นักสืบพราน - เรื่องที่ 7 นมถ้วยสุดท้าย (ตอนที่ 3)
โดย 4411
นายร้อยตำรวจเอก พจน์ พิทักษ์พล ยกถ้วยเบียร์ขึ้นชูมาทางกัลยา แล้วหันไปทางพราน พูดว่า สำหรับคุณทั้งสอง
พราน กับ กัลยา ยกถ้วยเบียร์ขึ้นพร้อม ๆ กัน ชูให้ สารวัตร พจน์ แล้วหันไปชูให้แกกัน พูดขึ้นพร้อมกันว่า สำหรับ ท่านสารวัตร
คนทั้งสาม ต่างดื่มเบียร์ในถ้วย และวางถ้วยลงพร้อม ๆ กัน สารวัตร พจน์ พูดขึ้นว่า พราน อยู่ดี ๆ ทำไมคุณจะมาเลี้ยงผมสำหรับอาหารมื้อนี้ ผมเป็นคนเรียกคุณมา มันควรจะเป็นของผมมากกว่า
พราน หัวเราะ เขาหันไปมอง กัลยา ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เป็นแต่เพียงเมื่อเช้านี้ ผมประสบลาภลอย ได้เงินมาเปล่า ๆ สองพันห้า ชั่วแต่ยกหูโทรศัพท์ขึ้นเท่านั้นเอง ก็อยากจะฉลองสักหน่อย ขออนุญาตผมเถอะครับ อย่าให้เสียความตั้งใจเลย
สารวัตร พจน์ หันไปมอง กัลยา เขายิ้มก่อนที่จะพูดว่า หัวหน้าของคุณมีวิธีหาเงินได้คล่อง ๆ อย่างนี้เสมอ น่าอิจฉา เขาหันไปทาง พราน ถ้าเป็นความประสงค์ของคุณเช่นนั้น ก็ตกลง แต่ต้องสัญญาว่า คราวต่อไป ต้องเป็นของผม
พราน ก้มศีรษะ ตกลงครับ ท่านสารวัตร ด้วยความยินดี
สารวัตร พจน์ ยกถ้วยเบียร์ขึ้นจิบอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า พราน มันเรื่องอะไรกัน คุณถึงเกิดมาสนใจในคดีตำรวจยิงตัวตายรายนี้ ตรงกับผมเข้าได้
พรานขยับตัว หลีกทางให้บ๋อยนำอาหารเข้ามาวาง พลางพูดว่า ตำรวจผู้นี้ ผมเคยรู้จักมาก่อน และเคยอยู่ใต้บังคับบัญชาของผมมาตั้งแต่ผมรับราชการอยู่ ตอนนั้น แกยังเป็นพลตำรวจอยู่ เป็นคนดีมาก ขยันและเอาใจใส่ต่อหน้าที่ ผมเพิ่งรู้ เมื่ออ่านข่าวนี้เองว่า แกได้เป็นสิบเอก และเป็นคนประจำตัวของท่านผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ข่าวของลูกน้องเก่า ก็เลยสนใจ และแกเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อว่า จะมีความคิดสั้นถึงกับจะฆ่าตัวตาย
สารวัตร พจน์ จับช้อนตักซุปใส่ปาก ครั้นแล้วก็พูดว่า หมู่อรัญ เป็นคนดีจริงอย่างคุณว่า และท่านผู้บัญชาการก็ไว้วางใจมาก ทุกสิ่งทุกอย่าง ท่านให้พร้อมหมด ไม่น่าจะมีอะไรเดือดร้อน ลูกเมียก็ยังไม่มี ผมทราบว่า ท่านผู้บัญชาการกำลังจะจัดงานแต่งงานให้เร็ว ๆ นี้ กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกของคนมีหลักฐาน ไม่มีเหตุผลอะไรเลย ที่แกจะไปยิงตัวตายในรถสามล้อ
