จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 

นักสืบพราน - เรื่องที่ 7 นมถ้วยสุดท้าย (ตอนที่ 4)

โดย 4411

เกรียง ศักดา นักสืบประจำสำนักงานพรานและสหาย ยกแก้วบรั่นดีขึ้นกรอกลงไปในลำคอ วางถ้วยลง ยกหลังมือขวาขึ้นเช็ดริมฝีปาก พลางพูดว่า
“ หมายความว่า หัวหน้าจะรับงานชิ้นนี้ โดยไม่ได้ค่าตอบแทนอะไรเลย ยังงั้นหรือครับ ”

พราน กระดิกขาข้างขวา ซึ่งเขาวางไว้มุมโต๊ะ มองดูสหายร่วมสำนักงานของเขา ยิ้ม แล้วจึงพูดว่า
“ ก็เห็นจะเป็นเช่นนั้น ” เขาหยุดชั่วขณะ ยักไหล่
“ แต่คุณอย่าลืมว่า ตำรวจเป็นอาชีพเก่าของผม และหมู่อรัญคนนี้ เป็นคนที่ผมเคยรักมาก เมื่อครั้งอยู่ในบังคับบัญชาของผม ค่าใช้จ่ายในการสืบสวนเรื่องนี้ ทางสำนักงานของเราต้องออกเอง ความจริงมันไม่ใช่เรื่องอะไรของเรา แต่ผมไม่ชอบที่จะได้ยินข่าวว่า ตำรวจของเราตายโดยไม่มีเหตุผล มันรบกวนความรู้สึกของผมอย่างไรพิกลอยู่ คุณคงเข้าใจ ”

เกรียง ประสานสายตากับหัวหน้าของเขา เอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้ ยกมือขึ้นกอดอก
“ แล้วแต่หัวหน้า ผมพร้อมเสมอ แต่ผมรู้สึกว่ามันเป็นคดีที่ไม่ง่ายนัก พวกเราอีกสองคนทราบเรื่องนี้หรือยังครับ ”

“ เอนก กำลังมีเรื่องทางเพชรบุรี ซึ่งพอจะทำเงินให้เราได้บ้าง ส่วน พิชิต จะกลับมาจากโคราชวันนี้ ถ้ามีโอกาส ผมจะบอกข่าว เราต้องเริ่มงานของเราวันนี้ ผมอยากจะให้คุณไปเอาประวัติของคนขับขี่รถสามล้อ คันที่หมู่อรัญนั่งไปในวันนั้น โดยละเอียด ภายในค่ำวันนี้ ”

“ เวลานี้ ตำรวจยังควบคุมตัวแกอยู่ไม่ใช่หรือ ”

“ ถูกแล้ว ผมได้ยินว่า เขาคงจะปล่อยตัวแก วันสองวันนี้ เพราะไม่ได้ทราบอะไรจากแกเลย คุณอาจติดต่อขอรายละเอียดบางประการจากสารวัตรทหารได้ นอกเหนื่อไปจากนั้น คุณต้องไปขุดค้นมาให้มากกว่าที่ตำรวจได้ไว้ ”

เกรียงลุกขึ้นยืน เขามองดูถ้วยบรั่นดีที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างกระหาย แล้วมองดูหัวหน้าของเขา พราน หลิ่วตาข้างหนึ่ง จุ๊ย์ปากเบา ๆ แล้วส่ายหน้าช้า ๆ

เกรียงยิ้มแหย ๆ เขาคว้าหมวกขึ้นสวม แล้วผลักบังตาออกไป

เครื่องพูดบนโต๊ะส่งเสียงครางขึ้น พราน เอื้อมมือไปเปิดสวิตท์ มีเสียง กัลยา พูดเข้ามาว่า
“ สุภาพสตรีคนหนึ่ง ต้องการพบหัวหน้า ชื่อ มณี เธอบอกว่าเป็นพี่สาวของหมู่อรัญ ”

พราน นิ่งชั่วขณะหนึ่ง ครั้นแล้วจึงพูดต่อไปว่า
“ มีธุระอะไรเกี่ยวกับผม แกบอกหรือเปล่า ”

