ในสวนเมฆ * ชมัยภร แสงกระจ่าง
ในสวนเมฆ * ชมัยภร แสงกระจ่าง





เมื่อคราวที่แล้วรีวิวนวนิยายเรื่องผัดไทยไม่ใส่เส้นของอาจารย์ไป ... ได้เสียงเห็นด้วยว่าสนุกสนานมามากโขทีเดียวครับ ... คราวนี้มารีวิวชวนอ่านนิยายเรื่องใหม่ของอาจารย์ชมัยภรที่ชื่อว่า ... ในสวนเมฆ ...ที่ได้เคยตีพิมพ์เป็นตอนๆที่นิตยสารขวัญเรือน มาอยู่พักหนึ่งครับ ...

จากเมื่อคราวงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติคราวที่แล้วที่ผมไม่ได้ไปโกยหนังสือมาไว้ครอบครองคราวนั้น มีนิยายหลายเรื่องที่ตกหล่นตามเก็บไม่ได้ ... ในสวนเมฆก็คือนวนิยายเรื่องนั้น ... น่าแปลกที่ผลงานใหม่ล่าสุดของอาจารย์เรื่องนี้ไม่มีวางขายตรามแผงหนังสือ (หรือว่าผมมอองไม่เห็นเองอะ) ที่มีวางก็เห็นมีแค่เรื่องจดหมายถึงดวงดาวกับขวัญสงฆ์ ... จนได้พบเจอนวนิยายเรื่องนี้ที่ห้องสมุดรีบขอยืมอ่านด้วยใจอยากรู้เรื่องข้างในนวนิยาย ...

นวนิยายในสวนเมฆ ผลงานเขียนของอาจารย์ชมัยภร แสงกระจ่างเป็นเรื่องของความรัก ความผูกพันของแม่กับลูก แม่กับย่า และลูกกับย่า โดยเน้นเรื่องของครอบครัว ความผูกพันกันเป็นหลัก ..กระทั่งวันแห่งความสงบสุขวันหนึ่งถูกทำลายโดยเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทำความวุ่นวายให้กับครอบครัวนี้ป็นทุกข์ร้อนแทบจะทุกคน ...

พระเอกของเราคือ นายลายเมฆ ... เขาเป็นพระเอกตัวจริงที่มีนิสัยเงียบขรึม ไม่ชอบพูดชอบจา นิ่งอยู่ในมุมแล้วมองปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างพินิจพิจารณา .. กว่าทุกอย่างจะลงตัวได้ก็เล่นเอาคนอ่านลุ้นจนเหนื่อย ... ส่วนนางกุณฑลกับนางกาญจนา ผู้เป็นแม่และย่าของลายแมฆ เป็นอีกตัวละครที่พวกเราชาวหนอนต้องเอาใจช่วยให้ทั้งคู่เขี่ยเสี้ยนหนามในชีวิตให้ออกไปจากชีวิตลายเมฆอย่างเร็วที่สุด ... เพื่อความสงบสุขจะได้กลับคืนมา ...

ส่วนตัวละครอีกตัวที่สำคัญก็คือ น้องจั๊ก หรือ เจนตา ... สาวน้อยที่ตั้งท้องไม่มีพ่อแล้วเข้ามาอยู่ในบ้านพระเอก แบบที่ใครๆหลายคนเรียกสั้นๆว่า ... หน้าด้านอยู่ได้ เรื่องราวสนุกสนานเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีตัวละครหลายตัวอย่างแนน , อดิศักดิ์ ,พระเอกหนังหวานตะลึงโลกที่ชื่อเพลิงฟ้า, นางเอกหนังแสนเสน่ห์อย่างกัลปนา ฯลฯ

เรื่องราวของนายลายเมฆเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆเพราะเจนตาหรือน้องจั๊กท้องไม่มีพ่อ และเข้ามาในชีวิตของเขา ... ให้เขารับผิดชอบในฐานะเพื่อน .... ฟังดูแปลกๆใช่ไหมครับ ... แต่เรื่องราวที่ทำให้คนอ่านแปลกใจคาดไม่ถึงมีอีกมาก (เกือบทั้งเรื่อง) จนเมื่อผมอ่านนิยายในสวนเมฆของอาจารย์เรื่องอ่านไปจนจบหน้าสุดท้าย ...ก็รู้เลยว่าอาจารย์เขียนนวนิยายแนวครอบครัวแบบนี้ได้ยอดเยี่ยมและมีเอกลักษณ์พิเศษไม่เหมือนใคร (ถ้าอ่านหลายๆเรื่องก็จะรู้เลยว่าสไตล์นี้แหละอาจารย์ชมัยภร) ในตอนต้น ต้นกลาง จนถึงตอนท้ายเรื่องก็เดาไม่ค่อยจะถูก ...ยิ่งตอนจบเรื่องอยากจะบอกเพื่อนหนอนว่า ...ผมน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความซาบซึ้งในความรักของพ่อ-แม่-ลูก ลองอ่านดูสิครับ ...

“จั๊กๆๆๆ”
ร่างนั้นยังตรงดิ่งลึกลงไป เขารู้สึกเหมือนตัวลอยได้ ขณะเปล่งเสียงตะโกน “ เจนตา เจนตา ...ๆๆๆๆๆๆๆ”
เสียงของเขาดังก้องกังวานไปทั่วหาด เหมือนเมฆก้อนใหญ่แล่นมาบดบังท้องฟ้า เขาตะโกนอีก ตะโกนแล้วตะโกนอีก “ เจนตา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ” นาทีวิกฤตนั้นเธอหันมา แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมฆก้อนใหญ่เลื่อนออกจากตะวัน แดดยามบ่ายสาดฉาย เสียงได้ตัวจิ๋วระรัวอยู่ข้างหู
“ แม่จั๊กค้าบๆๆๆๆๆ”
เธอเดินกลับมา เวลาเดียวที่เขาหมดแรงล้มลงบนหาดทรายได้ตัวจิ๋วร้องเรียก “พ่อเมฆค้าบบบบบ...” เขากลับบอกว่า “วิ่งไปหาแม่ไปลูก” เด็กน้อยละล้าละลัง แต่ในที่สุดก็วิ่งไปในทะเล เขามองอยู่ และเห็นภาพนั้นเต็มตา เธอรับร่างลูกชายไปกอดแล้วทรุดตัวนั่งลงในน้ำทะเล
ลายเมฆค่อยๆยันตัวลุกขึ้น มองภาพนั้นนิ่งนานเหมือนจะเก็บไว้ในความทรงจำ เธอลุกขึ้น อุ้มลูกชายเดินกลับมา ทรุดตัวนั่งตรงหน้า เขานิ่งงัน วิกฤตที่เพิ่งจะผ่านไปทำให้พูดอะไรไม่ออก น้ำตาไหลริน มือเล็กๆของไอ้ตัวจิ๋วยื่นมาแตะแก้มเขา
“พ่อเมฆร้องไห้”
เจนตาเงยหน้าขึ้นมองเขา นัยน์ตาเธอเต็มไปด้วยน้ำตา แต่ริมฝีปากมีรอยยิ้ม เขาดึงเธอเข้ามากอด
“อย่าทำแบบนี้อีกนะ”
เธอพยักหน้าแล้วร้องไห้โฮ
“กลับบ้านกัน” เขาบอกเธอ

นี่คือตอนใกล้จบของนวนิยายชีวิตเข้มข้นเรื่องนี้ที่ผมขอการันตีว่าอ่านสนุก ได้สาระสัจธรรมชีวิตอย่างเต็มเปี่ยมแถมความซาบซึ้งตรึงใจกลับไปเป็นน้ำตาแห่งความปีติอีกต่างหาก ... เอาเป็นว่าเพื่อนหนอนไปหาอ่านในสวนเมฆของอาจารย์ชมัยภร แสงกระจ่างเล่มนี้กันเยอะๆนะครับ ...