รายละเอียดมีอะไรบ้างครับ ท่านสารวัตรพอจะเล่าให้ผมฟังได้บ้างไหม พราน พูด ขณะที่เขายกช้อนจะส่งอาหารเข้าปาก
ได้ สำหรับคุณ สารวัตร พจน์ พูด พร้อมกับยกผ้าเช็ดมือขึ้นเช็ดปาก เรื่องมันเป็นยังงี้ เมื่อคืนนี้ หมู่อรัญออกจากบ้านท่านผู้บัญชาการไปประมาณสามทุ่ม เพราะท่านไม่ไปไหน แกก็จะกลับบ้านของแก ซึ่งอยู่ทางสนามเป้า ธรรมดา แกก็ไปบ้านด้วยสามล้อเสมอ และดูเหมือนจะเป็นขาประจำกัน เท่าที่เราทราบจากคนขี่สามล้อ ก็บอกว่า พอแกถีบรถมาเลยบริเวณอนุสสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะตรงไปทางข้างสนามเป้า จวนจะถึงบ้านของหมู่อรัญอยู่แล้ว แกได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงวัตถุระเบิดขึ้นทางด้านหลัง แกเข้าใจว่ายางแตก จึงหยุดรถและเหลียวหลังมาดู แกได้เห็นหมู่อรัญนอนหงายพิงพนักเบาะรถ ปืนประจำตัวตกอยู่ที่กะบะ แกตกใจมาก ลงจากอานรถเข้ามาอุ้ม ปรากฏว่า หมู่อรัญกำลังมีอาการกระวนกระวาย มีรอยกระสุนที่ขมับด้านขวาเลือดไหลอาบ ขณะนั้น ที่บริเวณนั้นเงียบสงัด ไม่มีชาวบ้านในแถวนั้นสนใจกับเสียงปืนเลย แกจึงรีบถีบรถพาหมู่อรัญมาที่เสนารักษ์พญาไท แต่เมื่อไปถึง ก็ปรากฏว่า หมู่อรัญได้สิ้นใจเสียแล้ว ทางเสนารักษ์จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งเหตุที่สถานีตำรวจ พวกเราจึงได้รู้เรื่องกัน
ไม่น่าสงสัยคนขี่สามล้อบ้างหรือครับ
ทีแรกผมก็สงสัย สารวัตรพจน์พูด ตักอาหารเข้าปากต่อไป แต่แกเป็นคนมีอายุมากแล้ว เท่าที่สอบปากคำดู ก็ไม่มีอะไรเป็นพิรุธ แต่อย่างไรก็ตาม ผมได้ให้เขาควบคุมตัวแกไว้ก่อน แกไม่พูดอะไรนอกจากเท่าที่ผมได้เล่าให้คุณฟังมาแล้ว พูดไป พูดมา แกก็ร้องไห้รำพันว่า โธ่.. ผมแก่แล้ว กรุณาผมเถอะครับ หมู่อรัญก็รู้จักผมมานาน ไม่น่าเลย - ที่ผมแปลกใจที่สุดก็คือ
สารวัตรพจน์หยุดพูด ยกเบียร์ขึ้นดื่ม แล้วพูดต่อไปเมื่อวางถ้วยลงบนโต๊ะ ผมได้ให้เขาตรวจปืนของกลางแล้วโดยละเอียด เป็นปืนที่ถูกยิงไปใหม่ ๆ จริง แต่ไม่มีรอยนิ้วมือของผู้ใดปรากฏบนตัวปืนเลย แม้แต่ของผู้ตายเอง นอกจากของนายแพทย์ที่เสนารักษ์พญาไท ผู้จับปืนกระบอกนั้นขึ้นมาจากกะบะแต่ผู้เดียว ผมกำลังรอผลการพิสูจน์ลูกกระสุนที่พบฝังอยู่ในเบาะรถว่า เป็นหัวกระสุนที่ยิงจากปืนกระบอกนั้นใช่หรือไม่
พรานเลื่อนจานอาหารออกไปตรงหน้า พร้อมกับวางช้อน พบหัวกระสุนที่เบาะรถสามล้อด้วยอย่างนั้นหรือครับ
