'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

~ รักโอเวอร์โหลด ~ "อรพิม"





รักโอเวอร์โหลด
ผู้เขียน : อรพิม
พิมพ์โดย : สนพ.พิมพ์คำ
(ครั้งแรก มี.ค. 2552)

...แบกน้ำหนักเหนื่อยนัก แบกรักไม่หนักเลย...


โปรยปกหลัง (เรื่องย่อ)


เพราะนิสัยปากเสียแท้ๆ ทำให้ ชญานิศ นางแบบสาวชื่อดัง
เผลอไปพูดจาดูถูกคนอ้วนอย่างลลนาเข้า ที่วัดแห่งหนึ่ง
สาวเจ้าของร้านข้าวขาหมูโมโหจัด นึกอยากให้อีกฝ่ายได้ลิ้มรสชาติการมีชีวิตแบบคนอ้วนดูบ้าง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงบันดาลให้ทั้งคู่สลับร่างกัน
...เรื่องราวอลหม่านจึงเกิดขึ้นเมื่อทั้งคู่ต้องเปลี่ยนชีวิตชนิดสุดขั้ว
สาวอ้วนในร่างผอมต้องไปเดินแบบและเล่นละคร
ส่วนสาวผอมในร่างอ้วนต้องทุกข์ทรมานอยู่ในรูปกายที่ตนชิงชัง
มิหนำซ้ำยังมีรักหลายเส้าเข้ามาพัวพันจนทั้งคู่ต้องหาทางคืนร่างเดิมให้เร็วที่สุด
ก่อนทุกอย่างจะสายเกินแก้






คุยกันหลังอ่านจบ...

อ่านสนุกค่ะ พล็อตเก๋เชียว
ไม่ได้เก๋ตรงการสลับร่าง เพราะมีให้อ่านหลายเรื่องแล้ว
แต่เก๋ตรงที่จับคนอ้วนกับคนผอมที่อุปนิสัยต่างกันสุดขั้วให้มาสวมบทบาทของกันและกัน

ในตอนแรกต่างฝ่ายต่างก็ยากจะยอมรับได้
แต่ในเมื่อเหตุมันเกิดขึ้นแล้ว ระหว่างที่ยังไม่มีวิธีแก้ไข
ทั้งคู่ก็จำต้องยอมรับสภาพและพยายามปรับตัวห้เข้ากับร่างและบทบาทใหม่ของตัวเอง

ชญานิศหรือโมญ่าคนผอมที่รังเกียจคนอ้วน...แต่จำต้องทนอึดอัดอยู่ในร่างอ้วน ๆ
ก็พยายามดูแลร่างที่ตัวเองอาศัยอยู่ด้วยการบำรุงผิวพรรณ ลดน้ำหนัก
และออกกำลังกายอย่างเอาเป็นเอาตาย...
ทำให้ร่างเจ้าเนื้อค่อยเพรียวลงจนมีอกมีเอวกับเขาบ้าง...

ส่วนโอ๋-ลลนา... (คนแต่งเรื่องนี้ต้องเกิดในยุค"วัยอลวน"กำลังเฟื่องแน่ ๆ เลย...) คนอ้วนที่เคยชินต่อการทำอะไรหนัก ๆ หน่วงๆ ตามประสาคนตัวใหญ่นั้นก็ค่อย ๆ ปรับตัว...
แม้จะแอบกินอาหารที่ชอบหลายอย่างแต่นั่นกลับเป็นผลดีต่อเจ้าของร่างที่ทำให้ร่างบาง ๆ นั้นดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น ไม่ผอมแห้งจนเกินไป

แต่จุดที่สำคัญของการสลับร่างกันครั้งนี้ ซึ่งกลายเป็นบทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับหญิงสาวทั้งสองคน อยู่ตรงที่ทั้งคู่สามารถแก้ไข ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีบางอย่างของแต่ละฝ่ายได้ ทั้งยังรู้จักการเรียนรู้ที่จะมีน้ำใจต่อผู้อื่น ไม่เอาแต่ใจตัวหรือตามใจตนเองเหมือนเช่นเคย

เล่มนี้เชียร์อย่างแรงสำหรับสาวเจ้าเนื้อทั้งหลายค่ะ...พระเอกน่ารักซะไม่มี
มีสองคู่ค่ะ...
น่ารักกันคนละแบบ...ลุ้นทั้งสองคู่เลย
(ทั้ง ๆ ที่คนเขียนเขาหลอกให้เราเข้าใจผิดอยู่เป็นนาน 55)


"รักโอเวอร์โหลด" อ่านเพื่อตอบโจทย์ "เหมันต์ขยันอ่าน" ข้อ 5-1.[แก้วกังไส + หมูย้อมสี + แม่ไก่] อ่านหนังสือที่กล่าวถึงปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ เช่น การระลึกชาติ คำสาป เวทย์มนตร์คาถา ฯลฯ ค่ะ

เล่มนี้เป็นเล่มแรกของ"อรพิม"ที่ได้อ่าน... ชักติดใจ เลยคว้า"ทางแสงดาว"มาอีกเล่ม อ่านจบแล้วแต่ยังหาโจทย์ลงไม่ได้...จริง ๆ แล้วเข้าได้หลายโจทย์ทีเดียวแหละ แต่คนอ่านยังลังเลอยู่ด้วยความงกคะแนนนั่นเอง อิอิ





**เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ








 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2552 12:11:20 น.
Counter : 2649 Pageviews.  

