ฮานาเล ~ กีรติ ชนา
|

ฮานาเล ผู้เขียน : กีรติ ชนา จัดพิมพ์โดย สนพ.อรุณ กันยายน ๒๕๔๔
เรื่องย่อ :
เมื่อตรังค์ สำเร็จการศึกษา เขาไม่ได้กลับบ้านเพื่อสืบทอดธุรกิจทันทีดังที่บิดามารดามุ่งหวัง หากเขาขอเวลาทำงานพิเศษด้านการท่องเที่ยวที่เกาะฮาวายต่อ เพราะต้องการประสบการณ์ชีวิตที่กว้างกว่าเดิม จากงานนำเที่ยวหมู่เกาะที่เขาทำอยู่ทำให้ได้พบกับเลลานี - - หญิงสาวชาวฮาวาย (ผู้มียายเป็นคนไทย) เลลานีเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชั้นแนวหน้าแห่งเกาะคาไว เธอต่อต้านธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างหัวชนฝา จนถึงขั้นแตกหักกับเพื่อนและญาติสนิทที่ทำธุรกิจดังกล่าวมาแล้ว...
เส้นทางแห่งความเข้าใจและความรักของหนุ่มสาวทั้งสอง จะประสานสอดคล้องกันได้อย่างไร... ในความขัดแย้งดังกล่าวข้างต้น

จากคำนำสำนักพิมพ์ :
ใครที่ไม่เคยคิดอยากจะไป ฮาวาย มาก่อนเลยในชีวิต เพราะรู้สึกว่า หาดทรายและท้องทะเล บ้านเราก็มี และสวยที่สุดอยู่แล้ว ถ้าได้มาอ่าน "ฮานาเล" อ่านไปก็จะเริ่มรู้สึกว่า น่าไปเที่ยว โดยเฉพาะที่ เกาะคาไว ที่เป็นฉากของเรื่องนี้ทั้งเรื่อง และถ้าไม่เคยรู้สึกอะไรกับ ซูนามิ คลื่นยักษ์เลย เพราะบ้านเราไม่มี จึงดูเป็นเรื่องห่างไกลตัว แต่ "ฮานาเล" ก็ทำให้ตื่นเต้นหวาดกลัว และเห็นถึงพิษสงของเจ้าคลื่นยักษ์นี้ ขณะเดียวกัน กีรตี ชนา ก็ทำให้เรารู้สึกถึงความมหัศจรรย์ ของธรรมชาติอย่างเหลือเกิน ยิ่งบวกกับรักแท้ ของสาวฮาวายกับหนุ่มไทย พระ - นางในเรื่องด้วยแล้ว ยิ่งทำให้มั่นใจว่า คุณผู้อ่านจะต้องรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอน เมื่ออ่านจบ...
  
และบางส่วนจากคำนำผู้เขียน :
"ผู้เขียนได้สัมผัสเกาะคาไว เป็นครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๓๐ ความประทับใจที่มีต่อเกาะเล็กๆ กลางมหาสมุทรแปซิฟิกนี้ ทำให้สัญญากับตัวเองว่า วันหนึ่งจะต้องกลับมาใช้ชีวิต เพื่อเขียนนวนิยายที่เกาะนี้ เกือบสิบปีหลังจากนั้น ผู้เขียนก็ได้ทำดังที่ใฝ่ฝันไว้จริงๆ
ความตั้งใจครั้งแรกว่า จะอยู่เพียงปีเดียว ซึมซับความสดชื่นรื่นรมย์ของธรรมชาติพอแล้ว ก็จะกลับไปแคลิฟอร์เนีย ที่คุ้นเคยมานานกว่าครึ่งชีวิต
มาถึงวันนี้ นับเป็นเวลากว่า สามปีครึ่งแล้ว ยังทำใจที่จะบอกลาเกาะคาไวไม่ได้ เสน่ห์ของดินแดน ที่เขียวชอุ่มงดงามนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ตัวละครในนวนิยายเรื่อง 'ฮานาเล' เท่านั้นที่หลงใหล ผู้เขียนก็หลงรักขุนเขา หาดทราย ชายทะเล ลำธาร น้ำตก และรู้สึกว่า ตนเองเป็นชาวเกาะคาไวไปแล้ว"
  
