จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
28 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 
ผจญตอมมิวนิสต์ ตอนที่ ๑๓

นวนิยาย สืบสวนสอบสวน โดย นักสืบพราน

เรื่อง ผจญคอมมิวนิสต์ ตอนที่ ๑๓

กัลยา จับหลอดฟางคนน้ำแข็งในถ้วย พร้อมกับพูดโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองดูพราน ว่า
“ คุณผจญ เข้ามาเมื่อกี้นี้เอง ”

พราน มองไปที่ฟลอร์ ซึ่งยังมีคู่เต้นรำแน่นอยู่ เขากราดสายตาโดยไม่ได้ตั้งใจไปช้าๆ และชำเลืองด้วยหางตาเห็น ร.ต.อ. ผจญ สุรไกร กับชายอีกคนหนึ่งแต่งกายนอกเครื่องแบบ นั่งอยู่ที่โต๊ะห่างจากโต๊ะของ ตันเป็งล้ง ไปอีก ๒ ตัว

“ ถ้าจะยังไงกันเสียแล้ว คืนนี้ ” พราน พูดเมื่อก้มหน้าลงยกถ้วยวิสกี้ขึ้นดื่ม “ คุณผจญ คงจะตามใครเข้าสักคนหนึ่งเป็นแน่ ผมว่าคงจะเป็นในโต๊ะของ ตันเป็งล้ง นั่นเอง ”

“ บางทีอาจจะเป็นเราก็ได้ ” กัลยาพูด หัวเราะเบาๆ “ ใครจะรู้ ”

“ นั่นน่ะซี ใครจะรู้ ” พราน พูดและหัวเราะตาม

“ อ๊ะ! ”
เขาร้องออกมาเบาๆ เมื่อหันไปทางประตูเข้า

“ ทีนี้ เห็นจะแน่แล้วว่า อะไรเป็นอะไร ” เขาหันหน้ากลับมาที่ กัลยา “ คุณอย่าเพิ่งหันหน้าไปดูนะ ทำเฉยๆ ไว้ พิชิต เพิ่งจะเข้ามา เขากำลังส่ายตาหาเราอยู่ทีเดียว ประเดี๋ยวก็ต้องเห็นเรา ”

คนทั้งสองนั่งนิ่งๆ อยู่เป็นครู่หนึ่ง

พิชิต สุรพล ก้าวเข้ามายืนอยู่ข้างๆ โต๊ะ แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่ ตันเป็งล้ง นั่งอยู่เดิม

พราน หันไปมอง แล้วพูดขึ้นทันทีว่า
“ อย่าทำกิริยาผิดปกติ พิชิต ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร คุณผจญ กำลังมองดูเราอยู่ ”

พิชิต หัวเราะขณะนั่งลง
“ ผมเห็นแล้วครับ ตั้งแต่เปิดประตูเข้ามา ผมจึงให้ เจ้าซ้วง คอยอยู่ในรถก่อน ผมเดินเข้ามานี่ ยังทักกับแกเลย ”

“ มีอะไรหรือ พิชิต สั่งอะไรมาดื่มก่อน บ๋อยคอยอยู่ข้างหลังแล้ว อย่าทำท่าขึงขังเวลาพูด ”

พิชิต หันไปสั่งวิสกี้โซดากับบ๋อย แล้วหันกลับมาพูดด้วยสียงปนหัวเราะว่า
“ ผมพบไอ้รถคันนั้นแล้ว ”

“ รถอะไร ” พรานยิ้ม ขณะถาม

“ คันที่ไอ้พวกนั้นใช้ในวันที่ยิง เจ้าเซี๊ยะคง ที่หน้าโอเดี่ยนไงล่ะครับ ”

“ ว่าไปเรื่อยๆ ” พราน พูดขณะหยิบบุหรี่จุดสูบ

“ มันไปซ่อมอยู่ที่อู่ของ ไอ้ซ้วง เพราะตอนที่มันถูกขับไปในวันนั้น ล้อมันปีนฟุตบาธขึ้นไปกระแทกลง บู๊ตล้อหน้าหลุด ”

