อีกประการหนึ่ง พรานพูดต่อไป เวลาที่นายวิกรม ถูกฆ่าตายนั้น ปรากฏว่าเป็นเวลาสองทุ่มเศษ และมันเป็นเวลาเดียวกันกับเวลาที่แม่มยุรี มักจะไปพบกับนายวิกรม ระหว่างที่อรัญญาหนีออกจากบ้านไป และวันไหนที่แม่มยุรีจะไปพบกับนายวิกรม เขามักจะจัดการให้คนใช้ออกไปเสียข้างนอก มิให้มีใครรู้เห็น คุณจำได้ไหม ในคืนวันนั้น ไม่มีใครอยู่ในบ้านเลย นอกจากตัวเขาคนเดียว
กัลยาหันหน้ามาทางพรานทันที พูดว่า
หมายความว่า คืนนั้นก็ต้องเป็นคืนที่นายวิกรม กับแม่มยุรี นัดพบกันแน่ ใช่ไหมคะ ถ้าเช่นนั้น หัวหน้าคะ ก็คงจะเป็น...
อ๊ะ อ๊ะ อย่างเพิ่งลงความเห็นเร็วนัก กัลยา
พรานขัดขึ้นในทันใดนั้น พร้อมกับชี้นิ้วไปที่กัลยา
มันอาจไปได้อีกหลายทาง เราคงจะรู้กันในเร็วๆ นี้ว่า อะไรเป็นอะไร ถ้าแผนของผมไม่ผิดพลาด ว่าแต่คุณแน่ใจนะว่า ขณะที่คุณขึ้นไปพบพิชิตเขาที่โรงแรมนั้น คุณได้แอบขึ้นไปโดยไม่มีใครเห็นจริง ๆ
ดิฉันเข้าไปทางห้องครัว ซึ่งอยู่ทางด้านหลัง ผ่านห้องรับประทางอาหาร และใช้ลิฟท์ที่ห้องอาหาร ซึ่งเป็นลิฟท์อัตโนมัติ ขณะนั้นไม่ถึงเวลาอาหาร ไม่มีคนอยู่ในห้องอาหารเลย แต่ทางที่หัวหน้าพาดิฉันลงมานั้น เป็นทางด้านหลัง คนที่นั่งอยู่ในห้องโถงและห้องรับแขกอาจเห็นเราบ้าง ขณะที่เราเลี้ยวออกมาทางประคูข้าง แต่ก็คงเป็นชั่วแวบเดียวเท่านั้น
พรานยิ้มอย่างพึงพอใจ เขาเอนศีรษะลงพิงเบาะรถอีกครั้งหนึ่ง เหยียดเท้าทั้งสองออกไปตามสบาย ซุกมือทั้งสองลงไปในกระเป๋ากางเกง และหลับตา พูดว่า ดีมาก
เขาหลับตานิ่งอยู่สักครู่หนึ่งจึงพูดขึ้นอีกว่า เวลาเท่าไรแล้ว กัลยา
สี่ทุ่มครึ่งคะ กัลยาพูด หลังจากยกนาฬิกาขึ้นดู หล่อนขยับริมฝีปากจะพูดอะไรต่อไป ครั้นแล้วกลับกลืนคำพูดนั้นลงลำคอ เมื่อหันไปมองหัวหน้าของหล่อนที่กำลังหลับตาอย่างสบาย หล่อนพิงศีรษะลงกับพนักเบาะเช่นเดียวกันบ้าง ลมเย็นโชยเข้ามาแผ่ว ๆ กัลยาหลับตา ปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปตามสายลม พร้อมด้วยความคิดที่สับสน
พรานรู้สึกตัวตื่น เมื่อความเย็นของอากาศทวีขึ้นจนทำให้เขารู้สึก เขาลืมตาขึ้นก็พบว่า ที่ไหล่ซ้ายของเขานั้น ศีรษะของกัลยากำลังพิงอยู่อย่างสบาย พรานหันศีรษะไปมองดูโดยไม่ได้ขยับเขยื้อนร่างกายของเขา กัลยากำลังหลับตาพริ้ม แสดงว่ากำลังหลับสนิท มือข้างที่ผูกนาฬิกาพาดมาทางหน้าตักของหล่อน พรานค่อย ๆเอื้อมมือซ้ายไปจับข้อมือข้างนั้นยกขึ้น และพลิกดูเวลาที่หน้าปัดนาฬิกา เข็มพรายน้ำชี้บอกเวลา ห้าทุ่มยี่สิบนาที
เขาค่อยๆ วางข้อมือข้างนั้นลงบนที่เดิม กัลยาขยับตัวเล็กน้อย คล้ายคนถูกรบกวนความรู้สึกขณะกำลังหลับ แต่ยังไม่ตื่นจากภวังค์ในทันที
พรานหันหน้าไปทางหล่อนเขาเป่าลมปากเบา ๆ ในยังหนังตาของกัลยา ซึ่งปิดนัยน์ตาอยู่อย่างสนิทนั้น ๒ ๓ ครั้ง
กัลยากระพริบตาถี่ๆ และค่อยลืมตาขึ้น พอรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในลักษณะอย่างใด ก็รีบขยับตัวขึ้นถอยห่างออกไป พลางมองดูหัวหน้าของหล่อนและยิ้มอย่างขวยใจ
พรานยิ้มพูดขึ้นว่า
หลับไปเหมือนกันรึ กัลยา ขอโทษที่ปลุกคุณขึ้น เราเผลอหลับกันไปร่วมชั่วโมง
กัลยายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
ตายจริง ห้าทุ่มเกือบครึ่งแล้ว เราจะต้องอยู่ที่นี่อีกนานสักเท่าใดคะ หัวหน้า
ผมคิดว่าได้เวลาแล้ว กว่าจะขับรถไปถึงโรงแรม ก็คงใกล้ ๆสองยาม พรานพูดพร้อมกับดึงปุ่มสตาร์ดติดเครื่องยนต์
ผมคงไปส่งคุณที่เดิม ตรงที่ ๆผมจอดรถตอนที่ผมไปรับคุณมา เมื่อถึงที่แล้ว คุณลงจากรถ ใช้ผ้าคลุมผมไว้อย่างเดิม เดินรีบๆ เข้าไปทางเก่าที่เราออกมา ขึ้นไปเคาะประตูห้องพิชิต แล้วกลับลงมาทางที่คุณเข้าไปในตอนหัวค่ำ ผมได้สั่งเจ้าจันเอาแท็กซี่ไปคอยรับคุณอยู่แล้วทางด้านหลังคุณตรงกลับไปบ้านได้ทันที ประเดี๋ยวเราจะผ่านทางโทรศัพท์สาธารณะสักแห่งหนึ่ง ผมจะโทรศัพท์ถึงพิชิตก่อนที่เราจะไปถึง
เขาหยุดพูดชั่วขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ เลี้ยวอ้อมตัวอนุสาวรีย์ บ่ายหน้าเข้าตามถนนพญาไท ครั้นแล้วจึงพูดขึ้นอีกว่า
อย่าลืมว่า ผมจะไม่ไปสำนักงานสักสองสามวัน ระยะนี้ ใครต้องการติดต่อผม บอกไปว่า ไม่ทราบว่าผมอยู่ที่ไหน ระหว่างนั้น คุณต้องคอยฟังข่าวจากพิชิตกับเกรียงอยู่เสมอ และเก็บบันทึกรายละเอียดไว้ให้ผม ผมกะว่า ผมจะกลับมาทันเวลา ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป