จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2558
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 มีนาคม 2558
 
All Blogs
 
ถุงมือประหลาด ตอนที่ ๑๕

นวนิยายสืบสวน สอบสวน ของนักสืบพราน เล่มที่ ๒ โดย ๔๔๑๑
เรื่องที่ ๕
เรื่อง ถุงมือประหลาด
ตอนที่ ๑๕

พราน เจนเชิง กลับมาที่สำนักงาน เขาพบ พิชิต สุรพล นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขกข้างนอก

กัลยา ชาญวิทยา กำลังง่วนอยู่กับการเรียบเรียงรายงานต่างๆ

พราน พยักหน้าให้ พิชิต เข้าไปคอยในห้องทำงานของเขา และพูดกับ กัลยา ว่า
“ ได้ข่าวอะไรจาก เอนก บ้างไหม... กัลยา ”

กัลยา เงยหน้าขึ้น
“ คุณเอนก ยังไม่กลับค่ะ ”

พราน ขมวดคิ้ว
“ เอ... ยังไงกัน ไปไกลถึงไหน... ขอรายงานของ เกรียง ให้ผมเถอะ ”

กัลยา ส่งกระดาษรายงานของ เกรียง ให้กับหัวหน้าของหล่อน เขารับมันมาแล้วพยักหน้าให้ กัลยา เข้ามาในห้อง

พราน ถอดเสื้อชั้นนอกออกแขวน เดินอ่านเอกสารของ เกรียง พลางเดินอ้อมไปที่โต๊ะทำงาน และนั่งลงบนเก้าอี้ของเขา ขณะที่ กัลยา อ้อมมาปลดสวิทช์โทรศัพท์ให้ดังเข้ามาได้

พราน อ่านรายงานของ เกรียง อย่างพินิจพิเคราะห์จนจบแล้ว พูดขึ้นว่า
“ แปลกมาก ตำรวจมีพยานที่เห็น สายสุนี ออกมาจากบ้านในเวลาประมาณใกล้ ๆ กับ สามทุ่ม มันเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาที่ โรจน์ และ สายสุนี ออกไปแจ้งความที่โรงพักสามแยก และก็คงจะเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาที่ตำรวจท้องที่ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุด้วย ผมแปลกใจนักว่า ตำรวจเขาใช้เวลาตรวจสถานที่เกิดเหตุนานเท่าใด และสถานที่เกิดเหตุ เมื่อตอนที่ตำรวจไปตรวจตอนได้รับแจ้งของหาย กับตอนที่เขาไปตรวจหลังจากพบศพแล้ว จะเหมือนกันหรือไม่ ”

เขาหยุดคิดครู่หนึ่ง แล้วหันไปทาง กัลยา พูดว่า
“ รูปที่สารวัตรพจน์ เอามาให้เมื่อเช้านี้ อยู่ที่ไหน... กัลยา ”

“ ในลิ้นชักโต๊ะข้างขวามือหัวหน้าค่ะ ” กัลยา ตอบ

พราน ดึงลิ้นชักข้างนั้น มันเปิดออกโดยไม่ได้ติดกุญแจดังเคย เขาเหลือบตาขึ้นมองดู กัลยา
กัลยา กูดว่า
“ ดิฉันไม่ได้ใส่กุญแจ เพราะเห็นว่า ประเดี๋ยว หัวหน้าก็จะต้องกลับมาดูอีก ”

พราน หัวเราะ ดึงเอาซองใส่รูปออกมา และเลือกหาภาพสถานที่ออกมาพิจารณา แล้วหันไปทาง พิชิต ถามว่า
“ คุณรู้จักกับ นายร้อยตำรวจโท ดำรง ที่สามแยก ไหม ”

“ พอจะรู้จักครับ ”

“ เอารูปนี้ไปให้เขาดู ถามเขาแต่เพียงว่า ลักษณะของสถานที่เกิดเหตุ ขณะที่เขาไปตรวจในตอนที่เกิดคดีลักทรัพย์นั้น เหมือนกับรูปถ่ายนี้หรือไม่ ” เขาโยนรูปถ่ายแผ่นนั้นลงบนโต๊ะตรงหน้า

พิชิต ลุกขึ้นมาหยิบรูปภาพแผ่นนั้น ไปใส่ในกระเป๋าเสื้อ และพูดว่า
“ ผมได้รายละเอียดมาอีกหลายอย่าง ”

“ ว่าไป ” พราน พูด ขณะยังนั่งเอนหลัง พิจารณารายงานของ เกรียง

“ หุ้นส่วนในการทำสลากกินรวบของ นายโรจน์ นี้ มีสี่คนด้วยกัน ”
พิชิต พูด พลางล้วงสมุดพกของเขาขึ้นมา
“ คือ นายโรจน์ นายจำนงค์ หรือ เสี่ยนงค์ นายวิรัตน์ และ นายอำไพ ”

