'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

~ หทัยแห่งสุริยัน ~ แฟนตาซีหวาน ๆ โดย "ริญจน์ธร "





หทัยแห่งสุริยัน
ผู้เขียน : ริญจน์ธร
สำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์อรุณ
(พิมพ์ครั้งแรก ต.ค. ๒๕๕๔)


จากสำนักพิมพ์ :


เทพบุตรหนุ่มรูปงามที่ไม่เคยเชื่อในรัก ที่สุดแล้วก็ต้องพ่ายแพ้ต่อหัวใจตนเอง
เมื่อมาพบกับมนุษย์สาวผู้ศรัทธาในรักเต็มเปี่ยม

เมื่อเทพอพอลโลผู้ไม่เคยศรัทธาในรัก กลับโดนศรของกามเทพปักอกให้ต้องหลงรักเพียงเพชร มนุษย์สาวแสนธรรมดานางหนึ่ง
พระองค์จะทำเช่นไรกับรักไม่พึงปรารถนา
แม้จะรู้ดีว่าทุกอย่างเป็นเพียงเพราะฤทธิ์ของศรรัก แต่พระองค์กลับไม่อาจละสายตาจากมนุษย์สาวได้เลย
ทุกความรู้สึกในหทัยยังคงปรารถนาแต่เธอ และเพียงแค่นางเท่านั้นสามารถเติมเต็มช่องว่างในหัวใจอันอ้างว้างได้

หทัยแห่งสุริยัน...อีกหนึ่งบทตำนานแห่งรัก ที่จะพิสูจน์อานุภาพของความรักว่าทรงคุณค่ามากเพียงใด...






หลังอ่าน...
นิยายรักหวานแนวแฟนตาซี-โรแมนติคที่หยิบมาอ่านเล่น ๆ ระหว่างรอกำหนดการอะไรบางอย่าง...
อ่านแล้วก็นึกทึ่งในจินตนาการของผู้เขียน...คิดได้ไงเนี่ย...แหะ ๆ ..
อ่าน ๆ ไปก็เพลินจนอ่านจบไปได้ในเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง

เรื่องนี้น่าจะอยู่ในชุดเดียวกับ"ดุจดั่งดวงใจ"ที่เคยอ่านไปก่อนหน้านี้
เล่มนั้นก็ว่าหวานสุด ๆ แล้ว มาเจอเล่มนี้เข้า...หวานสนิทชนิดไม่บันยะบันยังกันทีเดียว...
พล็อตเรื่อง แนวเรื่องคล้าย ๆ กัน เทพบุตรหนุ่มมาหลงรักมนุษย์สาว(สาวไทยอีกต่างหาก...)
...และนำพาเธอกลับสู่วิมานของตัวเอง ใช้ชีวิตนิรันดร์ร่วมกัน

หากจะมีความแตกต่างอยู่บ้างก็คงจะเป็นบุคลิกของพระเอก
ได้แก่เทพทั้งสององค์ ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เทพฮาเดสแห่ง"ดุจดั่งดวงใจ"นั่นเป็นเทพแห่งความตาย..
เป็นราชันย์แห่งยมโลกจึงมีบุคลิกที่ค่อนข้างเย็นชา
ไม่สนใจในอิสตรีจนกระทั่งมาพบกับพริ้ง-พริมาเข้าก็ตกหลุมรัก
จนต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานาเพื่อได้เธอมาครอบครอง...

แต่ในเล่มนี้เทพอพอลโล...เป็นเทพแห่งสุริยันผู้ร้อนแรง
บุคลิกจึงออกแนวบุรุษเสเพลอยู่สักหน่อย เจ้าชู้ เจ้าเลห์...
และที่เป็นประเด็นในเรื่องก็คือ...เทพองค์นี้ไม่เชื่อในความรัก

พระองค์คิดว่าความรักเป็นเรื่องงมงาย จนแสดงออกถึงอาการดูหมิ่นอานุภาพแห่งศรกามเทพเข้า...
จึงถูกกามเทพเล่นงานเข้าให้...

ทำให้มาตกหลุมรักครูสาวชีวิตอาภัพ...กำพร้าพ่อแม่ อยู่ตัวคนเดียวซ้ำยังขาพิการอีกต่างหาก...

