จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
23 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
นักสืบพราน - เรื่องที่ 2 จำเลยไม่พูด (ตอนที่ 15)

โดย 4411

โคมไปหน้ารถยนต์สองดวง ส่องกราดเป็นทางยาวมาตามถนนสนามม้าในระยะไกล จากทางด้านวัดสระปทุม

พราน เจนเชิง ยืนพิงบังโคลนด้านหน้าของรถยนต์ของเขาอยู่ในความมืด แสงไฟจากบุหรี่ที่เขาคาบอยู่ แดงวาบขึ้นเป็นระยะๆ เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู มันเป็นเวลา ๒๓.๐๐ น. พอดี

รถยนต์คันนั้นแล่นมาด้วยความเร็วค่อนข้างจะสูง เมื่อมันใกล้จะผ่านที่เขายืนอยู่ เขากระดกบุหรี่ให้มันหลุดออกจากปาก แล้วก้มตัวลงหยิบอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันเป็นขณะเดียวกับที่แสงไฟจากรถคันนั้นกราดผ่านเขา และแล่นเลยไป

ในทันใดนั้นเขากระโดดไปด้านหน้าของรถยนต์ อุ้มเอารูปหุ่นปั้นขนาดเท่าตัวคน ซึ่งวางนอนอยู่ตรงนั้น ขึ้นมาตั้งแทนที่ที่เขายืนอยู่เดิม ถอดหมวกที่เขาสวมอยู่ ครอบลงบนศีรษะของหุ่นนั้น และกระโดดลงไปหมอบอยู่ที่คูข้างถนน

รถยนต์คันเดิมหวนหลับมาในชั่วระยะเวลาอันสั้น เสียงเครื่องยนต์ครางกระหึ่มมาแต่ไกล ไฟหน้าของรถยนต์คันนั้นหรี่ลงเป็นไฟเล็ก พรานแนบตัวติดกับพื้นดิน เมื่อเสียงเครื่องยนต์ดังใกล้เข้ามา เสียงเครื่องยนต์ชะลอความเร็วลงเล็กน้อย เมื่อใกล้จะถึงที่ที่เขาหมอบอยู่ ครั้นแล้วก็เร่งความเร็วขึ้น พร้อมกับมีเสียงปืนดังขึ้นถี่ ๆ หลายนัดติด ๆ กัน และเสียงเครื่องยนต์เร่งดัง จางหายไปในความมืด

พราน กระโดดลุกขึ้นยืน เขาเผ่นไปที่รถ อุ้มรูปหุ่นที่ล้มอยู่ข้างรถ โยนไปข้างทาง เปิดประตูรถขึ้นนั่ง

ขณะที่เขาติดเครื่องยนต์ และกำลังจะกลับรถไปในทิศทางที่รถยนต์คันนั้นแล่นไปนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มาจากทางปากถนนด้านนั้น มีเสียงปืนดังขึ้นสอง-สาม นัด แล้วก็เงียบหายไป

พราน ขับรถยนต์ของเขามาถึงปากถนนสนามม้า ทางด้านวัดสระปทุม ตรงบริเวณนั้น ปรากฏมีรถจี๊ปของตำรวจคันหนึ่งจอดขวางอยู่ ที่หน้ารถจี๊ปนั้น รถยนต์เก๋งสีดำขนาดกลางคันหนึ่ง เอียงกะเท่เร่ ติดอยู่ตรงหน้าหม้อรถ มีบุคคลหลายคนในเครื่องแบบ วิ่งกันอยู่ขวักไขว่

พรานจอดรถ ดับเครื่องยนต์ เขาเปิดประตู  ก้าวลงมาจากรถ เกรียง กับ พิชิตและบุคคลในเครื่องแบบคนหนึ่งวิ่งมาหาเขา

“เป็นยังไงบ้าง พราน ” เป็นเสียงร้องถามจากผู้ที่อยู่ในเครื่องแบบตำรวจ

“ท่านสารวัตรหรือครับ ” พราน พูดขึ้นเมื่อจำเสียงได้ “ ผมไม่เป็นไรหรอกครับแต่รูปหุ่นราคาแพงของผม ปรุไปหลายรู ”

สารวัตรพจน์ปราดเข้ามาถึงตัว พราน ก่อนคนอื่น พร้อมกับยื่นมือมาจับมือข้างขวาของพราน ซึ่งส่งออกไปเช่นเดียวกัน และพูดว่า

