จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
นักสืบพราน - เรื่องที่ 2 จำเลยไม่พูด (ตอนที่ 8)

โดย 4411

“ หัวหน้าคิดอย่างไร จึงต้องการให้ขุนวนกิจบำรุงถอนทนายสองคนนั้น ”

กัลยา ชาญวิทยา พูดขึ้นเมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสองกับนายจ้างของหล่อน ในห้องทำงานของเขา

พรานเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เขาพ่นควันบุหรี่ขึ้นสู่เพดาน

“ เป็นหนทางที่ดีที่สุดที่ผมต้องทำ เพราะถ้าขืนปล่อยให้ทนายทั้งสองคนนั้นดำเนินการต่อไป แกก็ต้องพยายามนำคุณอรัญญาเข้าสืบเป็นพยานปากแรก และถ้าปล่อยให้คุณอรัญญาให้การต่อศาลตามที่แกเล่ามาแล้ว มันจะไม่เกิดเป็นผลดีอะไรขึ้นมาเลย ศาลที่ไหน ๆ ก็ย่อมไม่เชื่อคำของแก เพราะมันไม่น่าเชื่อ ”

“ หมายความว่า หัวหน้าก็ไม่เชื่อคำบอกเล่าของคุณอรัญญากับเขาด้วยเหมือนกัน” กัลยาถามอย่างสงสัย

“ ผมพูดแต่เพียงว่า มันไม่น่าเชื่อ บางครั้งความจริงก็อาจเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อได้เหมือนกัน ไม่ใช่หรือ – กัลยา” พรานพูดยิ้ม ๆ 

 “ แต่ในการที่เอาสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ  เข้าไปผสมกับหลักฐานต่าง ๆซึ่งผูกมัดตัวคุณอรัญญาอยู่อย่างแน่นหนาขณะนี้ มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าทำแน่ ๆ ทางที่ดีที่สุดคือ ต้องหาวิธียับยั้งไว้ก่อน ระหว่างที่จำเลยยังขาดทนายอยู่นี้ การพิจารณาคดีก็ต้องหยุดชะงัก จนกว่า ขุนวนกิจบำรุง จะหาทนายความคนใหม่ได้  นั่นหมายความว่า  เรามีเวลาทำงานของเรามากขึ้น ใช่ไหม – กัลยา ?  และนอกจากนั้น  ยังเป็นการทุ่นเงินอีกครึ่งหนึ่งที่ท่านขุน ฯจะต้องจ่ายให้กับทนายเมื่อคดีเสร็จแล้วอีกด้วย  ถ้าเราไม่ใช้วิธีนี้  ผมไม่คิดว่า  ทั้งนายวิชัยและนายสันทัดจะยอมถอนตัวง่าย ๆ เพราะเงินอีกครึ่งหนึ่งนั้นอยู่ใกล้มือแกเต็มทีแล้ว  เราจะต้องทำทุกอย่างที่จะให้เกิดประโยชน์ต่อลูกค้าของเราในทุกวิถีทาง ”

กัลยาพยักหน้าช้า ๆ

“ ดิฉันเข้าใจละ แต่หัวหน้าคิดหรือคะว่า เราจะทำงานชิ้นนี้สำเร็จ ”

“ นั่นต้องแล้วแต่โชค ขณะนี้ผมก็พอจะมองเห็นอะไรได้บ้างแล้วลาง ๆ และอีกประการหนึ่ง ในขณะที่ผมทำงาน ผมไม่ใคร่ชอบที่จะให้ใครมาทำงานชิ้นเดียวกัน แข่งกับผม เพราะวิธีการของคนเราย่อมไม่เหมือนกัน ถ้าต่างคนต่างความคิด มันจะยุ่งกันใหญ่ ผมจึงต้องให้ทนายทั้งสองคนนั้นถอนตัวไปเสีย ผมจะจับงานชิ้นนี้ด้วยตัวของผมเอง และด้วยความคิดของผมตามลำพัง มันถนัดมือดี ”