~ ความรักเจ้าขา ~ "ดวงตะวัน"





ความรักเจ้าขา
ผู้แต่ง ดวงตะวัน
ผู้พิมพ์ สนพ.ดวงตะวัน






เรื่องย่อจากเว็บ"ดวงตะวัน"

นกฮูกมีความปรารถนาสองอย่างเมื่อเรียนจบกลับมาจากเมืองนอก
คือหนึ่ง หล่อนฝันอยากเป็นนักเขียนนิยาย
และสอง หล่อนอยากออกไปใช้ชีวิตอิสระนอกบ้านพ้นไปจากอ้อมอกของพ่อ แม่ และยาย

แน่นอน ไม่มีใครยอม !
นาทและเบญจางค์ พ่อและแม่ของหล่อนแม้หย่ากันแล้วก็ตาม
แต่ไม่มีใครยอมปล่อยมือจากลูกสาวดุจคนที่ต้องการ “แข่ง” กันอยู่ในที
แต่ในที่สุด นกฮูกก็บินออกจากกรงได้ด้วยความช่วยเหลือของคุณชูศรี ผู้เป็นยาย
ที่ตัดสินใจให้หลานสาวไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านซึ่งเธอและ “กิ๊ก” ของเธอ ตั้งใจจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบั้นปลาย

ที่บ้านหลังนั้น นกฮูกได้พบคนในวงการหนังสืออีกสองคน คือ เจ๊โย นักเขียนสาวใหญ่
และปลาวาฬ ชายหนุ่มที่บอกว่าตนเองเป็นเมสเซ็นเจอร์อยู่ที่สำนักพิมพ์เก่าแก่ชื่อ สีทันดร

แต่อย่าคิดว่าการก้าวออกมาใช้ชีวิตตามสไตล์คนเมืองรุ่นใหม่อย่างที่เรียกกันว่า Urban tribe
จะทำให้พ่อแม่ยอมปล่อยมือจากลูกสาวได้ง่ายๆ
และเส้นทางการเป็นนักเขียนนิยายของนกฮูกจะสวยงามหวานหอมดุจปูด้วยกลีบกุหลาบ

ที่แย่ไปกว่านั้น ปัญหาสารพัดสารพันที่ว่าที่นักเขียนสาวพบเผชิญ ทั้งปัญหาเรื่องค่าลิขสิทธิ์
การลอกและขโมยพล็อต ฯลฯ นั้น นกฮูกได้รู้ในที่สุดว่ามันเป็นปัญหาเดียวกับเรื่องรัก รักที่กำลังงอกงามระหว่างหล่อนกับปลาวาฬ

ปลาวาฬเป็นคนขโมยต้นฉบับนิยายเรื่องแรกในชีวิตของหล่อนไปให้ “นู๋เจน” นักเขียนสาวดาวรุ่ง แฟนของเขา !
และเพราะปัญหางานที่กลายเป็นเรื่องเดียวกับเรื่องรักนี่เองที่ทำให้ปลาวาฬจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงว่าเขาคือใคร

...งานลุล่วง แต่...รักกลับไม่คลี่คลาย ยิ่งขมวดปมยุ่งเหยิงกว่าเดิม
เมื่อปลาวาฬและนกฮูกได้รู้ว่า ยังมีใครอีกคนที่อยู่ข้างหลังและชักเชิดเรื่องรักระหว่างเขากับหล่อนตลอดมา

ทางออกของเรื่องรักนี้จะเป็นเช่นไร โปรดติดตามใน “ความรักเจ้าขา”





ขอบคุณเรื่องย่อแบบยาว ๆ จากเว็บผู้เขียนค่ะ
เล่มนี้เป็นโรแมนติกคอมเมดี้ที่น่ารักกุ๊กกิ๊ก...แฝงสาระไว้อย่างกลมกลืน
ผ่านตัวละครที่ดูเหมือนจะเรียบ ๆ ง่าย ๆ แต่...ช่างคิด มีเหตุมีผลทีเดียว

เรื่องนี้ผู้เขียน(อาจจะ)ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวบอกเล่า(แฉ)เบื้องลึกเบื้องหลังของวงการนักเขียน-สำนักพิมพ์-บรรณาธิการได้อย่างสนุกสนานมาก ๆ
อ่านแล้วขำก๊ากกับมุกเด็ด ๆ ของเจ๊โย...นักเขียนสาวใหญ่ผู้ขยันขโมยซีนคู่พระ-นางได้อย่างเนียน

