จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
5 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
นักสืบพราน - เรื่องที่ 6 พินัยกรรมมรณะ (ตอนที่ 11)

โดย 4411


พราน ดึงมือขวาออกจากระเป๋า ขึ้นมาคีบบุหรี่ที่มุมปากออก พร้อมกับชี้มือข้างที่คีบบุหรี่อยู่นั้น ไปตรงหน้าของเกริก พูดช้า ๆ อย่างเน้นถ้อยคำว่า
“ ลื้อนี่แหละ ”

“ หมายความว่าอย่างไรกัน – พราน ” เสียงของเกริก สั่นเล็กน้อย เมื่อเขาพูดประโยคนี้

พราน หัวเราะอยู่ในลำคอ ก่อนที่จะพูดว่า
“ หมายความว่า แม่ของเด็กคนนี้ เป็นพี่สาวของลื้อ ภูมิลำเนาของแกอยู่ที่เชียงใหม่ อั๊วเข้าใจว่า ลื้อไปเชียงใหม่เมื่อคราวที่แล้ว คงจะได้ข่าวเกี่ยวกับแกมาบอกอั๊วบ้าง และเวลานี้ เด็กคนนั้นก็อยู่ในบ้านลื้อไม่ใช่หรือ อั๊วเอง ยังเคยพบเขาครั้งหนึ่งในบาร์ประสิทธิ์ผล ใบหน้าท่าทาง ไม่ทิ้งเค้าท่านเจ้าคุณเลย และอั๊วเพิ่งจะนึกออกในวันนี้เองว่า อั๊วได้เคยพบเด็กคนนั้นครั้งหนึ่ง ที่สำนักงานของลื้อ ”

เกริก ยังคงนั่งนิ่งอยู่ สายตาของเขาตกลงสู่เบื้องต่ำ

พราน ชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของ เกริก เขาพูดขึ้นอีกว่า
“ เกริก – บอกมาว่า เวลานี้ กัลยาอยู่ที่ไหน ลื้อเลิกเล่นตลกกับอั๊วเสียทีเถอะ ไอ้เพื่อนยาก ส่งตัว กัลยา กลับคืนมาให้อั๊วเสียดี ๆ มิฉะนั้น ลื้อจะต้องแก้คดี หน่วงเหนี่ยวกักขังอีกคดีหนึ่ง นอกเหนือไปจากคดีฆาตกรรมนิพนธ์ ”

เกริก สบัดหน้า ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สายตาของเขาจับอยู่ที่ พราน
“ อั๊วไม่ได้ฆ่านิพนธ์ ใครบอกบอกว่า อั๊วเป็นคนฆ่า ”

“ ลื้อจะได้ฆ่านิพนธ์ด้วยมือของลื้อเองหรือเปล่า อั๊วไม่รู้ แต่ลื้อต้องมีส่วนรู้เห็นหรือสมคบในคดีนี้ด้วย ”
พราน พูดอย่างเหี้ยมเกรียม

“ คืนวันที่ลื้อ กับนิพนธ์ออกจากบ้านอั๊วไปพร้อมกัน นิพนธ์ไม่ได้กลับไปบ้านเขาเลยคืนนั้น เขาถูกฆ่าตายในคืนวันนั้นเอง นิพนธ์ไม่ได้ส่งลื้อที่บ้าน ลื้อกลับมาที่บ้านของลื้อด้วยรถแท็กซี่ รถแท็กซี่คันเดียวกับที่ลื้อใช้ไปรับตาปรีชา ที่หน้าเรือนจำในวันรุ่งขึ้น ถ้าลื้อไม่ได้ฆ่านิพนธ์ หรือมีส่วนรู้เห็นด้วย ลื้อจะมาโกหกอั๊วทำไมว่า นิพนธ์ไปส่งลื้อที่บ้าน ”

“ แต่ นิพนธ์ได้ขับรถออกจากบ้านเขาเอง ไปรับปรีชาในตอนเช้า คุณนัยนาให้การกับตำรวจไว้อย่างนั้น ”
เกริก เถียงขึ้น

