'หัวใจ๋ข้า หัวใจ๋เจ้า ห้อยอยู่เก๊าเดียวกั๋น' *
*คลิกเพื่ออ่านคำแปลเจ้า :)

~น้ำเซาะทราย ~ นิยายชีวิตรักสามเส้า ที่ไม่เคยเก่าตามยุคสมัย โดย กฤษณา อโศกสิน





“น้ำเซาะทราย”
ผู้เขียน กฤษณา อโศกสิน
สนพ.ดอกหญ้า /พิมพ์
(ครั้งที่ ๕/ ม.ค.๒๕๓๙)

โปรยปก :


จริงหรือ...ที่ว่า
ความรักเป็นเรื่องของจิตใจและความรู้สึก
เป็นเรื่องที่ไม่มีขอบเขต ไม่มีเหตุผล
เป็นความละเอียดอ่อนที่ไม่อาจหยุดยั้งข้ดขวาง

........

แล้วถ้าความรักกลายเป็นสงคราม...
กลายเป็นเม็ดทรายที่ซึมซับ
ความชาชินเบื่อหน่ายไว้จนเกินกำลัง
อวสานของความรักบทนั้นจะเป็นอย่างไร...

.........

น้ำเซาะทราย
เรื่องราวความรักของชายหนึ่ง หญิงสอง ที่เราอยากให้คุณหาคำตอบว่า...อะไรกันแน่...
ที่ทำให้ความรักที่มีความหมายสำหรับใครต่อใคร...จบสิ้นลงได้...


(บางส่วน)จากคำนำสนพ. :

เรื่องราวความรักระหว่างชายหนึ่ง-หญิงสอง
ที่ต้องต่อสู้แย่งชิงในสมรภูมิหัวใจ ท่ามกลางมโนธรรม ศีลธรรม
และความปรารถนาเร้นลับที่ก่อตัวขึ้น…

จริงหรือที่ว่าความฉลาดของมนุษย์มีน้อยกว่าความอยากอยู่เสมอ
และเมื่อไรก็ตามที่ความอยากเกิดขึ้น บุคคลแม้ฉลาดเพียงใด
ก็อาจจะประพฤติในสิ่งที่คนทั้งหลายลงความเห็นว่าโง่ได้โดยง่าย...






เรื่องย่อ : (ย่อเอง)

พุดกรองต้องตกเป็นม่าย ในวัย ๓๘ ปีเมื่อสามีอายุคราวพ่อเสียชีวิตลง...
เธอมีเพื่อนสนิทที่รักกันมาก คบหากันมาตั้งแต่วัยเด็กคือวรรณนรี

วรรณนรีเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เธอแต่งงานแล้วกับภีม
โดยการแนะนำของพุดกรอง เพราะตอนนั้นภีมทำงานเป็นเลขาให้กับคุณพร้อม สามีของพุดกรอง
แต่หลังจากแต่งงานเขาก็แยกตัวออกมา ทั้งสองมีลูกสาวลูกชายอย่างละหนึ่งคน กำลังอยู่ในวัยแรกรุ่น

เมื่อสามีจากไป ลูกชายคนเดียวก็อยู่เมืองนอก พุดกรองรู้สึกเหงา
แม้จะมีพงษ์สนิทมาคอยติดตามใกล้ชิดอยู่ก็ตาม...
เธอเข้ามาพัวพันใกล้ชิดกับครอบครัวของวรรณนรีบ่อยขึ้น
นั่นทำให้เธอได้รู้ใจตัวเองว่าแอบหลงรักสามีเพื่อนเข้าเสียแล้ว...
ในตอนแรกเธอก็พยายามหลีกเลี่ยง แต่ก็หลีกไม่พ้น
เมื่อภีมเองก็แสดงออกให้เธอรู้ว่าเขาก็มีใจให้เธอเช่นกัน...

ทั้งคู่ลักลอบมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ถึงขั้นไปเช่าบ้านเพื่อใช้เป็นสถานที่ที่จะสามารถอยู่ร่วมกันได้ ...
แต่ความลับก็ไม่อาจเป็นความลับได้นาน พงษ์สนิทซึ่งคอยตามตื๊อพุดกรองอยู่เกิดรู้ความจริงเข้า
เขารู้สึกแค้นใจจึงนำข่าวมาบอกกับวรรณนรี และยุยงให้วรรณนรีเล่นงานคนทั้งสองให้เด็ดขาด

ในตอนแรกวรรณนรีไม่อยากจะเชื่อ
แต่เมื่อเธอทบทวนพฤติกรรมของภีมในช่วงหลัง ๆ ทั้งยังตามพงษ์สนิทไปดูจนเห็นกับตา
เธอรู้สึกช็อค เพราะคิดไม่ถึงว่าเพื่อนสนิทกับสามีที่แสนดีจะทำเช่นนี้กับตนได้

เรื่องราวดูเหมือนจะยิ่งซ้ำร้ายเข้าไปใหญ่เมื่อพุดกรองเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา...

