|
ขอเกริ่นก่อน...
อย่างที่เคยบอกไว้ที่ไหนสักแห่ง...ว่า..จขบ.เริ่มติดนิสัยรักการอ่านด้วยนวนิยาย ด้วยอ่านนิยายเป็นตั้งแต่เริ่มอ่านหนังสือออก จำได้ว่าอยู่ประมาณประถมสอง...อ่านนิยายทุกเล่ม ทุกเรื่องที่ขวางหน้าโดยไม่เกี่ยงชื่อผู้แต่ง
ในระยะนั้นรู้สึกว่าจะเริ่มจากนิยายที่ลงพิมพ์ในนิตยสารที่ พ่อ แม่ พี่สาวคนโต และน้าครูข้างบ้านรับและซื้อประจำ... ที่จำได้แม่นยำก็คือ นิตยสารรายสัปดาห์อย่าง ดรุณี (มีนิยายเยอะมาก)สกุลไทย สตรีสาร (ขอคุยหน่อยว่า...สมัยเรียนอยู่ประมาณม.1 -ม.2 จขบ.เคยส่งลำนำสั้น ๆ ไปและได้ลงในคอลัมน์วัยหนุ่ม-สาว ด้วยล่ะ ความรู้สึกเป็นปลื้มมันมีค่ามากกว่าเงินห้าสิบบาทที่ได้รับหลายเท่าตัวนัก แหะ ๆ ) แล้วก็มี...บางกอก(มีนิยายที่ออกแนวบู๊ ๆ เยอะเลย เรารู้จักร้อยป่า กับชุมแพ จากที่นี่เอง ต่อมาภายหลังเขาออกนิตยสารตามมาอีกหนึ่งฉบับคือทานตะวัน ซึ่งแนวนิยายจะเบาลง มีเรื่องรัก ๆ หวาน ๆ กว่านิยายที่ลงในบางกอก ซึ่งพ่อก็ตามซื้อของเขามาอ่านอีก เพราะพ่อเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของคนในตระกูล 'โรจนประภา'...)
พอมาถึงยุคของพี่สาวคนโตเรียนจบ ทำงานแล้ว ก็จะมีนิตยสารออกใหม่แนว ๆ แม่บ้านการเรือนพวกคุณหญิง ขวัญเรือน กุลสตรี หญิงไทย...พี่สาวคนโตเขาเป็นครูและชอบงานประดิดประดอย ก็รับหนังสือพวกนี้ไว้ดูพวกแพทเทิร์นนั่นนี่กับพวกลายเย็บปักถักร้อย.....ทำให้เราพลอยได้อ่านนิยายจนตาแฉะมาแต่เล็กแต่น้อย
พอคิดจะจัดกลุ่มบล็อกให้มีแต่นิย๊าย-นิยายล้วน ๆ เลยออกอาการงง ๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน อยากจะพูดถึงแต่นิยายที่ประทับใจก็ปรากฎว่าเป็นคนประทับใจอะไร ๆ ง่ายมาก...นิยายประทับใจก็เลยเยอะแยะไปหมด...
เอาเป็นว่า...จะค่อย ๆ ดึงออกมาทีละเล่ม ๆ ก็แล้วกันนะคะ อาจจะไม่ได้เรียงลำดับความเก่าใหม่...แต่เป็นนิยายที่อยู่ในใจแม่ไก่...แล้วก็ตัวหนังสือยังอยู่บนหิ้งที่บ้านไม่ได้สูญหายไปตามวัยวารก็แล้วกัน
ขอเริ่มต้นที่เล่มนี้ก็แล้วกัน อยู่ใกล้มือที่สุดแล้ว
ละครคน โดย ว.วินิจฉัยกุล สนพ.ดอกหญ้า /พิมพ์
เรื่องย่อ : แก้วใส เด็กสาวที่มาจากครอบครัวแตกแยก พ่อของเธอเป็นดาราหนุ่มรูปงาม ส่วนแม่ก็เป็นผู้หญิงที่รักความเป็นอิสระเหนือสิ่งอื่นใด
เมื่อแก้วใสเรียนจบเธอได้เข้าไปทำงานกับแม่เลี้ยงของเธอซึ่งเป็นนักธุรกิจหญิงเจ้าของธุรกิจทางด้านบันเทิง...ตรงตามสายวิชาที่เธอเพิ่งเรียนจบมา ทำให้เธอต้องก้าวเข้าไปพัวพันอยู่ในแวดวงมายาอย่างเลี่ยงไม่ได้...
เธอได้เรียนรู้ว่า...' ...ชีวิตจริงไม่เหมือนละคร มันมีทั้งความน่าเกลียดและความน่าดู มีทั้งความชั่วและความดี ปะปนกันอยู่ในชีวิตทุกชีวิต...ณ เวทีมายากว้างใหญ่แห่งนี้ เธอจะยืนหยัดสู้ด้วยใจเข้มแข็ง...เชื่อมั่น...และพยายามอดทนให้มากกว่าคนอื่น ๆ ท่ามกลางความผันแปรทั้งหลายได้อย่างไร...'
ในขณะที่เธอต้องทำหน้าที่กำหนดบทบาทให้กับตัวละครบนเวที... แต่บนเวทีชีวิตของเธอเอง...เธอจะสามารถกำหนดบทบาทของตัวเองได้หรือไม่ อย่างไร ที่จะไม่ให้ตัวเองต้องเพลี่ยงพล้ำตกลงไปในหุบเหวแห่งโลกมายา...
จากปกหลัง : นวนิยายสะท้อนข้อคิดอันคมลึก เพียงหวังเป็นสื่อประสานสำหรับเราทุกคน เพื่อเปิดใจหยิบยื่นความอบอุ่นอาทรสู่คนใกล้ชิดในครอบครัวเดียวกัน
ส่วนตัวเห็นว่า... ละครคน ได้บอกเล่าถึงละครแห่งชีวิตที่เป็นจริงในสังคม ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปรไปเช่นไร ความเป็นจริงแห่งชีวิตก็ยังคงดำรงอยู่เช่นนั้น ตราบใดที่มนุษย์ยังว่ายเวียนอยู่ในวังวนของรัก โลภ โกรธ หลง...
|