ความรักของเขาก็มีอุปสรรคเหมือนกัน...
หากแต่เป็นอุปสรรคอันเกิดจากความทะนงในความคิดของตนเอง

และคิดว่าที่ตนเองหลงใหลมนุษย์สาวนั้นเป็นด้วยอำนาจแห่งศรกามเทพ...หาได้เกิดจากจิตใจที่แท้จริงไม่...

แม้สุดท้ายแล้ว...ฤทธานุภาพแห่งศรรักนั้นสิ้นสุดลง
พระองค์จึงรู้ว่าความรักที่เขามีให้ต่อเธอผู้นั้นกลับไม่ได้สิ้นสุดตาม...
มีแต่จะเพิ่มพูนมากขึ้น...

ก็...อ่านสนุกค่ะ โดยเฉพาะคนที่ชอบแนว ๆ แฟนตาซีน่าจะชอบ
แม้จะมีแอบขำ ๆ บ้างกับเรื่องราวอันเหลือเชื่อ...
แต่ด้วยสำนวนภาษาของผู้เขียนก็ละมุนละไมพอที่จะทำให้เราเคลิ้ม...คล้อยตามไปได้...
จนแอบอิจฉานางเอกนั่นทีเดียวเชียว หุหุ










 

Create Date : 31 มกราคม 2555    
Last Update : 31 มกราคม 2555 11:52:00 น.
Counter : 2604 Pageviews.  

~ สุดใจปรารถนา โดย "ธุวดารา" ~





สุดใจปรารถนา
ผู้แต่ง: ธุวดารา
สำนักพิมพ์ : อรุณ (ครั้งที่๑/พ.ย. ๒๕๕๔)

จากสำนักพิมพ์ :



ชีวิตของหญิงสาวสองคนที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ทำให้สองสาวต่างวัย ต้องใช้ร่างที่เหลืออยู่เพียงร่างเดียว
ไขปมปริศนาที่พันธนาการดวงวิญญาณของพวกเธอเอาไว้
เจ้าของร่างคือ อารดา นักธุรกิจสาวอนาคตไกล หากชีวิตครอบครัวกลับไม่ได้สดใสดังที่ใจวาดหวังนัก

ขณะที่จิตวิญญาณภายในร่างนั้นกลับเป็นของ ฟ้าใส นักศึกษาสาวที่ต้นรักกำลังผลิดอกออกใบงดงามในใจของเธอ...
เรื่องราวที่ดูลึกลับยังดึงเอาชายหนุ่มสองคนให้ต้องโคจรมาพบกันเพื่อปกป้องผู้หญิงที่เขารัก
ทว่า ‘ความรัก’ จะพาให้ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้แน่หรือ...

และหากเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะลิขิตจากสรวงสวรรค์
ใครสักคนบนนั้นก็ควรจะรับผิดชอบต่อโชคชะตาที่น่าตลกของมนุษย์อย่างพวกเขา...






หลังอ่าน...
เล่าเรื่องย่อ ๆ ต่ออีกนิดหน่อยละกัน...

ฟ้าใสได้รับอุบัติเหตุรถชน ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่อารดาพลัดตกลงไปในแม่น้ำ...
ทั้งคู่ถูกนำส่งโรงพยาบาลเดียวกัน

เมื่อฟ้าใสฟื้นขึ้นมาเธอก็พบว่า ผู้คนที่รายล้อมเธออยู่เป็นคนแปลกหน้าทั้งสิ้น
ยกเว้นแต่วรกฤช ที่เธอรู้จักในฐานะอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมในมหาวิทยาลัยที่เธอกำลังเรียนอยู่...

แต่ในตอนนี้ เขากลับกลายมาเป็น"สามี"ของเธอ...
ไม่ใช่...เขาเป็นสามีของเจ้าของร่างที่เธอกำลังครอบครองอยู่ต่างหาก...

ที่สำคัญ...เจ้าของร่างนี้กำลังตั้งครรภ์!

ฟ้าใสตกใจและหวาดหวั่นต่อสถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่มาก...
แต่"อารดา" เจ้าของร่างที่กลายเป็นวิญญาณล่องลอยอยู่ และมีเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถติดต่อสื่อสารได้...
ก็พยายามเข้ามาอธิบาย คลี่คลายสถานการณ์ให้เธอ...

