เวียงแว่นฟ้า/หนึ่งฟ้าดินเดียว/ขุนหอคำ * กฤษณา อโศกสิน
+เป็นนิยายที่มีความยาวอีกเรื่องที่มีโอกาสได้อ่านในช่วงนี้ นิยายชุดนี้เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านนวนิยาย พร้อมๆดื่มด่ำบรรยากาศโบราณล้านนาดึกดำบรรพ์ ย้อนไปเกือบสองร้อยปีกว่ายาวนานมาแล้ว
+นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ เป็นงานเขียนที่เขียนยาก ข้อมูลต้องแม่น แน่นจริง แล้วเสริมด้วยอรรถรสแบบนิยาย คือ ต้องอ่านสนุกไม่น่าเบื่อวางไปเสียก่อน เพราะนิยายชุดนี้ยาวมากมาก เหตุการณ์ในเรื่องก็ชวนลุ้นใจหายใจคว่ำตลอดเวลา
+ เริ่มต้นที่เรื่องแรก .. เวียงแว่นฟ้า (พ.ศ. 2411-2413) ตัวเอกสามตัวที่เด่นคือ เจ้าม่อนฟ้า บัวบุรี และเมืองราม ผมชอบภาคนี้ที่สุด อ่านสนุกย้อนเวลาไปในอดีตกาลน่าอัศจรรย์ใจ ป้ากฤษณายังบรรยายติดๆขัดๆไปบ้าง แต่ก็อ่านสนุกมากๆๆเลย ลองดูๆครับ
+ เรื่องที่สอง หนึ่งฟ้าดินเดียว (พ.ศ. 2417-2430) นิยายเรื่องนี้มีเพื่อนๆบอกว่าอ่านสนุกที่สุดในสามเรื่อง ในความเห็นส่วนตัวของผมผมว่าคุณป้าเขียนได้ลื่นไหลมากกว่าเล่มแรก เนื้อความในประวัติศาสตร์ล้านนายังแน่นเหมือนเดิม แต่อรรถรสนิยายเพื่อนๆต้องอ่านดูเองครับ เรื่องนี้ตัวละครเด่นมีสองตัวคือ เจ้าระยับเนตรกับเมืองราม ขับเคี่ยวเข้มข้นทั้งเรื่อง สนุกเช่นกัน
+ เรื่องที่สาม ขุนหอคำ (พ.ศ. 2431-2433) มหากาพย์นิยายเรื่องเอ่ยถึงเมืองไทใหญ่ ผ่านตัวละครรุ่นลูกอย่าง เจ้ามาวฟ้า กับ อาบองค์ เรื่องนี้อ่านสนุก ตอนจบเศร้าสุดๆ (ไม่อยากให้จบแบบนี้เลย)
ประวัติกฤษณา อโศกสิน ดังนี้ กฤษณา อโศกสิน ชื่อจริง สกัญญา ซลศึกษ์ เกิด 27 พฤศจิกายน 2474 ที่กรุงเทพฯ เรียนจบโรงเรียนราชินี จบมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับราชการที่กรมประมง ก่อนจะมาเขียนหนังสือเป็นอาชีพ .. ในสมัยคุณแม่ของป้ากฤษณาฯ ท่านชอบอ่านหนังสือและชอบสะสมหนังสือเป็นจำนวนมาก พอไม่ได้เรียนหนังสือคุณป้าก็มุอ่านหนังสือเพื่อเ็นนักประพันธ์ในวันหน้า เนื่องสั้นเรื่องแรกของท่านคือ ของขวัญวันปีใหม่ ส่งไปให้นิตยสารไทยใหม่ได้รับการตีพิมพ์ในนามปากกา .. กัญญ์ชลา /ใต้ร่มชงโค ลงนิตยสาร สีฟ้า/ เมื่อฉันเสียดวงตา ชนะเลิศการประกวด นิตยสารสตรีสาร / ลงในศรีสัปดาห์ด้วยเรื่อง .. เขาพบกันที่หลุมฝังศพ ... ส่วนนิยายเรื่องแรกที่เขียน คือ ชีวิตเป็นของเรา (เค้าโครงเรื่องมาจาก เจนแอร์ ) จนตามมาด้วยเรื่อง ประตูสีเทา / หยาดน้ำค้าง/ ดอกหญ้า-ดวงตาสวรรค์/หนามกุหลาบ/ศัตรูหัวใจ/บาดาลใจ เขียนเรื่อยมานับ 100 เรื่อง ส่วนเรื่องที่มีคุณภาพได้รับรางวัลมากมาย อาทิเช่น