“ คุณรู้ได้อย่างไร ว่าเป็นรถของไอ้พวกนั้น ”

“ ซ้วง มันบอกว่า เวลาที่มันเอารถเข้าอู่ ซ้วงมันรู้จักไอ้คนขับ เป็นคนหนึ่งในสมาชิกเยาวชนจีน มันเคยมาชวน ไอ้ซ้วง ของเราให้เป็นพวกด้วย... มันบอกว่า มันเอารถไปบางแสนกลับมา ป้ายทะเบียนก็ไม่มี ทั้งหน้า และหลัง เพราะหลุดตกขณะรถกระเทือน... ซ้วงมันสงสัยอยู่แล้ว พอดีมันเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ ในวันรุ่งขึ้น มันก็เที่ยวตามหาผม... บังเอิญวันนี้ ผมไปหามัน เพื่อจะถามเรื่องเมื่อคืนนี้ ไอ้รถคันนั้นยังจอดอยู่ที่อู่เจ้าซ้วง พรุ่งนี้ คนที่ขับรถมาซ่อม มันจะมาเอารถ... หัวหน้าจะทำอย่างไรต่อไป... ผมได้หมายเลขป้ายทะเบียนที่มันซุกไว้ในรถมาด้วยแล้ว ”

พราน หัวเราะ
“ คุณจดหมายเลขเครื่องไว้ด้วยหรือเปล่า ”

“ เปล่าครับ ”

พรานส่ายหน้าช้าๆ และยิ้มไปด้วยขณะพูด
“ เต็มที พิชิต คุณเชื่อหรือว่า ไอ้ทะเบียนที่มันซุกไว้ในรถนั่น จะเป็นป้ายทะเบียนจริงๆ ของรถคันนั้น มันคงจะไม่โง่พอที่จะทิ้งร่องรอยอันนี้ไว้ รีบไปเอาเลขหมายที่เครื่องยนต์มา ชนิดยี่ห้อของรถ ตลอดจนสี และรุ่นของมันด้วย แต่... ประเดี๋ยวก่อน... อย่าทำอะไรรีบร้อน ”
เขาเอื้อมมือไปแตะท่อนแขนของพิชิต ขณะขยับตัว

“ ถ้าคุณพรวดพราดออกไปเดี๋ยวนี้ คุณจะมีคนตามไปด้วยแน่ๆ ... ประเดี๋ยวค่อยไป ”

พิชิต เปลี่ยนอิริยาบทเป็น ยกถ้วยวิสกี้ขึ้นดื่ม
“ ผมเกือบลืมเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องเมื่อคืนนี้ ”

“ อะไรอีก ว่าไป... อย่าลืมทำกิริยาคล้ายกับไม่มีอะไรเวลาคุณพูด... ผมเข้าใจว่า คุณผจญ กำลังมองเราอยู่ ”

พิชิต หัวเราะ ควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ เขาหันหน้าไปทาง กัลยา ขณะพูดกับ พราน