“ค่อยยังชั่วหน่อย ผมได้ตัวไว้แล้วทั้งสองคน มีปืนกระบอกเดียว อธิบายหน่อยว่าเรื่องมันยังไงกัน ผมได้รับโทรศัพท์จาก คุณผจญ เขาเมื่อตอนสองยามเศษ เล่าเรื่องที่คุณพูดกับเขาให้ผมฟัง เขาว่ามันเป็นเรื่องตลก พอผมได้รู้เรื่องเข้า ก็ต้องรีบขออนุญาตผู้บังคับการ มาทางนี้ในทันที ผมดึงตัว คุณผจญ เขามาด้วยจนได้ นี่เขากำลังซักถามผู้ต้องหาถึงรายละเอียดอยู่ทางโน้น เขาเป็นคนไล่เจ้าคนหนึ่งเข้าไปในวัด และจับได้  พราน– คุณอย่าไปนึกตำหนิ คุณผจญ แกนะ เขาเป็นนายตำรวจที่ดีคนหนึ่ง เพียงแต่แกยังเข้าใจคุณไม่ดีเท่าผมเท่านั้นเอง ”

พรานเปิดยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะพูดอะไร ก็พอดี ร.ต.อ. ผจญ เดินอย่างรีบร้อนมาถึงและพูดกับสารวัตรพจน์

“เจ้าคนที่มีปืน ชื่อ วิศณุ เดชดำเกิง เป็นนายทหารซึ่งถูกปลดไปแล้ว ผมรู้จัก เคยติดตามอยู่เรื่องฝิ่น ผมให้ตำรวจคุมตัวเข้ากองฯ ไปแล้ว ” เขาหันมาทางพราน “ อ้อ –คุณพราน เป็นอย่างไรบ้าง ”

พรานยิ้ม

“ไม่เป็นไรครับ – คุณผจญ ผมยินดีด้วยที่คุณจับเขาได้ คน ๆนี้แหละครับ ที่เป็นคนฆ่า นายวิกรม ”

“คุณมีหลักฐานอะไรอย่างอื่นอีกหรือเปล่า ” ร.ต.อ. ผจญ พูดขึ้น “ถ้าไม่มีก็ลำบากหน่อย ”

“ผมอยากจะให้ความคิดอะไรสักอย่างหนึ่ง คราวนี้ ขอให้โปรดเชื่อผม หลักฐานต่าง ๆ จะออกมาจากการสอบสวนของคุณเอง ” พรานพูดยิ้ม ๆ “ คุณต้องรีบสอบสวน นายวิศณุ ในคืนวันนี้ ด้วยข้อหาในคดีฆาตกรรม นายวิกรม ในทันที อย่าปล่อยเวลาให้เขาตั้งสติได้ และบอกกับเขาว่า แม่มยุรีเป็นพยานสำคัญของคุณ ที่เป็นผู้เห็นเขาในวันที่เขาเข้าไปยิง นายวิกรม ในบ้าน ”

ร.ต.อ.ผจญ จ้องมองหน้าพรานนิ่่งอยู่ โดยไม่ได้พูดอะไรชั่วครู่ และขณะที่เขากำลังขยับจะพูดอะไรออกมานั่นเอง พรานก็ชิงพูดออกมาเสียก่อนว่า

“บางที คุณอาจจะปล่อยแม่มยุรีออกไปจากความดูแลของคุณแล้ว – คุณผจญ แต่ยังไม่สายเกินไป คุณคงจะได้ซักถามแกมาบ้างแล้ว ถึงเรื่องนี้ –แกไม่รู้อะไรจริง ๆ อย่างที่แกคงจะได้พูดกับคุณ แต่ – คุณคงจะรู้จักวิธีสอบสวนผู้ต้องหา โดยการบรั๊ฟได้อย่างดีอยู่แล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ อาจใช้เป็นหลักฐานประกอบได้ และผมยินดีที่จะร่วมเป็นพยานด้วยความเต็มใจ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ที่ควรจะทำต่อจากนี้ ผมคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องให้ความเห็น –คุณคงจะเข้าใจได้ดีว่า ควรจะทำอะไรบ้าง ”

ขณะที่นายตำรวจทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากันอยู่ พราน หันไปทางเกรียง และพิชิต                             “ นำคนของเรากลับได้แล้ว เกรียง ”

เขาหันกลับไปทางนายตำรวจทั้งสองอีกครั้ง “ ผมลาละครับ ท่านสารวัตรทั้งสอง ต้องการตัวผมเมื่อใด เรียกได้ทันที”

พูดจบ เขาก้มศีรษะให้กับนายตำรวจทั้งสอง แล้วหันหลังเดินกลับไปที่รถยนต์ของเขา โดยไม่ได้รอฟังอะไรต่อไป





Create Date : 23 กรกฎาคม 2555
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 0:52:11 น. 3 comments
Counter : 1051 Pageviews.

 
มาติดตามต่อ ขอบคุณครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 24 กรกฎาคม 2555 เวลา:20:16:40 น.  

 
ขอบคุณมาก..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 24 กรกฎาคม 2555 เวลา:21:49:48 น.  

 
โห......ทำซะตำรวจแทบอาย ว่าไปเรื่องนี้เด่นที่นักสืบจริงๆ ตำรวจเหมือนแค่ผู่ช่วยเลย.....


โดย: ใบข้าวสีเขียว (ใบข้าวสีเขียว ) วันที่: 22 สิงหาคม 2555 เวลา:17:44:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.