และในขณะเดียวกัน วรรณนรี...ที่หันมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ก็เริ่มมีนายทหารยศนายพล แถมมีฐานะดีมาติดพัน...
และนั่นก็ก่อให้เกิดความลังเลสับสนขึ้นในใจภีม

เรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ ของหญิงสองชายหนึ่งจะลงเอยอย่างไร...
อยากชวนให้ติดตามได้ในหนังสือนิยายเล่มหนาปึกเล่มนี้ค่ะ






นิยายชีวิตที่เข้มข้น แต่สะท้อนภาพความเป็นจริงในสังคมที่แม้กาลเวลาจะผันผ่านไปนับสิบปี
เรื่องราวเหล่านี้ก็ยังคงเกิดขึ้น และร่วมสมัยอยู่เสมอ
ตราบใดที่มนุษย์ยังคงปล่อยให้กิเลสเป็นตัวกำหนดและชี้นำชีวิตมากกว่าสติปัญญา...

หนังสือต่างจากละคร และละเอียดลออกว่ามากมายหลายเท่านัก...
ในละครเราจะเห็นภาพชัดเจนว่าใครคือนางมารร้าย ใครคือนางเอก แต่ในนิยาย โดยเฉพาะนิยายที่เขียนโดยนักเขียนชั้นบรมครูเช่นนี้ ตัวละครทุกตัวมีเหตุมีผล มีที่มาที่ไปในการกระทำของตัว ไม่มีใครดีเลิศประเสริฐศรี แต่ก็ไม่มีใครเลวจนถึงที่สุด...

อยู่ที่ใครจะค้นพบตัวเองและรู้จักรู้ใจตัวเอง และแก้ไขปมปัญหาของตัวเองได้ เท่านั้น

มีสำนวนเปรียบเปรยที่ชอบ ๆ อยู่หลายตอนมาก ...
ขอหยิบยกมาวางตรงนี้...บางบทบางตอนแล้วกันค่ะ

ความคิดคำนึงของภีม...

“คืนนี้เขามีอารมณ์แปลกประหลาด...คล้าย ๆ เจดีย์ทรายที่เด็ก ๆ ก่อไว้ตามหาด
ทุก ๆ วันจะมีคลื่นเล็ก ๆ ทยอยกันเข้ามาเซาะซัดอย่างบางเบา
น้ำส่วนหนึ่งซึมซาบเข้าไปตามฐานเจดีย์นั้นและเม็ดทรายแต่ละเม็ดได้อุ้มน้ำไว้
มองเผิน ๆ มันยังคงเป็นรูปร่างเจดีย์ที่น่าดู แต่หากพิจารณาก็จะเห็นว่าทรายได้อุ้มน้ำไว้มากจนจะเกินกำลัง
และเมื่อใดที่มันชุ่มน้ำเต็มที่ อวสานแห่งความเป็นเจดีย์ของมันก็จะมาถึง...”


นี่เองกระมังที่เป็นที่มาของชื่อนิยาย “น้ำเซาะทราย”






ความรู้สึกนึกคิดของ”พุดกรอง”

“...พุดกรองเกลียดคำติฉินที่ระบายสีความรู้สึกของหล่อนจนสิ้นค่า หาชิ้นดีมิได้
ดูโลกนี้ช่างอยุติธรรม จะเอากฏเกณฑ์อย่างใดมิได้กับการตัดสินขึ้นตาชั่ง
ถ้าสังคมนิยมอย่างใดก็จำต้องคิดเช่นนั้น รู้สึกเช่นนั้นตลอดไปหรือ
จะคิดอีกอย่างหนึ่งไม่ได้หรือไร...

คำตอบที่ชัดเจนมีอยู่น้อย......

ปัญหาเล็ก ๆ กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ขบไม่แตก ชวนให้เจ้าของปัญหาบ้าคลั่งเสียใจ
ไม่ต้องอะไรหรอก เพียงแต่โยงใยไปถึงลูกเขาเมียเขา หล่อนก็จำต้องบีบตัวเองให้ลีบเล็ก
แล้วมอบที่ทางใหญ่โตกว่าส่งคืนเจ้าของ...’คนเราเหลือค่าตรงที่รู้จัดคืน’...”


มีนักเขียนไม่กี่ท่านที่สามารถบอกเล่า บรรยายถึงความรู้สึกของ"ตัวร้าย"ในนิยายได้...
ชวนให้เข้าใจ เห็นใจได้เช่นนี้...







หรืออย่างในความคิดคำนึงของวรรณนรี...

“...เช้าขึ้นดวงอาทิตย์ส่องแสง เครื่องจักรชีวิตเริ่มหมุนไปตามฟันเฟืองของมัน
บางครั้งเครื่องจักรนั้นหยุด...เอ๊ย...ขาดตกบกพร่อง ขึ้นสนิม
เป็นหน้าที่ของผู้ใช้ต้องแก้ไขความขัดข้องด้วยศิลปะและความชำนาญ
เป็นความจำเป็นใหญ่หลวงที่จะต้องทำให้มันเดิน...
วรรณนรีอดนึกชังแขน ขา หัวใจที่กำลังทำงานอยู่ในกายตนไม่ได้
ชังที่ว่ามันไม่ยอมให้หล่อนพัก ไม่ยอมให้หล่อนท้อ...

ใจของวรรณนรีจะขาดเสียให้ได้...กับคำว่า...”อยู่ต่อไป””


สะเทือนใจค่ะ







ไม่ผิดหวังจริง ๆ ที่หยิบเล่มนี้มาอ่าน
หลังจากที่เลือกอยู่นาน กับนิยายเล่มหนา ๆ ที่วางอยู่บนชั้นสี่ถึงห้าเล่ม...
เพื่อนำมาตอบโจทย์ข้อที่กำหนดจำนวนหน้าเป็นหลัก แถมมีโบนัสสำหรับจำนวนหน้าที่เพิ่มจากที่กำหนดไว้ด้วย...

