นักสืบพราน - เรื่องที่ 7 นมถ้วยสุดท้าย (ตอนที่ 7)
โดย 4411
พราน เจนเชิง อัดควันบุหรี่อย่างแรง พ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นทางยาว และพูดกับเลขานุการของเขา ซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าว่า คดีเรื่อง หมู่อรัญ นี้ ผมชักจะมั่นใจเสียแล้วว่า มันเป็นเรื่องฆาตกรรม ไม่ใช่เรื่องอัตตวินิบาตกรรม
กัลยา หมุนดินสอที่ถืออยู่ในมือเล่น พูดว่า หัวหน้ามีเหตุผลอย่างไรบ้างคะ
หลายอย่าง เป็นต้นว่า บันทึกของ หมู่อรัญ ที่ผมได้อ่านดูแล้วอย่างละเอียด ผู้ที่ หมู่อรัญ ใช้เครื่องหมายกากะบาดแทนชื่อ คงจะเป็นผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งมีความสำคัญเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของ อรัญ ไม่ใช่น้อย และบุคคลผู้นี้ ปรากฏว่า ได้มาพบ อรัญ บ่อย ๆ และทุกคราว เป็นเวลาหลังจาก อรัญ กลับจากงานแล้วทั้งนั้น เรายังไม่มีทางรู้ได้ว่า เขาพบกันที่ไหน แต่คงไม่ใช่ที่บ้านของ อรัญ แน่ เพราะมิฉะนั้น ตาประจวบ นั่น คงจะบอกเราได้บ้าง ฉะนั้น ผมเข้าใจว่า เขาคงจะพบกันนอกบ้าน ที่ใดที่หนึ่ง และเป็นเวลาหลังจาก อรัญ เลิกงานแล้ว
พราน หยุดชงักชั่วครู่ เมื่อพูดถึงตรงนี้ คิ้วของเขาขมวดอย่างใช้ความคิด ครั้นแล้วก็เปลี่ยนเป็นยิ้ม ดีดนิ้วมือและพูดว่า ตาทับ ถ้าเช่นนั้น ตาทับ คนขี่รถสามล้อ อาจจะรู้ว่า หลังจากเลิกงานแล้ว หมู่อรัญ ให้แกพาไปไหนบ้าง
มีเสียงเคาะที่ประตู ร่างของ เกรียง ศักดา เปิดบังตาเข้ามา ผมมีของดีมาให้หัวหน้า เขาพูดอย่างยิ้มแย้ม หันไปหลิ่วตากับ กัลยา นิดหนึ่ง พลางล้วงกระเป๋ากางเกง ส่งห่อเล็ก ๆ ห่อหนึ่งให้ พราน
พราน รับห่อกระดาษนั้นมาแก้ออกโดยไม่ได้พูดอะไร สิ่งที่เขาเห็นคือ หัวกระสุนปืนอันหนึ่ง
อะไรกัน เกรียง พราน เงยหน้าขึ้นถาม
เกรียง ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง พูดว่า ผมสงสัยอย่างที่หัวหน้าสงสัยว่า ชาวบ้านแถวนั้นได้ยินเสียงปืนในที่เกิดเหตุกี่นัด ผมได้ไปสืบถามดูเมื่อเช้านี้ ปรากฏว่า ไม่ใคร่มีใครได้เอาใจใส่กับเสียงปืนมากนัก เพราะต่างก็เข้าใจว่า เป็นเสียงยางรถแตก มีบางคนจำได้ว่า คลับคล้ายคลับคลาว่า ดังสองหน บางคนก็ว่าหนเดียว บางคนปาเข้าไปตั้งสามหน - ไม่ได้ความ มีอยู่คนหนึ่งที่ลุกขึ้นดูที่หน้าต่าง เห็นสามล้อคันหนึ่งจอดนิ่งอยู่สักครู่ แล้วคนขี่รถสามล้อนั้นก็จูงสามล้อหันหลังขี่กลับไป รถอื่น ๆ ไม่เห็นมี แต่เขาจำได้ลาง ๆ อีกแหละว่า ดูเหมือนจะได้ยินเสียงรถยนต์คันหนึ่งแล่นสวนเข้าไปทางในเมือง ก่อนหน้าที่เขาจะลุกขึ้นมาดู ฉะนั้น ถ้าเสียงนั้นเป็นเสียงปืน รถยนต์คันนั้นก็คงจะหยุดดูเหตุการณ์บ้าง แต่นี่ไม่ปรากฏ เขาจึงเข้าใจว่า เป็นเสียงอย่างอื่น คือ เสียงท่อไอเสียระเบิด หรือยางแตก อะไรก็ได้
เกรียง ศักดา หยุดพูด ควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ แล้วพูดต่อไป ผมจึงให้เขาชี้ที่ ๆ เขาเห็นรถสามล้อจอดอยู่ ในคืนวันนั้น เขาก็มาชี้ให้ผมดู และได้ทำท่าลักษณะรถจอด ตอนที่เขาเห็นครั้งแรก แล้วผมก็ลงมือสำรวจตรวจสอบชาวบ้านแถบนั้นว่า มีใครได้ยินเสียงผิดปกติ เช่น เสียงของแข็งกระทบกับบ้านเรือน อะไรหรือเปล่า ก็ไม่มีใครรู้สึก ผมดูเรื่อยเปื่อยไปที่ต้นก้ามปู ซึ่งอยู่ทิศทางที่รถสามล้อคันนั้นหันข้างให้ ตรงโคนต้น สูงจากพื้นดินสัก ๕๐ เซ็นติเมตร เห็นจะได้ มีรอยเจาะอยู่ เนื้อไม้ยังไม่เก่ากลมกลืนกับเนื้อเดิม ผมใช้มีดแซะเข้าไป ก็ได้ไอ้นี่ เขาพยักหน้า ชี้นิ้วไปที่หัวกระสุน ที่ พราน วางไว้บนโต๊ะ แอบซ่อนอยู่ในนั้น
พราน พิจารณาดูหัวกระสุนนั้นอีกครั้ง เป็นหัวกระสุนขนาด ๑๑ มม. และยังไม่มีรอยช้ำมากนัก นอกจากรอยลำกล้องปืน เขากำมันไว้ในกำมือ หันไปมองดู กัลยา และยิ้มอย่างพึงพอใจ พูดว่า ไอ้นี่แหละ เป็นปมสำคัญ คลำไปหาตัวผู้พิฆาต หมู่อรัญ - เห็นไหม กัลยา เรื่องนี้ เกิดมีหัวกระสุนสองหัวขึ้นมาแล้ว ในเบาะรถอันหนึ่ง และที่ต้นไม้นี้อีกอันหนึ่ง
เขาหันไปทางกรียง ขอบใจมาก เกรียง - วิเศษแท้ บรั่นดีอยู่ในตู้นั่น เขาชี้มือไปที่ตู้ข้างฝา กัลยา รางวัล เกรียง เขาหน่อยซี
เกรียง ลุกขึ้นเดินไปที่ตู้ เขาโบกมือไปที่ กัลยา ซึ่งขยับตัวจะลุกขึ้น ไม่ต้องหรอกครับ ผมเองดีกว่า - ค่อยเต็มที่หน่อย
เสียงกริ่งโทรศัพท์บนโต๊ะของ พราน ดังขึ้น
กัลยา ลุกเดินไปที่เครื่องโทรศัพท์ ยกหูขึ้นฟัง แล้วหันมาทาง พราน พูดว่า อรุณี บอกขึ้นมาว่า มีคนจะมาพบหัวหน้า ชื่อ นาย จำนงค์ วิชาชาญ เขาเป็นคนที่มาตามประกาศทางหนังสือพิมพ์ของเรา
พราน พยักหน้า เชิญเขาขึ้นมาได้ทันที กัลยา วันนี้วันอะไรนะ ดูช่างเป็นวันดีของเราเสียจริง ๆ
เชิญ คุณจำนงค์ ขึ้นมาได้ อรุณี กัลยา พูดลงไปในเครื่องโทรศัพท์ หล่อนวางหูลง และหันหน้ามาทาง พราน เป็นเชิงถาม
พราน ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่ง ห่อหัวกระสุนที่เขาถืออยู่ด้วยกระดาษแผ่นเก่าอย่างเรียบร้อย ใส่ลงไปในกระเป๋ากางเอง พูดกับ เกรียง ยังไม่ต้องบอกใครให้รู้ว่า เราได้หัวกระสุนนี้ไว้นะ เกรียง คุณกลับไปคอยผมที่ห้องก่อน รอฟังอยู่ที่นั่น กัลยา คุณก็ไม่ต้องอยู่ ผมต้องการพบกับ นายจำนงค์ สองต่อสอง
Create Date : 18 ตุลาคม 2555 |
|
2 comments |
Last Update : 18 ตุลาคม 2555 4:21:18 น. |
Counter : 1128 Pageviews. |
|
|
|