นักสิบพราน - เรื่องที่ 7 นมถ้วยสุดท้าย (ตอนที่ 1 )
โดย 4411
พราน เจนเชิง ยกหูโทรศัพท์ ซึ่งกำลังส่งเสียงกริ่งอยู่บนโต๊ะทำงานของเขาขึ้นฟังด้วยมือขวา มือข้างซ้ายยังคงจับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ซึ่งกางอยู่ตรงหน้า สายตาของเขายังไม่ละจากหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ฉบับนั้น ในขณะที่เอียงศีรษะพูดลงไปในกระบอกพูดเครื่องโทรศัพท์นั้นว่า ฮัลโหล นี่ พราน พูดครับ
ฮัลโหล สวัสดี พราน เป็นเสียงดังมาจากหูฟัง นี่ พจน์ พูด เที่ยงวันนี้ ว่างไหม
พรานขยับกายลงเอนพิงพนักเก้าอี้ เขาวางหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นลงบนโต๊ะ หมุนเก้าอี้มาทางโทรศัพท์ ยกขาขึ้นไขว้ห้างตามสบาย สวัสดีครับ ท่านสารวัตร มีธุระอะไรหรือครับ
เปล่า อยากจะหาเพื่อนกินอาหารกลางวัน เท่านั้นเอง และผมมีเรื่องบางอย่างที่จะคุยกับคุณ
พราน หยุดคิดชั่วขณะ ก่อนที่จะพูด สำหรับท่านสารวัตร ผมว่างเสมอ ตามท่านสารวัตรคงจะไม่ขัดข้อง ถ้าผมจะพา กัลยา ไปด้วย เพราะผมมีนัดทานอาหารกลางวันกับเขาไว้เหมือนกัน
ไม่ขัดข้อง พราน ตกลง เที่ยงตรึ่ง พบกันที่ อีฟ - ผมอยากจะลิ้มรสอาหารฝรั่งสักหน่อย สารวัตรพจน์ พูด พร้อมด้วยเสียงหัวเราะ
เพื่อระลึกถึง อัฟคลับ ในลอนดอน ซึ่งเป็นความหลังหรือครับ เสียงของพราน เน้นจังหวะช้า ๆ ยั่วเย้า
มีเสียงหัวเราะดังมาตามสายอีกครั้ง จึงมีเสียงพูดว่า เปล่าน่า เพียงแต่อยากจะเปลี่ยนรสอาหารเท่านั้น คุณก้อ พูดเลื่อยเปื่อยไปได้
พราน หัวเราะ ตกลงครับ ผมกับ กัลยา จะไปพบ ท่านสารวัตร ที่นั้น เที่ยงครึ่ง แต่ อ้อ ท่านสารวัตรครับ อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ เรื่อง ตำรวจยิงตัวตายเมื่อคืนนี้หรือยังครับ ผมกำลังอ่านข่าวนี้อยู่พอดี เวลาท่านสารวัตรเรียกผม
อ่านแล้ว เรื่องนี้แหละ เป็นเรื่องที่ผมอยากจะคุยกับคุณ คุณสนใจเหมือนกันหรือนี่ ผมได้ไปชัณสูตรศพมาด้วยตัวเองเมื่อคืนนี้ ใคร ๆ เขาลงความเห็นกันว่า แกยิงตัวตาย แต่ผมสงสัยยังไงพิกลอยู่ รายละเอียด เอาไว้คุยกันตอนอาหารดีกว่า พราน มันมีหลายอย่างที่จะต้องถกกัน
ครับ - ดีเหมือนกัน เท่านั้นหรือครับ
เท่านั้น สวัสดี พบกัน เที่ยงครึ่ง
ครับ สวัสดี ขอบคุณครับ ท่านสารวัตร
เขาวางหูโทรศัพท์ลงกับที่ ครั้นแล้วจึงหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นมาอ่านต่อไปด้วยความสนใจ
เครื่องพูดที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของเขาครางขึ้น พราน เอื้อมมือไปกดปุ่ม เสียงของ กัลยา ดังเข้ามา อรุณี บอกขึ้นมาว่า มีคนต้องการพบหัวหน้า ชื่อ นายวิชาญ ราชพฤกษ์ เป็นเรื่องรถยนต์ของเขาถูกชนเสียหายเมื่อคืนนี้ เขาว่า หัวหน้าเป็นผู้ให้นามบัตรเขาไว้ และให้เขามาพบตามตำบลที่อยู่ในนามบัตรนั้น
พรานขมวดคิ้ว อะไรกัน เมื่อคืนนี้ ผมอยู่บ้านตลอดเวลา ไม่ได้ขับรถไปที่ไหนเลย และผมไม่เคยรู้จักคนชื่อนี้มาก่อน จะมีการเข้าใจผิดอะไรกันสักอย่างหนึ่งแน่ ๆ ไหน - คุณว่า เขามีนามบัตรของผม ยังงั้นหรือ
