|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
|
|
|
|
|
|
|
ถุงมือประหลาด ตอนที่ ๙
นวนิยายสืบสวน สอบสวน ของนักสืบพราน เล่มที่ ๒ โดย ๔๔๑๑ เรื่องที่ ๕
เรื่อง ถุงมือประหลาด
ตอนที่ ๙
พราน เจนเชิง ก้าวขึ้นสู่สำนักงานของเขาในวันรุ่งขึ้นเมื่อ ๘.๐๐ น. เปิดห้องทำงานเข้าไป เขาพบ กัลยา ชาญวิทยา กำลังจัดของบนโต๊ะทำงานของเขา สวัสดี กัลยา มาแต่เช้าทีเดียววันนี้
กัลยา จัดกองหนังสือ และเอกสารต่างๆ เข้าที่ พลางพูดว่า สวัสดีค่ะ หัวหน้า... ดิฉันนัดกับทางฝ่ายถ่ายรูปไว้ตอนเช้าวันนี้ เลยต้องมาคอยรับแต่เช้า ไม่แน่ใจว่า หัวหน้าจะมาถึงกี่โมง
รูปถ่าย ถุงมือ ใช่ไหม พราน ถามขณะถอดเสื้อชั้นนอกออกแขวน
ค่ะ
ได้มาแล้วหรือยัง
ได้มาแล้วค่ะ
พราน ถูมือ ดีจริง เอามาให้ผมเถอะ กัลยา
กัลยา วางมือ กลับออกไปข้างนอกสักครู่ กลับเข้ามาพร้อมด้วยซองเอกสารซองหนึ่ง
พราน เปิดซองนั้นออก ดึงรูปถ่ายสี่แผ่นออกมา เป็นรูปถ่ายถุงมือที่ถูกส่งมาอย่างลึกลับนั้น ทั้งทางด้านหน้า และด้านหลัง ตลอดจนรอยที่เปื้อนเลือดชัดเจน เขายิ้มอย่างพึงพอใจ สอดรูปทั้งหมดเข้าซองตามเดิม วางไว้บนโต๊ะ และพูดว่า
คุณรีบส่งถุงมืออันนั้นไปให้ คุณผจญ เสียเช้าวันนี้
ไม่รอหมายเรียกหรือคะ
พราน สั่นศีรษะ เดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงาน ไม่ต้อง ถ้าขืนรอ เราอาจจะเจอหมายค้น แทนที่จะเป็นหมายเรียก... ผมรู้ใจ คุณผจญ ดี เช้าวันนี้ แกก็ต้องรู้แล้วว่าเรากลับมา ถ้าเราไม่รีบส่งไปให้เสียก่อน สำนักงานก็ต้องกระจุย... รีบจัดการเสียก่อนเก้าโมง
ค่ะ กัลยา เดินออกจากห้องไป
พราน ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ในลักษณะที่ใช้ความคิด เขาจุดบุหรี่สูบ พ่นควันบุหรี่ออกไป พร้อมๆ กับดวงความคิดที่ล่องลอยสับสนอยู่กับเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว
เสียงเครื่องพูดดังขึ้น โดย กัลยา พูดเข้ามา มีคนต้องการพบหัวหน้าค่ะ ชื่อ รัตน์ บริรักษ์ ไม่ยอมบอกว่ามาจากที่ไหน หัวหน้าคงจะจำชื่อนี้ได้
พราน ขมวดคิ้วแว่บหนึ่ง แล้วกลับมีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นเมื่อได้ยินชื่อนั้น เขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เข็มชี้บอกเวลา ๘.๑๕ น. พูดไปว่า เชิญให้เข้ามาได้... กัลยา
ผู้ที่เปิดบังตาเข้ามา เป็นชายหนุ่มในวัยสามสิบเศษ แต่งกายสุภาพเรียบร้อย สวมเสื้อเชื๊ร์ตสีนวล และนุ่งกางเกงสีขาว ใบหน้าของเขา ไม่ผิดกับใบหน้าของศพ ที่ พราน ได้พบที่บ้านของ สายสุนี
พราน ระงับความตื่นเต้นในการที่ได้พบกับชายผู้นี้ พูดด้วยเสียงเรียบๆ ว่า เชิญนั่งครับ... คุณรัตน์ มีอะไรที่ผมจะช่วยคุณได้บ้าง
รัตน์ บริรักษ์ นั่งลงตามคำเชิญ กิริยาอาการของเขาคล้ายกับซ่อนการตื่นประหม่าไว้ ปฏิเสธต่อบุหรี่ที่ พราน ยื่นให้ แล้วพูดว่า คุณรู้จักกับ นายโรจน์ พี่ชายของผมไหมครับ
พราน มองดูเขาชั่วขณะ และสั่นศีรษะ คุณไม่รู้อะไรที่เกี่ยวกับ โรจน์ เลยหรือครับ
พราน ยิ้มเล็กน้อย เขาพูดว่า คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรก็บอกมาจะดีกว่า ปกติ ผมไม่ใคร่ชอบตอบคำถามนัก
รัตน์ มองดูหน้า พราน อยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า โรจน์ ถูกฆ่าตายในบ้านของผู้หญิงที่เขากินนอนอยู่ คุณรู้จักผู้หญิงที่ชื่อ สายสุนี ไหมครับ... สายสุนี ที่ทำงานอยู่ที่ ลิโด้
พราน ยิ้มอีก มองดู รัตน์ เฉยอยู่
รัตน์ พูดต่อไป พร้อมกับถอนหายใจ เวลานี้ ตำรวจเขาจับตัว สายสุนี ไป โดยหาว่า สายสุนี เป็นผู้ฆ่านาย โรจน์ โดยสาเหตุที่มีปากเสียงกันในคืนวันที่เกิดเหตุ เนื่องจากของหาย เพราะก่อนเกิดคดีฆาตกรรม เขาทั้งสองได้ไปแจ้งความเครื่องของหายที่โรงพักสามแยก ทรัพย์ที่หายบางอย่างเป็นทรัพย์ที่มีค่า คนทั้งสองได้ทะเลาะกันในเรื่องนี้ก่อน จึงได้กลายเป็นเรื่องวิวาทขึ้น แล้ว สายสุนี ก็เลยแทง โรจน์ ตาย
คุณจะบอกผมว่า สายสุนี คือผู้หญิงที่ โรจน์ กินนอนอยู่ด้วย ใช่ไหมครับ พราน ถามขึ้น
คุณไม่รู้อะไรที่เกี่ยวกับ นายโรจน์ และ สายสุนี เลยเทียวหรือครับ
ผมบอกแล้วว่า ผมไม่ชอบตอบคำถาม พราน พูดยิ้มๆ คุณมีอะไรก็ว่ามา และจะให้ผมทำอะไรก็บอกมา
คุณเคยเห็น นายโรจน์ หรือเปล่า รัตน์ ปล่อยคำถามออกมาอีก แต่แล้วก็เม้มริมฝีปาก พูดต่อไปว่า ผมกับ โรจน์ เป็นพี่น้องฝาแฝดกัน ใบหน้าของเขากับผม ไม่ผิดอะไรกันเลย แม้แต่ขนาดสูงต่ำ เขาหากินอยู่ทางกรุงเทพฯ ส่วนผม ไปตระเวณอยู่แถวทางใต้ เราจากกันไปหลายปีอยู่
อาชีพของ นายโรจน์ คืออะไร
รัตน์ นิ่งคิดอยู่สักครู่ ผมก็ไม่ทราบแน่ เพราะไม่ได้พบกันเสียหลายปี
ทำไมคุณจึงรู้เรื่อง นายโรจน์ ถูกฆ่า
ผมบังเอิญเข้ามากรุงเทพฯ ในวันรุ่งขี้นที่เขาตาย ตรงไปหาเขาที่บ้านก็พบว่าบ้านไม่มีใครอยู่ สอบถามคนข้างบ้าน เขาก็เล่าให้ฟังว่า นายโรจน์ ถูกฆ่าตายเสียแล้วในคืนก่อนที่ผมจะมาถึงนั่นเอง ตำรวจกำลังสืบสวนอยู่ ผมพยายามสืบสาวราวเรื่อง และติดตามสอบถามทางตำรวจบ้าง ทางผู้ที่รู้เห็นบ้าง ตลอดวัน ก็ได้ความตามที่ผมเล่าให้คุณฟัง แล้วคุณจะให้ผมทำอย่างไร
รัตน์ นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง คล้ายกับจะตกลงใจอะไรบางอย่าง แล้วพูดขึ้นว่า ผมอยากรู้ว่า สายสุนี เป็นคนฆ่า นายโรจน์ จริงหรือไม่
คุณเพียงแค่ต้องการจะรู้เฉย ๆ หรือว่า ต้องการให้ผมสืบรื่องนี้
ผมจะต้องเสียค่าจ้างสักเท่าไร
นั่นต้องแล้วแต่ค่าใช้จ่ายของสำนักงาน และค่าแรงงานอีกต่างหาก ประมาณได้ไหมครับว่า สักเท่าไร
ผมยังบอกไม่ได้
เพราะอะไรครับ
เพราะว่า ถ้าผมบอกคุณ คุณก็จะไม่ตกลง
คงจะแพงมาก
ครับ แพงมาก
สักเท่าไร
แสนบาท
รัตน์นิ่งอึ้ง มองดูหน้า พราน อย่างผิดหวัง พูดเบาๆ ว่า หมายความว่า คุณไม่ยอมรับงาน
มิได้ พราน พูดชัดถ้อยชัดคำ ผมจะรับงานนี้ ในราคาที่ผมบอกคุณ
แสนบาท รัตน์ กล่าวเป็นเสียงพึมพำ
ครับ แสนบาท
รัตน์ ลุกขึ้นยืน มันเป็นราคาที่บอกถึงการปฏิเสธ
นั่นก็ต้องแล้วแต่ผู้ฟังจะตีความหมาย แต่คุณก็คงฟังได้ดีว่า มันไม่ใช่เป็นการปฏิเสธ พราน กล่าวยิ้มๆ
รัตน์ เกาะขอบโต๊ะนิ่งอยู่
พราน พูดขึ้นว่า ทำไมคุณไม่ไปหาตำรวจ เพราะที่นั่น คุณจะไม่ต้องเสียอะไรเลย
รัตน์ มองดูหน้า พราน แว่บหนึ่ง ขยับจะออกเดิน แต่แล้วชะงัก หันกลับมาอีกครั้ง ทำท่าจะพูดอะไรออกมา แต่แล้วก็นิ่งอย่างชั่งใจ
พราน นิ่งสงบ แล้วพูดขึ้นช้าๆ ว่า บางที คุณให้ที่อยู่ผมไว้ สำหรับการติดต่อ เมื่อผมตกลงใจ ราคานี้อาจลดลงก็ได้
ผมไม่ต้องการให้ใครรู้ที่อยู่ของผม
เพราะอะไร
เป็นเหตุผลที่ผมขอสงวนไว้
พราน ยักไหล่ เลิกคิ้ว ถ้าเช่นนั้นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้... แต่ เดี๋ยวก่อน...