สารภาพเลยว่า ที่เลือกหยิบเล่มนี้เพราะเคยดูละครทีวี พอรู้เรื่องราวเนื้อหามาบ้างแล้วคิดว่าคงอ่านลวก ๆ ได้

แต่...เมื่อลงมืออ่านเข้าจริง ๆ ก็รู้ว่าตัวเองคิดผิดไปถนัด
เพราะเอาเข้าจริง ไม่สามารถอ่านผ่าน ๆ ไปอย่างใจคิดเลยค่ะ
ทั้งการดำเนินเรื่อง ทั้งตัวละครในเรื่อง ตลอดถึงสำนวนภาษาของผู้เขียนจะตรึงสายตา และอารมณ์ของผู้อ่านไห้ร่วมดำเนินไปกับเรื่องราวจนตลอดทั้งเล่ม...

บางจุดบางตอนอาจจะต้องย้อนกลับไปทบทวนอีกครั้งเสียด้วยซ้ำ...

อย่างที่คุยไว้ข้างบนว่าหนังสือต่างจากละครมากมาย...
เล่มนี้พิสูจน์ความจริงข้อนี้ได้อย่างชัดเจนที่สุด
ต้องขอบคุณเกมอ่านหนังสือกับโจทย์ข้อนี้กระมังที่ทำให้เราไม่พลาดวรรณกรรมสุดคลาสสิคเล่มนี้ไปได้








***เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ








 

Create Date : 23 มีนาคม 2554    
Last Update : 23 มีนาคม 2554 12:34:29 น.
Counter : 54708 Pageviews.  

~ ประตูที่ปิดตาย ~ นิยายขม ๆ ของคนเพศที่สาม โดย กฤษณา อโศกสิน






ประตูที่ปิดตาย
ผู้เขียน กฤษณา อโศกสิน
สนพ.ประพันธสาสน์ (ครั้งที่ ๕/๒๕๔๓)



โปรยปก :


เธอคิดว่าเธอกับเขารักกัน
และเชื่อมั่นว่าเขาจะเป็นผู้นำที่ดี
เธอจึงแต่งงานกับเขา
แต่ทว่า...เธอกลับค้นพบ
ความลับบางอย่าง ของเขากับเขา...






เรื่องย่อ :

จิลลาแต่งงานกับนพี ชายหนุ่มใหญ่วัยสามสิบกว่าที่มีฐานะดี มีตำแน่งหน้าที่การงานระดับสูง
เธอวูบไหวและหวาดหวั่นเหมือนกับผู้หญิงทั่ว ๆ ไปเกี่ยวกับคืนแรกของการแต่งงาน
แต่เธอก็งุนงงและผิดหวัง เมื่อสามีของเธอไม่ได้หวานและโรแมนติกอย่างที่เธอวาดหวัง...

เธอเฝ้าถามตัวเองว่าเธอบกพร่องตรงไหนหรือเปล่า...

แต่อย่างไรก็ดี...หลังวันวิวาห์คืนที่สามนพีก็ให้แบบฝึกหัดของชีวิตคู่กับเธออย่างซาบซึ้งน่าประทับใจ
นั่นจึงช่วยกลบความหวาดระแวงที่ก่อขึ้นในใจจิลลาลงไปได้บ้าง...

แล้วจิลลาก็ท้อง...นพีตื่นเต้นดีใจมาก เขาเฝ้าเอาอกเอาใจ ประคับประคองเธอไม่ห่าง...
แต่พร้อม ๆ กันก็ห่างหายจากการทำหน้าที่สามี...โดยอ้างลูกในท้องเป็นเหตุ...

แต่...เพียงไม่นาน จิลลาก็อดรนทนไม่ไหวเธอจึงเอ่ยปากถามเขาตรง ๆ
แล้วคำตอบที่ได้รับก็ทำให้เธออึ้ง...
จิลลาจะทำอย่างไรเมื่อรับรู้ว่าสามีตัวเองเป็นไบเซ็กช่วล...

ในช่วงเวลานั้น ระบิลก็ก้าวเข้ามาแทรกกลางชีวิตคู่ของเธอกับสามี
เขามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับชายหนุ่มรุ่นน้อง และหาโอกาสแวะเวียนไปยังสถานที่เฉพาะกลุ่มอยู่บ่อย ๆ

เธอเคยคิดว่าถ้าเธอรักเขามากพอเธออาจจะสามารถยอมรับสภาพและอาจเปลี่ยนแปลงเขาได้...
แต่เธอก็ตระหนัก(และตระหนก)ในเวลาต่อมาว่า...
เขาไม่มีวันเปลี่ยนได้เพราะ...โรคนี้เป็นแล้วไม่มีวันหาย...

……….....

ประตูที่กั้นอยู่ระหว่างห้องเขาและห้องหล่อน จะปิดหรือเปิดเมื่อใด หล่อนมิได้สนใจอีกแล้ว
เพราะจิลลารู้ดีว่า แม้มันจะปิดหรือเปิดก็ตาม แต่บัดนี้มันได้”ปิด”ไปแล้วเกือบจะเด็ดขาด....

สองเดือนแล้วสิที่เขาไม่ได้แตะต้องหล่อนเลย!


...............