“ ที่หน้าบ้านหมอจีน หน้าโรงพยาบาลกลาง มีคนเจ็บคนหนึ่งไปนอนรักษาตัวอยู่ ผมทราบแต่เพียงว่า เพิ่งจะมาเมื่อคืนนี้ เด็กของเจ้าซ้วงคนหนึ่ง มันเป็นคนไข้ประจำของหมอจีนคนนั้น มาพูดกับเพื่อนของมันที่อู่เจ้าซ้วง... ซ้วงมันบอกผมถึงเรื่องนี้ด้วย... ไอ้เด็กคนนั้นมันว่า มันเห็นตอนมันจะเดินเข้าห้องน้ำ ไอ้หมอนั่นเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี มีผ้าพันแผลรอบหัวไหล่ข้างขวา และมือของมันมีผ้าโยงไว้ที่คอ เจ้านั่นเห็นเด็กของเจ้าซ้วงเข้า ก็สะดุ้งโหยง แล้วรีบเดินเข้าห้องที่ติดๆ กับห้องน้ำ... เด็กของเจ้าซ้วง มันชื่อ ไอ้หยู... ไอ้หยู มันหลอกถามลูกของหมอ มันก็เลยรู้ว่า ไอ้เสือนั่นมาถึงร้านหมอจีนในตอนดึก คนในบ้านรู้กันแต่ว่า ไอ้หมอนั่นบาดเจ็บ เพราะรถคว่ำ... ผมสงสัยว่า มันอาจจะเป็นคนเมื่อคนนี้... หรือ หัวหน้าว่ายังไง... ”

พราน หันไปมอง กัลยา ซึ่งกำลังยิ้มอยู่กับ พิชิต เขาพูดว่า “ หมอจีนนั่น ชื่ออะไร ”

“ ซินแสบุ้นกิม ”

พราน พยักหน้าช้าๆ “ เข้าที ผมรู้จัก ถ้าเช่นนั้น.. ” เขาดูดบุหรี่ พ่นควันออกมาเป็นทางยาว

กัลยา ยกผาเช็ดหน้าขึ้นปัดควันบุหรี่ ทำทีเป็นสำลักควันนั้น พราน หัวเราะชอบใจ

“ คุณนี่ เล่นละครเก่งเหมือนกันนี่... พิชิต... ประเดี๋ยวคุณลุกจากโต๊ะนี้ แล้วไปนั่งที่บาร์ ผู้หญิงที่อยู่ที่โทรศัพท์ที่บาร์นั่น แกรู้จักผมดี คุณพูดกับแกว่า ผมวานให้ทำอะไรสักอย่างหนึ่ง พอคุณออกไปสักห้านาที ให้แกไปที่โต๊ะ ตันเป็งล้ง บอก ตันเป็งล้ง ว่ามีโทรศัพท์มาถึง จากคนชื่ออะไร ซินๆ ฟังไม่ถนัดต้องการจะพูดด้วย ให้แกยกหูโทรศัพท์ออกวางไว้นอกเครื่องเฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร เวลา ตันเป็งล้ง มาก็จะได้ยินเสียงคนอีกทางหนึ่งวางหูไปเสียแล้ว ถ้าเขาถามว่า โทรมาจากที่ไหน บอกว่าไม่ทราบ เพราะผู้โทรมา ไม่ได้บอกไว้ ทีนี้ให้แกจับตาดูว่า ตันเป็งล้ง ต่อโทรศัพท์หมายเลขใดกลับไป ให้จดหมายเลขโทรศัพท์นั้นไว้ให้ผม ให้บ๋อยเอามาให้ผม พร้อมกับบิลล์คิดเงินของโต๊ะนี้ ”

พิชิต ขยับตัว พราน แตะข้อมือไว้อีก และพูดว่า
“ เดี๋ยวก่อน... สำหรับคุณ ออกไปนี่ ให้เจ้าซ้วงลงจากรถ ให้มันรีบกลับไปคอยอยู่ที่อู่ ระวังจะมีคนตามไป คุณไม่ต้องไปที่อู่อีก กลับบ้านเลยทีเดียว ให้ซ้วงมันนอนที่อู่ บางทีผมจะไปพบมันเอง ออกจากนี่... ถ้าผมไม่ไป ให้มันหมายเลขเครื่องยนต์คันนั้นไว้ให้ผม พรุ่งนี้ไอ้เสือนั่นมันนัดว่า จะมาเอารถกี่โมงนะ ”

“ แปดโมงเช้าครับ ”