เขาหันไปกดสวิชท์เครื่องพูด และพูดว่า กัลยา
คะ เสียงกัลยา ดังเข้ามา
มีแขกอื่นคอยผมอยู่หรือเปล่า ... ถ้ามี บอกให้รอสักครู่ ประเดี๋ยวผมจะส่งคนไปพบ
มีค่ะ เสียง กัลยา ดังเข้ามา
ใคร ? พราน ถามอย่างประหลาดใจ
คุณหญิงราชพิเชษฐ์ กำลังนั่งคอยอยู่ข้างนอกนี่
พราน นิ่งอยู่ครู่หนี่ง แล้วพูดไปในเครื่องพูดว่า เรียนคุณหญิงให้คอยอยู่สักครู่.. เอนกอยู่ไหม
อยู่ค่ะ
บอก เอนก... ผมต้องการให้เขาไปตาม ตาโทน มาพบ... เข้าใจไหม... ให้เขาไปตามด้วยตัวของเขาเอง
เสียงเงียบไปชั่วขณะ จึงมีเสียง กัลยา ดังมาว่า ค่ะ... เข้าใจแล้ว
พราน ปิดเครื่องพูด หันมาทาง รัตน์ ซึ่งยังคงยืนอยู่ แต่มีกิริยากระสับกระส่าย
พราน พูดว่า เป็นอันว่า คุณคงยังไม่ยอมบอกที่อยู่ของคุณ แม้ว่า ผมตกลงจะรับงานของคุณ
รัตน์ ไม่มีกิริยาที่แสดงว่า ได้ยินคำถามนั้น เขาหันมาในลักษณะของคนที่ถูกปลุกจากความรู้สึกที่กำลังเลื่อนลอย พูดว่า อะไรนะครับ
ผมบอกว่า เป็นอันว่า คุณจะยังไม่ยอมบอกที่อยู่ของคุณ แม้ว่า ผมตกลงใจจะรับงานของคุณ
รัตน์ มีท่าทางกระสับกระส่ายยิ่งขึ้น ผมต้องคิดดูก่อน เขาหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดต่อไปว่า ทางออกจากห้องของคุณนี่ มีทางเดียวหรือครับ
พราน เลิกคิ้ว คุณถามทำไม
ผม... ผม... รัตน์ พูดเสียงตะกุกตะกัก ผมไม่ต้องการให้ใครรู้ว่า ผมมาที่นี่
คุณรู้จักกับ คุณหญิงราชพิเชษฐ์ ยังงั้นหรือครับ
ไม่ว่าใครทั้งนั้น ผมไม่อยากให้พบผม รัตน์ พูดละล่ำละลัก
คุณยังไม่ได้ตอบคำถามขอผม
ผม... รัตน์ พูดออกมาแล้วชะงัก
คุณรู้จักกับ คุณหญิงราชพิเชษฐ์ ยังงั้นหรือครับ พราน ย้ำคำถาม
ครับ... ผมรู้จัก... ผมรู้จัก... รัตน์ พูดอย่างคนเสียประสาท
พราน ยิ้ม เขาลุกขึ้นไปที่ตู้หนังสือข้างฝา จับมุมข้างหนึ่งของตู้ดึงออกมา มันค่อยๆ เขยื้อนเปิดเป็นประตู เผยอให้เห็นทางเดินเป็นบันไดลงไปชั้นล่าง
รัตน์ รีบสาวเท้าไปที่ประตูนั้น ชะงักอยู่ตรงที่ทางลงบันได หันมามองดู พราน
พราน พยักหน้า ยิ้ม และพูดว่า เดินลงไปทางนี้ แล้วคุณจะไปโผล่ที่ตรอกหลังสำนักงาน เลี้ยวซ้ายออกถนนใหญ่
รัตน์ รีบสาวเท้าลงบันไดไป โดยไม่หันมาร่ำลา
พราน ปิดตู้ไว้อย่างเดิม เขายิ้มกับตัวเอง เดินมาที่เครื่องพูด เปิดสวิทช์ และพูดว่า เชิญคุณหญิงเข้ามาได้... กัลยา
เสียง กัลยา ติงเข้ามาว่า แล้วก็...
เชิญคุณหญิงเข้ามาได้ กัลยา... อย่าลืมเตือน เอนก พราน ชิงพูด
ค่ะ
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2558 |
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2558 10:10:26 น. |
|
4 comments
|
Counter : 602 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ก้นกะลา วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:20:42:27 น. |
|
|
|
โดย: โอพีย์ (Opey ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:22:53:10 น. |
|
|
|
โดย: ธารน้อย วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:5:55:30 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 13 มีนาคม 2558 เวลา:10:56:41 น. |
|
|
|
| |
|
|
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
ธารน้อย Literature Blog ดู Blog