พราน เงยหน้าขึ้น
“ นายอำไพ ที่เคยเป็นเจ้ามือหวยรายใหญ่ใช่ไหม ”


“ ครับ ”
พราน เหลือบตาไปที่ กัลยา เห็นหล่อนกำลังจดบันทึกลงในสมุด เขาก็กลับก้มหน้าลงดูรายงานที่วางอยู่ตรงหน้าตักของเขาต่อไป พูดว่า
“ ว่าต่อไป ”

“ การที่นายวิรัตน์ ถูกฆ่าตาย ทางตำรวจสืบและสอบได้ว่า เป็นการกระทำของ นายโรจน์ สาเหตุเพียงจากการออกสลากครั้งสุดท้าย นายวิรัตน์เป็นผู้เก็บเงินส่วนใหญ่ไว้ แจ้งให้หุ้นส่วนทราบว่า มีผู้แทงถูกทางสายของเขา และได้จ่ายเงินไปให้จนไม่เหลือเงินในกงษี แต่ภายหลัง ทางนายโรจน์ ได้สืบทราบว่า ผู้ที่นายวิรัตน์ อ้างว่า แทงถูกนั้น เป็นคนของ นายวิรัตน์เอง และ นายวิรัตน์ มีเจตนาที่จะอมเงินของกงษีทั้งหมดนั้นไว้ ซึ่งมีจำนวนถึง สี่แสนบาท ”

“ สี่แสนบาท พอดีๆ รึ ” พราน เงยหน้าถาม

“ ครับ สี่แสนบาทพอดีๆ ”

“ แล้วไงต่อไป ”

“ นายโรจน์ ไปได้ตัวผู้ที่ นายวิรัตน์ อ้างว่าเป็นผู้แทงถูกนั้นมา และสอบสวนยืนยันต่อหน้า นายอำไพ และ เสี่ยนงค์ คนๆ นั้น รับกับบุคคลทั้งสามว่า เป็นแผนการอมเงินของ นายวิรัตน์ เหตุที่รับนั้น เพราะ นายวิรัตน์ แบ่งเงินให้เพียง สี่พันบาท เท่านั้นเอง บุคคลทั้งสาม จึงพากันไปพบ นายวิรัตน์ ที่บ้าน และกักตัวคนของนายวิรัตน์ นั้นไว้ แต่วันนั้น เขาไม่พบนายวิรัตน์ นายโรจน์ ออกความเห็นว่า ให้ทำเป็นเฉยๆ ไว้ก่อน จนถึงคราวประชุมกันในตอนที่สลากงวดใหม่จะออก จึงจะหาวิธีจัดการกับ นายวิรัตน์ แล้วเอาคนของนายวิรัตน์ นั้นมาเลี้ยงดูไว้อย่างดี และปล่อยให้ไปเป็นสายล่อ นายวิรัตน์ ให้มาติดกับอีกทีหนึ่ง ”

พราน ขมวดคิ้ว ขณะอ่านรายงาน

พิชิต หยุดพูดสักครู่หนึ่ง

พราน จึงเงยหน้า
“ ต่อไปซี... ผมกำลังสงสัยอะไรบางอย่างในรายงานของ เกรียง ไม่ใช่ในเรื่องที่คุณพูด ”

พิชิต พูดต่อไป
“ การณ์เป็นไปตามแผน ถึงคราวสลากงวดใหม่ออก ทั้งสี่คนก็มาประชุมกันที่บ้านลับของพวกเขา วิรัตน์ ยังคงยืนยันเรื่องเดิมที่เขาบอกกับพรรคพวกไว้ ถึงเรื่องเงินสี่แสนนั้น ทั้งเสี่ยนงค์ และนายอำไพ ปล่อยให้นายโรจน์ เป็นคนจัดการกับ นายวิรัตน์ คนทั้งสองออกจากบ้านไป คงเหลือแต่ นายวิรัตน์ กับ นายโรจน์ ที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง ต่อมา ปรากฎว่า นายวิรัตน์ ถูกฆ่าตายที่บ้านหลังนั้น ด้วยมีดแทงทะลุหัวใจพอดี ตำรวจพบถุงมือข้างหนึ่งของ นายโรจน์ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ปกติ นายโรจน์ จะสวมถุงมือทั้งสองข้าง เพราะนิ้วก้อยข้างซ้ายของเขาด้วน ถุงมือที่พบเป็นถุงมือข้างขวา ฉะนั้น ถุงมือข้างซ้ายก็คงติดตัวนายโรจน์ไป จากนั้น นายโรจน์ก็หายตัวไป ตำรวจออกตามตัว แต่ไม่พบร่องรอยอย่างไร ”

