~น้ำเซาะทราย ~ นิยายชีวิตรักสามเส้า ที่ไม่เคยเก่าตามยุคสมัย โดย กฤษณา อโศกสิน
|

น้ำเซาะทราย ผู้เขียน กฤษณา อโศกสิน สนพ.ดอกหญ้า /พิมพ์ (ครั้งที่ ๕/ ม.ค.๒๕๓๙)
โปรยปก :
จริงหรือ...ที่ว่า ความรักเป็นเรื่องของจิตใจและความรู้สึก เป็นเรื่องที่ไม่มีขอบเขต ไม่มีเหตุผล เป็นความละเอียดอ่อนที่ไม่อาจหยุดยั้งข้ดขวาง
........
แล้วถ้าความรักกลายเป็นสงคราม... กลายเป็นเม็ดทรายที่ซึมซับ ความชาชินเบื่อหน่ายไว้จนเกินกำลัง อวสานของความรักบทนั้นจะเป็นอย่างไร...
.........
น้ำเซาะทราย เรื่องราวความรักของชายหนึ่ง หญิงสอง ที่เราอยากให้คุณหาคำตอบว่า...อะไรกันแน่... ที่ทำให้ความรักที่มีความหมายสำหรับใครต่อใคร...จบสิ้นลงได้...
(บางส่วน)จากคำนำสนพ. :
เรื่องราวความรักระหว่างชายหนึ่ง-หญิงสอง ที่ต้องต่อสู้แย่งชิงในสมรภูมิหัวใจ ท่ามกลางมโนธรรม ศีลธรรม และความปรารถนาเร้นลับที่ก่อตัวขึ้น
จริงหรือที่ว่าความฉลาดของมนุษย์มีน้อยกว่าความอยากอยู่เสมอ และเมื่อไรก็ตามที่ความอยากเกิดขึ้น บุคคลแม้ฉลาดเพียงใด ก็อาจจะประพฤติในสิ่งที่คนทั้งหลายลงความเห็นว่าโง่ได้โดยง่าย...

เรื่องย่อ : (ย่อเอง)
พุดกรองต้องตกเป็นม่าย ในวัย ๓๘ ปีเมื่อสามีอายุคราวพ่อเสียชีวิตลง... เธอมีเพื่อนสนิทที่รักกันมาก คบหากันมาตั้งแต่วัยเด็กคือวรรณนรี
วรรณนรีเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เธอแต่งงานแล้วกับภีม โดยการแนะนำของพุดกรอง เพราะตอนนั้นภีมทำงานเป็นเลขาให้กับคุณพร้อม สามีของพุดกรอง แต่หลังจากแต่งงานเขาก็แยกตัวออกมา ทั้งสองมีลูกสาวลูกชายอย่างละหนึ่งคน กำลังอยู่ในวัยแรกรุ่น
เมื่อสามีจากไป ลูกชายคนเดียวก็อยู่เมืองนอก พุดกรองรู้สึกเหงา แม้จะมีพงษ์สนิทมาคอยติดตามใกล้ชิดอยู่ก็ตาม... เธอเข้ามาพัวพันใกล้ชิดกับครอบครัวของวรรณนรีบ่อยขึ้น นั่นทำให้เธอได้รู้ใจตัวเองว่าแอบหลงรักสามีเพื่อนเข้าเสียแล้ว... ในตอนแรกเธอก็พยายามหลีกเลี่ยง แต่ก็หลีกไม่พ้น เมื่อภีมเองก็แสดงออกให้เธอรู้ว่าเขาก็มีใจให้เธอเช่นกัน...
ทั้งคู่ลักลอบมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ถึงขั้นไปเช่าบ้านเพื่อใช้เป็นสถานที่ที่จะสามารถอยู่ร่วมกันได้ ... แต่ความลับก็ไม่อาจเป็นความลับได้นาน พงษ์สนิทซึ่งคอยตามตื๊อพุดกรองอยู่เกิดรู้ความจริงเข้า เขารู้สึกแค้นใจจึงนำข่าวมาบอกกับวรรณนรี และยุยงให้วรรณนรีเล่นงานคนทั้งสองให้เด็ดขาด
ในตอนแรกวรรณนรีไม่อยากจะเชื่อ แต่เมื่อเธอทบทวนพฤติกรรมของภีมในช่วงหลัง ๆ ทั้งยังตามพงษ์สนิทไปดูจนเห็นกับตา เธอรู้สึกช็อค เพราะคิดไม่ถึงว่าเพื่อนสนิทกับสามีที่แสนดีจะทำเช่นนี้กับตนได้
เรื่องราวดูเหมือนจะยิ่งซ้ำร้ายเข้าไปใหญ่เมื่อพุดกรองเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา...
และในขณะเดียวกัน วรรณนรี...ที่หันมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก็เริ่มมีนายทหารยศนายพล แถมมีฐานะดีมาติดพัน... และนั่นก็ก่อให้เกิดความลังเลสับสนขึ้นในใจภีม
เรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ ของหญิงสองชายหนึ่งจะลงเอยอย่างไร... อยากชวนให้ติดตามได้ในหนังสือนิยายเล่มหนาปึกเล่มนี้ค่ะ