ค่ะ และอรุณีได้ตรวจดูนามบัตรนี้แล้ว เป็นนามบัตรแบบเดียวกับที่หัวหน้าใช้อยู่เป็นประจำ
พรานหยุดคิดชั่วขณะ ครั้นแล้วจึงพูดว่า เชิญเขาเข้ามาพบผมได้ คุณเข้ามาด้วย
บุรุษที่เปิดบังตาเข้ามาในห้องทำงานของพราน เป็นคนที่อยู่ในวัยสามสิบเศษ แต่งกายแบบสากล รูปร่างของเขาค่อนข้างอ้วน และเป็นคนสายตาสั้น พราน สังเกตได้ว่า แว่นกรอบทองที่สวมอยู่นั้น เป็นแว่นชั้นดี ราคาแพง เขาชงักอยู่กับที่เล็กน้อย ขณะที่เปิดบังตาเข้ามา และมองเห็นพราน
พราน ลุกขึ้นยืน และเดินไปที่เก้าอี้รับแขก เขาผายมือไปยังเก้าอี้ตัวหนึ่ง แล้วพูดว่า เชิญนั่งซีครับ คุณวิชาญ
วิชาญ นั่งลงบนเก้าอี้ตัวยนั้น เขามองดูหน้า พราน อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะพูดว่า คุณคือ คุณ พราน เจนเชิง หรือครับ
พราน น้อมศีรษะเล็กน้อย พร้อมกับยิ้ม และนั่งลงบนเก้าอี้ ตรงหน้า วิชาญ ถูกต้องแล้วครับ ผมคือ พราน เจนเชิง และนั่น เลขานุการของผม กัลยา ชาญวิทยา เขาผายมือไปยัง กัลยา ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง ทางด้านขวาของเขา
กัลยา ยิ้มเล็กน้อย และก้มศีรษะพองาม
วิชาญ ทำท่าลังเลใจ เขาล้วงกระเป๋าเสื้อชั้นนอกด้านขวา หยิบเอากระดาษนามบัตรแผ่นหนึ่งขึ้นมา ส่งให้พราน พลางพูดว่า นี่เป็นนามบัตรของคุณ ใช่ไหมครับ
พราน รับนามบัตรแผ่นนั้นไปพิจารณา เขาวางลงโต๊ะ พูดว่า ใช่ครับ เป็นนามบัตรของผม คุณไปได้มาอย่างไร
เมื่อคืนนี้ วิชาญ พูดขึ้นอย่างช้า ๆ ผมกับภรรยากลับมาจากดูภาพยนตร์ ผมเป็นคนขับรถยนต์เอง และเรากำลังจะกลับบ้าน มาถึงตอนสี่แยกราชประสงค์ พอดีมีรถยนต์คันหนึ่ง แล่นมาจากทางด้านประตูน้ำ ชนรถของผมตอนท้าย แรงมาก จนรถของผมเกือบจะพลิกคว่ำ เพราะยางแตก เจ้าของรถคันนั้นได้หยุดรถ และลงมาพบผม เขายื่นนามบัตรแผ่นนี้ให้กับผม และยอมรับว่า เขาเป็นฝ่ายผิด สุดแล้วแต่ผมจะเรียกค่าเสียหายและเขาบอกว่า เขามีธุระจะต้องรีบไป ให้ผมติดต่อกับเขาตามตำบลที่อยู่ในนามบัตรนี้ แล้วเขาก็รีบจากไป ผมจึงตรงมาที่นี่ แต่คุณไม่ใช่คน ๆ นั้นแน่ เพราะรูปร่างเขากับคุณ ผิดกันไกล
พราน เม้มริมฝีปาก และหรี่ตาข้างหนึ่ง มองดูนามบัตรแผ่นนั้นอย่างใช้ความคิด เขาพูดว่า เมื่อคืนนี้ ผมไม่ได้ขับรถยนต์ไปที่ไหนเลย มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก คุณพอจะจำรูปร่างของคน ๆ นั้นได้ไหมครับ
วิชาญ แหงนหน้าขึ้นมองเพดานอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า เขาเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ และพูดเสียงห้าว ๆ ผิดกับคุณ ท่าทางของเขารีบร้อนมากใขณะนั้น แล้วนี่ ผมจะทำยังไงดี ผมไม่นึกเลยว่า เขาจะเล่นตลกกับผมอย่างนี้
ประเดี๋ยวก่อน คุณวิชาญ พรานพูดขึ้น ผมคิดว่า เขาอาจจะหยิบนามบัตรผิด โดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้ พราน หันไปทางกัลยา กัลยา ขอซองธนบัตรที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อให้ผมหน่อย