“ ไม่จริง ” พราน พูด พร้อมกับทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้น และใช้เท้าขยี้
“ นัยนา เพียงแต่คาดคะเนเอาเท่านั้น เพราะในคืนนั้น แกเข้านอนก่อน แกเพียงเข้าใจเอาเองว่า นิพนธ์คงจะขับรถออกไปเองแต่เช้า เพราะแกตื่นขึ้นมา ไม่ได้พบนิพนธ์และไม่รู้ว่า นิพนธ์กลับเข้าบ้าน หรือไม่ได้กลับ อั๊วได้ถามนัยนาแล้วในเรื่องนี้ แกจึงได้เดาเอาว่า นิพนธ์คงจะได้ออกไปรับตาปรีชาแล้ว ลื้อเป็นคนที่ฉวยโอกาสเก่งมาก – เกริก ”

พราน หยุดพูด เขาหัวเราะอย่างดุ ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะพูดต่อไปว่า
“ ลื้อจำเป็นต้องฆ่านิพนธ์ เพราะเขาเป็นก้างอันใหญ่ที่ขวางคอลื้ออยู่ กันไม่ให้พี่สาวของลื้อ กับหลานชายของลื้อ มีส่วนได้ในกองมรดกของท่านเจ้าคุณ คนที่สองรองลงมาก็คือ อั๊ว ลื้อเป็นคนใช้ให้ตาปรีชาเป็นคนไปดักฆ่าอั๊ว เพราะลื้อรู้อยู่ทุกระยะว่า เวลาไหนอั๊วจะไปที่ไหน ลื้อใช้ความสามารถในการพูดของลื้อ เกลี้ยกล่อมตาปรีชาให้เห็นอั๊วเป็นศัตรูไปได้ การที่ลื้อใช้ตาปรีชาไปดักยิงอั๊ว เป็นประโยชน์กับลื้อทั้งสองทาง ถ้าไม่สำเร็จ ก็เท่ากับลื้อยืมมืออั๊วกวาดตาปรีชาออกไปเสียจากทางของลื้อ ในที่สุด ลื้อก็ใช้กลยุทธขั้นสุดท้ายของลื้อ คือ ลักเอาตัวกัลยาไป เพื่อที่จะขู่ให้อั๊ววางมือจากเรื่องนี้ ลื้อรู้ ว่า กัลยาจะไปที่ไหนในคืนวันนั้น เพราะขณะที่อั๊วสั่งการกับ กัลยา ลื้ออยู่ในห้องนั้นด้วย ”

เกริก ขยับตัวจากมุมโต๊ะ

พราน ใช้มือขวากดเข่าของเกริกลงกับที่ พร้อมกับชิงพูดขึ้นอีกทีว่า
“ เกริก – ประเดี๋ยวก่อน จะขยับไปไหน ฟังอั๊วพูดซิ เพื่อนรัก การที่ลื๊อบังอาจลักพาตัว กัลยาไปนั้น เป็นความโง่อย่างมหันต์ของลื๊อ เพราะมันทำให้อั๊วแน่ใจว่า ผู้ที่เป็นดังกล่าวอยู่ในเรื่องนี้ ไม่มีใคร คือลื้อนี่เอง กัลยาออกไปทำงานคืนนั้น มีคนที่รู้คือ เกรียง อั๊ว กับลื้อ เท่านั้น คนที่จะไปดักถูกที่ถูกเวลา ก็มีอยู่เราสามคนนี่แหละ ข้อความในหนังสือขู่ที่ลื้ออุตส่าห์พิมพ์ส่งให้อั๊ว มันก็ช่างโง่สิ้นดี ลื้อควรจะบอกมาในหนังสือขู่นั้นด้วยว่า วิธีที่จะทำลายพินัยกรรมฉบับนี้ ควรจะทำอย่างไร และควรจะมีอะไรแสดงเพื่อที่จะให้เจ้าของจดหมายได้รู้ว่า พินัยกรรมฉบับนั้นได้ถูกทำลายไปแล้วจริง ๆ เขาจะรู้ได้อย่างไรว่า อั๊วได้จัดการให้ทำลายมันแล้ว ลื๊อไม่ได้กำหนดวิธีการมาให้ ก็เพราะเมื่อไม่มีพินัยกรรมถูกทำลาย ลื้อก็ย่อมจะต้องรู้อยู่เองทุกขณะ มันเป็นหนังสือขู่ที่หละหลวมมาก เพราะลื้อปล่อยไว้ให้อั๊วระแวงได้ – จริงไหม – เกริก ”