ร่างของเธอที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และสิ้นใจไป ถูกฌาปนกิจไปไม่กี่วันหลังจากนั้น...

ฟ้าใสต้องอดทนใช้ชีวิตที่แปลกใหม่ในร่างของอารดา ภรรยาของอาจารย์หนุ่ม
เพื่อรอเวลาให้อารดาสามาถกลับเข้าร่างของตัวเองได้...
(ซึ่งนั่นก็หมายความว่า...เธอต้องกลับกลายเป็นวิญญาณไร้ร่างแทน)

ในระหว่างนั้น...เธอก็ต้องพยายามสืบหาเบาะแสของอุบัติเหตุของอารดาไปพร้อมกัน

เพราะอารดายืนยันว่า...เธอไม่ได้เจตนาฆ่าตัวตาย
ด้วยสาเหตุความเครียดจากปัญหาขัดแย้งระหว่างเธอกับสามี ที่กำลังจะเลิกร้างกัน ตามที่ใคร ๆ เข้าใจ

เธอเชื่อว่าถูกฆาตกรรม!
แต่เธอไม่รู้ว่าใครกันที่กำลังปองร้ายเธอถึงขั้นเอาชีวิต...?

มาลุ้นกันว่า...ชะตาชีวิตที่สลับสับขั้วของหญิงสาวทั้งสองคนจะลงเอยอย่างไรในที่สุดค่ะ...


ตอนอ่านก็ลุ้น ๆ อยู่ว่าจะเป็นอย่างที่คิดหรือเปล่า...
โป๊ะเชะค่ะ...ก้าซื้อหวยก็รวยไปแล้ว...แหะ ๆ


เป็นนิยายแนวพารานอร์มอลที่มีเรื่องราวเกินจริงเหลือจะเชื่อได้...


แต่ก็อ่านสนุกนะคะ คนเขียนเขาก็พยายามผูกปม สร้างพล็อตได้เก๋ไก๋ดี...
การดำเนินเรื่องก็กระชับฉับไว ไม่ยืดยาด
ทำให้เราลุ้นและเอาใจช่วยตามได้ตลอด

สำนวนภาษาก็โอค่ะ...อ่านได้ลื่นไหลไม่สะดุด...

เอาเป็นว่า...เป็นนักเขียนใหม่อีกคนที่น่าจับตามองค่ะ สำหรับนามปากกา "ธุวดารา" (เล่มนี้เป็นเล่มที่สองของเธอที่จขบ.ได้อ่าน หลังจากเรื่อง"วิวาห์วุ่นอุ่นไอรัก"ค่ะ)










 

Create Date : 30 มกราคม 2555    
Last Update : 30 มกราคม 2555 11:49:32 น.
Counter : 2837 Pageviews.  

~ ทางสายธาร โดย ปิยะพร ศักดิ์เกษม ~





ทางสายธาร
ผู้เขียน : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ผู้พิมพ์ : สำนักพิมพ์อรุณ (ครั้งที่ ๕/ ธ.ค. ๒๕๕๔)


เรื่องราวโดยย่อ ๆ
(ย่อเอง...ยาวหน่อย)

วิรงรองหรือลิลลี่เป็นลูกสาวคนสุดท้องของเจ้าสัวกำจร ที่เกิดจากเมียคนสุดท้ายที่เลือกสรรให้โดยคุณป้าใหญ่-กมลาสน์ ลูกสาวคนโต
เธอจึงเป็นน้องเล็กที่มีวัยห่างจากพี่สาวคนโตราวแม่กับลูก หรือไม่ก็ป้ากับหลาน
เมื่อสิ้นท่านเจ้าสัว เธอและแม่เลือกที่จะดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้การดูแลของคุณป้าใหญ่
ด้วยความเคารพและเชื่อมั่นจนกลายเป็นความรักและผูกพัน
ลิลลี่หรือวิรงรองจึงเติบโตขึ้นมาอย่างเพียบพร้อมงดงาม ไร้ฝุ่นฝ้าหรือแง่ปมใด ๆ ในจิตใจ

