นามปากกานี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันสักเท่าใดผมก็เหมือนกันไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่คลับคล้ายคลับคลาว่าจะแต่งนิยายที่ช่อง 3ทำเป็นละครเรื่อง .. คุณนายจิตป่วน ที่พี่ตุ๊ก ญาณี แสดงนำนานมาแล้วหลายปีและก็เป็นนามปากกาคนเดียวกันกับเรื่องพระจันทร์สีเลือดที่ผมจะรีวิววันนี้
พระจันทร์สีเลือด.. ฟังชื่อเรืองดูน่ากลัว แต่ก็เชื้อเชิญให้อ่านมากอยู่เหมือนกันแรกอ่านผมเดาพล็อตว่าน่าจะประมาณพระเอกถูกคำสาปร้าย พอถึงคืนวันพระจันทร์เต็มดวงสีแดงดังเลือด .. แล้วพระเอกจะต้องกลายร่างเป็นอสูรร้าย(ไม่เสือสมิงก็หมาป่าหรือไม่ก็สัตว์กลายพันธุ์ผสมกันหลายชนิด)ส่วนนางเอกจะต้องเป็นสาวพรหมจรรย์ไม่เคยต้องมือชายและเป็นที่ต้องการของอสูรร้าย ..กระทั่งตอนจบพระเอกกลับคืนสู่สภาวะปกติ ครองรักกับนางเอกอย่างแฮปปี้เอนดิ้งสมกับเป็นนวนิยานตื่นเต้นสยองขวัญปนโรแมนติก ..
แต่พระจันทร์สีเลือดของกุลวีร์เรื่องนี้พล็อตเรื่องแตกต่างจากที่เล่ามาอย่างสิ้นเชิง
เริ่มเรื่องที่คนร้าย(ชื่อรุจน์) อยู่ในคุกตะรางกำลังจะโดนประหารแต่ก่อนจะโดนฆ่าเขาได้บริจาคดวงตาให้กับคนพิการทางสายตา(ที่ขอรับบริจาค)ในระหว่างที่ลูกปืนกำลังจะลั่นออกจากรางกระสุน เขาได้สาปแช่ง แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาทผู้หญิงทุกคน ..สาบานก่อนจะสิ้นลมว่าจะฆ่าผู้หญิงทุกคนในคืนพระจันทร์เต็มดวง ..เรื่องราวสยองขวัญเริ่มขึ้นเมื่อพระเอกของเรา คือ ... สนธยา ได้รับดวงตาบริจาคจากนักโทษประหาร..แรกๆเขาดีใจที่มองเห็นโลกที่สวยงามอีกครั้งและได้เห็นคู่หมั้นสาวสวยอย่างคนปกติเสียที
แต่แล้วทุกอย่างไม่เป็นอย่างคิด.. เมื่อถึงวันพระจันทร์เต็มดวงทุกครั้ง ..ผีร้ายจะออกอาละวาดโดยใช่ร่างของพระเอกของเรากระทำการ (คนแต่งทิ้งปมไว้ก็คือ คนร้ายจะแทงเหยื่อด้วยมีดคมวาววับจำนวน 13 แผลทุกครั้ง) เข่นฆ่าหญิงสาวทุกคนในคืนเดือนเต็ม ... ฆ่าไปเรื่อยๆจนพระเอกรู้สึกตัวว่ากำลังทำบาปครั้งใหญ่ถึงแม้จะไม่ได้กระทำจากจิตใต้สำนึกตัวเองก็เถอะ แต่ก็เป็นการฆ่าคนบริสุทธิ์มากมาย.. จึงหาทางแก้ไขอยู่หลายครั้ง มีอยู่ครั้งที่ไปหาพระอาจารย์รูปหนึ่งท่านให้คำตักเตือนว่า..
“ มีกลางวัน มีกลางคืน มีมืดและก็มีสว่าง ..คนเราจะหลีกหนีหนี้กรรมชาติที่แล้วของตนเองยังไงไม่พ้น ขออย่าสร้างกรรมใหม่เผื่อชาติหน้าจะได้ไม่ต้องเจอวิบากกรรมรุนแรงเหมือนชาตินี้หมั่นสร้างความดีเป็นเสบียงบุญต่อไป ..”
สนธยาพยายามจะหลีกหนีอำนาจการครอบงำในการฆ่าคนของผีร้ายในทุกครั้งที่พระจันทร์เต็มดวง แต่ก็ทำไม่สำเร็จ แม้แต่ต้นตอของความแค้นผีร้าย คือ เด่นนภาเมียที่มีชู้ของรุจน์(ผีร้าย) จะถูกฆ่าตายไปแล้วทว่าก็ฆ่าผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่อยังคงดำเนินต่อไป ..จนเกือบจบเรื่องพระเอกแต่งงานกับคู่หมั้น ผีร้ายออกอาละวาดพอดี .. พระเอกจะทำยังไง .. นิยายเรื่องนี้หาอ่านยาก... ผมเฉลยไปเลยก็คือ พระเอกควักตาที่ใส่มาออก แล้วทุกอย่างก็จบสิ้นผีร้ายไม่สามารถบงการหรือควบคุมพระเอกได้อีกต่อไปแล้ว .. ตอนจบค่อนข้างสยองนิดนึง แต่ก็ถือว่าคนแต่งชกโยงเหตุผลเข้าเรื่องได้ดีเลยทีเดียว
จากการอ่านพระจันทร์สีเลือดมาทั้งหมด.. สรุปได้ว่าเป็นนวนิยายไทยสยองขวัญรุ่นเก่าที่พออ่านได้ เรื่องราวกระชับ ไม่อืดอาด การดำเนินเรื่องราวฉับไว.. ไม่ให้รายละเอียดเบื้องลึกตัวละครอะไรมากมาย แต่เอาอยู่ในเรื่องราวความน่ากลัว สยองขวัญ สั่นประสาท ..ถ้มีโอกาสได้อ่านก็ลองอ่านดูนะครับ สนุกดี ...
นวนิยายเรื่องนี้เหมือนมีอาถรรพ์อะไรสักอย่าง จากการอ่านคำนำก็ได้ข้อมูลว่า..ได้เคยมีการนำนิยายเรื่องพระจันทร์สีเลือดไปทำเป็นหนังหรือภาพยนตร์สองครั้งและทำเป็นละคร 1 ครั้ง แต่ละครั้งไม่เคยถ่ายทำจบเลยสักครั้ง (ภาพยนตร์สองครั้งคือ ครั้งที่ 1 สรพงษ์/ปิยะมาศ กับครั้งที่ 2 พี่เอกสรพงษ์/พี่นก สินจัย ...ส่วนละครอาต้อยเศรษฐา ศิระฉายานำไปสร้าง ) ก็น่าแปลกใจดีเหมือนกัน
วันนี้วันจันทร์.. เชิญชวนไปอ่านนวนิยายไทยเรื่องพระจันทร์สีเลือดกันแก้ง่วงนะครับผม
ขอให้มีความสุขทุกคนเลยจ้า.. นายอิส/เมฆชรา
แต่ชื่อเรื่องน่าอ่านมากครับ