ชอบค่ะ...อยากอ่านงานแบบนี้ของคุณดวงตะวันอีก...
เบา ๆ อ่านสนุกแต่ไม่โหรงเหรง

อ้อ...นิยายเรื่องนี้น่าจะเหมาะกับ"นัก(อยาก)เขียน"ทั้งหลายนะคะ โดยเฉพาะมือใหม่หัดเขียน...ใช้เป็นคู่มือได้เลยทีเดียว อิอิ



**เล่มนี้อ่านเพื่อตอบโจทย์"เหมันต์ขยันอ่าน" ข้อ 20-2.[ปีศาจความฝัน] อ่านหนังสือที่ชื่อเรื่องตรงกับชื่อเพลง ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ค่ะ เดิมทีกำหนดเล่มอื่นไว้ แต่บังเอิญอ่านนิยายเล่มนี้แล้วเสิร์ชหาภาพปก ไปเจอเนื้อเพลง ๆ นี้เข้า ก็เลยใช้ตอบโจทย์ข้อนี้เสียเลย

เพลง"ความรักเจ้าขา" มี 2 เวอร์ชั่นค่ะ แบบลูกกรุงขับรองโดยเพ็ญศรี พุ่มชูศรี แต่งคำร้องโดย สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์ เวอร์ชั่นลูกทุ่งขับร้องโดย รุ่งเพชร แหลมสิงห์ แต่งคำร้องโดยครูไพบูลย์ บุตรขัน)
แถมเนื้อเพลงฉบับลูกกรุงแล้วกันค่ะ

ความรักเจ้าขา
คำร้อง /สุนทรียา ณ เวียงกาญจน์
ทำนอง/สมาน กาญจนะผลิน
ต้นฉบับขับร้องโดย/เพ็ญศรี พุ่มชูศรี


ความรัก..เจ้าขา... ข้าสงสัยในอุรา ว่าหน้าตาเจ้าเป็นฉันใด
คงสวยน่าพิสมัย น่ารัก น่าใคร่ ละเมียดละไมโสภา

ความรัก..เจ้าเอ๋ย...ใจร้ายนั้นคงไม่เคย เจ้าคงเคยแต่กรุณา
ไม่ทำให้ช้ำอุรา เปี่ยมล้นเมตตา ล้ำเลิศหนักหนา ใช่ไหมคนดี

ข้า...เป็นทาสเจ้าแล้ว หมอบราบคาบแก้ว แล้วแต่จะคิดปรานี
อกของข้าครานี้เป็นตายร้ายดี แล้วแต่รักที่เวทนา

ความรัก..คนสวย...โปรดจงสงสารข้าด้วย ช่วยข้าสมดังปรารถนา
กราบแล้วความรักเจ้าขา โปรดคิดเมตตา สักคนเถิดหนาข้าขอวิงวอน






เพลงนี้มีคนนำมาร้องใหม่อีกสี่คนแน่ะค่ะ มีคุณอรวี สัจจานนท์,คุณศรัญย่า ส่งเสริมสวัสดิ์,
คุณพัชรา แวงวรรณ,และคุณนันทิดา แก้วบัวสาย
อ๊ะ...แถมลิงก์ให้ฟังเพลงนะคะ เผื่อใครไม่รู้จักเพลงนี้(เกิดไม่ทัน?)

"ความรักเจ้าขา" - เพ็ญศรี พุ่มชูศรี/ขับร้อง

"ความรักเจ้าขา"- อรวี สัจจานนท์/ขับร้อง


**เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ






 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 30 กันยายน 2555 21:38:42 น.
Counter : 7737 Pageviews.  

~ นกดวงจันทร์ ~ อภิชาติ เพชรลีลา





นกดวงจันทร์
ผู้เขียน : อภิชาติ เพชรลีลา
ผู้พิมพ์ : แพรวสำนักพิมพ์
(ครั้งแรก ธ.ค. ๒๕๔๕)


...เรื่องของนกปีกหักกับนกไม่มีขา...






นวนิยายขนาดสั้น บอกเล่าเรื่องราวของความรักแบบเหงาๆ ของชายหนุ่มช่างคิดช่างฝัน
ผู้เปรียบตัวเองเป็น "นกปีกหัก" แม้ว่าไม่อยากเป็น
และผู้ที่อยากเป็น "นกไม่มีขา"...แต่ไม่มีวันได้เป็น

ผู้เขียนเล่าเรื่องผ่าน "ผม" ชายหนุ่มวัยทำงาน ผู้เปลี่ยวเหงา ทำงานไปวัน ๆ อย่างซ้ำซากจำเจ จนกระทั่งเด็กสาวชื่อแปลก "ควันธูป คารามี" ก้าวเข้ามาในชีวิต...ทำให้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวเริ่มแปรเปลี่ยน เริ่มมีความรื่นรมย์ในการทำงาน

แต่ควันธูปเป็นหญิงสาวผู้มีบาดแผลชีวิต...แม้จะฉาบทาไว้ด้วยท่าทีสดใส ร่าเริง...หากก็มีแง่มุมลึกเร้นที่ใครไม่อาจเข้าถึง

ในที่สุดเขาจึงเป็นได้เพียงนกดวงจันทร์ที่...