สารวัตรพจน์พยักหน้า นั่นน่ะซิ มันถึงได้แปลก แสดงว่า ถ้าหมู่อรัญยิงตัวตาย แกก็ต้องเอียงศีรษะพิงกับเบาะรถก่อนจะยิง มีรอยไหม้ที่ปากแผลทางที่กระสุนเข้า แสดงว่า ใช้ปืนจ่อขมับ และมีรอยปากกระบอกปืนตรงบาดแผลนั้นจริง ๆ ปืนที่ยิงเป็นปืนขนาด .๔๕ ความแรงของดินปืนสำหรับปืนชนิดนี้ไม่ใช่น้อย ๆ มันควรจะทะลุตัวถังรถออกไปในระยะยิงที่ใกล้ชิดเช่นนั้น ผมจึงแปลกใจว่า ทำไมมันถึงยังคงฝังอยู่ในเบาะรถได้ บาดแผลที่กระโหลกศีรษะ ซึ่งผ่าออก เป็นรูทะลุตรงออกไป และทางเข้ากับทางออก เกือบจะเท่ากัน แสดงว่าลูกกระสุนได้ผ่านออกไปอย่างแรงและเร็วมาก
พราน ยกถ้วยเบียร์ของเขาขึ้นดื่ม เขามองดูถ้วยแก้วที่วาง และใช้มือหมุนถ้วยเล่นอย่างไม่ตั้งใจ ครั้นแล้วจึงพูดว่า รอยกระสุนเข้าทางขมับด้านขวา ออกทางด้านซ้าย อย่างนั้นหรือครับ ท่านสารวัตร ถูกแล้ว ทางด้านขวา สารวัตร พจน์ พูดพร้อมกับมองดู กัลยา ซึ่งวางช้อน และเลื่อนจานไปตางหน้า เขาจึงวางช้อนและเลื่อนจานออกไปบ้าง บ๋อยเดินโต๊ะเข้ามาเก็บจานทั้งสามแกไป นำอาหารจานใหม่มาวางให้แต่ละคน
พราน ใช้นิ้วมือข้างขวากระดิกเคาะโต๊ะเล่น และพูดขึ้นอีกว่า หมู่อรัญเป็นคนถนัดมือซ้าย ถ้าผมจำไม่ผิด
สารวัตร พจน์ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ชี้นิ้วไปที่ พราน นั่นซิ ความจำของคุณไม่ผิดหมู่อรัญเป็นคนถนัดมือซ้าย นี่แหละ ผมจึงสงสัยนัก ถ้าแกจะยิงตัวตาย ทำไมถึงจะต้องใช้มือขวายิง ถ้าจะเอามือข้างซ้ายอ้อมมายิงทางขวา ก็จะยังไง ๆ อยู่
พราน นั่งนิ่ง เขาจ้องมองดูอาหารในจานเฉยอยู่สักครู่ จึงพูดว่า เป็นเรื่องที่น่าคิด ตกลงท่านสารวัตรไม่เชื่อว่า เรื่องนี้เป็นอัตตวินิบาตกรรม
สารวัตร พจน์ พยักหน้า ทั้งขณะกำลังเคี้ยวอาหาร และทำเสียงในลำคอว่า อื้อ ฮึ ! เมื่อเคี้ยวอาหารกลืนลงลำคอไป จึงพูดขึ้นอีกว่า เพราะเหตุนี้ ผมจึงอยากขอความร่วมมือจากคุณ ช่วยกันฟังเรื่องนี้ว่า ความจริงมันเป็นอย่างไร ผมไม่ใคร่ชอบที่จะได้ทราบว่า ตำรวจของเราตายโดยไม่มีเหตุผล ถ้าเราพิสูจน์ไม่ได้ว่า มันเป็นฆาตกรรมก็แล้วไป มันเป็นเรื่องนอกเหนือความสามารถ - ช่วยไม่ได้ จริงไหมคุณว่าแต่ ขณะนี้คุณมีคดีอะไรอยู่ในมือบ้างหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็ควรจะใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในทางฝึกฝนดูบ้าง คงจะไม่เลว