“ แกบอกว่า จะมาถามข่าวเกี่ยวกับหมู่อรัญ ”

“ ทำไปไม่ไปถามทางตำรวจเขาเล่า เราไม่มีหน้าที่ และยังไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับหมู่อรัญเลย ”

“ แกบอกว่า สารวัตรพจน์ แนะนำให้แกมาหาหัวหน้า แกได้ไปพบสารวัตรพจน์มาแล้ว ก่อนที่จะมาที่นี่ ”

“ ยังงั้นหรือ ” พราน พูด พร้อมกับหลี่ตาอย่างใช้ความคิด
“ เดี๋ยวก่อน – กัลยา เรียกตัวเกรียงไว้ก่อน อย่าเพิ่งให้ออกไปไหน จนกว่าจะได้ฟังคำสั่งของผมจากคุณ ให้เขาอยู่ในบ้านและคอยฟังคำสั่งที่นั่น ส่งตัวคุณมณีเข้ามาได้ ”

“ คนเดียวหรือคะ ” เสียง กัลยา ถามเข้ามา

“ คนเดียว คุณเฝ้าเครื่องพูดไว้ให้ดี อย่าเผลอ ”

ผู้ที่เปิดบังตาห้องทำงานส่วนตัวของ พราน เจนเชิง เข้ามา เป็นสตรีวัย ๓๐ เศษ แต่งกายด้วยกระโปรงสีกรมท่า เสื้อแพรสีนวลอ่อน ๆ ลักษณะท่าทางและเครื่องแต่งกาย แสดงให้เห็นว่า เป็นคนทันสมัย หล่อนยกมือขึ้นพนมอย่างนิ่มนวล เมื่อ พราน กล่าวคำสวัสดี และเชิญให้นั่ง พร้อมกับทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้รับแขกตัวหนึ่ง

“ มีอะไรที่ผมจะช่วยคุณได้บ้าง ” พราน กล่าวขึ้นก่อน

“ ดิฉันเป็นพี่ของ อรัญ ค่ะ ” มณี พูดขึ้น น้ำเสียงของหล่อนชัดและช้าแบบคนเจนสังคม
“ ดิฉันได้ทราบข่าว อรัญ ฆ่าตัวตาย เมื่อวานนี้ ก็รีบมาจากจังหวัดนนทบุรีทันที อยากทราบว่า มันเป็นเรื่องฆ่าตัวตายจริง ๆ หรือคะ ”

พราน ไม่ตอบคำถามนั้น เขาพูดว่า
“ หมู่อรัญ มีพี่น้องกี่คนทั้งหมด ”

“ เรามีกันอยู่สองคนเท่านั้นค่ะ ดิฉัน กับ อรัญ ไม่ได้พบกันมาสัก ๔ – ๕ ปีแล้ว ตั้งแต่เขาสมัครเป็นตำรวจ ปกติ ดิฉันก็ได้รับข่าวคราวของเขาเสมอ แต่เงียบหายไป ๓ – ๔ เดือนมานี้ มาทราบข่าวอีกทีก็จากหนังสือพิมพ์ ตอนที่เขาลงข่าวว่า แกฆ่าตัวตายนี่แหละค่ะ คุณคิดว่า แกฆ่าตัวตายจริง ๆ หรือคะ ”

“ ขอโทษ คุณอยู่ที่นนทบุรีมากี่ปีแล้ว และทำอะไรอยู่ที่นั่น ”
พราน ย้อนถามด้วยกิริยาปกติ โดยมิได้เอาใจใส่กับคำถามของ มณี

มณี ย้อนถามอย่างไม่สู้จะพอใจ แต่น้ำเสียงของหล่อนยังไม่เปลี่ยนแปลงในขณะพูด
“ ดิฉันอยู่ที่นนทบุรีมาประมาณ ๒ ปี ตั้งร้านตัดเสื้ออยู่ที่นั่น บ้านเดิมของเราอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ค่ะ เมื่อตอนที่ อรัญ เขาจากบ้านมา ดิฉันยังคงอยู่กับแม่ที่ประจวบ ฯ พอแม่เสีย ดิฉันก็ออกเร่ร่อนหากินด้วยความสามารถของตัวเองเท่าที่มีอยู่มาเรื่อย ๆ จนมาได้สามีที่จังหวัดนนทบุรี มีทุนตั้งร้านตัดเสื้อ สามีของดิฉันเสียเมื่อปีก่อนนี้เอง มีน้องชายแท้ ๆ อยู่อีกคนหนึ่ง ก็มามีอันเป็นต้องจากกันไปเสียอีก ดิฉันไม่เชื่อเลยว่า แกจะฆ่าตัวตาย และคิดสั้นอย่างนั้น จริง ๆ นะคะ ”