นิยายชีวิตที่เข้มข้น แต่สะท้อนภาพความเป็นจริงในสังคมที่แม้กาลเวลาจะผันผ่านไปนับสิบปี เรื่องราวเหล่านี้ก็ยังคงเกิดขึ้น และร่วมสมัยอยู่เสมอ ตราบใดที่มนุษย์ยังคงปล่อยให้กิเลสเป็นตัวกำหนดและชี้นำชีวิตมากกว่าสติปัญญา...
หนังสือต่างจากละคร และละเอียดลออกว่ามากมายหลายเท่านัก... ในละครเราจะเห็นภาพชัดเจนว่าใครคือนางมารร้าย ใครคือนางเอก แต่ในนิยาย โดยเฉพาะนิยายที่เขียนโดยนักเขียนชั้นบรมครูเช่นนี้ ตัวละครทุกตัวมีเหตุมีผล มีที่มาที่ไปในการกระทำของตัว ไม่มีใครดีเลิศประเสริฐศรี แต่ก็ไม่มีใครเลวจนถึงที่สุด...
อยู่ที่ใครจะค้นพบตัวเองและรู้จักรู้ใจตัวเอง และแก้ไขปมปัญหาของตัวเองได้ เท่านั้น
มีสำนวนเปรียบเปรยที่ชอบ ๆ อยู่หลายตอนมาก ... ขอหยิบยกมาวางตรงนี้...บางบทบางตอนแล้วกันค่ะ
ความคิดคำนึงของภีม...
คืนนี้เขามีอารมณ์แปลกประหลาด...คล้าย ๆ เจดีย์ทรายที่เด็ก ๆ ก่อไว้ตามหาด ทุก ๆ วันจะมีคลื่นเล็ก ๆ ทยอยกันเข้ามาเซาะซัดอย่างบางเบา น้ำส่วนหนึ่งซึมซาบเข้าไปตามฐานเจดีย์นั้นและเม็ดทรายแต่ละเม็ดได้อุ้มน้ำไว้ มองเผิน ๆ มันยังคงเป็นรูปร่างเจดีย์ที่น่าดู แต่หากพิจารณาก็จะเห็นว่าทรายได้อุ้มน้ำไว้มากจนจะเกินกำลัง และเมื่อใดที่มันชุ่มน้ำเต็มที่ อวสานแห่งความเป็นเจดีย์ของมันก็จะมาถึง...
นี่เองกระมังที่เป็นที่มาของชื่อนิยาย น้ำเซาะทราย

ความรู้สึกนึกคิดของพุดกรอง
...พุดกรองเกลียดคำติฉินที่ระบายสีความรู้สึกของหล่อนจนสิ้นค่า หาชิ้นดีมิได้ ดูโลกนี้ช่างอยุติธรรม จะเอากฏเกณฑ์อย่างใดมิได้กับการตัดสินขึ้นตาชั่ง ถ้าสังคมนิยมอย่างใดก็จำต้องคิดเช่นนั้น รู้สึกเช่นนั้นตลอดไปหรือ จะคิดอีกอย่างหนึ่งไม่ได้หรือไร...
คำตอบที่ชัดเจนมีอยู่น้อย......
ปัญหาเล็ก ๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ขบไม่แตก ชวนให้เจ้าของปัญหาบ้าคลั่งเสียใจ ไม่ต้องอะไรหรอก เพียงแต่โยงใยไปถึงลูกเขาเมียเขา หล่อนก็จำต้องบีบตัวเองให้ลีบเล็ก แล้วมอบที่ทางใหญ่โตกว่าส่งคืนเจ้าของ...คนเราเหลือค่าตรงที่รู้จัดคืน...
มีนักเขียนไม่กี่ท่านที่สามารถบอกเล่า บรรยายถึงความรู้สึกของ"ตัวร้าย"ในนิยายได้... ชวนให้เข้าใจ เห็นใจได้เช่นนี้...