ซึ่งต่างจากลินลากับลออองค์ ภรรยาอีกคนของท่านเจ้าสัวกับพี่สาวต่างมารดาของเธอ
ที่มองว่าการฝากชีวิตอยู่ภายใต้เงาของตระกูลนั้นเป็นประหนึ่ง"ทาสที่ปล่อยไม่ไป"

ลออองค์เติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่สวยจัดและมาดมั่น
เธอแต่งงานกับผู้มีอิทธิพลทางการเมืองที่ร่ำรวยและมีอุดมการณ์
เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักการเมืองที่ภาพภายนอกดูซื่อสัตย์สุจริตและมีอุดมการณ์ร่วมกัน
แต่จู่ ๆ เขาก็ต้องเสียชีวิตลงด้วยพิษภัยทางการเมือง
ทำให้ลออองค์ต้องกลายเป็นแม่ม่ายลูกติดตั้งแต่ยังสาว

ด้วยความเฉลียวฉลาดมาดมั่น และอาศัยบารมีของสามีเธอพาตัวเองเข้าไปพัวพันกับการเมืองระดับชาติ
พร้อมกันก็ดึงให้นุสร อาจารย์หนุ่มผู้นับถือศรัทธาในอุดมการณ์ชองสามีเธอให้เข้ามาพัวพันด้วย

เรื่องราวต่าง ๆ เริ่มต้นขึ้นเมื่อลออองค์ได้พบกับวิรงรองที่กำลังทำหน้าที่ประสานงานให้กับธุรกิจของตระกูลซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับรัฐบาลไทย
อาศัยความใกล้ชิดในฐานะคนสนิทของนักการเมืองระดับสูง ลออองค์พบช่องทางที่จะขัดขวางการดำเนินธุรกิจนั้น ๆ ทันที

ซึ่งเธอก็ทำได้เกือบสำเร็จ...
แต่ผลที่ตามมาก็สั่นสะเทือนเส้นทางชีวิตของเธอไม่น้อย...
เพราะนอกจากเธอจะสามารถสั่นคลอนธุรกิจของตระกูลเชิญอิสราชัยได้พอประมาณแล้ว
การกระทำของเธอยังเป็นการเปิดเผยธาตุแท้และตัวตนของเธอต่อนุสรได้อีกด้วย...

ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาสามารถถอนตัวถอนใจและเลือกเส้นทางสายใหม่ที่เหมาะสมกับตัวเองได้ในที่สุด...






หลังอ่าน...

นิยายเรื่องนี้อาจจะนับได้ว่าเป็นนิยายเปิดตัวของเรื่องราวของคนในตระกูล"เชิญอิสราชัย"
ที่แฟนๆ ของคุณปิยะพรคุ้นเคยก็ว่าได้

ซึ่งก็เรียกว่าเปิดตัวได้อย่างงดงามทีเดียว
เป็นการปูพื้นให้เห็นโครงสร้างของตระกูลนี้ที่มีคุณป้าใหญ่-กมลาสน์
ลูกสาวคนโตของเจ้าสัวกำจรเป็นแกนหลักของครอบครัว...

บอกเล่าถึงความเป็นมาเป็นไปให้เห็นภาพว่า...
เธอต้องทำอย่างไรจึงสามารถคุมน้อง ๆ และลูกหลานในตระกูลให้อยู่ในกรอบ ในร่องในรอยที่มั่นคง
สร้างทั้งความเคารพยำเกรงและเชื่อมั่นศรัทธาให้กับพวกเขาเหล่านั้น

ในเรื่องนี้อาจจะไม่มีเรื่องราวความรักที่หวือหวานัก...แต่ก็มีมุมอ่อนหวานละมุนละไมอยู่ไม่น้อย

ที่สำคัญ...
ธีมหลักของเรื่องนี้คือหลักคิดในการดำเนินชีวิตที่ผู้เขียนฝากไว้...
ดั่งคำพูดของคุณป้าใหญ่ที่ปรากฏอยู่หลายตอนในเล่มที่ว่า...