“ อะไรทำให้คุณคิดว่า แกจะฆ่าตัวตาย ”
พราน ถามขึ้นในทันที

มณี นิ่งอยู่สักครู่หนึ่ง เปิดกระเป๋าถือ แล้วดึงเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาที่คลออยู่ที่นัยน์ตาทั้งสองข้าง เสียงของหล่อนตอนนี้ ค่อนข้างจะสั่นเครือ
“ อรัญ ส่งข่าวให้ดิฉันทราบครั้งสุดท้ายเมื่อ ๓ – ๔ เดือนมานี้ว่า กำลังอยู่ในความสุขสบายทุกอย่าง ท่านผู้บังคับบัญชาก็ไว้วางใจทุกอย่าง ไม่มีเรื่องอะไรที่น่าจะทำให้มีทุกข์ร้อนเลย คนที่มีอะไรพร้อมทุกอย่างเช่นนี้ สมควรหรือคะที่จะฆ่าตัวตายด้วย ”

พราน เปิดหีบบุหรี่ที่ตั้งบนโต๊ะรับแขก เขายื่นให้ มณี เป็นเชิงเชื้อเชิญ หล่อนสั่นหน้าน้อย ๆ เป็นเชิงปฏิเสธ พร้อมกับกล่าวขอบคุณ เขาจึงหยิบของเขาเองขึ้นมาคาบไว้ที่มุมปาก จุดบุหรี่ด้วยไม้ขีดเบ็นซินตั้งโต๊ะ สายตาของเขาจับอยู่ที่ใบหน้าของ มณี ตลอดเวลา เขาพูดตามควันที่ออกมาว่า

“ ในระยะ ๓ – ๔ เดือนที่ อรัญ ไม่ได้ส่งข่าวให้คุณทราบเลย อาจมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับ อรัญ ซึ่งอาจทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ คุณคิดว่า มันจะเป็นไปได้ไหม ”

มณี กำผ้าเข็ดหน้าด้วยมือทั้งสองข้าง ทิ้งมือลงบนตัก พร้อมกับพูดว่า
“ นั่นนะซีค่ะ ดิฉันอยากทราบว่า อะไรเป็นเหตุแห่งความเปลี่ยนแปลงอันนั้น ”

“ ทางตำรวจเขาว่าอย่างไรบ้าง เท่าที่คุณไปติดต่อมา ”

“ ดิฉันได้ไปพบท่านสารวัตร พจน์ มาก่อนที่จะมาที่นี่ ท่านก็บอกว่า ยังไม่ทราบสาเหตุอะไรแน่ ยังบอกอะไรดิฉันไม่ได้ ท่านแนะนำว่า คุณเคยเป็นนายของ อรัญ มาก่อน คงจะรู้อะไรพอที่จะให้ความสว่างแก่ดิฉันได้บ้าง ดิฉันจึงตรงมาที่นี่ มีร่องรอยอะไรบ้างไหมคะ ที่จะเป็นที่น่าสงสัยว่า อรัญ ไม่ได้ฆ่าตัวตาย ”

พราน หัวเราะ พูดว่า
“ ผมเองก็ยังไม่ได้เห็นศพ หมู่อรัญ และไม่ได้ลงมือดำเนินการอะไรเลย ผมจะตอบคำถามคุณได้อย่างไร ”

มณี ก้มหน้ามองดูผ้าเช็ดหน้าที่ถืออยู่บนตัก พลางพูดว่า
“ คุณคงไม่ขัดข้อง ถ้าดิฉันจะขอร้อง ให้คุณช่วยสืบสวนหาความจริงในเรื่องนี้ ดิฉันอยากรู้ว่า อรัญ ฆ่าตัวตายจริง ๆ หรือได้ตายโดยน้ำมือคนอื่น ”