“ ดีแล้ว ให้มันเอารถไปได้ ถ้ามันมา... คุณไปได้แล้ว... ไปนั่งที่บาร์ สั่งเหล้ามากิน แล้วคุยกับแคชเชียร์คนสวยนั่นตามที่ผมสั่ง คุณจะเกี้ยวแกบ้างก็ได้ แกใจดี ไม่เป็นไร ”

พิชิต ลุกขึ้นจากโต๊ะ เขาเดินไปที่บาร์

พราน ไม่ได้หันไปดูเพื่อนของเขา เขายิ้มกับ กัลยา นิดหนึ่ง และยกถ้วยวิสกี้ขึ้นดื่ม แล้วฉุดมือของหล่อนออกไปกลางฟลอร์

คนทั้งสองเต้นรำโดยไม่พูดอะไรกัน พราน ลอบจับตาดูที่โต๊ะของ ผจญ และ ตันเป็งล้ง ทุกครั้งที่เขาหมุนตัวหันหน้าไปทางทิศนั้น สักครู่ เขาก็เห็น พิชิต ผละออกจากบาร์ เปิดประตูออกไป

ร.ต.อ. ผจญ กับสหายของเขายังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ ไม่มีท่าทีจะสนใจกับพิชิต พราน ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง

บ๋อยคนหนึ่งเดินไปที่โต๊ะ ตันเป็งล้ง ก้มลงพูดอะไรอยู่กับ ตันเป็งล้ง

พราน แลเห็น ตันเป็งล้ง พยักหน้า แล้วหันไปพูดอะไร สอง สาม คำกับผู้ที่ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย ครั้นแล้วก็ลุกไปที่บาร์

ตันเป็งล้ง ยกหูโทรศัพท์ขึ้น แล้วสั่นหน้า พูดกับแคชเชียร์สาวคนที่นั่งอยู่ที่วางโทรศัพท์นั้น
พราน เห็นหล่อนสั่นหน้า

ตันเป็งล้ง วางโทรศัพท์ลง หันหลังจะเดินกลับ พรานขมวดคิ้ว

ขณะนั้นเอง ตันเป็งล้ง ก็หันกลับไปที่โต๊ะโทรศัพท์นั้นอีก ยกเครื่องโทรศัพท์ตรงหน้า หมุนเลขตรงหน้าปัทม์

พรานยิ้มออกมา เมื่อเขาเห็น แคชเชียร์สาวผู้นั้น เปิดลิ้นชักโต๊ะ ทำเป็นค้นหาอะไรอยู่ แต่ตาของหล่อนชำเลืองดูที่โทรศัพท์

พราน หมุนตัวพา กัลยา กลับออกมาจากฟลอร์ เมื่อเขาเห็น ตันเป็งล้ง วางหูโทรศัพท์ลงกับที่อย่างหัวเสีย

พรานกลับมานั่งที่โต๊ะ กระดิกนิ้วเรียกบ๋อยมาคิดเงิน
“ ถ้าจะเข้าทีเสียแล้ว กัลยา.. ” เขาพูดยิ้มๆ “ ผมไม่นึกว่า เรื่องมันจะง่ายอย่างนี้ ”

กัลยา ยิ้ม มองดูหัวหน้าของหล่อน
“ เลิกคิดที่จะเบื่อชีวิตนักสืบหรือยังคะ.. หัวหน้า ”

พราน ไม่ตอบคำถามนั้น เขามองดูหล่อน พูดว่า
“ แต่ยังไง ผมก็ยังเห็นคุณสวยอยู่ดีแหละ ”

กัลยา เหลือบตาขึ้นมอง พราน แวบหนึ่ง แล้วหัวเราะเบาๆ
“ ไม่รู้จะว่ายังไง ใช่ไหมคะ ”

บ๋อยนำบิลล์ใส่ถาดมาให้

พรานหยิบบิลล์ มาพลิกดูด้านหลัง เขาเห็นมีตัวเลขเขียนอยู่ที่หลังบิลล์ใบนั้น
พราน ยิ้มอย่างพอใจ พับบิลล์ฉบับนั้นเข้ากระเป๋า วางเงินลงบนถาด พูดกับบ๋อยว่า
“ ไม่ต้องทอน ”

