จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
15 สิงหาคม 2555
 
All Blogs
 
นักสืบพราน - เรื่องที่ 4 สลัดถนนหลวง (ตอนที่ 3)

โดย 4411

ดนตรีลีลาศบนสถานที่ลีลาศหยาดฟ้า กำลังสวิงอย่างครื้นเครง เสียงแก้วกระทบกัน และเสียงสรวลเสเฮฮาดังอยู่ไม่ขาดระยะ คู่เต้นรำทั้งหลายกำลังวาดลวดลายอยู่ในจังหวะอันเร่าร้อนนั้น โดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น

ที่บนระเบียงด้านนอกซึ่งสร้างใหม่ยื่นออกไปในที่ว่างเปล่า พราน เจนเชิง ซุกตัวของเขาอยู่เงียบ ๆ บนเก้าอี้ประจำโต๊ะตัวหนึ่ง วิสกี้ซึ่งผสมโซดาเย็นเฉียบ กำลังปล่อยฟองเดือดปุด ๆอยู่ในถ้วยแก้วที่ตั้งอยู่ตรงหน้า เขาใช้สายตากวาดไปรอบ ๆ บริเวณของสถานที่ลีลาศ ซึ่งมีผู้มาหย่อนใจนั่งกันเป็นหมู่ ๆ ตามโต๊ะต่าง ๆ เขาหันหน้าไปเรียกบ๋อยประจำโต๊ะ ซึ่งยืนคอยรับใช้อยู่

“ ไปเรียก มาลี มาหาอั๊วหน่อย ”

บ๋อยรับใช้ ซึ่งคุ้นหน้ากับพรานดี โค้งรับคำอย่างนอบน้อม แล้วถอยลงบันไดระเบียงไป

ห้านาทีต่อมา มีเสียงรองเท้าผู้หญิงสอยถี่ ๆขึ้นมาตามบันใดซึ่งขึ้นมาสู่ระเบียง หญิงสาวคนหนึ่งในชุดสีแดงเพลิง ซึ่งรัดรูปทรงอย่างล่อแหลม ปราดเข้ามากอดที่แขนของพรานอย่างสนิทสนม พร้อมกับพูดว่า

“ วันนี้ ลมอะไรหอบเอานักสืบเอกมาที่นี่ได้ ต๊กกะใจ แทบไม่เชื่อหูตัวเองเลย ”

พราน หันไปยิ้มเล็กน้อย พลางชี้มือไปที่เก้าอี้ว่างข้าง ๆ

“ นั่งก่อนซิ – มาลี อยากจะคุยอะไรด้วยสักหน่อย ”

“ ธุระสำคัญหรือคะ –หรือจะให้หนูช่วยสืบอะไรให้ หนูกำลังนั่งโต๊ะเสียด้วยซี ” มาลีพูด พร้อมกับหย่อนกายลงบนเก้าอี้ที่ พราน ชี้

“ ไม่มีอะไรหรอก มาลี ขอเวลาสัก ๑๕ นาที ดื่มอะไรสักหน่อยไหม ”

“ ม่ายละค่ะ – หนูมีแล้วที่โต๊ะของหนู ว่าธุระของคุณไปเถอะ นี่ถ้าไม่มีธุระ ก็คงไม่มีวันได้พบกัน ใช่ไหมคะ ”

“ ไม่ใช่เช่นนั้น – มาลี คนเราชอบ ๆ กัน จะต้องมีพิธีรีตองอะไรกันใช่ไหม– มาลี ต้องการอะไรก็ว่ากันตรงไปตรงมา ”เขาหยุดพูดชั่วขณะมาลีใช้สายตาค้อนอย่างมีจริตจะก้าน แล้วจึงกล่าวต่อไป

“ เมื่อคืนนี้ เขาว่าเคราะห์ร้ายหน่อย ไม่ใช่หรือ ”

กิริยาร่าเริงของมาลีหายไปทันที สายตาของหล่อนหลบลงต่ำอย่างหวาด ๆ ไม่มีคำพูดใด ๆ ผ่านริมฝีปากออกมา

“ ฉันต้องการรู้เหตุการณ์ที่เธอไปประสบมา เมื่อคืนนี้ ” พราน พูดต่อไป เมื่อสังเกตเห็นกิริยาของหญิงสาว “ไม่ต้องกลัวอะไร – มาลี ฉันมานี่ เพื่อจะจัดการกับเจ้าพวกวายร้ายเหล่านั้น ”

“ ใครเป็นคนบอกคุณถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ ” มาลีพูดเสียแผ่ว ๆ โดยไม่เงยหน้า