เขาหยุดพูดชั่วครู่ มองดูหน้า เกริก ซึ่งยังคงจ้องสายตาของเขาอยู่ และไม่ปริปากว่าอะไร พราน จึงพูดต่อไป
“ ฟังต่อไป – เกริก – ลื้อมาหาอั๊วที่สำนักงาน ตอนเช้าวันนี้ ก็เพื่อจะหาโอกาสส่งจดหมายให้อั๊ว ลื๊อรู้อยู่ว่า วันนี้ อั๊วต้องมาที่ทำงานสายหน่อย เพราะเด็กของลื้อได้พบอั๊วอยู่ที่บาร์ประสิทธิ์ผล กับ เกรียง จนดึกมาก และอั๊วจะไม่มาสำนักงานก่อนสิบโมง ลื้อเลือกเวลามาพบอั๊วสิบโมง เมื่อไม่พบ ลื้อก็ถือโอกาสสอดซองจดหมายฉบับนั้นลงในตู้รับจดหมาย เมื่อลื้อกลับออกไป ซองจดหมายติดแสตมป์ประทับตราไปรษณีย์เสียด้วย แต่ – จดหมายอะไรมันถึงอั๊วได้เร็วอย่างนั้น กัลยาถูกจับตัวไปเมื่อคืนนี้เอง จดหมายที่ส่งมาทางไปรษณีย์ จะมาถึงอั๊วในตอนเช้ารุ่งขึ้น เป็นไปไม่ได้ – มันจะเร็วอย่างนั้นได้อย่างไรกัน มันต้องมากับมือของผู้ส่งจดหมายนั้นเอง ในเช้าวันนั้น ก็มี เกรียง กับลื้อ ที่มาหาอั๊ว - เกรียง ยังอยู่ในขณะที่อั๊วไปถึงสำนักงาน ฉะนั้น มันจะมีใคร นอกจากลื้อ ที่สอดจดหมายฉบับนี้ลงในตู้รับจดหมายของอั๊ว ”

เกริก มีความกระสับกระส่ายยิ่งขึ้น

พราน ล้วงมือข้างขวาลงไปในกระเป๋าของเขา หยิบซองจดหมาย ๒ ฉบับขึ้นมา และพูดต่อไป
“ จดหมายสองฉบับ ที่อั๊วให้ เกรียง ไปขอแรงลื้อให้ช่วยพิมพ์ให้ เมื่อเช้านี้นั้น มันเป็นแต่เพียงจดหมายที่อั๊วต้องการให้ลื้อใช้เครื่องพิมพ์ทั้งสองเครื่องที่ลื้อมีอยู่ พร้อม ๆ กัน เพื่อจะเอาไปเทียบดูกับตัวพิมพ์ในหนังสือขู่ ที่อั๊วได้รับเท่านั้น รายละเอียดในการสืบสวน ที่อั๊วส่งให้ลื้อพิมพ์นั้น เป็นเรื่องที่อั๊ววาดขึ้นเองทั้งนั้น มันทำให้ลื้อเบาใจขึ้นมาก ใช่ไหมเพื่อน เมื่อลื้อได้อ่านร่างของจดหมายสองฉบับนี้ ข้อความมันห่างจากตัวลื้อมาก ”