"มักซุกตัวหลบแสงอาทิตย์เวลากลางวัน แม้แต่ขนบางบนปีกก็พยายามไม่ไหวติง เพื่อออมเรี่ยวแรงไว้เพื่อจะบินไปในค่ำคืน บ่ายหน้าตรงเข้าหาดวงจันทร์ หวังไว้สักวันหนึ่งจะบรรลุถึงแสงนวลนั้น วันแล้ววันเล่า…

… ดวงจันทร์สว่างไสวกลางฟ้า เป็นความฝัน เป็นความหวัง เป็นความสวยงาม ทว่าระหว่างทางจากขอบฟ้าโลกถึงดวงจันทร์คือความว่างเปล่า นกดวงจันทร์บินไปตามสัญชาตญาณเรียกร้อง เหมือนนกเป็ดน้ำที่บินข้ามมหาสมุทรกลับบ้าน สิ่งที่แตกต่างกันคือ นกดวงจันทร์บินโดดเดี่ยว ไม่ได้บินเป็นฝูง มันรู้สึกเหน็บหนาวเมื่อบินมาไกลมากแล้ว สิ่งรอบข้างที่คุ้นเคยแปรเปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ กลายเป็นบางสิ่งซึ่งไม่รู้จัก ...

ยิ่งไปกว่านั้น หนทางข้างหน้าไม่รู้ว่าไกลอีกเพียงไหน ไม่รู้ว่าจะได้พบสิ่งใดอีกบ้าง ปีกของมันเริ่มหนักและใจของมันเริ่มล้า สิ่งแช่มชื่นเพียงอย่างเดียวคือ กายมันอาบแสงจันทร์ซึ่งส่องลงมาตลอดคืนยาวนาน .. แต่มันยังคงมีความสุขกับการได้บินทวนแสงจันทร์ไป...

ด้วยมันตระหนักดีว่า ...ไม่เคยมีนกดวงจันทร์ตัวไหนตายเพราะความอ่อนล้าและความชรา...
นกดวงจันทร์เป็นอมตะจากความรัก
มันจะตายก็ต่อเมื่อความศรัทธาในหัวใจดับสูญไป….”






นิยายรักเหงา ๆ ของนักเขียนหนุ่มเจ้าของผลงาน "กล่องไปรษณีย์สีแดง" อันโด่งดัง
ชอบภาษาเขียนของคุณอภิชาติค่ะ ค่อนข้างละมุนละไม
การถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครก็ค่อยเป็นค่อยไป

เรื่องราวเรียบเรื่อย แต่ค่อย ๆ เผยความรู้สึกภายในให้ผู้อ่านได้สัมผัสทีละเล็กละน้อย

ในเรื่องมีการเอ่ยอ้างถึง "นกปีกหัก" จากหนังสือปรัชญาชีวิต "ปีกหัก" ของคาลิล ยิบราน กับ "นกไม่มีขา" ของหว่อง คาไว ซึ่งน่าสนใจว่าถ้าคนที่ไม่รู้จักนกทั้งสองตัวนี้จะอ่านรู้เรื่องไหม...
แต่ก็รู้เรื่องเป็นอันดีค่ะ...เพียงแต่ต้องใช้จินตนาการนิดหน่อยเพื่อให้เข้าถึงสิ่งที่ผู้เขียนต้องการสื่อ

ส่วนตัวชอบนะคะ นิยายสั้น ๆ สะท้อนอารมณ์หม่น ๆ เจ็บปวดแบบลึก ๆ แบบนี้

จึงหยิบมาชวนอ่านค่ะ







**เล่มนี้ใช้ตอบโจทย์"เหมันต์ขยันอ่านข้อ 15-3 อ่านหนังสือที่พูดถึงวันลอยกระทงหรือตำนาน เรื่องเล่า ความเชื่อเกี่ยวกับดวงจันทร์ เช่น เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ หรือ หนังสือที่มีคำว่า "จันทร์" อยู่ในชื่อเรื่อง

***เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ











 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2552 19:06:32 น.
Counter : 2876 Pageviews.  