พราน นิ่งอยู่ชั่วขณะ แล้วจึงพูดขึ้นว่า
“ ทางตำรวจเขาก็ได้ขอความร่วมมือจากผมอยู่แล้ว ในเรื่องนี้ ”

มณี เงยหน้าขึ้น แววตาของหล่อนเป็นประกาย
“ ยังงั้นหรือคะ ดีจริง ถ้าดิฉันจะร่วมในการขอร้องโดย...ง่า ... ขอโทษนะคะ .... โดยเสียค่าป่วยการให้กับสำนักงานของคุณเล็กน้อย ตามสติกำลังของดิฉัน คุณคงไม่เห็นเป็นอย่างอื่น ”

พราน ขยี้ก้นบุหรี่ลงที่เขี่ยบุหรี่ ลุกขึ้นยืน พูดว่า
“ คุณมีธุระกับผมเพียงเท่านี้หรือ ”

มณี เข้าใจในกิริยาของ พราน หล่อนหยิบกระเป๋าถือมาคล้องแขน ลุกขึ้นยืน พลางพูดว่า
“ ดิฉันทราบดีว่า ถ้าจะว่าจ้างสำนักงานของคุณ สืบสวนเรื่องนี้ มันจะต้องเสียค่าจ้างที่แพงพอดู ดิฉันมีเงินเพียงสองพันบาท ที่เก็บหอมรอมริบมาได้ มีกำลังเพียงเท่านี้เอง ถ้าคุณไม่รังเกียจ ดิฉันขอทราบเพียงเท่านั้นเอง ว่า อรัญ ตายเพราะตัวเอง หรือคนอื่น รายละเอียดอย่างอื่น จะไม่ขอทราบเลย คุณว่าอะไรก็จะเชื่อตามที่คุณว่าทุกอย่าง โปรดอย่าถือว่าเป็นการดูถูกหรือว่าจ้างอะไรเลยค่ะ ”

พราน ไม่ตอบ เขาเดินไปที่โต๊ะ ฉีกเศษกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากปึกกระดาษเขียนหนังสือ และหยิบดินสอบนโต๊ะส่งให้ มณี พลางพูดว่า
“ ขอชื่อ นามสกุล และที่อยู่ของคุณไว้ให้ผม แล้วผมจะติดต่อกับคุณเอง ถ้าเห็นสมควร ”

มณี รับเศษกระดาษแผ่นนั้น กับดินสอ จากมือ พราน ก้มตัวลงเขียนข้อความบนกรัดาษแผ่นนั้น แล้วส่งคืนให้พยาน พลางพูดว่า
“ แล้วเรื่องเงินค่าป่วยการละคะ ”

พราน เดินไปที่บังตา เขาไม่พูดอะไร นอกจากมองหน้ามณี ยิ้มเล็กน้อย แล้วดึงม่านบังตาเปิดเข้ามาข้างหนึ่ง เขาหันหน้าออกมองไปทางโต๊ะเลขานุการของเขา พบสายตาของ กัลยา มองเขาอยู่ก่อนแล้ว กัลยา พยักหน้าช้า ๆ มาทางเขา พราน ขมวดคิ้ว มองดูหล่อนแวบเดียว แล้วจึงหันมาทาง มณี ซึ่งกำลังเดินช้า ๆ มาที่บังตานั้น พราน ก้มศีรษะให้ มณี เล็กน้อย ขณะที่หล่อนกระพุ่มมืออำลาเขา มณี พูดขึ้น ขณะที่ผ่านบังตาออกไป และยืนอยู่ทางด้านนอกว่า
“ เมื่อใด ดิฉันจึงจะได้ทราบข่าวจากคุณล่ะคะ ”

พราน ยิ้ม พูดว่า
“ ผมยังให้คำตอบที่แน่นอนไม่ได้ คุณคอยฟังข่าวอยู่ก็แล้วกัน ผมจะติดต่อไปเอง ”