เขาหัวเราะขึ้นเบา ๆ ขัดจังหวะตัวเอง ก่อนที่จะพูดต่อไปอีกว่า
“ อั๊วได้ถือจดหมายสองฉบับนี้ไปหาสารวัตรพจน์จริง ๆ แต่ไม่ใช่ไปขอกำลัง อั๊วไปขอให้เขาลองเทียบกับ จดหมายขู่ ที่อั๊วได้รับฉบับนั้น และอั๊วมีความยินดีที่จะแจ้งผลให้ลื้อทราบด้วยว่า จดหมายฉบับหนึ่งในสองฉบับนี้ พิมพ์จากเครื่องพิมพ์เดียวกันกับจดหมายขู่ที่อั๊วได้รับ ”
เขาส่ายศีรษะช้า ๆ พร้อมกับจิ้ปากเบา ๆ ๒ – ๓ ครั้ง
“ เกริก – ลื้อช่างไม่รอบคอบเสียจริง ๆ ที่ใช้เครื่องพิมพ์ของลื้อเอง พิมพ์จดหมายสกปรกฉบับนั้น ”

ขณะที่ พราน หยุดพูดและหย่อนจดหมายลงไปในกระเป๋าเสื้อตนเอง ในทันใดนั้น เขารู้สึกมีสิ่งหนึ่งเหวี่ยงมากระทบใบหน้าอย่างแรง ร่างของเขากระเด็นออกไปปะทะกับข้างเก้าอี้ตัวที่เขานั่งอยู่เดิม และเมื่อเขายันกายขึ้นมาจากความมึนงงที่ได้รับ เขาก็ได้เห็นร่างของ เกริก ยืนอยู่เบื้องหลังโต๊ะทำงานของเขาเสียแล้ว มือข้างขวากำปืนอยู่กระบอกหนึ่ง จ้องตรงมา

เกริก หัวเราะเสียงก้อง มีความหมายของคนเสียสติ เขาพูดทั้งเสียงหัวเราะว่า
“ พราน – ลื้อเก่งมาก แต่ความเก่งของลื้อเห็นจะช่วยอะไรลื้อไม่ได้ในขณะนี้ เพราะปืนกระบอกนี้ มันไม่รู้จักความเก่ง หรือไม่เก่งของลื้อ อั๊วมีสิทธิ์ที่จะฆ่าคนได้ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำความเจ็บช้ำน้ำใจให้อั๊ว ถ้าลื้อมีพี่สาวสักคนหนึ่ง ถูกใครเอาไปเป็นเมีย แล้วทิ้งขว้างไปทั้ง ๆ ที่กำลังท้อง ลื้อจะเจ็บใจไหม – บอกมาซิ – ลื้อจะเจ็บใจไหม ”

เขาตะโกนประโยคสุดท้ายดังก้อง แล้วหัวเราะกังวาลขึ้นอีก ก่อนที่จะพูดต่อไป
“ ไอ้เด็กคนที่เกิดมา มันก็ย่อมมีสิทธิในกองมรดกของพ่อของมันเท่า ๆ กับลูก ทุก ๆ คน ไม่ใช่ไม่ได้ถูกรับรู้ในพินัยกรรมเสียเลย ถูกละ อั๊วฆ่านิพนธ์ และลื้อจะต้องเป็นรายที่สอง อั๊วเสียใจที่เมืองไทยจะต้องเสียนักสืบที่ดีไปคนหนึ่ง ”

พราน ยังคงจับสายตาอยู่ที่เกริก อย่างใจเย็น เขาพูดขึ้นช้า ๆ ในทันที
“ เกริก – ถ้าลื้อคิดว่า อั๊วมาที่นี่คนเดียว ลื้อก็โง่อีก เวลานี้ เกรียง เอนก และ พิชิต คงจะได้พาสารวัตรพจน์ กับกำลังตำรวจ มาล้อมบ้านของลื้อไว้โดยรอบแล้ว เพียงแต่เสียงปืนดังขึ้นนัดเดียว ก็เท่ากับเป็นสัญญาณให้คนทั้งหมดเข้ามาในนี้ ”

มีเสียงลูกบิดประตูที่เกริก ยืนหันหลังให้ ดังขึ้น ก่อนที่บานประตูนั้นจะแง้มออก พราน มองไปที่ประตูนั้น เขายิ้ม พร้อมกับพูดว่า
“ มาทันเวลาพอดี เชิญซีครับ ท่านสารวัตร ”

เกริก หันขวับไปทางประตูนั้น เขาลั่นไกปืนในมือของเขา ไปยังร่างที่ผลักบานประตูออกมาทันที ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง อายุในวัย ๑๖ ปี ล้มฮวบลง