คำประกาศิตและการตีตราของธรรมชาตินั้น
บริสุทธิ์ยุติธรรมแน่วแน่ มั่นคงอย่างที่กาลเวลาไม่อาจลบล้าง
และที่ร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ หากผู้ใดละเมิดการปรุงแต่งเหล่านี้...
เพื่อทำมันให้กลายเป็นอะไรอย่างไหนก็ตาม
ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครหลุดจากความทุกข์ทรมานไปได้


................







นิยายเรื่องนี้ เขียนขึ้นและได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร"สตรีสาร" ตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๑๗-๒๕๑๘ แน่ะค่ะ

แต่เมื่อหยิบมาอ่านในตอนนี้ บริบททางสังคมเปลี่ยนแปลงไปแล้วเกือบจะสิ้นเชิง ทว่า...อารมณ์ ความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัวที่ผู้เขียนบอกเล่า บรรยายผ่านนิยายเรื่องนี้ ยังคงสด ใหม่และร่วมสมัยได้อย่างไม่มีความแตกต่างใด ๆ เลย...

อ่านแล้วต้องร้องว่า...โอย...นิยายอะไรเนี่ย อ่านแล้วอึดอัดมาก ๆ ค่ะ มันอึดอัดคับข้องใจ...

ด้วยความสงสาร สงสารตัวละครทุกตัวเลย...
โดยเฉพาะจิลลา (ที่แอบคิดว่า...ถ้าเป็นเรา คง"เลิก!" สถานเดียว)
สงสารนพี...ที่รู้สึกว่า "เห็นแก่ตัว" แต่ก็น่าเห็นใจพอ ๆ กัน
และแม้กระทั่งนายระบิลตัวร้ายนั่น...ถ้าเลือกได้ เขาจะเป็น จะทำเช่นนั้นหรือ...?
กับอีกหลาย ๆ ตัวละครที่...ต่างมีชีวิตที่ต้องดำเนินไป...ในวิถีที่...ไม่อาจเลือก...

ดูเหมือนว่าประตูของพวกเขามันเป็นประตูที่ปิดตายจริง ๆ เลย...


ผู้เขียนได้เกริ่นกล่าวไว้ในหน้าคำนำของเธอว่า...

"...นวนิยายเรื่องนี้จบลงด้วยความพะอืดพะอมของผู้เขียนเป็นอย่างยิ่ง..." ด้วยถูกคาดคั้นจากเพื่อนร่วมวงการว่า...อย่าเขียนในเชิงสนับสนุนให้มี"เกย"เพิ่มขึ้นเลย...

"โถ...ก็ผู้เขียนตระหนักแน่ใน"หน้าที่"นักเขียนอยู่แล้วทุกลมหายใจ หากก็เห็นใจคนที่เป็น...ไม่ว่าจะเป็นโดย "เกิดมาเป็น" หรือเป็นโดยการเลี้ยงดู โดยสิ่งแวดล้อม ...ผู้เขียนยอมรับพฤติกรรมส่วนบุคคลของเขาผู้นั้น ตราบเท่าที่เขายังเป็นคนดี มีประโยชน์ทั้งส่วนครอบครัวและส่วนรวม...คือสามารถรัก นับถือ เอ็นดูเขาทั้งหลายอย่างสนิทใจ

แต่งานก็เป็นส่วนหนึ่งที่นักเขียนจำต้องเคารพและมีสัจจะ เพราะหมายถึงส่วนรวม มิใช่ส่วนตัว..."

เรื่องราวในนิยายเรื่องนี้ จึงออกมาแบบมีชีวิตจิตวิญญาณสมจริง
แม้...ไม่ให้ดี แต่ก็ไม่ให้ร้ายแก่เพศที่สาม...

มีแต่ส่งความเข้าใจและเห็นใจผ่านเรื่องราวและตัวละครเท่านั้น...






*หนังสือเล่มนี้อ่านเพื่อใช้ตอบโจทย์"เหมันต์ขยันอ่าน"ข้อที่ว่า...
ให้อ่านหนังสือจากนักเขียนคนโปรดของเพื่อนร่วมเกม...
"กฤษณา อโศกสิน" เป็นนักเขียนคนโปรดคุณ"อุณากรรณ"ค่ะ



**เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่...~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ













 

Create Date : 21 มีนาคม 2554    
Last Update : 21 มีนาคม 2554 12:13:11 น.
Counter : 8150 Pageviews.  

~ บ่วงดวงใจ ~ นิยายยุคเก่า โดย “กัญญ์ชลา”






"บ่วงดวงใจ”
ผู้เขียน “กัญญ์ชลา”
(นามปากกาของ กฤษณา อโศกสิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ.๒๕๓๑)
สนพ.ดอกหญ้า (ครั้งที่ ๓/เม.ย. ๒๕๓๘)


โปรยปก :


บ่วงดอกไม้กลับกลายเป็นหนามแหลม
คอยทิ่มแทงดวงชีวิตของแต่ละคนจนร้าวราน...

ความรักที่คุกรุ่นรุนแรงจนยากจะดับให้เยือกเย็นลงได้
กลับเป็นเหมือนไฟอันร้อนร้ายที่เผาทำลายทุก ๆ ดวงใจที่ตนรัก...

บ้านหมดสิ้นความเป็นบ้าน
และความรักหวานที่เคยหวงแหน
ก็เหือดหายมลายสิ้นเพียงชั่วพริบตา!






เรื่องย่อ :(ย่อเอง ยาวนิดนะคะ...)

อนงค์แต่งงานกับเมธิส มีลูกสาววัยหกขวบหนึ่งคน
เมื่อสามปีก่อนอนงค์ล้มป่วยลงหลังจากลูกชายวัยสี่เดือนเสียชีวิต
อนงค์กลายเป็นคนป่วยที่มีแต่ทรงกับทรุดในวัยเพียง ๒๗ ปี

เธออ้อนวอนขอร้องให้น้องสาวมาอยู่ด้วย
น้องสาวของเธอ-สรงชลหรือปุ้มเป็นเด็กสาวที่รักอิสระ เธอเคยปฏิญาณไว้ว่าจะไม่ยอมไปอยู่ร่วมครอบครัวของพี่น้องคนใดที่แต่งงานไปแล้วเป็นอันขาด...
แต่เธอก็ขัดพี่สาวที่เจ็บป่วยอย่างอนงค์ไม่ได้

น้องอาย หลานสาวของปุ้มติดน้าสาวเสียยิ่งกว่ามารดา
ในขณะที่พี่เขยที่แสนดีก็พยายามรักษาระยะห่างระหว่างเธอกับเขาอย่างเคร่งครัด...
เขาแสดงท่าทีสนับสนุนหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบอย่างเรียบ ที่มาติดพันสรงชลอย่างเปิดเผย...
จนก่อให้เกิดเป็นความโกรธขึ้งเล็ก ๆ ให้กับสรงชล ซึ่งเธอเองก็รู้สึกกลัวความรู้สึกของตัวเองไม่น้อย...

สำหรับคนป่วยอย่างอนงค์ ร่างกายที่อ่อนแอส่งผลให้จิตใจเปราะบางและอ่อนไหวยิ่งนัก
เธอจมจ่อมอยู่กับความหวาดระแวงในตัวสามี แม้เขาจะเสมอต้นเสมอปลายกับเธอตลอดมาก็ตาม
บางครั้งเธอจึงเผลอแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดใส่คนรอบข้าง…

ซึ่งสรงชลตระหนักดีว่าความระแวงของอนงค์นั้น...มีมูล

สรงชลจึงตัดสินใจแต่งงานกับเรียบ...ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รักใคร่เขาเลย...

แต่เพียงไม่นาน อนงค์ก็เสียชีวิต...
เมธิสเป็นอิสระแล้ว แต่เธอเองต้องติดอยู่ในบ่วงที่ตัวเองสร้างขึ้นมา…





นวนิยายชีวิตแนวหนักหน่วงแบบนี้เป็นแนวถนัดของนักเขียนท่านนี้ค่ะ...

ปมปัญหาเป็นเรื่องที่ธรรมดาสามัญมากในสังคม
จนอาจถูกเรียกได้ว่าเป็นนิยายน้ำเน่า อย่างเรื่องรักซ้อนซ่อนรักระหว่างพี่เขย-น้องเมียเช่นนี้

แต่เธอก็สามารถนำมาบอกเล่า ตีแผ่ และกระเทาะให้เห็นถึงธรรมชาติเนื้อในของมนุษย์ที่ยังหลงวนอยู่ในวัฏสงสารอันไม่รู้จบสิ้นนี้ได้อย่างน่าสนใจ


*หนังสือเล่มนี้อ่านเพื่อตอบโจทย์เหมันต์ขยันอ่าน ข้อที่ว่า...ให้อ่านหนังสือ 1 เล่มที่เป็นผลงานของศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ค่ะ





***เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ












 

Create Date : 19 มีนาคม 2554    
Last Update : 19 มีนาคม 2554 16:42:41 น.
Counter : 5501 Pageviews.  

~ มิติมหัศจรรย์ โดย 'จุฑารัตน์' ~





มิติมหัศจรรย์
ผู้เขียน จุฑารัตน์
สนพ.ดอกหญ้า (ครั้งที่ ๗ ส.ค. ๒๕๔๑)



~ จินตนิยายรักอันหวานล้ำ ระหว่างเทพแห่งดวงดาวและหญิงสาวต่างมิติ ~

โปรยปกหน้า-หลัง


ด้วยอานุภาพแห่งรัก จึงไม่มีอะไรสามารถขวางกั้น
แม้จะอยู่ต่างกันคนละมิติ
...
เพราะความรักก่อเกิด ความสูญเสียจึงเกิดขึ้น
ความรักอันทรงพลานุภาพของเธอ ที่มีต่อเทพแห่งดวงดาว
กลับกลายเป็นชนวนของสงครามอันคุกรุ่น
ณ ดินแดนอันเร้นลับ มหัศจรรย์
...
ณ อีกภพหนึ่ง เธอต้องกลับมาเพื่อชดใช้...

พลังรักของเทพแห่งดินแดนอันแสนไกล
จะทรงอานุภาพส่งไปถึงเธอ
ณ ดินแดนต่างมิติหรือไม่ ?

และทั้งสองจะได้ครองคู่กันหรือ...
ในเมื่ออยู่ต่างกันคนละมิติ...






เรื่องย่อ (ย่อเอง)

(เรื่องราวพัวพันซับซ้อน เล่าเรื่องย่อค่อนข้างยาก แต่จะพยายามแล้วกันค่ะ...)