“ ช่างมันเถอะ – ที่ฉันจะรู้มาได้อย่างไร ว่าแต่เธอต้องการที่จะให้ฉันช่วยเหลือเธอ –ช่วยเหลือเพื่อนฝูงของเธออีกหลาย ๆ คน ที่อาจต้องประสบกับชะตากรรมอย่างเดียวกับที่เธอประสบมาแล้วหรือไม่ ถ้าเธอต้องการ และเห็นความตั้งใจดีของฉัน อย่าปิดบังอะไรทั้งหมด ”

“ แต่ – หนูกลัวค่ะ คุณพราน ” เสียงที่พูดนั้นสั่นสะท้าน

“ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งหมด – มาลี ฉันไม่เคยทำอะไรที่เป็นภัยต่อเธอเลยนี่นะ เธอรู้จักฉันดีแล้ว ไม่ใช่หรือ – มาลี ความกลัวโดยไม่มีเหตุผลของเธอ จะทำให้คนอื่นต้องลำบากไปอีก อย่าทำใจอ่อนแออย่างคนอื่น มาลีไม่ใช่คนขี้ขลาด – ฉันรู้จักเธอดี ”

ทั้งคู่ต้องนิ่งกันไปชั่วขณะ มาลีใช้สายตาของหล่อนกวาดไปรอบ ๆฟลอร์เต้นรำ มือทั้งสองข้างซึ่งเกาะที่วางแขนเก้าอี้อยู่นั้น สั่นระริกจนเห็นได้ชัด พราน เอื้อมมือไปตบมืออันสั่นเทาของหล่อนเบา ๆเป็นเชิงปลอบโยน ขณะที่สายตาของเขามองติดตามไปทางทิศที่สายตาของมาลีกวาดออกไป

มาลีหยุดสายตาของหล่อนอยู่ที่บนฟลอร์ทางด้านที่ติดกับวงดนตรีชั่วขณะ เมื่อหล่อนเหลือบสายตาขึ้นดูพราน และเห็นเขาใช้สายตาจ้องจับอยู่ที่จุดเดียวกับหล่อน ก็หลบสายตาลงต่ำอย่างมีพิรุธ ซึ่งเป็นขณะเดียวกับที่พรานละสายตาจากจุดนั้น มามองดูหล่อน

พรานหันกลับไปมองที่จุดนั้นอีกครั้งหนึ่ง ที่โต๊ะตัวนั้น มีชายสองคนนั่งอยู่ เขาเริ่มพิจารณาชายทั้งสองนั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน คนทั้งสองเป็นชายหนุ่มอยู่ในวัยเดียวกัน แต่งกายเรียบร้อยด้วยเสื้อผ้าตัดเย็บอย่างประณีต มีกิริยาที่สงบเสงี่ยม และท่าทางของคนทั้งสองดูเหมือนกำลังสนใจอยู่ในทำนองของเพลงอันเร่าร้อนนั้น มากกว่าอย่างอื่น พรานคาดคะเนอายุของคนทั้งสอง ซึ่งอยู่ในวัยไล่เลี่ยกันนั้น คงไม่เกิน ๒๕ ปี

เขาหันหน้ามาทางมาลีซึ่งยังคงก้มหน้าอยู่อย่างเข้าใจความหมาย พลางพูดยิ้ม ๆ “ สองคนนั้นกระมัง –มาลี ”

มาลี มองดู พรานด้วยสายตาอันมีแวววิตกหมดหวัง ก่อนที่จะพยักหน้าช้า ๆ

“ เธอแน่ใจหรือว่า จำเขาไม่ผิด – เขากล้าถึงขนาดนี้เชียวหรือ ”

มาลี พยักหน้าอย่างมั่นใจ แต่ในสายตาของหล่อน แววแห่งความหวาดกลัวยังไม่หมดไป “ เขามาที่นี่บ่อย ๆ ค่ะ ”

พราน ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา ซึ่งชี้บอกเวลา ๒๓.๐๐ น. พอดี เขาหันไปดูชายทั้งคู่นั้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพอดีกับคนทั้งคู่กำลังลุกขึ้นจากโต๊ะและชำระเงินให้กับคนรับใช้ และเดินไปยังลิฟต์ที่จะนำลงไปข้างล่าง

พรานหันหน้ามายังมาลี พูดว่า

“ เล่ารายละเอียดให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม –มาลี เมื่อคืนนี้เธอรู้สึกตัวว่าถูกติดตามตอนไหน ”

มาลีส่ายหน้าอย่างช้า ๆ พลางพูดว่า

“ หนูไม่รู้ตัวว่าถูกติดตามตั้งแต่ตอนไหน หนูสองคนกับปราณีกำลังนั่งสามล้อจะกลับบ้าน พอลงจากสะพานเหล็กล่าง จะไปทางไปรษณีย์กลาง รถของเขาก็มาเทียบรถสามล้อของหนู แล้วหนูกับปราณีก็ถูกบังคับให้ขึ้นรถ นายสอน คนถีบสามล้อประจำของหนู ถูกตีลงไปสลบอยู่บนถนน ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ หนูยังไม่กล้าไปเยี่ยม ”

