“ตราบใดที่แสงตะวันยังคงฉายแสงมนุษย์ทุกคนย่อมมีโอกาสตื่นขึ้นมาทักทายแสงฉายของดวงตะวันในยามอรุณรุ่งทักทายกับความอบอุ่นอันมีคุณค่าของชีวิต อันเป็นเนื้อแท้ของการตื่นรู้ในตน เพื่อดำรงตนในความถูกต้องและมีความหวังบนเส้นทางนิรันดร์..”
แสงฉายในยามเช้า goodmorning sunshine เป็นนิยายเรื่องไม่ยาวมากซื้อมาอ่านตอนไปงานสัปดาห์หนังสือฯ (ให้ครบสามรางวัลยอดเยี่ยมจากนานมีบุ๊ค มีเรื่องคนในเงาของ พี่สาคร พูลสุข มีในรัก ของละเวง ปัญจสุนทรและก็เรื่องนี้)ที่ผมเลือกอ่านเล่มนี้ก่อนเพราะโปรยหน้าปกว่า“ ทุกคนตาย นั่นยุติธรรม” ทั้งแรงทั้งโดนใจ อยากจะรู้ว่าคณะกรรมการตัดสินให้เขา(คนแต่ง) ได้รางวัลชนะเลิศนวนิยายรางวัลยอดเยี่ยมรางวัลศิลปะเพื่อเยาวชนไทย young thai artist award 2010ไปได้อย่างไง? จึงตะลุยอ่านจบไปในเวลาอันรวดเร็วแล้วก็ต้องอึ้ง ทึ่ง เพราะไม่น่าเชื่อว่าน้องคนแต่ง (ที่อายุแค่นี่) จะมีมุมมองต่อโลกทั้งกลางวันกลางคืนได้อย่างลึกซึ้งเข้าใจ ก่นประณาม หรือวิพากษ์วิจารณ์ ผ่านความคิดตัวละครหลักหลายตัว ผ่านบทสนทนาที่เผ็ดร้อน ทุกประโยคทุกบรรทัดมีความหมาย (อย่าอ่านข้ามเด็ดขาด) แรกๆอ่านไปก็งงไปตัวละครมีอาชีพอะไรกันบ้าง แต่ละคนมีภูมิหลังอะไร ..
พออ่านไปอ่านไปก็อึ้งแล้ว อึ้งอีก วรฐิติเขียนความคิดแต่ละคนลงไปในเรื่องได้ดีมุมมอง ความคิดเห็นก็แตกต่าง มีเย้ยหยัน เยาะเย้ย ประชดประชัน อยู่ตลอดเวลาเรื่องราวเนื้อหาในนิยายอ่านไปก็ยิ่งอยากจะรู้ต่อไปเรื่อยๆจนจบหน้าสุดท้ายทุกอย่างก็คลี่คลายอย่างเหมาะสม .. ข้อบกพร่องของเรื่องมีอยู่นิดหน่อยบางครั้งบางทีก็อ่านไปงงไปก็ความคิดตัวละคร .. ต้องพยายามแยกให้ได้ว่าใคร ตัวละครไหนเป็นผู้พูดดูดูไปเหมือนกำลังดูหนังอยู่ เรื่องทั้งเรื่องจะตีกันอยู่สองประเด็นคู่กันตลอดระหว่าง
จิตสำนึก กับจิตใต้สำนึก
กลางวัน กับ กลางคืน
ความจริง กับ ความฝัน
ความมืด กับ สว่าง
ความยุติธรรม กับความอยุติธรรม
ข้อดีที่น่าชื่นชมน้องคนแต่ง คือ มุมมองต่อชีวิตที่แสนจะช่างคิด ช่างสังเกตเหลือเกินพ่อคุณเอ๊ย
เด็กวัยรุ่นสมัยนี้คิดยังไง.. คนขับแท็กซี่มีความคิด ความฝัน ความหวัง และผ่านอะไรมามากมายในแต่ละวัน ..ถ้าเพื่อนหนอนอยากรู้ลองไปหานิยายเล่มเล็กๆเล่มนี้อ่านกันดู รับรองว่าจะไม่เสียดายเงิน145 บาทเลย ส่วนที่เหลืออีกสามเล่มก็น่าอ่าน อย่าลืมอุดหนุนฝีมือการประพันธ์เด็กไทยกันเยอะๆนะครับผม ..
สวัสดีวันอังคารครับ *นายอิส