“ สายสุนี มีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องนี้อย่างไร ”

“ สายสุนี ซึ่งอยู่กับ นายโรจน์ ในฐานะเมีย ยังมีความสัมพันธ์กับนายวิรัตน์ อีกด้วย เคยได้เงินจาก นายวิรัตน์ มาใช้อยู่เสมอๆ โดย นายโรจน์ ไม่ได้รู้เรื่อง ในวันเกิดเหตุ สายสุนีได้ไปที่บ้านหลังนั้นเหมือนกัน บอกว่า จะไปตามนายโรจน์ แต่หล่อนไม่ได้พบใคร คงพบแต่ศพนายวิรัตน์ และ สายสุนี นี่เองที่เป็นผู้แจ้งตำรวจถึงเรื่องที่พบศพ นายวิรัตน์ ”

พราน พยักหน้าช้าๆ อย่างไตร่ตรอง
“ หมายความว่า สายสุนี ได้เคยถูกสอบสวนในเรื่องนั้นมาแล้ว ”

“ ใช่ครับ ”

“ และพยานในเรื่องนายวิรัตน์ ก็คงเป็นพวกนายจำนงค์ และนายอำไพ และคนของนายวิรัตน์ นั่นเอง ”

“ ถูกแล้วครับ... คนทั้งสามได้ถูกตำรวจเรียกไปให้การ และได้ให้การดังที่เล่ามาแล้ว ”

“ คนของนายวิรัตน์ ที่ว่าเป็นผู้ถูกสลากรายที่โกงกัน ชื่ออะไร ”

“ พร เพียงธรรม ”

“ พร เพียงธรรม ”
พราน ทวนคำคล้ายเสียงอุทาน แล้วก้มหน้านิ่งอยู่ เขาค่อย ๆ ลุกจากเก้าอี้ที่นั่ง วางกระดาษของ เกรียง ไว้บนโต๊ะ เริ่มเดินช้า ๆ ไปตามความกว้างของห้อง ศีรษะก้มดูพื้นเป็นนานๆ ครั้ง เขาส่ายหน้ากับตัวเอง แล้วเดินช้าๆ ไปถึงหน้าต่าง เขายืนหันหลังพิงหน้าต่าง มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง พูดช้าๆ ว่า

“ พร เพียงธรรม คือ พยานของตำรวจ ที่เห็น สายสุนี ออกมาจากบ้านในเวลาใกล้เคียงกับที่เขาพบศพคนที่เขาเชื่อว่าเป็น นางโรจน์ ”

“ ทำไมหัวหน้าจึงใช้คำว่า ศพคนที่เขาเชื่อกันว่าเป็น นายโรจน์ ” กัลยา ถามขึ้น

“ ศพนั้น ยังไม่ได้มีการยืนยันว่า เป็นศพของนายโรจน์ หรือคะ ”

พราน หันไปมองดูหล่อน
“ ครั้งแรก เราเชื่อกันว่า เป็นศพของนายโรจน์ แต่เดี๋ยวนี้ ผมเชื่อว่า มันไม่ใช่เสียแล้ว ”

“ ก็งั้น จะศพใครล่ะคะ ”

“ จะใครเสียอีก ”

“ หัวหน้าหมายความว่า เป็นศพของ นายวิรัตน์ ”

“ ถ้านายโรจน์ นิ้วก้อยมือซ้ายด้วนจริงๆ ” พราน พูด

“ เพราะคนที่ชื่อว่า นายวิรัตน์ และมาหาเราเมื่อเช้านี้ นิ้วก้อยข้างของเขาไม่มี ผมได้สังเกตุร่างกายของเขาโดยตลอดขณะที่พูดกัน และผมเพิ่งนึกได้ ตอนที่ได้เห็นรูปถ่ายของศพ ที่สารวัตรพจน์ เอามาให้นั่นเอง เดี๋ยวนี้ มันปรากฏชัดแล้วว่า ผู้ตายไม่ใช่นายโรจน์ เขาต้องเป็น นายวิรัตน์ นายวิรัตน์ ผู้มีความเกี่ยวพันกับ คุณหญิงราชพิเชษฐ์ แกหายออกจากบ้านครั้งสุดท้ายโดยมีคนเอารถยนต์มารับ ซึ่งเรายังไม่รู้ว่าเป็นใคร... จากรายงานของ เกรียง นายจำนงค์ กับนายอำไพ มีบ่อนการพนันอีกแห่งหนึ่งทางพระโขนง และผมเชื่อว่า คนที่คุณหญิงบอกว่า ไปหานายวิรัตน์ที่บ้านบ่อย ๆ และเรียกกันว่า นงค์ คนนี้ คือเสี่ยนงค์ หรือนายจำนงค์คนนี้เอง นั่นแสดงว่า นายวิรัตน์จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการพนันรายนี้ด้วย ในรายงานไม่ปรากฏว่า นายโรจน์มีส่วนร่วมในบ่อนการพนันของนายจำนงค์กับนายอำไพที่พระโขนง เขาอาจไม่รู้ว่า น้องชายของเขาเป็นนักการพนัน... แต่...ทำไมนายวิรัตน์ จึงจะต้องถูกฆ่า... ”