“ เขาพาเธอกับปราณีไปที่ไหน ”

“ บางปูค่ะ ”

“ คนสองคนเมื่อตะกี้นี้ มีบทบาทอะไรบ้าง ”

“ คนผมหยิก ๆ ที่เดินนำหน้าลงไป เป็นคนลงมือขืนใจหนูก่อนคนอื่น หนูได้ยินพวกเขาเรียกกันว่าพี่ แต่ไม่รู้ชื่ออะไร และเขาเป็นคนเปิดกระเป๋าของหนูและของปราณี เอาเงินไปหมดกระเป๋า –ของหนูมีอยู่สักห้าร้อยกว่า ๆ ของปราณีอีกเจ็ดหรือแปดร้อย หนูไม่ทราบ ”

“ แล้วเธอกลับมาได้อย่างไร ”

“ เขาทิ้งหนูกับปราณีไว้ที่บางปู ส่งเงินให้สิบบาทเป็นค่ารถเมย์กลับในตอนเช้า ”

“ เขาใช้รถอะไร จะได้ไหม ”

“รถเก๋งใหญ่ค่ะ สีดำ หนูไม่รู้จักยี่ห้อ และไม่ทันได้ดูเบอร์ ”

พราน นิ่งใช้ความคิดอยู่สักครู่ ครั้นแล้วจึงพูดต่อไป

“ ขอบใจมาก มาลี ต่อไปนี้ เธอฟังคำสั่งของฉันได้ไหม ”

“ หนูนับถือคุณมานานแล้ว บอกมาซิคะ ว่าหนูควรจะทำอย่างไรดี ”

พราน ยิ้มเล็กน้อย เขาล้วงกระเป๋า หยิบซองธนบัตรขึ้นมาเปิด และดึงเงินในกระเป๋าออกมา จับมือข้างหนึ่งของมาลีหงายขึ้น และกำธนบัตรวางลงไปบนมือนั้น

“ นี่เป็นค่าป่วยการของเธอ มาลี ห้าร้อยบาท เธอจะต้องหยุดทำงานสัก ๓ - ๔ วัน จนกว่าฉันจะให้เธอมาทำงานได้ และระหว่างนี้ อย่าได้ออกจากบ้านไปไหนเป็นอันขาด เข้าใจไหม ”

มาลีพยักหน้า สายตาของหล่อนจับอยู่ที่พรานอย่างวิงวอน

“ สำหรับคืนนี้ ” พรานพูดต่อไป “ ฉันจะไปส่งเธอกลับบ้าน เธอกลับไปที่โต๊ะของเธอได้แล้ว เลิกงานแล้ว พบกันชั้นล่าง ไม่ต้องตกใจ มาลี ถ้าเธอทำตามคำสั่งของฉันทุกสิ่งทุกอย่างจะเรียบร้อย ”

มาลีสอดธนบัตรลงไปในอกเสื้อ แล้วลุกขึ้นอย่างแช่มช้า

พราน เจนเชิงมาพบมาลีอีกครั้งหนึ่งที่หน้าสถานลีลาศหยาดฟ้า เมื่อหลังสองยามแล้ว เขาพาหล่อนเดินไปยังรถของเขา ซึ่งจอดอยู่คนละฟากถนน  

ขณะที่เขาเปิดประตูรถและก้าวเท้าจะเข้าที่นั่งคนขับ เขาเห็นกระดาษสีขาวแผ่นหนึ่งเสียบอยู่ที่พวงมาลัย พรานหยิบมันขึ้นอ่านกับแสงไฟข้างถนน เขาพบข้อความซึ่งเขียนด้วยลายมือเรียบ ๆ

             พราน เจนเชิง

คุณออกจะยุ่งกับเรื่องซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของคุณมากไปเสียแล้

หลีกทางไปจะดีกว่า

ผู้หวังดี


มาลีหันหน้ามาถาม ขณะกำลังหย่อนกายลงจะนั่ง

“ กระดาษอะไรคะ ”

พรานหัวเราะอย่างกร้าว ๆ ในลำคอ เขาขยี้กระดาษนั้นเป็นก้อน แล้วยัดใส่ในกระเป๋าเสื้อ ไม่ได้ตอบคำถามของมาลีแต่ประการใด





Create Date : 15 สิงหาคม 2555
Last Update : 16 สิงหาคม 2555 2:22:26 น. 2 comments
Counter : 997 Pageviews.

 
ขอบคุณมาก..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:19:20:27 น.  

 
ช่างกล้ามาเสียบกระดาษขู่นักสืบคนเก่งได้


โดย: ใบข้าวสีเขียว (ใบข้าวสีเขียว ) วันที่: 22 สิงหาคม 2555 เวลา:23:59:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.