จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 เมษายน 2555
 
All Blogs
 

เงื่อนไขการปฏิวัติ - บทที่ 6 เงื่อนไขผิดจังหวะ (ตอนที่ 3)

โดย พ.ต.อ.  พุฒ  บูรณสมภพ


เขียนระหว่างปี พ.ศ. 2526 - 2528

บทที่ 6 เงื่อนไขผิดจังหวะ
ตอนที่ 3

ตกเย็น เสร็จงาน เขาก็เลี้ยงข้าวเย็น ผมกำลังนั่งกินข้าวอยู่คนเดียวที่ม้านั่ง หน้าทางเข้าห้องสอบสวน ท่านผู้ช่วย อตร.  เผ่า ฯ ท่านมาจากไหนก็ไม่รู้ มาจอดรถอยู่หน้าบ้านที่ใช้เป็นหน่วยสอบสวน แล้วเดินกัง ๆ เข้าไปในห้อง ผมนั่งมองอดูท่านอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ทำความเคารพ เพราะผมกำลังนั่งกินข้าวอยู่ ประเดี๋ยวเดียวท่านก็เดินกัง ๆ ออกมาจากข้างใน ก้าวยาว ๆ ไปที่รถจี๊ปสีแดงของท่าน ขึ้นไปนั่งด้านหน้า หันมาทางผม ตะโกน ขึ้นว่า

“เฮ้ย ขึ้นรถ ”

ผมหันหน้าไปมองทางข้างในทางห้องสอบสวน เพื่อจะดูว่า ท่านพูดกับใคร ก็ไม่เห็นมีใครอยู่ที่ทางนั้น

“มึงนั่นแหละ ” เสียงตะโกนก้องฟ้ามาอีก “หันไปมองใครอีกล่ะ ”

ผมหันมามองท่าน นัยน์ตาท่านจ้องถลนมาที่ผม

ทีนี้ผมก็เงอะงะ เพราะชามข้าวที่เพิ่งจะกินไปได้ไม่กี่คำยังถืออยู่ในมือ ไม่รู้จะทำยังไง

“ยังมัวห่วงแดกอยู่อีก ” เสียงคำรามก้องมาอีก

ผมวางชามข้าวลงทันที คว้าหมวก วางแปะลงบนหัว วิ่งไปที่รถ โดดขึ้นนั่งเบาะหลัง พอก้นผมถึงเบาะ รถก็กระชากออกไป

“เฮ้ย มีปืนมาหรือเปล่าวะ ” เสียงตะโกนข้ามไหล่มาที่ผม

“มีครับ ” ผมตอบไป

“เอ้า เอาของกูไว้ด้วย ” ว่าแล้วท่านก็โยนกระเป๋าใบย่อมสีดำ ๆ ใบหนึ่งข้ามไหล่มาอีก “ในนั้นมีปืนกับเงิน มึงถือเอาไว้ให้ดี กูไปไหน มึงไปด้วย ติดตูดกู อย่าห่าง ”

ผมรับเอากระเป๋าใบนั้นไว้ ยังงง ๆ อยู่ว่ามันยังไงกันแน่ จู่ ๆ ก็โดนเรียกตัวด้วยวิธีการอันประหลาด ๆอย่างนี้ แต่โดยหน้าที่ ผมไม่มีทางถามหาเหตุผล ทำตามคำสั่งอย่างเดียว

ตำรวจหรือทหารก็ถือวินัยอันเดียวกัน ทำตามคำสั่งอย่างเดียว นายเขาสั่งให้ไปตายก็ยังต้องไป พวกนี้มันบ้ายังงึ้แหละครับ โดยเฉพาะพวกที่ได้อยู่ในกรอบวินัยของโรงเรียนนายร้อยทหารบก หรือ จปร. เดี๋ยวนี้ รั้วเดียวกัน ภายในรั้วนั้น คุณต้องเคารพในซีเนียริตี้ และฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชาอย่างเดียว นักเรียนรุ่นพี่เดินผ่าน คุณก็ต้องยืนตรงทำความเคารพเขา ถ้าคุณทำเป็นไม่เห็น เขาจะเดินกลับมาอีกที ถ้าคุณทำเฉยอีก ทีนี้ก็รู้สึกละ เขาจะยืนให้คุณทำความเคารพอยู่นั่นแหละ จนกว่าเขาจะสั่งให้เลิก

มีคนเคยหาเหตุต่อยรุ่นพี่ เพราะถูกบังคับใจอย่างนี้ ผลที่ได้รับก็คือ โดนขังและถูกตัดแต้มความประพฤติ ไอ้แต้มความประพฤตินี่ ถ้าถูกตัดเกินยี่สิบก็หมดสิทธิสอบไล่ในปีนั้น ต้องเรียนซ้ำชั้น และถ้าคนไหนต้องเรียนซ้ำชั้นเกินกว่าสองปี เขาก็เชิญให้ออกไปจากโรงเรียนได้ ไปหาที่เรียนใหม่