~ รัตนโกสินทร์ ~ ว.วินิจฉัยกุล






รัตนโกสินทร์
ผู้เขียน : ว.วินิจฉัยกุล
ผู้พิมพ์ สนพ.เพื่อนดี

(หนังสือรางวัลดีเด่นประเภทนวนิยายจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๓๐
และได้รับเลือกให้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลา วิชาภาษาไทย ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย)



เรื่องย่อ : เป็นเรื่องราววิถีชีวิตของ "ฟัก" หนุ่มลูกจีนที่เกิดในไทย จับความตั้งแต่ฟักถือกำเนิดมาในช่วงปลายรัชกาลที่ ๑ นั่นทีเดียว ในตอนแรก เจ้าสัวผู้บิดาหมายมั่นจะให้ฟักสืบทอดกิจการการค้าของที่บ้าน จึงคิดจะส่งฟักไปเรียนหนังสือที่เมืองจีน แต่แม่พลับ - มารดานั้นอยากจะให้ฟักได้ดีในทางราชการของไทยมากกว่า ซึ่งก็สมใจผู้เป็นแม่ เมื่อเจ้าสัวได้มีโอกาสเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษที่เมืองจีนและได้เห็นความแร้นแค้นทั้งความเป็นอยู่และน้ำใจของญาติสนิทที่นั่น จึงเกิดความลังเลที่จะส่งลูกชายไป....

ฟักมีลุงซึ่งเป็นพี่ชายแม่พลับรับราชการทหารใหญ่โต เมื่อมาเห็นหน่วยก้านของฟักก็ถูกใจ หมายมั่นจะส่งเสริมให้ฟักเอาดีทางทหารเหมือนท่าน อีกด้านหนึ่ง ส้มจีน พี่สาวของฟักก็ออกเรือนกับลูกชายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงตุลาการคือคุณพระราชพินิจจัย ฟักจึงมีโอกาสติดสิยห้อยตาม คัดลอกหนังสือให้ท่านจนชำนาญด้านวิชาการเกี่ยวกับกฏหมาย

ฟักก็เหมือนกับเด็กหนุ่มทั่วไป ที่มีความรักในวัยหนุ่ม รักแรกของฟักนั้นคือแม่ช้อง...ซึ่งเป็นหลานสาวของพี่เขยฟักนั่นเอง แต่รักแรกของฟักกลับไม่สมหวัง ด้วยความเป็นคนทะเยอทะยานใฝ่สูงของแม่ช้อง...

จึงเป็นโอกาสให้ฟักได้พบคู่แท้ของตน - - แม่เพ็ง ซึ่งโชคชะตาบันดาลให้ฟักได้มีโอกาสฃ่วยเหลือเกื้อกูลเจ้าหล่อนตั้งแต่ยังเป็นเพียงเด็กหญิง เมื่อได้มาพบกันอีกครั้งในวัยที่เติบโตเป็นสาวยน้อย ที่งดงามทั้งกายทั้งใจ ฟักจึงมีแต่ความรักอันมั่นคงให้เพียงผู้เดียวตลอดไป...








คำนำสำนักพิมพ์

“รัตนโกสินทร์” เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ ที่ให้ภาพกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นในช่วงรัชกาลที่ ๑-๓ ครั้งเมื่อ “ท้องฟ้าสีน้ำเงิน แสงตะเกียงวอมแวมเหมือนหิ่งห้อย...น้ำขึ้นเปี่ยมตลิ่ง” เมื่อชายไทยยังสวมเสื้อย้อมคราม คาดผ้ากราบ เขียนเพลงยาวจีบสาว ผู้ห่มสไบ นุ่งโจงกระเบน และเด็กๆ ตัวน้อยยังไว้จุกปักปิ่น สวมปะวะหล่ำกำไล การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างเรียบง่าย ด้วยอาศัยทรัพย์ในดินสินในน้ำ ซึ่งผู้ชายในฐานะแรงงานเข้มแข็งทั้งในการทำมาหากินและรบทัพจับศึก เป็นฝ่ายมีเปรียบกุมอำนาจเหนือผู้หญิงในทุกทาง...

ด้วยฉากหลังเช่นนี้ ตัวละครเอกคือ “ฟัก” ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยมีชีวิตที่แปลกแยกจากความสามัญธรรมดาของยุคสมัยในหลายเรื่อง เขาเป็นลูกชายคนโตในครอบครัวจีน -ไทย ที่พ่อหวังจะให้สืบสายทางการค้า แต่เขากลับมารับราชการจนเป็นขุนนางใหญ่

เขาเลือกที่จะมีภรรยาเพียงหนึ่งเดียว ขณะที่ในเวลานั้น “...เรื่องที่จะมีเมียน้อยสักคนเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนหาอาหารใส่ปาก...”
และผู้หญิงที่ปรากฏในชีวิตส่วนใหญ่ก็ล้วนเป็นประเภทช้างเท้าหลังประเภทที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จภายในบ้านต่างจากที่เป็นอยู่ทั่วไป
ชีวิตของฟักจึงไม่ใช่เป็นชีวิตที่เรียบเรื่อย หากมีปมขัดแย้ง มีการวางโครงผูกเรื่องไว้ครบรส ทั้งคลื่นอารมณ์ มรสุมในหน้าที่การงาน พายุแห่งความไม่เข้าใจในครอบครัว ฯลฯ