'...คนเราจะเลือกไปในที่ที่สบายใจ
เลือกเดินบนเส้นทางสายที่ร่มรื่นเยือกเย็นเท่านั้น
สถานที่ใดที่ร้อนเร่าไร้สุข
เส้นทางใดที่ต้องใช้ความระมัดระวังทุกย่างก้าว
ก็คงเป็นได้เพียงสถานที่และเส้นทางที่ผู้คนหลงเปะปะเข้าไป
เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น...'


หรือ...

'คนเราไม่มีใครดีพร้อมหรือเลวไปเสียทั้งหมดหรอก...
ทุกคนก็ต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
สุดแต่ว่าตัวเขาเองอยากจะพลิกมุมไหนให้ใครมองเท่านั้นแหละ'


อ่านแล้วชอบมากค่ะ รอบนี้อ่านเป็นรอบที่สองหรือสามแล้ว

แรก ๆ อ่านรู้สึกว่าเครียดจัง ด้วยมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง...
แต่อ่านรอบหลังๆ กลับได้ความเข้าอกเข้าใจในธรรมชาติของชีวิตและผู้คนมากขึ้น...มากขึ้น

หยิบมาชวนอ่านกันในวันนี้
หลังจากห่างหายไปจัดระเบียบชีวิตตัวเองต้อนรับปีใหม่เสียหลายวันค่ะ











 

Create Date : 12 มกราคม 2555    
Last Update : 12 มกราคม 2555 11:34:13 น.
Counter : 9631 Pageviews.  

~ ตามหาความฝันและขวัญที่หายไป โดย สิริมา อภิจาริน ~ (บล็อกสุดท้ายแห่งปี ๒๕๕๔)





ตามหาความฝันและขวัญที่หายไป
ผู้เขียน สิริมา อภิจาริน
สนพ.แสงดาว (ครั้งที่๑ / ๒๕๕๔)


โปรยปกหน้า-หลัง :


เส้นทางฝ่าสวนอักษร
จากปลายปากกาสู่เบื้องหลังชีวิตนักเขียน
ผู้ใช้เวลาทั้งชีวิตกับสิ่งที่เธอรัก

................

ในชีวิตนี้ กี่วัน กี่เดือน กี่ปี ที่เราต่างพากันวิ่งตามหาความฝัน
ทั้งฝันของตัวเองและฝันของคนอื่น
แต่ใครจะปฏิเสธว่า ความฝันเป็นพลังของชีวิต
ฝันแล้วไปให้ได้อย่างฝัน
ไม่เช่นนั้นจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
ไม่มีความหวัง ไม่มีความฝัน

...ทว่าสิ่งที่ไม่เคยฝันนี่สิ...กลับมาถึง...
ตองไม่เคยฝันที่จะเป็นนักเขียน
...แต่ชีวิตตองเกิดมาเพื่อ"เขียน"

ความรักในการเขียนยังเข้มในสายเลือดของตอง
ตัวชีวิตของตองมีชีวิตมากกว่าตัวตอง

ตองรักงานเขียน
และเชื่อว่างานเขียนก็รักตอง...
เรารักกันตลอดเวลา...






หลังอ่าน...
เรื่องเล่า เรื่องราวในชีวิตของใครคนหนึ่ง...
อาจจะไม่ได้มีคุณค่าหรือความหมายจำเพาะกับเจ้าของชีวิตนั้น ๆ เพียงผู้เดียว
หากบางเรื่องราว บางแง่มุมอาจจะสอดคล้องพ้องพานกับอีกหลาย ๆ ชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล่าของความใฝ่ฝัน ความวาดหวังและความรัก...

เช่นเดียวกับเรื่องเล่าของ"ตอง" ผู้เดินทางผ่านช่วงชีวิตมายาวนาน
ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านทุกข์ผ่านสุขมาจนลึกซึ้งในเส้นทางแห่งชีวิตของตัวเอง
และตระหนักแน่แก่ใจว่า...
บางเวลาชีวิตไม่ได้เป็นดั่งที่ฝัน
แต่บางสิ่งที่ไม่เคยฝันกลับมาถึง...