ขณะที่นางกินรีพี่น้องสามนางกำลังบินหยอกล้อกันอยู่ก็พบเข้ากับองค์พระเสาร์...หรือพระศนิ
พี่สาวคนโตเกิดปิ๊งพระเสาร์ทันใด
แต่พระเสาร์ไพล่ไปสะดุดตาในน้องเล็ก...จึงตามไปสู่ขอ
น้องเล็กรู้ว่าพี่สาวหลงรักพระเสาร์และตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย จึงต่อรองเงื่อนไขขอเวลาสามปี...
พระเสาร์ก็ยินยอม….

ในช่วงเวลาสามปีนี้กินรีน้องเล็กเกิดไปชอบพอกับพระวิรุณเข้า…
ส่วนพระเสาร์ก็ไปติดใจนางทิพยอัปสร ธิดาพระสมุทรเช่นกัน
ถึงขั้นประทานพรวิเศษให้นางสามารถใช้มนตร์บังฟ้า อันเป็นเคล็ดวิชาขั้นสูงได้
ก่อนครบกำหนดสามปีเพียงไม่กี่วัน นางทิพยอัปสรก็เดินทางไปเมืองของกินรี คู่หมั้นของพระเสาร์
แล้วใช้มนตร์บังฟ้าทำให้เวลาในเมืองนั้นคลาดเคลื่อน...

นางกินรีเข้าใจว่าครบกำหนดสามปีแล้ว พระเสาร์ไม่มาตามนัดแสดงว่าท่านคงเปลี่ยนใจ ไม่วิวาห์กับตนแล้ว
จึงเข้าพิธีแต่งงานกับพระวิรุณ ชายคนรัก...

แต่...พระเสาร์เป็นเทพที่ยึดมั่นสัญญา เมื่อครบกำหนดสามปีปุ๊บ ท่านก็มาตามนัด
แต่กลับพบว่านางกินรีคู่หมั้นแต่งงานไปแล้ว
พระเสาร์โกรธมากจึงสาปให้เหล่ากินนรทั้งเมืองนั้นให้กลายเป็นหิน...

นางกินรีรู้ว่าตนถูกแกล้งโดยทิพยอัปสร จึงผูกใจเจ็บ อาฆาต...

พระเสาร์เมื่อผิดหวังจากกินรีก็กลับไปหานางทิพยอัปสร
แล้วได้รู้ว่าที่นางกินรีทำเช่นนั้นเป็นเพราะทิพยอัปสรไปใช้มนตร์บังฟ้า (ซึ่งเป็นวิชาที่เกินตัวนาง
ทำให้ฤทธิ์ของนางเสื่อม กลายเป็นคนสามัญไป)
แต่จะถอนคำสาปก็ไม่ทันเสียแล้ว...
พระเสาร์ให้อภัยนางทิพยอัปสร และตั้งใจจะแต่งงานกับนาง
แต่ถูกพระอังคาร(เทพแห่งสงคราม)มาขวาง เพราะพระอังคารเองก็หลงรักนางอยู่...

ทั้งสองเทพจึงต่อสู้กัน นางทิพยอัปสรเข้าขวางจึงถูกอาวุธของพระอังคารเข้า ...
ร่างกายสลายลง ดวงจิตหลุดลอยมาเกิดในโลกมนุษย์...

กลายเป็นทิพย์มณี นักศึกษาสาวผู้สะสวย เพียบพร้อมด้วยชาติตระกูล...
เป็นที่หมายปองของบรรดาเพื่อนชายหลายคน...
ฝ่ายพระเสาร์ก็เฝ้าติดตามมาหานางด้วยความรัก…

ในขณะเดียวกัน...นางก็ถูกติดตามล้างแค้นโดยเหล่ากินนรที่คุมแค้นนางข้ามภพข้ามชาติ...
แล้วไหนจะพระอังคาร...เทพแห่งสงครามผู้ห้าวหาญอีกล่ะ...

พระเสาร์จะตามนางพบหรือไม่ และจะสามารถปกป้องนางจากชะตากรรมทั้งหลายของนางได้หรือเปล่า...
แล้วทั้งคู่จะครองรักกันได้หรือไม่ อย่างไร...





เล่มนี้เป็นนิยายแนวโรแมนติกแฟนตาซี(แต่ส่วนตัวอ่าน ๆ ไปรู้สึกว่าเป็นคอมเมดี้เสียมากกว่า...)

หนังสืออ่านสนุกในระดับหนึ่งค่ะ...
( ส่วนตัวอาจจะรู้สึกเหมือนจะเกินวัยไปนิด แหะ ๆ )

ออกจะทึ่งในจินตนาการอันล้นเหลือของคนเขียน อีกทั้งความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวกับเทพปกรณัมต่าง ๆ อีก...
การบรรยายบุคลิกลักษณะของเทพแต่ละองค์...หรู เริ่ดอลังการ น่าสนใจมาก ๆ

แต่...ช่วงต้น ๆ เรื่อง ก็อ่านเพลิน ๆ อยู่หรอกค่ะ…ค่อนข้างชอบด้วย รู้สึกเหมือนกำลังอ่านเทพนิยาย...

แต่มาถึงกลาง ๆ เรื่องชักจะยังไง ๆ
เพราะเหมือน ๆ คนเขียนจะเขียน(แต่งนิยาย)เพลินจัดหรือเปล่า...