พราน ขยับตัวออกจากที่เดิม เดินต่อไปอีกในลักษณะอาการเดิม เขาพูดไปด้วยอย่างช้าๆ
“ เรื่องราวมันยังขาดตอนอยู่อีกนิดเดียว... อีกนิดเดียวเท่านั้นเอง... มันสำคัญอยู่ที่เงินสี่แสนนั่น... ทำไม สายสุนี จึงไม่ให้การกับตำรวจในเรื่อง นายวิรัตน์ ถูกฆ่าตาย... และทำไมเงินสี่แสนที่หายไปจากบ้านนายโรจน์ จึงมีจำนวนตรงกันกับเงินที่นายวิรัตน์โกง... และลัดดา เข้ามาพัวพันในเงินจำนวนนี้ด้วยอย่างไร... ผมกำลังปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ให้มันเข้ากัน แต่มันขาดอยู่อีกนิดเดียว ... ถ้ามีอะไรมาต่อให้มันเข้ากันได้... แต่... มันต้องต่อกันจนได้... เอนก ช้าจริง... ไปถึงไหนกันนี่... หรือว่า... ”

เขาหยุดชะงัก แล้วยิ้ม ดีดนิ้วมือเป๊าะ
“ เรารอ เกรียง อีกคนเดียวเท่านั้น... สำคัญที่ลัดดา... ”

เขาพยักหน้าไปทาง กัลยา
“ ขอบรั่นดีผมหน่อย กัลยา ”

กัลยา ลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เหล้าข้างฝา รินบรั่นดีลงในถ้วยเล็ก ส่งให้พราน เขารับมากรอกพรวดเดียวลงลำคอ วางถ้วยลง พอดีกับเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

กัลยา รับสาย แล้วส่งให้หัวหน้าของหล่อน
“ คุณเกรียงค่ะ ”

พราน รับโทรศัพท์
“ ว่าไง เกรียง ”

“ หัวหน้าครับ... เวลานี้ ผมอยู่ที่สถานีตำรวจบางรัก มาขอยืมโทรศัพท์เขาพูด... ขณะที่จุดของรากำลังเข้าไปในบ้านเลขที่ ๕๓ ถนนนเรศร์ ผมให้เจ้าจันมันเฝ้าไว้ และเข้าไปนานสัก ๑๐ นาทีได้แล้ว ผมเห็นมีคนมาใส่กลอนประตูหน้าบ้าน เข้าใจว่าคงจะอยู่อีกนาน เลยรีบมาโทรศัพท์... ก่อนหน้าที่จะมาที่ถนนนเรศร์ ลัดดา แวะเข้าไปในซอยจุฬาซอย ๑๑ บ้านเลขที่ ๒๑๖ เป็นบ้านเล็กๆ เข้าไปสัก ๔-๕ นาที ก็กลับออกมา แล้วเลยมาที่ถนนนเรศร์นี้ ”

“ ดีมาก เกรียง กลับไปเฝ้าต่อไปจนกว่าแกจะกลับเข้าบ้าน ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น จดเลขบ้าน ทำแผนที่ไว้ให้ผม คุณคอยอยู่นานเท่าไร ตอนที่ผมออกจากบ้านแกมา ”

“ ไม่นานหรอกครับ พอหัวหน้าออกรถไปไม่ถึง ๑๐ นาที แกก็ออกมาเรียกแท๊กซี่ออกไป ”

“ ดีแล้ว ขอบใจ เลิกกัน ”

พรานวางหูโทรศัพท์ เดินไปหยิบเสื้อนอก แล้วหันมาทาง พิชิต
“ ไปกับผม พิชิต ”

พิชิต ลุกขึ้นเดินตามหัวหน้าของเขาออกไปติดๆ กัน




Create Date : 07 มีนาคม 2558
Last Update : 7 มีนาคม 2558 7:26:00 น. 2 comments
Counter : 554 Pageviews.

 


โดย: ก้นกะลา วันที่: 8 มีนาคม 2558 เวลา:5:12:45 น.  

 
การสืบสวนงวดเข้ามาเรื่อยๆ


วันนี้แค่นี้ก่อน ขอบคุณค่ะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 14 มีนาคม 2558 เวลา:15:20:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.