เกริก มีความตกใจจนสุดขีด เขาหันตัวกลับมาทาง พราน แต่ช้าเกินไป เพราะมันเป็นขณะเดียวกันที่ปืนในมือของ พราน ลั่นขึ้นสองนัดซ้อน

เกริก ซวนกาย ปืนในมือของเขากระเด็นไป โลหิตไหลรินออกมาจากไหล่ข้างขวาของเขาเป็นทาง

เสียงฝีเท้าของคนหลายคน ดังมาจากภายนอก บานประตูห้องถูกกระแทกออกโดยแรง สารวัตร พจน์ เกรียง เอนก และพิชิต กรูกันเข้ามา

พราน หันไปทางสารวัตร พจน์ ปืนในมือของเขา ยังมีควันกรุ่นอยู่ เขาพูดขึ้น พร้อมกับยิ้มเล็กน้อยว่า
“ คราวนี้ ไม่ถึงตายหรอกครับ ท่านสารวัตร ผมเป็นแค่เพียงยิงให้ปืนเขาหลุดจากมือเท่านั้น ส่วนเด็กหนุ่มคนที่นอนตายอยู่ที่ประตูนั่น เป็นหลานของเขาเอง และตายด้วยฝีมือของเขา ไม่ใช่ผม น่าสงสาร แกคงต้องการเข้ามาช่วยน้าชายของแกแท้ ๆ ”

สารวัตรพจน์ ปราดไปที่ร่างของเด็กหนุ่ม ซึ่งฟุบอยู่กับพื้น และเงยหน้าขึ้นมองดู เกริก โลหิตจากบาดแผลที่หัวไหล่ยังคงไหลรินเป็นทาง เขาหันมายิ้มกับ พราน
“ ทนายความของคุณเองหรอกหรือนี่ ”

พราน พยักหน้า ยิ้มอย่างเศร้า ๆ เขาเก็บปืนเข้าไปในซองซึ่งซ่อนไว้ในเสื้อ คร้นแล้วปลดเอาวัตถุสิ่งหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ ส่งให้สารวัตรพจน์ พูดว่า

“ เครื่องบันทึกเสียงที่ผมขอยืมท่านสารวัตรมา เมื่อบ่ายวานนี้ครับ ถ้อยคำที่เขากับผมพูดตอบกัน ได้อยู่ในนี้หมดแล้ว คงจะเป็นประโยชน์กับคดีมาก นอกเหนือไปจากรายงานการตรวจพิสูจน์ตัวอักษรในจดหมายสองฉบับนั้น ซึ่งผมจะส่งให้ท่านสารวัตรภายหลัง ”

ครั้นแล้ว เขาก็หันไปทาง เกริก
“ ทั้ง ๆ ที่อั๊วควรจะฆ่าลื้อได้ เดี๋ยวนี้ ลื้อคงจะไม่ขัดข้องแล้วซินะ ที่จะบอกว่า กัลยาอยู่ที่ไหน ”

เกริก เงยหน้าขึ้นมองสหายของเขาอย่างวิงวอน สายตาของเขาเปลี่ยนแปลงไป และเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาพยักหน้าช้า ๆ พร้อมกับพูดว่า

“ ยกโทษให้อั๊วเถอะ พราน ”




Create Date : 05 ตุลาคม 2555
Last Update : 5 ตุลาคม 2555 15:58:38 น. 3 comments
Counter : 742 Pageviews.

 
ขอบคุณมาก..



โดย: ก้นกะลา วันที่: 5 ตุลาคม 2555 เวลา:21:22:33 น.  

 
ทำไมตู่หาตอนที่10 ไม่เจออ่ะค่ะ งงค่ะ


โดย: ใบข้าวสีเขียว (ใบข้าวสีเขียว ) วันที่: 7 ตุลาคม 2555 เวลา:0:12:32 น.  

 
ขอโทษค่ะ ลืมอับตอน 10 ให้อ่าน
ขออภัย เลยขาดอารมณ์ไปนิด
มาแล้วค่ะ


โดย: ธารน้อย วันที่: 8 ตุลาคม 2555 เวลา:0:33:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.