เรื่องราวชักจะบานปลาย มีตัวละครเพิ่มมาอีกเป็นกระบุงโกย...
ทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็น

มีการผจญภัยในแดนหิมพานต์ที่ออกแนวเหลือเชื่อเกินจริงมากไปหน่อย...
จริงอยู่ที่เป็นแฟนตาซี แต่รอยต่อของเรื่องราวมันไม่ค่อยจะเนียนสนิทซักเท่าไหร่น่ะค่ะ ขาดความสมเหตุสมผลไปหน่อย...

อ่านมาถึงตอนปลาย ๆ เรื่อง ก็ยังหาที่จบได้ไม่ค่อยลงตัวนัก...
จึงเหมือนจะจบแบบดื้อ ๆ ลุ่น ๆ ชอบกล...
เหมือนจะยังมีอะไร ๆ คาใจอยู่ยังไงยังงั้น...

แหะ ๆ ความเห็นส่วนตัวค่ะ เคยอ่านคอมเมนต์ของหลาย ๆ คนบอกว่าชอบมาก อ่านได้เป็นสิบ ๆ รอบ แต่...ส่วนตัวคงอ่านได้รอบนี้รอบเดียวแหละค่ะ...เพราะเห็นจะไม่ใช่แนว





***เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ












 

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 19 มีนาคม 2554 16:45:31 น.
Counter : 5893 Pageviews.  

~ ดอกส้มสีทอง โดย ถ่ายเถา สุจริตกุล ~





ดอกส้มสีทอง
ผู้เขียน ถ่ายเถา สุจริตกุล
ผู้พิมพ์ สนพ.อรุณ (ครั้งแรก ก.ค. ๒๕๔๒)

โปรยปกหลัง



ความสุขของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ย่อมหมายถึงความทุกข์ของอีกฝ่ายเสมอไป
ไฟริษยาที่รุ่มร้อนอยู่เป็นนิจ มักนำมาซึ่งความทุกข์ลุกโหมในดวงจิต
ดังเพลิงนรกที่ไม่รู้ดับ

มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับสตรีที่เลือกทางเดินชีวิดแบบนี้
ไม่ว่าจะจงใจ หรือบุญกรรมชักนำไป






เรื่องย่อ(ย่อเอง แบบยาวอีกแล้ว...)


(เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ"มงกุฎดอกส้ม" ซึ่งเป็นละครทีวีที่เพิ่งจะลาจอไปน่ะค่ะ)

เรยาหรือฟ้า เป็นลูกสาวของหญิงรับใช้ใน”ตึกแดง” อาณาจักรของเจ้าสัวเชงสือเกียง
เจ้าหล่อนเป็นเด็กที่ทะเยอทะยานและหัวสูงมาตั้งแต่เล็ก ๆ แล้ว
ในวัยเด็กเธอกลายเป็นลูกไล่ของคุณชายเล็ก-เกียรติกร ลูกชายของคุณนายที่สาม
ที่คอยหาเรื่องกลั่นแกล้ง รังแกเธอต่าง ๆ นานาจนเธอรู้สึกคับแค้นใจมาก

ในช่วงนั้น เจ้าสัวเชงซึ่งหนีความวุ่นวายจากเมืองไทย...
(คุณนายที่สามมีชู้และตายอย่างลึกลับ คุณนายที่สี่สติวิปลาสไปนับแต่นั้น...)ไปสหรัฐฯ
และไปทำศัลยกรรมยกเครื่องตัวเองใหม่ แล้วกลับมาพร้อมคุณนายคนที่ห้า...
เป็นแหม่มสาวรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวของตน
สร้างความทุกข์ร้อนใจให้กับคุณนายใหญ่และคุณนายที่สองเป็นอย่างยิ่ง

คุณนายที่สองพยายามบีบบังคับให้ลำยอง - แม่ของฟ้าไปบ้านนอกเพื่อไปติดต่อหมอทำอาคมให้หาทางกำจัดเมียแหม่มของเจ้าสัว เหมือนที่เคยทำกับคำแก้วมาแล้ว แต่ลำยองรู้สึกกลัวบาปกรรม เนื่องจากเห็นผลที่เกิดขึ้นกับคุณนายที่สามและที่สี่ จึงแอบพาฟ้าหนีไปอยู่กับเจ้านายฝรั่งของบังดุล-แขกยามพ่อของฟ้า(ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนฟ้าจะเกิดด้วยซ้ำ)

เมื่อเติบโตขึ้นเรยาไปสมัครงานเป็นแอร์โฮสเตสที่บริษัทการบินเอกชนแห่งหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่เรียนไม่จบมหาวิทยาลัย แต่อาศัยหน้าตาดีและเป็นคนหัวไว พูดภาษาอังกฤษได้คล่อง ทำให้เธอได้เข้าทำงานอย่างง่ายดาย และเพียงไม่นานเธอก็มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนายจ้างของเธอทั้ง ๆ ที่เขามีภรรยาอยู่แล้ว

ฟ้าแอบลักลอบคบหากับสินธรได้ไม่นาน ภรรยาของเขาก็จับได้และบังคับให้สินธรเลิกกับฟ้า จังหวะนั้นฟ้าได้พบกับก้องเกียรติ คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเชง เธอจึงยอมเลิกกับสินธรโดยดี แต่ก็เรียกร้องเอาทรัพย์สินเงินทองมาจากเขาได้มากพอสมควร