รางวัล สปอ ++ เรือมนุษย์/ตะวันตกดิน
รางวัลชมเชยสมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือ ++ ฝันกลางฤดูฝน
รางวัลชมเชยจากคณะกรรมการพัฒนาหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ++รากแก้ว/ไม้ผลัดใบ/ลมที่เปลี่ยนทาง/บ้านขนนก/ไฟหนาว/กระเช้าสีดา// +++++++++++++++++++ ภมร/ถ่านเก่าไฟใหม่/เพลงบินใบงิ้ว/ชาวกรง/พญาไร้ใบ/เวียงแว่นฟ้า/ตะเกียงแก้ว
รางวัลดีเด่นจากคณะกรรมการพัฒนาฯ ++ บุษบกใบไม้/ไฟทะเล/ข้ามสีทันดร/จำหลักไว้ในแผ่นดิน/น้ำเล่นไฟ/หนึ่งฟ้าดินเดียว
รางวัลซีไรต์ 2528 จากเรื่อง ปูนปิดทอง
ส่วนนิยายเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มี สมมุติว่าเขารักฉัน/ลมพัดชายน้ำ/ถนนไปดวงดาว/วิมานไม้ฉำฉา/ลานกุมรา/ควันเทียน/พกฤษาสวาท/โลกของมัทรี/ถนนสานเสน่หา/เสื้อสีฝุ่น/รอบรวงข้าว/รวมเรื่อง 5 เรื่อง จากนามปากกาสไบเมือง/อุโมงเวลา/รสรักปักอุรา/ริมหน้าต่างกระจก/ฉากทอง/ปีกทอง/เนื้อทอง/ข้ามบรรพกาล/ดาดฟ้าดาว/ล่องทะเลดาว/พันไว้ด้วยใบรัก/ลูกไม้ลายดอกรัก ฯลฯ
นวนิยายไตรภาคชุดนี้อ่านแล้วได้เห็นความพยายามของคนแต่ง และฝึกความอดทนของคนอ่าน แต่สิ่งที่ล้ำค่าจากการอ่านชุดนี้ก็คือ เกร็ดประวัติศาสตร์ผ่านมุมมองนวนิยาย และอรรถรสนิยายบรรยากาศล้านนา .. มันยากมากที่จะมีนักเขียนท่านไหนเขียนได้ออกมายอดเยี่ยมเช่นนี้ ถึงแม้กำแพงภาษาจะเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง (คนภาคเหนือก็บอกว่า คำบางคำยังไม่ใช่ .. คนภาคอื่นอ่านก็งงๆบางคำ) แต่ต้องยกย่องคนแต่งที่ถักทอผืนผ้าชั้นดีออกมาเป็นตัวอักษร สร้างจินตนาการให้กับคนหมู่มากได้ขนาดนี้ ต้องยกนิ้วให้เลยครับ
+ ใครว่างๆยาวๆเหมือนผมก็ลองหานวนิยายชุดนี้ไปอ่านดู รับรองว่าอ่านแล้วอยากไปเมืองเหนือ เพื่อตามรอย หรืออยากจะค้นคว้าตำนานเมืองเหนือเหมือนผม (กำลังอ่านประวัติศาสตร์ล้านนา อ.สรัสวดี อ่องสกุลกับเพ็ชรล้านนา เล่ม 1-2 ) ลองอ่านดูนะครับ
+ สะหวัดดีวันดีวันนี้ครับ + เมฆชรา / นายอิส รักในหลวงฃ
+ 10/7/2556
สนใจเรื่องดวงชะตาอ่านเพิ่มเติ