ด้วยความรักในงานเขียน...เธอได้บรรจงเรียงร้อยเรื่องราวในชีวิตของเธอ
ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องเล่าที่อ่านเพลิน...หากแฝงไว้ด้วยแง่คิดมุมมองต่อชีวิตที่เปิดกว้าง ทว่าลึกล้ำ

รื่นรมย์ด้วยสำนวนภาษาที่ละมุนละไม
ประหนึ่งการได้ร่วมเดินทางเพื่อ...ตามหาความฝันและขวัญที่หายไปพร้อม ๆ กันกับเธอ





คุยส่งท้ายนิดนึง...
บล็อกนี้คงเป็นบล็อกสุดท้ายของปี ๒๕๕๔ แล้วล่ะค่ะ
ทั้ง ๆ ที่สภาพจิต สภาพกายยังไม่ค่อยอำนวยให้มานั่งหน้าคอมได้นาน ๆ นัก
แต่ไหน ๆ ก็จะสิ้นปีแล้ว ไม่อยากให้บล็อกร้างข้ามปี...

จริง ๆ แล้วหนังสือเล่มข้างบนนี้มีอะไร ๆ อยากคุยถึงอีกเยอะ
แต่ก็อย่างที่บอกค่ะ เพิ่งหายป่วย เลยคุยยาวไม่ได้
แต่เล่มนี้เป็นเล่มล่าสุดที่เพิ่งอ่านจบไปแล้วรู้สึกประทับใจจนอดใจไว้ไม่ได้...
ต้องหยิบมาบอกต่อ


สุดท้ายจริง ๆ ...
ขอใช้โอกาสนี้กล่าวคำว่า...
สวัสดีปีใหม่ เพื่อนพ้องน้องพี่ทุกคนนะคะ
ขอบคุณที่แวะเวียนมาทักทายและอ่านบล็อก...

ขอให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสุข
และเดินไปบนเส้นทางชีวิตนี้อย่างรื่นรมย์ตลอดปีและตลอดไปค่ะ













 

Create Date : 31 ธันวาคม 2554    
Last Update : 31 ธันวาคม 2554 21:33:04 น.
Counter : 2047 Pageviews.  

~ ระบำดาว โดย ปิยะพร ศักดิ์เกษม ~





ระบำดาว
ผู้เขียน : ปิยะพร ศักดิ์เกษม
ผู้พิมพ์ : สำนักพิมพ์อรุณ (ครั้งที่ ๖/ ก.ย. ๒๕๕๔)

รายละเอียดจากเว็บสนพ. : (เรื่องย่อ)


นวนิยายรักที่สะท้อนให้เห็นความซับซ้อนในใจมนุษย์ผ่านตัวละครแต่ละตัว ซึ่งผู้เขียนเปรียบไว้ดั่งดาวแต่ละดวง

สาลิน หญิงสาวที่เพียบพร้อมไปเสียทุกสิ่ง สำหรับเธอแล้วไม่ว่าเรื่องใดจะต้องเป็นที่หนึ่งเสมอ
และเธอเองก็ภาคภูมิและทะนงในคุณสมบัติเหล่านี้ของตัวเอง
จนกระทั่งได้พบกับ “ภาทิศ” ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเธอ
ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ มันสมอง ฐานะการเงินและฐานะทางสังคม
อีกทั้งยังมีความภาคภูมิและทะนงในคุณสมบัติของตัวเองไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเธอ
ทั้งคู่ตกหลุมรักซึ่งกันและกันแทบจะในทันที เพราะต่างก็มองหาคุณสมบัติเหล่านี้ในเพศตรงข้ามมานานแล้ว

กระทั่งเวลาผ่านไป สาลินกลับเกิดความรู้สึกถึงความไม่มั่นคงในความสัมพันธ์มากขึ้น
ความรู้สึกนี้มีผลต่อบุคลิกภาพและการแสดงออกของเธอ
เธอเริ่มรู้สึกตกเป็นเบี้ยล่างของความรัก
เธอกับเขามีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแต่กลับไม่ได้แต่งงานหรือประกาศให้สังคมภายนอกรับรู้
จากคนที่ต้องเป็นที่หนึ่งเสมอนั่นทำให้เธอยอมรับสภาพนี้ไม่ได้อีกต่อไป

ซึ่งภาทิศเองก็เริ่มรู้สึกว่าเธอไม่ใช่สาลินคนเดิมที่เขาเคยหลงรัก
และเวลานั้นเองทั้งคู่ต่างก็มี “คน” อีกคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิต
ภาทิศ..ได้พบกับสาวน้อยที่แตกต่างจากคุณสมบัติที่เขาใฝ่หาอย่างสิ้นเชิง
เธอเป็นธรรมชาติ ไร้เดียงสา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยสัมผัสหรือนึกถึง

ส่วนสาลินก็พบกับชายที่เข้ามาจุดประกายทางออกในชีวิตให้กับเธอ...
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปโปรดติดตาม...