หรืออย่างในความคิดคำนึงของวรรณนรี...
...เช้าขึ้นดวงอาทิตย์ส่องแสง เครื่องจักรชีวิตเริ่มหมุนไปตามฟันเฟืองของมัน บางครั้งเครื่องจักรนั้นหยุด...เอ๊ย...ขาดตกบกพร่อง ขึ้นสนิม เป็นหน้าที่ของผู้ใช้ต้องแก้ไขความขัดข้องด้วยศิลปะและความชำนาญ เป็นความจำเป็นใหญ่หลวงที่จะต้องทำให้มันเดิน... วรรณนรีอดนึกชังแขน ขา หัวใจที่กำลังทำงานอยู่ในกายตนไม่ได้ ชังที่ว่ามันไม่ยอมให้หล่อนพัก ไม่ยอมให้หล่อนท้อ...
ใจของวรรณนรีจะขาดเสียให้ได้...กับคำว่า...อยู่ต่อไป
สะเทือนใจค่ะ
  
ไม่ผิดหวังจริง ๆ ที่หยิบเล่มนี้มาอ่าน หลังจากที่เลือกอยู่นาน กับนิยายเล่มหนา ๆ ที่วางอยู่บนชั้นสี่ถึงห้าเล่ม... เพื่อนำมาตอบโจทย์ข้อที่กำหนดจำนวนหน้าเป็นหลัก แถมมีโบนัสสำหรับจำนวนหน้าที่เพิ่มจากที่กำหนดไว้ด้วย...
สารภาพเลยว่า ที่เลือกหยิบเล่มนี้เพราะเคยดูละครทีวี พอรู้เรื่องราวเนื้อหามาบ้างแล้วคิดว่าคงอ่านลวก ๆ ได้
แต่...เมื่อลงมืออ่านเข้าจริง ๆ ก็รู้ว่าตัวเองคิดผิดไปถนัด เพราะเอาเข้าจริง ไม่สามารถอ่านผ่าน ๆ ไปอย่างใจคิดเลยค่ะ ทั้งการดำเนินเรื่อง ทั้งตัวละครในเรื่อง ตลอดถึงสำนวนภาษาของผู้เขียนจะตรึงสายตา และอารมณ์ของผู้อ่านไห้ร่วมดำเนินไปกับเรื่องราวจนตลอดทั้งเล่ม...
บางจุดบางตอนอาจจะต้องย้อนกลับไปทบทวนอีกครั้งเสียด้วยซ้ำ...
อย่างที่คุยไว้ข้างบนว่าหนังสือต่างจากละครมากมาย... เล่มนี้พิสูจน์ความจริงข้อนี้ได้อย่างชัดเจนที่สุด ต้องขอบคุณเกมอ่านหนังสือกับโจทย์ข้อนี้กระมังที่ทำให้เราไม่พลาดวรรณกรรมสุดคลาสสิคเล่มนี้ไปได้

***เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ   
|
Create Date : 23 มีนาคม 2554 |
Last Update : 23 มีนาคม 2554 12:34:29 น. |
|
13 comments
|
Counter : 55172 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: กุลธิดา (kdunagin ) วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:23:10:14 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:6:14:32 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:11:13:53 น. |
|
|
|
โดย: บ่าบี๋ วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:11:40:44 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:13:40:36 น. |
|
|
|
โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:21:42:30 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:5:56:56 น. |
|
|
|
โดย: nikanda วันที่: 8 เมษายน 2554 เวลา:22:07:21 น. |
|
|
|
โดย: คืนสู่เหย้า IP: 180.183.17.120 วันที่: 17 มกราคม 2556 เวลา:21:05:51 น. |
|
|
|
โดย: คนดู IP: 49.229.97.58 วันที่: 27 เมษายน 2560 เวลา:23:31:53 น. |
|
|
|
| |
|
|
เดี๋ยวลองแว่บๆ ไปดูในงานหนังสือดีกว่า เผื่อจะเจอ จขบ. เขียนซะเราอยากอ่านขึ้นมาเลยล่ะค่ะ