วินัยที่ติดตัวออกมาจากที่นั่นนี่แหละครับ ที่มันติดเป็นสันดานอยู่จนตาย

วันนั้น ผมจึงต้องติดไปกับรถคันนั้น ถึงไหนถึงกัน ผมเดินติดตูดไม่ยอมห่างเหมือนกัน ไม่ว่าท่านผู้ช่วย อตร.  เผ่า ฯ จะไปที่ไหน แล้วก็เป็นสมุห์บัญชีไปในตัว ไปแวะกินข้าวที่ร้านไหน ผมก็ต้องเป็นคนเปิดกระเป๋าจ่ายเงินให้ เจ้าของเงินไม่เคยถามว่าวันนี้จ่ายไปเท่าไหร่ ไปค้างที่ไหน ผมก็นอนด้วย เจ้าของกระเป๋าเมานอนกับพื้นห้อง ผมก็ต้องนอนอยู่ข้าง ๆ กอดกระเป๋าแน่น ตระเวนกันไปอยู่ยังงั้นสามวันสามคืน ไม่ได้อาบน้ำอาบท่ากัน

เช้าของวันที่สี่ ชะรอยท่านเจ้าของกระเป๋าชักจะคิดได้ว่า เห็นหน้าผมจนเบื่อแล้ว จึงได้ถามว่า

“มึงไม่ได้กลับบ้านกี่วันแล้ว ”

เจ้าตัวเองก็จำไม่ได้ว่า เอาผมมาอยู่ด้วยกี่วันแล้ว

“สามวันแล้วครับ ” ผมตอบ

“เดี๋ยวเมียเขาบ่นตายห่า ” ท่านว่า “ กลับบ้านไปเหอะวะ พักเสียวันหนึ่ง มะรืนนี้ค่อยมาหากู ”

แล้วท่านก็ให้คนรถของท่านขับรถไปส่งผมที่บ้าน ผมได้พักผ่อนสองวันเต็ม ๆ ไม่ต้องไปทำงาน ทางสันติบาลนั่น เขาตัดผมออกจากบัญชีแล้ว ผู้กำกับการกอง ๒ นายผมตอนนั้นชื่อ พันตำรวจตรี ประจวบ กีรติบุตร เป็นนายที่ไม่เคยดุด่าลูกน้อง ไอ้คนไหนโดนท่านดู ไอ้คนนั้นซวยทั้งชาติ ท่านก็ตัดหางผมปล่อยวัดไปแล้ว ตั้งแต่ท่านทราบว่าผมถูกเรียกตัวขึ้นรถท่านผู้ช่วย ฯ อตร. เผ่า ฯ วันนั้น

ผมเข้ามาอยู่ในวงการเมืองในคณะรัฐประหารด้วยวิธีการอันแหวกแนวอย่างนี้

ท่านผู้กำกับประจวบ ฯ ของผมนั้น จะว่าไปแล้ว ท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่ลิขิตชีวิตผม เพราะตอนที่ผมอยู่ที่สอบสวนกลาง มีตำแหน่งเป็นสารวัตรก่อนหน้านี้ ผมบังเอิญไปมีเรื่องกับท่านผู้บังคับการสอบสวนกลางเข้าให้ โดนเสนอย้ายด่วน จนท่านอธิบดีคือ ท่านพลเรือตรี หลวงสังวรณ์ ฯ ซึ่งเป็นผู้รักษาการณ์อยู่ก่อนที่จะถูกรัฐประหารนั้น ไม่รู้จะเอาตัวผมไปลงตรงไหน ถามใครก็ไม่มีใครรับผม ก็มีท่านผู้กำกับ ฯ ประจวบ ฯนี่แหละครับที่ยอมรับผมเข้าไว้ ผมจึงไม่ต้องระเหเร่ร่อนไปอยู่นครบาลชั้นนอก ได้มาประจำอยู่ที่กอง ๒ ของผู้กำกับ ฯ ประจวบ ฯ ไม่มีตำแหน่งอะไร จะมีงานก็แล้วแต่นายจะมอบให้เป็นคราว ๆ

ผมก็ได้มาเจอท่านผู้ช่วยฯ อตร. เผ่า ฯ ด้วยประการฉะนี้ แล้วก็ติดสอยห้อยตามกันไปจนถึง ๑๓ ปี

ความละเอียดเรื่องนี้ ผมได้เขียนไว้แล้วใน หนังสือ

“ ๑๓ ปีกับบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย ” โปรดไปหาอ่านเอาเอง

(หาอ่านย้อนหลังได้ที่ Blog นี้ - ธารน้อย)

ความจริง การที่ผมได้มาอยู่ใกล้ชิดกับท่านผู้ช่วยอธิบดีฯ นี้ ก็ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผมนัก ผมไม่ค่อยได้มีเวลาพักผ่อนเป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่ วัน ๆ ต้องคอยฟังเสียงเรียกทางโทรศัพท์ ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน 

อยู่ ๆ บางทีกำลังนั่งกินเหล้าสบาย ๆกับเพื่อนฝูง ก็โดนเรียกตัวเสียแล้ว 

มันน่าจะสบายเพราะอยู่ใกล้ชิดนาย แต่มันไม่ยังงั้น ไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเท่าไหร่





 

Create Date : 13 เมษายน 2555
1 comments
Last Update : 13 เมษายน 2555 23:49:31 น.
Counter : 721 Pageviews.

 

ขอบคุณมาก..

 

โดย: ก้นกะลา 14 เมษายน 2555 16:47:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.