จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 เมษายน 2555
 
All Blogs
 
เงื่อนไขการปฏิวัติ - บทที่ 6 เงื่อนไขผิดจังหวะ (ตอนที่ 2)

โดย พ.ต.อ.  พุฒ  บูรณสมภพ

เขียนระหว่างปี พ.ศ. 2526 - 2528

บทที่่ 6 เงื่อนไขผิดจังหวะ
ตอนที่ 2

หน่วยสอบสวนตั้งอยู่ที่บ้านพัก มุมถนนอังรีดูนังต์ ตัดกับถนนพระราม ๑ เดิมเป็นบ้านพักของผู้บังคับการตำรวจสันติบาล ท่านผู้บังคับการไม่ใช้ จึงเป็นบ้านว่าง ทางคณะกรรมการสอบสวนคดีกบฏ ๑ ตุลา เลยใช้บ้านนี้เป็นที่ตั้งหน่วยสอบสวน

ผมมาถึงหน่วย ฯ ก็เดินอาดๆ เข้าไป ตรงไปที่ห้องสอบสวนชั้นใน เพราะผมรู้ว่า ท่านผู้บังคับการของผมอยู่ที่ห้องนั้น ผมเดินเข้าไปโดยไม่ได้มองซ้ายมองขวา ตรงรี่เข้าไปยังประตูห้องสอบสวน

 “เ..ดแม่ ไปไหนมา ” เสียงฟ้าผ่าคำรามดังก้องมาจากโต๊ะตัวหนึ่งที่มุมห้อง

ผมหันขวับไปมองคนที่อวยพรแม่ผม

คนส่งเสียงนั่งอยู่ที่เก้าอี้หลังโต๊ะตัวนั้น นัยน์ตาวาวมองผมอยู่

" ไปไหนมา ไอ้ห่.. ” เสียงอวยพรตัวผมดังมาจากเจ้าของตาถลนท่านนั้น

“ผมไปสอบสวนนายตำรวจทุจริตที่แปดริ้ว เพิ่งเสร็จมาครับ ” ผมโค้งตัวงอตอบ

พอดีท่านผู้บังคับการของผมโผล่หน้าออกมาดู คงจะได้ยินเสียงฟ้าผ่าดังเข้าไปข้างใน ท่านเห็นผมยืนเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ ก็ถามว่า

“เสร็จแล้วหรือ พุฒ ”

“เรียบร้อยแล้วครับ ” ผมตอบท่าน “ ตำรวจของเราไม่ผิด ”

“จริงหรือ คุณหลวง ” เจ้าของตาถลนยังไม่หายสงสัย หันไปถามผู้การ ฯ ของผม

“ครับ ” ผู้การ ฯ ตอบ “พุฒเขาไปสอบสวนเรื่องตำรวจทุจริตที่แปดริ้วครับ ”

นัยน์ตาวาวหันกลับมาอยู่ที่ผม

“เข้าไปช่วยเขาสอบสวนซี่ ” เสียงตวาดลั่น

“ผมมานี่ก็เพื่อมาช่วยเขาครับ ” ผมอดตอแยไม่ได้ ก่อนที่จะเดินเข้าห้องสอบสวนไป

คดีกบฏรายนั้น มีคนที่ผมรู้จักหลายคน บางคนเป็นลูกศิษย์ผมสมัยอยู่โรงเรียนนายร้อยก็มี ผมเป็นผู้ช่วยบังคับหมวดเขาอยู่ตอนนั้น เขาอยู่ปีหนึ่ง ผมอยู่ปีสาม

คนสำคัญเป็นนักเรียนในปกครองของผมโดยตรง เขาชื่อ ร้อยโท สุรพล จุลลพราหมณ์ คนนี้มีวิชาโหรที่แม่นยำ เป็นคนหาฤกษ์ให้คณะปฏิวัติคณะนั้น และเป็นคนหาฤกษ์ให้คณะรัฐประหาร ๘ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ มาแล้ว ฤกษ์ต้องดีจึงทำงานสำเร็จ แต่คราวนี้มาโดนจับเสียก่อน เพราะปรึกษาหารือกันบ่อยนัก จนเข้าหูฝ่ายรัฐบาล เลยผิดฤกษ์ ว่ากันที่จริงแล้ว คณะนี่เป็นเพียงคณะนายทหารฝ่ายเสธ ฯ จะไปเอากำลังมาจากไหน ก็ไม่รู้ทำไมถึงคิดกันได้ หรือจะลองซ้อม ๆ ดูก็ไม่ทราบ

ความสำคัญของคณะปฏิวัติคณะนี้ไม่มีอะไร ที่ผมเอามาเขียนไว้ก็เพราะ คณะปฏิวัติคณะนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมต้องเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับท่านพันเอก เผ่า ศรียานนท์ โดยไม่ได้คิดมาก่อน เจอหน้าครั้งแรกก็โดนอวยพรถึงแม่ผมแล้ว ผมไม่ถือ เพราะแม่ผมท่านเสียไปนานแล้ว ตั้งแต่ผมยังแบเบาะ

การคิดปฏิวัติครั้งนั้น ผู้ที่ร่วมคิดเป็นนายทหารฝ่ายเสนาธิการเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีฝ่ายคุมกำลังอยู่เลย มี พลตรี หลวงศรานุชิตเป็นหัวหน้า ผู้ที่เป็นมันสมองของคณะก็คือ พลตรี เนตร เขมะโยธิน และมีสมองอีกหลายท่านจากนายทหารฝ่ายเสธ ฯ ไม่ทราบว่ามีฝ่ายกำลังแอบแฝงอยู่ที่ไหนอีก อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ต้องพึ่งพาฝ่ายโหราศาสตร์ ช่วยหาฤกษ์ในการลงมือให้