กัลยา ลุกขึ้นเดินไปยังที่แขวนเสื้อชั้นนอก หล่อนล้วงกระเป๋าเสื้อด้านใน หยิบเอาซองธนบัตรออกมาส่งให้พราน
พรานเปิดซองธนบัตรของเขา ค้นหาอะไรอยู่ในนั้น สักครู่ก็ดึงนามบัตรแผ่นหนึ่งออกมา เขาส่งนามบัตรแผ่นนั้นให้กับ กัลยา พลางพูดว่า คุณต่อโทรศัพท์ไปตามนี้ที บอกคุณดนัยว่า ผมต้องการจะพูดด้วย
กัลยา เดินไปที่โทรศัพท์ และจัดการตามคำสั่ง พรานรับหูโทรศัพท์มาจากหล่อน และพูด ฮัลโหล นั่นคุณดนัยใช่ไหมครับ - - ใช่ครับ ผมพรานพูด เมื่อคืนนี้ อ้อ ยังงั้นหรือครับ เขาหยุดพูด และหัวเราะ พลางเหลือบตามองมาทางแขกของเขา ครับ - - คุณวิชาญกำลังอยู่ที่นี่ - - ครับ ผมก็คิดเหมือนกันว่า คุณคงจะหยิบนามบัตรผิดให้แกไป - - - เดี๋ยวนะครับ เขาใช้มือปิดปากกระบอกพูด แล้วจึงหันมาทาง วิชาญ และพูดว่า ค่าเสียหายของคุณเท่าไร
สองพันห้า วิชาญ พูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ผมได้เอารถไปเข้าอู่เมื่อเช้านี้ และช่างเขาตีราคาเท่านั้น
พราน พยักหน้า เขาเปิดปากกระบอกพูด ห้าพันบาทครับ คุณดนัย - - ครับ - - ครับ - - - สวัสดี ขอบคุณ
เขาวางหูโทรศัพท์ และเดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม พูดกับ วิชาญ ซึ่งกำลังมองหน้าเขาอยู่อย่างฉงนว่า เรียบร้อยครับ คุณดนัยแกหยิบนามบัตรผิดให้มากับคุณ เพราะบังเอิญนามบัตรของผมที่ให้แกไว้ ไปอยู่รวมกับนามบัตรของแก และขนาดมันเท่ากันพอดี แกเองก็เพิ่งจะพบความบกพร่องของแกเมื่อกี้นี้ และกำลังจะหาเบอร์โทรศัพท์ของผมในสมุดโทรศัพท์อยู่ แกขอโทษมาด้วย สำหรับค่าเสียหาย คุณจะมารับได้ที่นี่ในวันพรุ่งนี้ หรือจะให้ผมจัดส่งไปที่ใดก็ได้ อีกสองพันห้าที่ผมเรียกเกินไปนั้น เป็นค่าเสียหายของผม ในการที่แกพลอยทำให้ผมต้องยุ่งยากไปด้วย
วิชาญ ยิ้ม เขาลุกขึ้นยืน ผมนึกว่า คุณทำกำไรให้ผมเสียอีก ชักตกใจ ดีแล้วครับ ผมจะให้ทางอู่เขาส่งบิลมาเก็บเงินที่คุณก็แล้วกัน คุณคงไม่ขัดข้อง ขออภัยที่มารบกวนคุณ แต่ก็รู้สึกเป็นเกียรติมาก ที่บังเอิญมาได้รู้จักกับคุณ ผมเห็นจะต้องขอลาละครับ มีธุระจะต้องรีบไปเหมือนกัน และอีกประการหนึ่ง ขืนอยู่นาน เดี๋ยวจะถูกเรียกค่าเสียหายเข้าอีกคนหนึ่ง เขาพูดอย่างติดตลก พร้อมกับหัวเราะ
พราน หัวเราะขึ้นบ้าง พร้อมกับลุกขึ้นยืน เป็นอาชีพของผม เวลาของผมย่อมมีค่าทุก ๆ วินาที ยินดีเหมือนกันครับ ที่ได้รู้จักกับคุณ ค่าเสียหายที่ผมเรียกกับคุณ รวมอยู่ในสองพันห้าแล้ว ไม่ต้องตกใจ พูดจบ เขาก็หัวเราะด้วยอารมณ์สนุกสนาน
Create Date : 11 ตุลาคม 2555 |
|
4 comments |
Last Update : 11 ตุลาคม 2555 22:59:09 น. |
Counter : 1045 Pageviews. |
|
|
|
อันที่จริง ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ประพันธ์ แต่งไว้เป็นเรื่องสุดท้าย แต่ จขบ.นี้ บังเอิญเอาเรื่อง จำเลยไม่พูด และเรื่องอื่น ๆ มาแซงลงให้อ่านกันเสียก่อน เรื่อง นมถ้วยสุดท้าย นี้ จึงกลายมาเป็น เรื่องสุดท้ายพอดี
ขอให้สนุกกับการอ่าน การสืบสวนของนักสืบพราน นะคะ