กัลยาหัวเราะเบา ๆ -พรานพูดต่อไป

“ ความจริงคนทั้งสองนั้น เป็นทนายที่มีชื่อเสียงมาก และได้ทำงานนี้มาอย่างเต็มที่ แต่ผมไม่ชอบวิธีทางของเขา ที่เดินตามหลักมากเกินไป คดีนี้ เราต้องสู้ด้วยกลวิธีที่พลิกแพลงไม่ใช่ด้วยหลักการ ผมไม่มีทางที่จะแนะนำอะไรเขาได้ พูดง่าย ๆ ก็คือ เขาก็ถือว่าเขาช่ำชองมามาก จะมาฟังความเห็นของผมยังไงได้เราจึงทำงานร่วมกันไม่ได้ ตอนนี้คุณคงจะเข้าใจแล้วซี ว่าแต่คุณเห็นข่าวหนังสือพิมพ์ ประชาไทย แล้วหรือยัง เกี่ยวกับเรื่องของเรา ? ”

“ หนังสือพิมพ์พากันประโคมข่าวหลายฉบับ ” กัลยาพูด “ เรื่อง นักสืบพราน เข้าจับงานสืบสวนคดีนี้และนักสืบพราน ไม่เชื่อว่า อรัญญาได้ฆ่าสามีของเธอจริง ดิฉันคิดว่า มันออกจะเป็นการท้าทายที่เสี่ยงและหมิ่นเหม่อยู่สักหน่อย ”

“ผมได้ก้าวเท้าออกไปแล้วหนึ่งก้าว – กัลยา และผมจะไม่ถอย จะก้าวต่อไป จริงอยู่ มันออกจะเป็นการท้าทายที่หมิ่นเหม่อย่างคุณว่า แต่ผมจำเป็นต้องทำเช่นนั้น มันเป็นวิธีการอันหนึ่งของผม แล้วคุณจะได้รู้ภายหลัง ”

พรานลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เขานั่งเดินไปเดินมาอย่างช้า ๆ จากบังตาห้องถึงหน้าต่าง ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ท่าทางของเขาแสดงให้เห็นว่า กำลังตกอยู่ในอาการใช้ความคิดอย่างหนัก นาน ๆ ครั้ง เขาจะชำเลืองมาทางกัลยา แหงนหน้าขึ้นมองเพดานแล้วก้มลงต่ำมองดูพื้น มือข้างขวาของเขายกขึ้นลูบไล้ริมฝีปากด้วยนิ้วมืออยู่ตลอดเวลาขณะนั้น

เขาเดินไปหยุดตรงหน้าต่าง ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู และพูดโดยไม่ได้หันหน้ากลับมามองกัลยาว่า

“ผมต้องการตัวเกรียงเดี๋ยวนี้ – กัลยา ดูซิว่าเขาอยู่ในห้องหรือเปล่า ”

กัลยายกหูโทรศัพท์ขึ้น หล่อนจัดการติดต่อไปยังห้องของเกรียงตามคำสั่ง ครั้นแล้วจึงพูดว่า

“คุณเกรียงจะมาเดี๋ยวนี้ค่ะ ”

พรานหันหน้ากลับมา เขาไม่ได้พูดอะไร ล้วงกระเป๋าเสื้อชั้นใน หยิบซองบุหรี่ออกมา และหยิบบุหรี่จุดสูบ มือทั้งสองข้างซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกง ขณะที่เขาเดินอย่างช้า ๆกลับไปกลับมาดังเดิม บุหรี่ที่จุดแล้วห้อยอยู่ที่มุมปากขวาของริมฝีปากของเขา

มีเสียงเคาะที่ประตูบังตา พรานชะงักเท้าของเขา หันตัวกลับ ร้อง “ เชิญ ”

เกรียงศักดา เปิดบังตาเข้ามา เขามาหยุดอยู่ตรงมุมโต๊ะทำงานของพราน หย่อนก้นลงที่มุมโต๊ะ มองดูหัวหน้าของเขา

“หัวหน้าต้องการพบผม ”

พรานพยักหน้า เขาพูดว่า

“เกรียง มีข่าวอะไรจากพิชิตบ้างไหม เกี่ยวกับมยุรี ”

“พิชิตได้ดำเนินการคืบหน้าไปมากในเรื่องการติดตามมยุรี เดี๋ยวนี้เขาได้พบตัวแล้ว อยู่ในกรุงเทพ ฯ นี่เอง ”

เกรียงตอบ พร้อมกับหยิบบุหรี่ที่พรานยื่นส่งมา ขึ้นคาบไว้ที่มุมปาก เขาชะโงกหน้าไปจุดบุหรี่จากไม้ขีดเบ็นซิน ซึ่งหัวหน้าของเขาส่งมา อัดบุหรี่พ่นควันออกมาเป็นทางยาว

“มยุรีได้มาเช่าโรงแรม ไทยนคร อยู่ร่วมสองอาทิตย์แล้ว พิชิตเช่าห้องอยู่ติดกันตามคำสั่งของหัวหน้า เขาได้พบและพูดกับมยุรีหลายครั้ง เวลานี้การติดต่อกำลังคืบหน้าไปมาก หัวหน้าทราบดีแล้วว่า พิชิตของเราคล่องในเรื่องผู้หญิงเพียงไร ”

“มีวี่แววของนายประพาส ผัวของมยุรีบ้างหรือเปล่า ”

“เปล่าเลย เท่าที่ผมทราบจากพิชิต ตลอดเวลาที่แกอยู่ที่โรงแรม ไม่เห็นใครมาติดต่อด้วย มยุรีอยู่ที่นั่นคล้ายกับแกอยู่ตัวคนเดียว ”

“ยังหาเหตุผลมาได้หรือว่า แกมาจากอยุธยาด้วยเรื่องอะไร ”

“ยังไม่ทราบครับ หัวหน้า เท่าที่พิชิตสอบถามดู ก็รู้แต่เพียงว่า มาพักผ่อน และมาติดต่อในเรื่องการค้า ”

พรานพยักหน้าช้าๆ เขาดึงบุหรี่ออกมาจากปาก โยนลงไปในกระโถนซึ่งวางอยู่ข้างโต๊ะรับแขก ยกมือขึ้นเสยผมอย่างไม่ได้ตั้งใจ ครั้นแล้วก็หันมาทางกัลยา

“คุณลองลุกขึ้นยืนซิ กัลยา ”

กัลยาลุกขึ้นยืนตามคำสั่งของหัวหน้าของหล่อน และมองดูพรานอย่างไม่เข้าใจ

“เกรียง ” พรานพูดขึ้น หันหน้ามาทางเกรียง “ รูปร่างของแม่มยุรีกับกัลยาเป็นอย่างไรกัน คุณลองพิจารณาเปรียบเทียบดูซิ ”

เกรียงมองดูกัลยาอย่างพินิจพิเคราะห์ชั่วขณะหนึ่ง เขาพูดขึ้น

“ไม่แตกต่างกันมากนัก ไล่เลี่ยกัน แต่พูดถึงความสวยกันแล้ว ตายคุณกัลยาของเราสนิท ”

กัลยาถลึงตากับเกรียง หล่อนหันมามองดูพราน ทำท่าจะพูดอะไรออกมา แต่พรานชิงพูดเสียก่อน คล้ายกับไม่สนใจในกิริยาของหล่อน

“นั่งลงเถอะ กัลยา ขอบใจมาก ” เขาหันไปทางเกรียง

“เกรียง – คุณติดต่อไปยังพิชิต คืนนี้ทุ่มเศษ ๆ คุณกัลยาจะไปพบพิชิตที่ห้องพักของเขาที่โรงแรม ไทยนคร สองทุ่มตรง ให้พิชิตพยายามชวนมยุรีให้เข้าไปอยู่ในห้องของเขา ให้พยายามทุก ๆ ทางที่จะหน่วงมยุรีให้อยู่กับเขาให้นานที่สุด ผมจะไปรับกัลยาที่นั่น ในเวลาใกล้ ๆ กับสองทุ่ม ต่อจากนั้น ให้คอยฟังคำสั่งจากผมทางโทรศัพท์ อย่าปล่อยมยุรีออกมาก่อนที่จะได้รับโทรศัพท์จากผม ห้องของพิชิตเบอร์เท่าไรนะ ”

“๒๐๘ – เท่านั้นหรือครับ หัวหน้า ”

“เดี๋ยวก่อน เกรียง ” พรานชี้มือพร้อมกับพูด ขณะที่เกรียง ขยับตัวลงออกจากขอบโต๊ะ  “แม่มยุรีชอบคลุมผมในเวลาที่แกออกไปไหนมาไหน เวลากลางคืน ใช่ไหม ”

“ใช่ครับ ” เกรียงพูด “ แต่แกไม่ใคร่ออกไปไหนมาไหนบ่อยนักในเวลากลางคืน เท่าที่ทราบ ตั้งแต่มาอยู่ เคยออกไปสอง-สามครั้งเท่านั้น อ้อ –มีอยู่อย่างหนึ่งที่ผมยังไม่ได้เรียนให้หัวหน้าทราบ มยุรีได้วางเงินค่าเช่าล่วงหน้าสำหรับสองอาทิตย์ เมื่อวานนี้เอง ”

พรานพยักหน้า เขามองดูเกรียงอยู่ครู่หนึ่ง ครั้นแล้วจึงพยักหน้าอีกครั้ง

“ เท่านั้น คุณไปได้ ”

 




Create Date : 11 กรกฎาคม 2555
Last Update : 14 กรกฎาคม 2555 3:49:23 น. 3 comments
Counter : 876 Pageviews.

 
ออกจะมีตัวอย่างที่ีไม่ดี สำหรับคนรุ่นใหม่ คือการสูบบุหรี่
แต่ผู้อ่านจะต้องเข้าใจว่า นี่คือบทประพันธ์ที่ hot มากในสมัยโน้น คือปี พ.ศ. 2497 และในสมัยนั้น คนที่สูบบุหรี่ ออกจะดูเป็นคนโก้ เพราะบุหรี่ในสมัยนั้น ต้องมาจากเมืองนอก เช่น ยี่ห้อ 555

จากนั้นมาอีกหลายปี ผู้ประพันธ์เองก็เลิกสูบบุหรี่ได้ ด้วยการจัดสินใจอันเด็ดเดี่ยว แบบหักดิบเลยทีเดียว ในวันที่ท่านอดีต อตร. พล ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ เสียชีวิต เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ท่าน เพราะท่านเคยขอไว้ว่า ให้เลิกบุหรี่เสียที

แต่คนรุ่นใหม่ โก้ได้โดยไม่ต้องสูบบุหรี่
เราก็อย่าเอา ตัวละครในเรื่องนี้ เป็นตัวอย่างก็แล้วกัน...

ด้วยความห่วงใย
ธารน้อย


โดย: ธารน้อย วันที่: 14 กรกฎาคม 2555 เวลา:4:10:35 น.  

 
ขอบคุณมาก...


โดย: ก้นกะลา วันที่: 14 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:09:42 น.  

 
เฮ้ย เราจะให้ผู้หญิงเข้าห้องยังไงอ่ะ สมัยคงไม่งามอย่างแรงป่ะ


โดย: sam IP: 182.53.189.40 วันที่: 17 กรกฎาคม 2555 เวลา:15:19:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.