พรานหันไปทาง กัลยาซึ่งกำลังมองดูเขาอยู่พอดี หล่อนชิงพูดเสียก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมาว่า ดิฉันคิดว่า หัวหน้าคงไม่มีคดีอะไรที่จะต้องทำในขณะนี้ สำหรับเรื่องสงสัยลอบวางเพลิงที่เพชรบุรี ก็ได้มอบให้คุณเอนกไปทำอยู่แล้ว คุณพิชิต กำลังจะกลับจากโคราชในวันพรุ่งนี้ ส่วนคุณเกรียง ก็กำลังบ่นว่า ไม่ค่อยมีอะไรทำเลยในระหว่างสัปดาห์ที่แล้วมาจนเดี๋ยวนี้ หัวหน้ากำลังว่างค่ะ
พราน ยิ้ม หันหน้าไปทางสารวัตร พจน์ พูดว่า เลขาของผม เขาเปิดทางให้ผมโดดเข้ารับงานชิ้นนี้ หรือว่าเขากำลังประชดผมอยู่ก็ไม่รู้
สารวัตร พจน์ หัวเราะเบา ๆ ยกผ้าเข็ดมือขึ้นปิดปาก และพูดว่า คุณกัลยา ถ้าพรานเขาไล่คุณออกเมื่อใด บอกผมทันที ผมให้เงินเดือนสองเท่าที่เขาให้
กัลยายิ้มเล็กน้อย หล่อนยกถ้วยน้ำขึ้นดื่ม และพูดว่า ท่านสารวัตร เชื่อหรือคะว่า หัวหน้าไม่รู้ว่า ดิฉันหมายอย่างไร ดิฉันรู้ว่า หัวหน้ารู้ดี แต่ทำเป็นไก๋ไปอย่างนั้นเอง เมื่อเช้านี้ นั่งอ่านข่าวนี้ อยู่แต่เช้า ไม่ได้ทำอะไรเลย - ดิฉันว่า ยังขัดอยู่ที่เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องสำนักงานเท่านั้นเอง ลงท่านสารวัตรออกปากอย่างนี้ พนันกันก็ได้ ถ้าไม่รับ ดิฉันให้ทำอะไรก็เอา พูดจบ หล่อนหันไปมองหัวหน้าของหล่อนแวบหนี่ง จึงหันกลับมาทำธุระกับอาหารที่ตรงหน้า พร้อมกับอมยิ้ม
ว่ายังไง พราน สารวัตรพจน์ ถามขึ้น พร้อมเสียงหัวเราะ
พราน ยิ้ม เขาไม่ได้พูดว่าอะไร แต่หันสายตาไปจับที่เลขานุการของเขานิ่งอยู่ เขาส่ายหน้าช้า ๆ เต็มที กัลยา คุณเอาความลับสำนักงานมาเปิดเผยในโต๊ะอาหารเสียแล้ว
กัลยา วางมีดซึ่งถืออยู่ในมือขวาลงบนจาน ยักไหล่ และแบมือข้างนั้นไปยังสารวัตรพจน์ เห็นไหมคะ ท่านสารวัตร
คุณกัลยา สารวัจรพจน์ พูดขึ้น หร้อมกับหัวเราะก๊าก เลขานุการอย่างคุณนี่ เห็นจะหาได้ยาก ดูช่างรู้ใจนายจ้างของคุณไปเสียทุกอย่าง
ไม่แน่ว่าจะถูกไปเสียทุกอย่างหรอกครับ ท่านสารวัตร พราน พูดขึ้น พร้อมยิ้มที่มุมปาก สายตาของเขายังไม่ละไปจากกัลยา เพียงแต่รู้เกือบจะทุกอย่าง เท่านั้นเอง
กัลยา หันหลับมาค้อนหัวหน้าของหล่อนอย่างไม่ได้ตั้งใจในทันที ครั้นแล้วจึงหันไปมองสารวัตร พจน์ ใบหน้าของหล่อนมีสีชมพูเรื่อ ๆ ขึ้นมาในขณะนั้น
Create Date : 14 ตุลาคม 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 15 ตุลาคม 2555 1:28:12 น. |
Counter : 1094 Pageviews. |
|
|
|