ชวนคุยค่ะ...
หนีบรรยากาศอันร้อนระอุรอบ ๆ ตัว ไปเที่ยวยังที่ที่ไกลแสนไกล... มีกลิ่นอายของท้องทะเลและคลื่นลมกันดีกว่า...
นิยายเรื่องนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นไพรัชนิยายอีกเรื่องหนึ่งก็ว่าได้ เพราะฉากของเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นที่เกาะคาไว...เกาะที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งผู้เขียนก็ได้บรรยายภาพของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และบรรยากาศของสถานที่ได้อย่าวละเอียดลออ จนแทบจะนึกภาพตามได้อย่างจะแจ้ง
มีทั้งภาพความขัดแย้ง และการต่อสู้กันของนักธุรกิจผู้มองเห็นแต่ผลประโยชน์ที่จะได้จากธรรมชาติ กับกลุ่มคนในพื้นที่ที่หวงแหน และทนุถนอมธรรมชาติในบ้านเกิดของตน และต้องการจะอนุรักษ์ไว้ให้ลูกหลานได้ร่วมรับรู้ถึงคุณค่าของมันตราบนานเท่านาน...
ตลอดจนภาพของภัยธรรมชาติที่รุนแรงอย่างซูนามิ...คลื่นยักษ์ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย นับไม่ถ้วน... (ผู้เขียนเขียนเรื่องนี้เมื่อประมาณปี ๒๕๔๔ ซึ่งในขณะนั้นเรื่องราวของคลื่นยักษ์ซูนามิ ยังเป็นเรื่องไกลตัวมาก ๆ สำหรับคนไทย...)
แม้จะเป็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่ผู้คนที่อยู่กับท้องทะเลมาตลอดชีวิตอย่างชาวเกาะคาไวก็ไม่เคยก่นโทษธรรมชาติในความเสียหายรุนแรงที่พวกเขาได้รับ...
ถึงตอนนี้ผู้เขียนก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกของตัวละครได้อย่างเข้าถึงและเข้าใจ
แต่...(ต้องมีแต่สิน่า...)สำหรับคนอ่านนิยายที่ต้องการความเป็นนิยายจริง ๆ แล้ว ดูเหมือนว่าอาจจะต้องผิดหวังนิด ๆ ส่วนตัวอ่านนิยายของนักเขียนท่านนี้เล่มนี้เป็นเล่มที่สอง เรื่องแรกคือ "บ่วงบรรจถรณ์" ซึ่งอ่านแล้วก็ชอบมากในระดับหนึ่ง เพราะเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องราวที่มาจากจินตนาการล้วน ๆ
แต่ในเรื่องนี้ ดูเหมือนผู้เขียนจะพยายามมากไปหน่อยในการสอดแทรกสาระ ความรู้ทั้งทางด้านภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์ ตลอดจนจริยธรรมคุณธรรมของตัวละครไว้ในเรื่อง... ทำให้การดำเนินเรื่องออกจะอืดอาดไปสักนิด
และตัวละครอย่างพระเอกนางเอกในเรื่องก็ช่างเป็นพระนางที่สมบูรณ์แบบเหลือเกิน... แม้จะมีปมเรื่องชาติกำเนิดของนางเอก ที่บังเอิญมาพัวพันเข้ากับมารดาของพระเอกได้อย่างไม่น่าเชื่อ... แต่นั่นก็ไม่ได้เพิ่มสีสันให้กับนิยายสักเท่าไหร่เลย...
จุดที่สะดุดอีกนิดหนึ่งของนิยายเรื่องนี้น่าจะเป็นตอนที่เพื่อนพระเอกชาวฮาวายเล่าถึงที่มาหรือแรงบันดาลใจของเพลงพัพฟ์ เดอะเมจิกดราก้อนนั่นเอง... เขาเล่าว่าปีเต้อร์ พอลและแมรี่เขียนเพลงนี้ที่ "ฮานาเล" นั่นเอง "...คำว่าพัพฟ์คือลักษณะของการดูดกัญชาไง พวกฮิปปี้จะชอบอะไรมากไปกว่าการดูดกัญชาเป็นไม่มี... แล้วเพลงก็ร้องว่า มังกรกายสิทธิ์อาศัยอยู่ริมทะเล มีความสุขอยู่กับละอองหมอกของฤดูหนาว ในดินแดนชื่อฮานาเล"
(ได้ฟังเพลงนี้มาตั้งแต่เป็นเด็กเล็ก ๆ เข้าใจมาตลอดว่า Puff เป็นชื่อของเจ้ามังกรวิเศษตัวนั้น....เอ๋...เราเข้าใจผิดหรือเนี่ย)
**********
คุยท้ายบล็อก ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเป็นชิ้นเป็นอันเลยค่ะ (แหะ ๆ ติดซีรียส์หนึบหนับไม่หลับไม่นอนมาเป็นเดือนแล้ว...) แต่วันก่อนได้ดูรายการทีวีอะไรสักรายการหนึ่ง พูดถึงหมู่เกาะฮาวาย... แล้วบังเอิ๊ญ...วันหนึ่งน้องสาวก็หยิบหนังสือเล่มนี้ลงจากชั้นแล้วไม่เก็บเข้าที่ จึงหยิบมาพลิก ๆ อ่าน เห็นว่าอ่านได้เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ดี น่าจะคลายร้อนได้ในระดับหนึ่ง เลยขอนำมาบอกเล่าลงบล็อก...คั่นเวลา
|
Create Date : 23 เมษายน 2552 |
Last Update : 3 มิถุนายน 2552 15:43:27 น. |
|
20 comments
|
Counter : 4767 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: JewNid วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:14:36:38 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:14:45:06 น. |
|
|
|
โดย: fondakelly วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:20:32:02 น. |
|
|
|
โดย: นัทธ์ วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:22:17:23 น. |
|
|
|
โดย: กุลธิดา IP: 68.216.104.3 วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:22:50:43 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:8:00:33 น. |
|
|
|
โดย: Boyne Byron วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:9:57:40 น. |
|
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:14:53:07 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 เมษายน 2552 เวลา:7:56:29 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:8:09:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:7:55:49 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 เมษายน 2552 เวลา:22:25:06 น. |
|
|
|
โดย: pimpa_11 วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:12:51:04 น. |
|
|
|
โดย: lalabel วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:06:12 น. |
|
|
|
โดย: ลูกปัดแก้ว วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:21:36:23 น. |
|
|
|
โดย: nok218 IP: 12.157.113.2 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:14:13:37 น. |
|
|
|
โดย: แม่ไก่ วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:21:13:48 น. |
|
|
|
โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 19 ตุลาคม 2552 เวลา:20:27:32 น. |
|
|
|
| |
|
|
........
สำหรับเพลงพัฟฟ์ .. ที่พูดถึงความหมายของเพลงนั้น
ในแง่ความหมายที่แปลมาเรื่องของกัญชานั้น
พู่ก็ได้ยินแบบหนังสือเค้าพูดถึงเอาไว้ในหนังเรื่อง Meet the parents
น่ะค่ะพี่แม่ไก่