“คนเราต้องเลือกวิธีการต่อสู้ที่ทำให้ตัวเองเป็นต่อแม้ว่ามันอาจจะไม่อยู่ในตำราต่อสู้เล่มไหนก็ตาม..”
“ เหล็กต้องผ่านความร้อน .. คนต้องผ่านความทุกข์..”
รักในม่านฝนเป็นนวนิยายใหม่เรื่องล่าสุดของประภัสสรเสวิกุลที่เคยลงพิมพ์เป็นตอนๆในสกุลไทยในระหว่างเดือนกรกฏาคม 2554จนถึงเดือนมกราคม 2555 .. ในความยาวตอน 25 ตอน ...เป็นนวนิยายอีกเรื่องที่ผมเฝ้าติดตามอยู่นานพอควรว่าจะพิมพ์ออกมาหรือยัง(เพราะไม่ได้ตามอ่านจากหน้านิตยสาร) กว่าจะออกมาได้ก็ลุ้นระทึกอยู่เหมือนกัน 55
นวนิยายเรื่องนี้เป็นนวนิยายที่โปรยปกไว้ว่า“ เป็นนวนิยายในโครงการวรรณกรรมเพื่ออาเซียน ” ไม่สปอยเนื้อหาของเรื่องแต่อย่างใดแต่แคปเนื้อหาคำนิยมนายกสมาคมอาเซียน-ประเทศไทย(คุณหญิงลักษณาจันทรเลาหพันธุ์)มาบอกกล่าวถึงเรื่องราวว่า .. คุณประภัสสรแสดงภาพประเทศเวียดนามในช่วงกอบกู้เอกราชและชีวิตที่เผชิญกับความทุกข์ยากของชาวเวียดนามในช่วงเวลาดังกล่าวจนถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจประเทศในปัจจุบัน โดยบอกเล่าผ่านเรื่องราวคู่รักชาวเวียดนามซึ่งชะตาชีวิตได้พลิกผันไปในวันฝนตก..
พระเอกชาวเวียดนามชื่อบ๋าวอาน .. เป็นไกด์นำสาวน้อยเมืองไทยชื่อ .. เรน ..พาท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญของเมืองฮานอยอย่าง สระคืนดาบ,หมู่บ้านดั่งเดิมวิถีเก่า,ร้านอาหารอร่อยตามที่ต่างๆ ฯลฯทั้งสองเรียนรู้และถ่ายทอดวัฒนธรรมทั้งสองชาติให้กันในรูปคำบอกเล่า คำสนทนาและการท่องเที่ยวเมืองฮานอย (ในเรื่อง) จนเกิดความรู้สึกดีดีต่อกันจนกระทั่งจบเรื่องทั้งคู่จะยังคงมิตรภาพที่ดีเอาไว้เช่นนี้ตลอดไป
ด้วยความเป็นนวนิยายขนาดสั้นไม่ยาวมากทำให้คนแต่งใส่รายละเอียดอะไรไปไม่ได้มากแล้วบางตอนก็ค่อนข้างเล่าซ้ำวนไปวนมางงงงในขณะอ่าน และที่สำคัญใน partที่เป็นอดีตอันคลุมเครือของลุงดินห์กับพ่อของตัวเอง พี่สาวแม่และแม่ตัวเอง..........ยิ่งดึงเรื่องให้แปลกแยกส่วนกับเรื่องราวของพระเอกกับนางเอก(คนไทย)เข้าไปอีก(คือเล่าไปในอดีตของลุงพระเอกสลับกับชีวิตปัจจุบันพระเอก)อ่านแล้วยังไม่เนียนสนิทเป็นเนื้อเดียวกันทั้งเรื่อง และบางทีอ่านไปเหมือนอ่านสารคดีท่องเที่ยวไปก็มี(ในบางตอน)แต่นี่คือข้อติติงในทัศนะส่วนตัวของผมหลังจากอ่านจบนะครับ ..
ส่วนข้อดีนั้นมีมากมายโดยเฉพาะเรื่องราวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่เราไม่ค่อยรู้จักมากนักเพื่อนๆจะได้รับรู้จากการอ่านนวนิยายเรื่องรักในม่านฝนเรื่องนี้..ผมอยากให้ไปอ่านตอนจบเรื่องว่าตกลงพระเอกเลือกใครระหว่างนางเอกสาวน้อยจากเมืองไทยหรือหญา นิน .. สาวน้อยผู้น่ารักคนรักของพระเอกที่ฮานอย .. น่าติดตามลุ้นจริงๆ(คนแต่งไม่เฉลยว่าพระเอกเลือกใคร แต่จะบรรยายให้พวกเราคิดเอา .. อิอิ ลุ้นต่อไป)
อาประภัสสร เสวิกุลแต่งนิยายเรื่องที่สอง(วรรณกรรมเพื่ออาเซียน)ได้ดีพอสมควรแต่ไม่ดีเด่นมากเหมือนเรื่องที่ผ่านมาอย่าง ..ลอดลายมังกร/สำเภาทอง/ชี๊ค/อำนาจ/หิมาลายัน/พระจันทร์ทะเลทราย/เด็กชายมะลิวัลย์/เวลาในขวดแก้ว/ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน .. แต่โดยภาพรวมทั้งหมดก็ถือนวนิยายที่น่าอ่านอีกเรื่องหนึ่ง(ในตอนนี้) ราคาก็ไม่สูง 145 บาท ซื้ออ่านได้ไม่กระทบเงินกระทบมากนัก ..ผลงานเรื่องหน้าที่อาประภัสสรจะนำเสนอในวรรณกรรมเพื่ออาเซียนก็คือเรื่อง ..มีเมฆบ้างเป็นบางวัน .. เกี่ยวกับประเทศฟิลิปปินส์ (จบลงที่ขวัญเรือนแล้ว) และลอยคอ(ประเทศไทย)กำลังลงเป็นตอนๆในสกุลไทยในตอนนี้ ..ยังไงก็ไปหาซื้อวรรณกรรมเพื่ออาเซียนที่เขียนและกลั่นกรองมาจากประสบการณ์การเดินทางของนักเขียนฝีมือกล้าประภัสสรเสวิกุลกันทั้งสองเรื่อง (ที่ตีพิมพ์ตอนนี้)กันเยอะๆนะครับผม
ขอความสุขเกิดกับเพื่อนนักอ่านทุกคนในวันแม่นะครับผม.... เมฆชรา/นายอิส รักในหลวง
(12 สิงหาคม 2555)