฉพาะตอนที่ จขบ บอกว่า ชายคนนั้นก็ทรุดตัวลงไหว้ มันเป็นอะไรที่น่ารัก และทราบซึ้งซะเหลือเกิน เห็นทีต้องแวะมาอ่านบ่อยๆ ชอบการวิเคราะห์เรื่องแบบนี้นะคะ แบบยกประโยคมา เพราะบะหมี่เชื่อว่าคนที่มีความประทับใจกับเนื้อเรื่องย่อมต้องมีประโยคที่ประทับใจและอยากกจะบอกต่อแน่ๆ

ฝันดีนะคะ


โดย: บะหมี่น้ำแสนอร่อย วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:21:51 น.  

 
ฟังเพลงจากเว็ยคุณ sawkitty ค่ะ


โดย: บะหมี่น้ำแสนอร่อย วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:24:25 น.  

 
ขออนุญาตแม่ไก้นำข้อความเรื่องย่อของกนกลายโบตั๋ยไปแปะที่เว็บด้วยนะคะ

ขอบพระคุณนะคะ


โดย: บะหมี่น้ำแสนอร่อย วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:19:53:19 น.  

 
^
^
ด้วยความยินดีค่ะคุณบะหมี่ ฯ ตามไปฟังเพลงด้วยโดยพลัน


โดย: แม่ไก่ วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:20:22:19 น.  

 
ขอบคุณมากมากเลยนะคะ



โดย: บะหมี่น้ำแสนอร่อย วันที่: 9 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:29:50 น.  

 
ชอบนิยายและละครเรื่องนี้มากๆ และสุขใจทีพระเอกนางเอกเขาได้มาแต่งงานกันจริงๆ ทุกวันนี้ทั้งคู่เป็นคู่รักที่น่าชื่นชมมากเป็นตัวอย่างความรักที่ดีๆ

ขอบคุณเจ้าของเว็บนี้นะคะ
นวล.............


โดย: นวล ทองคำแท้ IP: 58.9.183.190 วันที่: 13 กันยายน 2552 เวลา:22:26:13 น.  

 
ชีวิตเราไม่ได้โชคดีอย่างในละครหรอกค่ะ เรามีแฟนเป็นคนสิงคโปร์(เชื้อสายจีน) เรารักกันมากแต่ก็ไม่ได้แต่งงานกัน (เพราะสาเหตุที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง) และตอนนี้เราก็ห่างกันด้วยค่ะ คือเราอยู่เมืองไทย แฟนอยู่สิงคโปร์ ได้แต่โทรศัพท์คุยกันเท่านั้น เวลาแฟนไม่สบาย เรารู้สึกเหมือนใจจะขาด เป็นห่วงมากเลยค่ะ ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่จะได้อยู่ด้วยกันอีก อดทนกับเวลาที่เหงายาวนานเพื่อจะรอว้นที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน คงไม่นานหรอกนะ I love You so much Scott Lee Ann from Pin Yosamon


โดย: ปินค่ะ IP: 192.168.0.61, 58.10.128.129 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:35:17 น.  

 
เข้ามาดูคลิป แล้วเลยตามเข้ามาถึงหน้านี้ เคยดูละครเรื่องนี้ประทับใจมาก จำชื่อนางเอกไม่ได้ จำได้แต่ชื่อพระเอกที่นางเอกเรียกว่า " พี่ซูหลิน " จำได้ว่า ปรียานุช และ นพพล แสดงดีมาก จนคิดว่า คุณนพพล เป็นคุณซูหลินจริงๆ แล้วต่อมาก็ได้ทราบว่า คุณนพพลกับคุณปรียานุชได้ร่วมชีวิตกัน ในใจคิดเสมอมาว่า ความรักของสองคนนี้คงเริ่มต้น จากการแสดงละครเรื่องนี้ด้วยกัน (ผิดถูกอย่างไร ขออภัยด้วยนะคะ เพราะคิดเอาเอง) ขอบคุณที่กรุณาเล่าเรื่องย่อในละครมาให้อ่าน แต่จำไม่ได้ว่า เรื่องนี้จบอย่างไร พระเอกกับนางเอกได้แต่งงานกันหรือไม่ ใครทราบช่วยบอกด้วย จะขอบคุณอย่างยิ่งเลยค่ะ


โดย: สำรวย IP: 115.87.70.34 วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:11:29:12 น.  

 
ชักอยากอ่านบ้างแล้วล่ะครับ


โดย: อั๋น IP: 180.180.154.126 วันที่: 17 เมษายน 2556 เวลา:2:32:56 น.  

 
ขอบคุณค่ะ อ่านเพลิน และประทับใจกับเรื่องราวของคุณแม่ที่หลานชายมาหา เรื่องกนกลายโบตั๋นจบแบบไหนคะ หาดูยากมาก


โดย: C. THANATTHEERAKUL IP: 49.228.178.237 วันที่: 7 ตุลาคม 2566 เวลา:12:23:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.