ก้องเกียรติแต่งงานแล้วกับณฤดี ลูกสาวท่านทูต ตามการเห็นด้วยของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เขาพลั้งเผลอใจไปกับฟ้าด้วยการออดอ้อนฉอเลาะของเธอ จนฟ้าตั้งท้อง เขาจึงให้เธอไปอยู่ที่เมืองนอก (ในนิยายระบุว่าเป็นอเมริกา แต่ในละครเปลี่ยนเป็นนิวซีแลนด์อ่ะ) และบินไปหาเมื่อเขาไปติดต่อธุรกิจที่นั่น

ฝ่ายเกียรติกร หรือคุณชายเล็กซึ่งเป็นลูกชายของคุณนายที่สามก็เติบโตขึ้นมา และไปเรียนต่อเป็นคุณหมอมีชื่อเสียงในอเมริกา เขาได้รับการดูแลจากพี่ชายมากกว่าคนอื่น ๆ เจ้าสัวนั้นแสดงท่าทางเมินเฉยเข้าใส่เขาเพราะโกรธแม่ของเขา ผู้คนในเมืองนอกต่างรู้จักเขาในนาม ซี.เค.

วันหนึ่งเขาก็ได้พบกับฟ้า...
ฟ้ามองเห็นเขาเป็นที่หมายใหม่ หลังจากคลอดลูกของก้องเกียรติแล้ว
เธอจึงหอบลูกไปให้ณฤดีและพยายามจะสานสัมพันธ์กับซีเค...

โดยที่เธอมิได้คาดคิดแม้สักนิดว่า...ที่แท้แล้ว เขาก็เป็นศตรูคู่แค้นของเธอในวัยเด็กนั่นเอง...






หลังอ่าน...

อ่านเพราะเห็นเป็นกระแส …

ด้วยความอยากรู้ความเป็นไปและชะตากรรมของผู้คนในทำเนียบของเจ้าสัวเชง...

แต่เรื่องราวมันเยอะและยาวจัด และเน้นไปที่เรยาเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยประทับใจนัก
เพราะคาดหวังว่าจะเห็นบทบาทของคำแก้วมากขึ้น แต่ในเล่มนี้คำแก้วมีบทน้อยมาก จะเด่นขึ้นมาก็ตอนท้าย ๆ เรื่อง

แต่แอบสะใจในจุดจบของเจ้าสัวเชงแฮะ...
(ไม่เล่านะคะ เดี๋ยวโดนข้อหาสปอยล์)

ความที่เรื่องมันเยอะ และตัวละครก็มากมายเลยทำให้อะไร ๆ มันอัดแน่นเต็มไปหมด คนอ่านอ่านแล้วอึดอัดน่ะค่ะ...

เหมือนจะได้ยินมาจากไหนสักแห่งว่า...

ผู้แต่งแต่งเรื่องนี้หลังจากมงกุฏดอกส้มเป็นละครทีวีแล้วได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ในเล่มนี้จึงดูเหมือนว่าผู้เขียนพยายามท้าวความไปถึงภาคแรกเยอะไปหน่อย

อีกอย่างหนึ่งคือ...รู้สึกว่าช่วงเวลาที่เป็นรอยต่อระหว่างภาคแรกกับภาคที่สองมันขัดแย้งกันชอบกล
คนรุ่นลูก ๆ เด็ก ๆ อย่างเกียรติกรกับเรยาโตจนเป็นหนุ่มเป็นสาว
ในขณะที่เจ้าสัวกับบรรดาเมีย ๆ ทั้งหลายยังคงเดิม เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปร...
มันเลยรู้สึกขัด ๆ น่ะค่ะ...

แต่สำนวนภาษาเรียบลื่น สละสลวยใช้ได้ค่ะ เลยพอกล้อมแกล้ม ๆ หักลบกันไปได้
ก็อ่ะนะ...นิยายนี่นา





***เชิญเลือกอ่านหนังสือเล่มอื่น ๆ ในบล็อกนี้ได้ที่... ~ สารบัญหนังสือในบล็อก ~ ค่ะ







 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 19 มีนาคม 2554 16:52:39 น.
Counter : 2976 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  

แม่ไก่
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 184 คน [?]




**หลังไมค์เจ้า**





Cute Clock Click!



เออสิ,มาอยู่ใยในโลกกว้าง
เฉกชลคว้างมาเมื่อไรไม่นึกฝัน
ยามจากไปก็เหมือนลมรำพัน
โบกกระชั้นสู่หนไหนไม่รู้เลย


รุไบยาต ~ โอมาร์ คัยยัม
สุริยฉัตร ชัยมงคล : แปล




Latest Blogs

~ท่านหญิงในกระจก/แสงเพลิง ~

~เพชรรากษส/อลินา ~

~มนตร์ทศทิศ/ราตรี อธิษฐาน ~

~เมื่อหอยทากมีรัก 1-2/"ติงโม่"เขียน/พันมัย แปล ~

~ให้รักระบายใจ/"ณกันต์"เขียน ~

~ผมกลายเป็นแมว/Abandoned/Paul Gallico เขียน(ภูธนิน แปล) ~

~พ่อค้าซ่อนกลรัก & หมอปีศาจแสนรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~อาจารย์ยอดรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~

~จอมโจรพยศรัก/"หูเตี๋ย" เขียน(Wisnu แปล) ~


สารบัญหนังสือ: รวมลิงก์หนังสือที่รีวิวในบล็อก # ๑ + ๒



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่ไก่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.