มณี ถอนหายใจอย่างอึดอัด มองดู พราน แวบหนึ่ง แล้วจึงกลับหลังเดินไปสู่บรรใดที่ทอดลงไปชั้นล่าง

พราน พยักหน้าเรียก กัลยา เข้ามาในห้อง เมื่อร่างของมณี ลับสายตาไปแล้ว เขาพูดกับหล่อนว่า
“ มีอะไรหรือ กัลยา เห็นพยักหน้าเมื่อกี้นี้ ”

กัลยายิ้ม
“ หัวหน้าสั่งให้คุณเกรียงคอยอยู่ในห้อง เพื่อรอคำสั่ง ไม่ใช่หรือคะ ”

พราน ชะงักเท้าที่ขยับจะก้าวออกเดิน อยู่กับที่ เขาทำนัยน์ตาโต คล้ายกับนึกถึงสิ่งที่ลืมกระทำออกมาได้

กัลยา พูดขึ้นอีกในทันทีนั้นว่า
“ ดิฉันได้บอกคุณเกรียงแล้วว่า ให้คอยดูผู้หญิงที่กำลังไปพูดกับหัวหน้าอยู่ในห้อง เวลาออกมา และให้แกติดตามผู้หญิงคนนี้ไปว่า ออกจากสำนักงานของเราแล้ว แกจะไปที่ไหนบ้าง เพื่อรายงานให้หัวหน้าทราบภายในวันนี้ ถูกไหมคะ ”

พราน หัวเราะก๊าก
“ อะไรทำให้คุณคิดเช่นนั้น ”

กัลยา ไขว้มือทั้งสองไว้ข้างหลัง มองดู พราน พลางพูด ทำกิริยาคล้ายครูกำลังสอนเด็กนักเรียน

“ ผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกสารวัตรพจน์ ส่งให้มาพบหัวหน้า เพื่อถามเรื่องที่สารวัตรเองควรจะให้คำตอบได้ ดิฉันฟังหัวหน้าบอก แล้วก็นั่งคิด ให้เรียกตัวคุณเกรียงไว้ก่อน จะมีอะไร นอกจากสารวัตรพจน์ไม่มีคนที่จะติดตามดูความเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนั้น จึงส่งตัวมาให้เราจัดการ หัวหน้าย่อมทราบความประสงค์อันนี้ดี ก็ต้องตกเป็นหน้าที่ของคุณเกรียงเท่านั้นเอง มันเป็นโจทก์ที่ง่ายมาก ”

พรานซุกมือทั้งสองลงในกระเป๋ากางเกง เหลือบตามอง กัลยา พร้อมกับเดินไปลงนั่งบนเก้าอี้โซฟาร์ พูดว่า
“ กัลยา คุณนี่ ออกจะเดาความคิดของผมเก่งมากขึ้นทุกวันเสียแล้ว อีกหน่อย พอผมคิดจะขึ้นเงินเดือนให้คุณ ยังไม่ทันจะออกปาก คุณก็คงเบิกจ่ายล่วงหน้าไว้เสร็จเรียบร้อย ไม่ต้องเสียเวลาพูดกัน ”

กัลยา ก้มศีรษะน้อย ๆ ก่อนที่จะผลักบังตาออกไป หล่อนพูดขึ้นว่า
“ จำได้ไหมคะ หัวหน้าพูดกับสารวัตรพจน์ไว้อย่างไร ที่โต๊ะอาหารเมื่อวานนี้ ”
พูดจบ หล่อนก็ปล่อยบังตาให้ปิดตามหลัง เมื่อเดินออกไป

พราน มองตามเลขานุการของเขา พร้อมกับยิ้มกับตัวเองอย่างพึงพอใจ




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2555
2 comments
Last Update : 15 ตุลาคม 2555 5:08:13 น.
Counter : 1185 Pageviews.

 

คงความตื่นเต้น ลึกลับน่าค้นหา ขอบคุณค่ะ

 

โดย: โอวหมวย IP: 125.26.214.144 15 ตุลาคม 2555 8:11:05 น.  

 

ขอบคุณมาก..

 

โดย: ก้นกะลา 15 ตุลาคม 2555 22:55:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.