ขณะเดียวกันก็มีเหตุการณ์สำคัญในบ้านเมืองเข้ามาสอดร้อยเชื่อมโยงอย่างแนบเนียน

ที่น่าสนุกอีกประการหนึ่ง คือการได้มองเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างยุคสมัย ที่บางคราวก็น่าขัน บางครั้งก็น่าคิด...อย่างเช่น...เคี้ยวหมาก กัดพลูเสร็จก็ยกขึ้นทัดไว้ข้างหู เป็นจริตกิริยาที่กรีดกรายของสาวในสมัยนั้น...ผู้หญิงในบ้านไม่ชอบนั่นบนเก้าอี้หรือม้านั่งชนิดใดทั้งสิ้น นอกเหนือจากการนั่งบนพื้น บอกว่านั่งห้อยขาแล้วเมื่อยไปหมดจนกระทั่งทำอะไรไม่ได้...ใครก็ตามที่ศักดินาสูง หากว่าทำผิดกฎหมายก็ต้องเสียค่าปรับสูงกว่าชาวบ้าน เพราะกฎหมายเอาศักดินาเป็นตัวกำหนด...

แม้ผู้เขียนจะบรรยายเนื้อหาเรื่องราวในท่วงทำนองเรียบง่าย ให้กลมกลืนกับสภาพที่พึงจะเป็นไปได้ในสมัยนั้น แต่ก็เป็นความเรียบง่ายแบบดิ่งลึกที่ต้องอาศัยการอ่านอย่างจับใจความหรืออ่านระหว่างบรรทัดเพื่อที่จะสัมผัสได้เต็มอรรถรส เต็มความตั้งใจของผู้เขียน ซึ่งในความเป็นนักวิชาการระดับ ดร.ของท่านนั้นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับข้อมูล นอกเหนือไปจาก “ภาพ” ที่เห็นได้กระจ่างชัดด้วยฝีมือบรรยายระดับ ว.วินิจฉัยกุล

“รัตนโกสินทร์” เป็นหนังสือที่อยากแนะนำให้วางไว้ใกล้มือบนชั้นหนังสือ เพราะเหมาะที่จะให้อ่าน “เอาเรื่อง” สร้างพื้นฐานความสนใจในประวัติศาสตร์
หรืออ่าน “เอารส” มาก -น้อยได้ตามระดับวุฒิภาวะ ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองคือ หนังสือเล่มนี้ 'ปลอดมลพิษ'







แหะ ๆ เรื่องย่อกับคำนำแบบยาวอีกแล้ว
หนังสือเล่มนี้แทบไม่ต้องรีวิวอะไรเลย เพราะคำนำสำนักพิมพ์ที่คัดมาข้างบนนั้นได้บรรยายถึงหนังสือเล่มนี้ได้ตรงจุด ตรงใจคนอ่านเป็นที่สุดแล้ว

ส่วนตัวชอบหนังสือเล่มนี้มาก ๆ ให้ทั้งสาระในเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่ท่านผู้เขียนได้ทำการค้นคว้า ศึกษามาอย่างดี ให้ทั้งความบันเทิงเริงใจ ในเรื่องราวความรักอันมั่นคงท่ามกลางกระแสสังคมและยุคสมัยที่ผู้ชายเป็นใหญ่ และมีสิทธิ์ที่จะมีภรรยาได้หลาย ๆ คน...

หนนี้อ่านซ้ำน่าจะไม่ต่ำกว่ารอบที่สามที่สี่แล้ว (ให้อ่านอีกก็ยังอ่านได้)
เพราะอ่านทีไรก็แสนจะอิ่มเอมใจเมื่อนั้น


**อ่านนิยายเรื่องนี้เพื่อใช้ตอบโจทย์ RRR ข้อ 15-1. [ยาคูลท์] นิยายไทยหรือต่างประเทศที่เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในช่วงผลัดแผ่นดิน หรือเปลี่ยนระบอบการปกครองค่ะ


***เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ








 

Create Date : 22 ตุลาคม 2552    
Last Update : 22 ตุลาคม 2552 11:11:31 น.
Counter : 6318 Pageviews.  

~ ฝนสีนิล โดย "เพชรน้ำค้าง" ~





ฝนสีนิล
ผู้แต่ง: เพชรน้ำค้าง
จัดพิมพ์ :สนพ.เพื่อนดี


จากคำนำ


เราจะทำอย่างไร ...
เมื่อระเบิดปรมาณู ได้เปลี่ยนหยาดฝนใสเย็นฉ่ำซึ่งให้กำเนิดและหล่อเลี้ยงทุกชีวิตบนผืนโลก
ให้กลายเป็น "ฝนสีนิล" ที่กัดกร่อนชีวิต และจิตวิญญาณของผู้คน
สลายความศรัทธา และทำลายความรักในมวลมนุษยชาติไปจนหมดสิ้น

อานุภาพของระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาในสงครามโลกครั้งที่ ๑
ไม่เพียงแต่ทำลายบ้านเมืองให้พินาศย่อยยับในพริบตา และคร่าชีวิตผู้คนนับแสนในทันทีเท่านั้น
แต่ยังได้สร้างบาดแผลและความบอบช้ำจิตใจแก่ผู้รอดจากเหตุการณ์นั้นอย่างไม่มีวันจางหาย
พวกเขาเหล่านั้นต้องทนทุกข์ทรมานที่ต้องสูญเสียพ่อแม่ ญาติพี่น้อง บุคคลอันเป็นที่รัก
ไร้ที่อยู่ ขาดแคลนอาหารและเครื่องนุ่งห่ม
ต้องเผชิญกับโรคร้ายซึ่งเกิดจากการได้รับฝุ่นกัมมันตภาพรังสีที่แผ่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณที่เกิดการระเบิดขึ้น
และที่น่าเศร้าที่สุด โรคนี้สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม! ::

'ฝนสีนิล' นวนิยายชีวิตเรื่องเยี่ยมของ "เพชรน้ำค้าง" นำเสนอเรื่องราวสงครามในครั้งนั้น
และผลกระทบที่มนุษย์ได้รับ ผ่านตัวละครเอกซึ่งเป็นผลผลิตของสงครามที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว
ชาติชล 'เหยื่อสงคราม' ผู้เข้มแข็ง สดใส กับ เนวิน 'พ่อค้าอาวุธสงคราม' ผู้งามสง่า ฉลาดเฉลียว เจ้าความคิด
'บาดแผล'ของเธอกับ 'ตราบาป' ของเขาจะมาบรรจบกันตรงที่ใด ความรักที่ถูกห่อหุ้มด้วยความโกรธเกลียด จะเกิดขึ้นได้หรือ ?





ขอเล่าเรื่องย่อต่อจากข้างบนอีกเล็กน้อยค่ะ...

ชลธีกับชาติชล พี่น้องสองสาวผู้มีบุคลิกแตกต่าง ชลธีในวัยสามสิบ เป็นสาวโสดที่นิ่มนวล
เป็นแม่บ้านให้พ่อกับน้อง เพราะมารดาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง
ส่วนชาติชลนั้นเพิ่งเรียนจบ อายุ ๒๔ เป็นสาวมั่นออกแนวทอมบอย มีบุคลิกที่ร่าเริง สดใส มองโลกในแง่ดี
เธอเข้าทำงานในโรงพิมพ์ที่พ่อของเธอทำอยู่
ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ด้วยมีนายทุนเข้ามาเทคโอเวอร์กิจการโรงพิมพ์ ทำให้คนทำงานเก่า ๆ
หลายคนเกิดความไม่พอใจและแยกตัวออกไป

แต่พ่อของชาติชลยังคงอยู่ เพราะคนที่เข้ามาดูแลกิจการคนใหม่เป็นลูกชายของเพื่อนสนิทของมารดาชาติชลนั่นเอง - - เนวิน

เนวินเป็นลูกครึ่ง เลบานอน - ไทย พ่อของเขาเป็นเศรษฐีน้ำมันที่มีทั้งเงินและอำนาจ พ่อกับแม่เขาแยกกันอยู่เมื่อแม่ของเขากลับมาเมืองไทยตามลำพัง ในขณะที่เขาอยู่กับพ่อ เขาค่อนข้างเคร่งขรึมและเย็นชา ทำให้ชาติชลรู้สึกว่าเขา "เก๊ก" ส่วนเนวินนั้นแอบสนใจชาติชลอยู่เงียบ ๆ

ชาติชลมีเพื่อนชายคนสนิทคนหนึ่งคือทวา แม้ชาติชลจะมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับทวา แต่เธอก็พบกับอุปสรรคเมื่อมารดาของทวาเลียบเคียงถามเธอเกี่ยวกับอดีตของคุณตาของเธอกับการเสียชีวิตของแม่ ทำให้ชาติชลแอบไปอ่านบันทึกเก่า ๆ ของบิดา

แล้วเธอก็ได้รู้ความจริงว่า เมื่อตอนที่มารดาของเธอเป็นเด็กเล็ก ๆ นั้น เคยติดตามคุณตาคุณยายซึ่งเป็นนักข่าวไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฮิโรชิมา ญี่ปุ่น ในช่วงที่มีเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูที่นั่น
ทำให้เธอเข้าใจว่าเหตุใดมารดาของทวาถึงได้ทำท่ากีดกันเธอกับลูกชาย

ครั้งหนึ่งทวาเคยปรารภให้เธอฟังถึงการทำเหมืองแร่ยูเรเนียม อันเป็นสารประกอบที่สำคัญในการทำระเบิดในเมืองกาญจน์...ทำให้ชาติชลแอบไปหาข้อมูลเพื่อทำข่าว เธอไปพบกับเนวินที่นั่น เลยได้รู้ว่าเจ้าของเหมืองแร่ยูเรเนียมนั้นคือพ่อของเนวินนั่นเอง - - เนวินบอกเธอว่าเขาเพียงทำตามคำสั่งของพ่อ และเขาไม่คิดว่าพ่อของเขาจะทำความเดือดร้อนให้ใคร
เพราะถ้าหากเขาไม่ทำ คนอื่นก็ต้องทำอยู่ดี

ชาติชลแอบเก็บงำความลับนี้ ไม่บอกให้บิดารู้อย่างที่เธอตั้งใจไว้แต่แรก...ทำให้เธอเปลี่ยนแปลงไป กลายเป็นคนเงียบไม่ช่างพูดช่างคุยเหมือนเคย

ในช่วงนี้เนวินกับมารดาก็ก้าวเข้ามาทำความสนิทสนมกับครอบครัวของเธอ จนถึงขั้นมาสู่ขอหมั้นหมายชลธีให้กับเนวิน...
ทั้ง ๆ ที่ชลธีกำลังมีอาการป่วยขั้นแรกเริ่ม ซึ่งเธอกำชับน้องสาวว่าไม่ให้บอกใคร...ชลธีเองก็แอบชอบเนวินมิใช่น้อยและเต็มใจแต่งงานกับเขา
แต่ชาติชลมองว่า เนวินกำลังพยายามจะซื้อคนที่บ้านเธอ...ทั้งพ่อและพี่สาว

ทวามาเร่งรัดให้ชาติชลรับปากแต่งงานกับเขาและเดินทางไปเรียนต่อที่เมืองนอกด้วยกัน ...แต่ชาติชลลังเล และเธอก็ไม่กล้าบอกความจริงกับทวา แต่แล้ววันหนึ่งมารดาของทวาก็บอกเรื่องนี้กับเขา
แม้ทวาจะไม่เกรงผลพวงอันร้ายกาจที่อาจจะตกทอดไปสู่เด็ก ๆ ของเขา แต่เขาก็เกิดความลังเล ด้วยเห็นแก่มารดา
เขารู้สึกโกรธแค้นชิงชังสงครามมากจนแอบบุกเดี่ยวไปที่เหมืองแร่ยูเรเนียมของเนวิน และถูกอาของเนวินจับได้
ในที่สุดเขาก็ถูกทำร้ายจนตาย เมื่อมีคนไปพบศพเขานั้น
ตำรวจลงความเห็นว่าเขาเสียชีวิตเพราะใช้ยาเสพติดเกินขนาด...

แต่ในที่สุดบิดาของสองสาวก็รู้เรื่องเหมืองยูเรเนียมของเนวินจนได้ เขาจึงบอกยกเลิกการแต่งงานของบุตรสาว ทำให้ชลธีเสียใจมากจนอาการป่วยกำเริบต้องเข้าโรงพยาบาล...และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เนวินจึงเพิ่งรับรู้ถึงโศกนาฏกรรมของครอบครัวนี้อันเป็นผลพวงที่มาจากสงคราม...เขาเริ่มเข้าใจความโกรธเกลียดที่ชาติชลมีต่อเขาตลอดมา...

แต่เขาจะทำอย่างไร ถึงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดที่ทำให้เขาสามารถหลุดพ้นจากอำนาจของผู้เป็นพ่อ...
และขอโอกาสแก้ตัวกับชาติชล หญิงสาวที่เขายอมรับว่าเขาแคร์เธอยิ่งกว่าใคร ๆ





ค่อนข้างเครียด และหนักหน่วงเอาการค่ะ เรื่องนี้
แต่ก็อ่านได้ ด้วยสำนวนนุ่ม ๆ ของผู้เขียน

เป็นนิยายที่หนักทั้งเนื้อหาและประเด็นที่นำเสนอ แถมไม่มีบทอันอ่อนหวานเอาซะเลย กว่าจะอ่านจบเล่นเอาเหนื่อย...แต่โชคดีที่จบแบบ...แฮปปี้(ในระดับหนึ่ง)เอนดิ้งค่ะ


***********


** เป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่ใช้อ่านเพื่อตอบโจทย์ RRR ข้อ 30-4. อ่านหนังสือไทยหรือเทศ 2 เล่ม ที่เนื้อหาเน้น "ผลพวงและพิษภัย" หรือเล่าถึงประเด็นดังต่อไปนี้: สงคราม, ยาเสพติด, คอร์รัปชั่น หรือการทำลายธรรมชาติ(ป่าไม้ ภูเขาแม่น้ำ สิ่งแวดล้อม ฯลฯ) จะเป็นเรื่องจริงหรือแต่งก็ได้ สองเล่มห้ามซ้ำประเด็นกัน
อีกเล่มหนึ่งอ่าน โอ้! อลิซ ค่ะ







 

Create Date : 14 ตุลาคม 2552    
Last Update : 14 ตุลาคม 2552 13:09:32 น.
Counter : 2530 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.