โหรคนสำคัญก็คือร้อยโท สุรพล จุลลพราหมณ์ คนที่เคยหาฤกษ์ให้คณะรัฐประหาร ๙ พฤศจิกายน๒๔๙๐ จนทำการได้สำเร็จมาแล้วคนนั้น โหรจะคำนวณผิดพลาดไปยังไงก็ไม่ทราบ มาคราวนี้จึงโดนจับเรียบ วันนั้นเป็นวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๙๑ มีคนหลบหนีไปได้คนเดียว คือ พลตรี เนตร เขมะโยธิน

ผมไม่ได้มีส่วนในการสืบสวนกับเขาในเรื่องนี้ เพราะถูกใช้ให้ไปเป็นกรรมการสอบสวนร่วมกับทางตำรวจท้องที่ ที่แปดริ้ว เรื่องตำรวจทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งมีตำรวจสันติบาลถูกกล่าวหาร่วมอยู่ด้วย เสร็จเรื่องกลับมา เขาก็จับกันไปสองสามวันแล้ว กำลังตั้งหน่วยสอบสวนอยู่ที่บ้านผู้บังคับการสันติบาล ริมถนนพระราม ๑ ตัดกับถนนอังรีดูนังต์ ผมกลับมาจากแปดริ้วก็ไปช่วยเขาสอบสวนที่นั่น แล้วก็มาเจอเอาท่านผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจที่เพิงเข้ามารับตำแหน่งหมาดๆ ในวันนั้น แล้วก็มาถูกทักทายด้วยคำพูดเสนาะหูอย่างว่านั่น

พวกที่ถูกจับมานั้น มีนายทหารร่วมรุ่นผมหลายคน ล้วนแต่พวกสมองเสธ ฯ ทั้งนั้น ผมเลี่ยงที่จะไม่ไปยุ่งกับพวกมัน เดี๋ยวมันจะเจริญพรเอา ปล่อยให้คนอื่นเขาสอบกันไป ผมเร่ไปสอบพวกที่ไม่รู้จักดีกว่า

เงื่อนไขในการปฏิวัติครั้งนั้นก็ไม่แจ้งชัด เพราะคณะรัฐประหารเพิ่งจะปกครองประเทศได้ยังไม่ทันชนขวบปี รัฐประหารเมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ แล้วยกให้นาย ควง ฯ ปกครองประเทศเสียสองสามเดือน จึงมากระซิบให้ลงจากเก้าอี้ แล้วเอาท่านจอมพล ป.มานั่งแทนได้ไม่กี่เดือน ก็ไม่มีคนจะปฏิวัติ เหตุการณ์ทางการเมืองก็ยังไม่ได้อะไรมาก การปกครองในด้านต่าง ๆ ก็ยังไม่เข้าที่ พันเอก เผ่า ศรียานนท์ ก็เพิ่งจะเข้ามาเป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ ยังไม่ทันก้นร้อน ยังไม่มียศทางตำรวจด้วยซ้ำ ฝ่ายคบคิดอาจจะเห็นว่า อะไร ๆ ยังไม่เข้าที่ น่าจะลงมือเสียตอนนั้นก็เป็นได้ เรียกว่า รีบฉวยโอกาส ในขณะที่น่าจะลงมือเสียตอนนั้นก็เป็นได้ เรียกว่า รีบฉวยโอกาสในขณะที่ยังสับสนกันอยู่

ผมไม่ได้มีส่วนในการสืบสวนจับกุมกับเขา ที่เข้ามาในหน่วยสืบสวนก็เพราะสำนึกในหน้าที่ ในฐานะที่ประจำอยู่กอง ๒ ตำรวจสันติบาล อันมีหน้าที่เกี่ยวกับการเมืองโดยเฉพาะ ก็ต้องมาให้พรรคพวกกับนายเขาเห็นหน้าเสียหน่อย ช่วยเขาทำงานบ้างตามหน้าที่ มาเจอเอาพรรคพวกรุ่นเดียวกันคบคิดกับเขาด้วยหลายคน ก็ชักจะกระอักกระอ่วนเอา ต้องเลี่ยงไม่ไปยุ่งสอบสวนพวกมัน และโดยเฉพาะ ร้อยโท สุรพล ฯ ผู้ให้ฤกษ์นั้น ก็ยังเคยเป็นนักเรียนนายร้อยในหมวดที่ผมเป็นผู้ช่วยผู้บังคับหมวดเข้าให้อีก ผมก็เลยมอง ๆ ทักทายพวกเขาเฉย ๆ ไม่รู้จะช่วยอะไรได้

วันนั้นแหละ ที่ผมพบกับความเปลี่ยนแปลงเส้นทางชีวิตจนได้





Create Date : 13 เมษายน 2555
Last Update : 13 เมษายน 2555 3:40:06 น. 3 comments
Counter : 916 Pageviews.

 
มาติดตามต่อครับ
อ่านสนุกทุกตอน ทำให้เข้าใจการเมืองในสมัยนั้นมากขึ้นครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:10:04:02 น.  

 
สวัสดีครับ เขียนได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ กระชับได้รู้เรื่อง
อะไรเยอะ แล้วผมจะแวะมาอ่านอีกครับ


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:10:54:34 น.  

 
ขอบคุณมากๆ..

สุขสันต์วันสงกรานต์จ้ะ...


โดย: ก้นกะลา วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:17:38:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.