บ๋อยก้มศีรษะ ถอยออกไป

พราน พยักหน้ากับ กัลยา ลุกขึ้น

คนทั้งสองเดินผ่านโต๊ะ ตันเป็งล้ง ไป มีเสียง ตันเป็งล้งทักว่า
“ จะกลับหรือครับ ”

พราน พยักหน้ายิ้ม และยกมือรับไหว้ ตันเป็งล้ง

เขาเดินมาถึงโต๊ะที่ ผจญ นั่งอยู่ ก้มศีรษะให้ ผจญ เมื่อ ผจญ เงยหน้าขึ้นมอง
“ สวัสดีครับ คุณผจญ ” เขาทักขึ้นก่อน

ผจญ ก้มศีรษะเล็กน้อย กล่าว สวัสดี แล้วไม่ได้พูดอะไร

พราน พูดขึ้น ขณะมาหยุดอยู่ตรงหน้า ผจญ ว่า
“ ดึกมากแล้ว ยังไม่กลับอีกหรือครับ หรือ มาคอยพบใคร ”

ผจญ ไม่ตอบ เขาเงยหน้ามองดู พราน อย่างไม่พอใจ ผู้ที่ร่วมโต๊ะอยู่ด้วย สังเกตเห็นกิริยาของ ผจญ ก็พูดว่า
“ มันเรื่องอะไรของคุณละ ... กวนขึ้นทุกวัน ”

พราน หันขวับมาที่คนพูด ซึ่งเขาจำได้ว่า เป็นผู้ที่ติดตาม ผจญ ไปที่สำนักงานขิองเขา ในวันที่จะไปเอาตัว เกรียง พูดว่า
“ อั๊วไม่ได้พูดกับลื๊อ... อย่าสอด ”

ชายผู้นั้นขยับตัว ดันเก้าอี้ไปข้างหลัง ผจญ เอื้อมมือมากดขาเขาไว้ ชายคนนั้นกลับนั่งลงที่เดิม

พราน ไม่ได้แสดงกิริยาอะไรผิดปกติ เขายิ้มอย่างอารมณ์เย็น และจ้องสายตาชายผู้นั้นอย่างไม่สะทกสะท้าน เขาหันไปพูดกับ ผจญ พร้อมกับนิ้มเล็กน้อย ว่า
“ ลูกน้องของคุณดุดีเหลือเกิน แต่เวลาจะเอาจริงเข้า จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ ”

เขาชำเลืองตามาที่ชายผู้นั้น ซึ่งแสดงกิริยาฮึดฮัดอยู่อีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงพูดกับ ผจญ ต่อไปอีกว่า
“ ผมกำลังจะมาบอกคุณว่า ตันเป็งล้ง กำลังมีพฤติกรรมที่น่าส่งสัย ขอให้จับตาดูให้ดี ”

พราน หัวเราะเบาๆ เมื่อพูดจบ และโดยไม่ได้ฟังคำพูดของ ผจญ เขาจับ กัลยาที่แขนเหนือข้อศอก แล้วพาเดินออกไปยังประตู

ก่อนที่จะถึงประตู เขาหันไปทางโต๊ะของแคชเชียร์สาวคนนั้น หลิ่วตาข้างหนึ่งให้กับหล่อน และยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับยกมือขวาขึ้น ใช้นิ้วชี้ทำลงจรดกับหัวแม่มือเป็นสัญญาณส่งให้ แล้วจึงเปิดประตูออกไป







Create Date : 28 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2557 10:08:09 น. 1 comments
Counter : 748 Pageviews.

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ธารน้อย Literature Blog ดู Blog



โดย: ก้นกะลา วันที่: 29 พฤศจิกายน 2557 เวลา:1:00:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.