หลังอ่าน...(เรื่องย่อจากสนพ.ค่อนข้างละเอียดเกินไปแล้ว...)

เป็นนิยายรักแนวสะท้อนสังคมยุคใหม่ที่สมจริงเสียจนอ่านแล้วชวนเครียดค่ะ
แต่ด้วยความละเมียดละไมในการใช้สำนวนภาษา และการดำเนินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปของผู้เขียน
ก็สามารถตรึงผู้อ่านให้ติดตามอ่านอย่างเคลิ้มคล้อยและคิดครุ่นตาม

แม้จะรู้สึกอึดอัดขัดข้องใจในพฤติกรรมของตัวเอก...
หากก็เข้าอกเข้าใจ และคอยลุ้น เป็นกำลังใจให้กับการตัดสินใจ การ"เลือก"ทางออกสำหรับชีวิตของ"ผู้หญิง"แต่ละคน...
หรือดวงดาวแต่ละดวง ในเรื่อง

เรื่องนี้น่าจะเป็นผลงานยุคแรก ๆ ของคุณปิยะพร ใกล้ ๆ กับตะวันทอแสง และดอกไม้ในป่าหนาวโน่นทีเดียว...
มีตัวละครบางตัวที่โยงใยกับเรื่องหลัง (ดอกไม้ในป่าหนาว)...
ที่มีบทบาทโดดเด่นก็คือน้าโชค...หนุ่มใหญ่มาดเซอร์นั่นเอง

ชอบคำพูดของน้าโชคหลายตอน...
และชอบที่เขามักจะโผล่มาในช่วงจังหวะเวลาที่พอดิบพอดี
และสมเหตุสมผลอีกต่างหาก

ธีมที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอและเน้นย้ำในเรื่องนี้ก็คือ...ผู้หญิงกับความคาดหวังในความสัมพันธ์
โดยเฉพาะผู้หญิงที่ตระหนักและเชื่อมั่นในคุณค่าของตนเอง...อย่างสาลิน
เมื่อเธอเริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังถูกครอบงำ ถูกกดให้ต้องตกเป็นเบี้ยล่าง...
ทั้ง ๆ ที่เธอเคยอยู่ในสถานะที่ "เหนือ"กว่าผู้อื่นเสมอมา
เธอต้องกลายเป็นประหนึ่งสินค้าราคาสูงที่มีผู้หยิบมาเชยชม จากนั้นก็วางคืนไว้บนชั้น...
ผ่านเลยไป"เลือก"สินค้า" ชิ้นอื่นต่อ...

อยู่ที่เธอแล้ว...
ว่าจะยอมจำนนต่อสภาพเช่นนั้น และใช้ชีวิตที่เลื่อนไหลไปตามกระแสแบบนั้นต่อไป
เช่นเดียวกับผู้หญิงอีกนับร้อยนับพันในสังคม...

หรือ..."เลือก"ที่จะถอนตัวออกจากวังวนนั้น
และเดินไปบนเส้นทางของตัวเองอย่างมั่นคง ทะนงและเด็ดเดี่ยว...?

นิยายดี ๆ อีกเล่ม ที่แม้จะเก่า แต่เนื้อหายังแฝงไว้ด้วยสาระแห่งชีวิต
ที่ไม่เคยเก่าหรือพ้นสมัยเลยแม้แต่น้อยค่ะ

หยิบมาชวนอ่านในวันที่อากาศหนาวเหน็บเช่นนี้ค่ะ...









 

Create Date : 15 ธันวาคม 2554    
Last Update : 15 ธันวาคม 2554 11:15:10 น.
Counter : 7463 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.