สวัสดีวันอังคารแสนหวานเหมือนเคยครับ ... นายเมฆฉายหน้าบานคนเดิม

------------------------------------------------------------------------




คำคมคารมนักเขียน : หยก บูรพา

@ ทำไมจึงเลือกที่จะเป็นนักเขียน

ผมชอบอ่าน และอยากเขียน พอเขียนแล้วได้ลง มันเท่ห์ มันโก้ เป็นที่รู้จัก ถ้าเราหล่อเราเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงหรือนักร้อง เหมือนนักฟุตบอล แต่เรารูปชั่วตัวดำ ขิ้ริ้วขี้เหล่ใส่แว่นตาหนาเตอะ บังเอิญเราค้นพบตัวเองว่า เราเขียนกลอนได้จับใจคนอื่น เราเขียนหนังสือได้ สมัยผมเรียนธรรมศาสตร์ ผมก็มีวรรคทอง จำกันได้ทั่วไปหมดคือ "ดอกรักบานในหัวใจใครทั้งโลก แต่ดอกโศกบานในหัวใจฉัน"ก็เป็นความสำเร็จของเรา
เราเป็นนักกลอน เป็นนักจัดกิจกรรม แล้วก้าวมาเป็นนักเขียน ได้รางวัลต่าง ๆผมเป็นพ่อแห่งชาติรุ่นแรกของประเทศไทย ผมก็อยู่ในกิจกรรมของหนังสือมาตลอด เคยเป็นนายกสมาคมนักเขียน เป็นเลขาธิการสมาคมนักเขียน

@เชื่อเรื่องพรสรรค์หรือไม่

เชื่อเรื่องพรแสวง เพราะพรแสวงอยู่กับตัวเรา แต่พรสวรรค์อยู่กับตัวเราหรือเทวดาฟ้าดินก็ได้ แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ พรแสวง แล้วอย่าไปคิดว่า เราไม่มีพื้นฐานทางภาษาศาสตร์ ไม่มีพื้นฐานทางอักษรศาสตร์ นิเทศศาสตร์แล้วเราจะเป็นนักเขียนได้หรือ เป็นได้ครับทุกอาชีพเป็นนักเขียนได้ จะเห็นนายแพทย์มาเป็นนักเขียน นักมวย หรือแม้แต่คนอยู่ในคุกก็เป็นนักเขียนได้
ผมเองจบกฎหมายมาเป็นนักเขียนประสบความสำเร็จได้ระดับหนึ่ง อาชีพนักเขียนเป็นอาชีพที่อิสระเสรี แล้วก็อยู่ที่ว่าใครจะสามารถหยิบฉวยได้ คุณขยันเขียนก็มีผลงานมาก คุณฝึกฝนดี ตั้งใจเขียนดีคุณก็ดัง พอดังแล้วก็ได้ทั้งกล่องทั้งเงินมาหมด เดี๋ยวนี้วรรณกรรมยังแปรรูปได้อีกเยอะ ไปเป็นบทละคร เป็นบทภาพยนตร์ เป็นหนังแผ่น หนังจอสารพัด และข้อสำคัญที่สุด งานนักเขียนคือการสร้างอนุสาวรีย์ให้ตัวเอง เป็นอนุสาวรีย์ที่เป็นหนังสืออยู่ในตู้หนังสือ อยู่ในห้องสมุดทุกแห่ง ถ้าไฟไหม้น้ำท่วมก็ยังพิมพ์ขึ้นมาใหม่ จนกระทั่งไม่เหลือซากแล้ว ก็ยังติดอยู่ในความทรงจำของผู้อ่าน เพราะฉะนั้นมาสร้างวรรณกรรมกันเถิด เท่ากับสร้างอนุสาวรีย์ของตัวเองเอาไว้

@มีอะไรจะฝากถึงนักเขียนรุ่นใหม่ หรือนักอ่านรุ่นใหม่ ๆ

สำหรับนักเขียนในฐานะที่ผมเขียนหนังสือมา 40 ปีแล้ว ปีนี้อายุ 60 ปีเป็นนักเขียนอาชีพมา 40 ปีแล้ว อยากจะบอกกับนักเขียนรุ่นใหม่ทุกคนว่า ช่วงนี้เป็นยุคทองของนักเขียนรุ่นใหม่ เพราะว่าสนามเปิดกว้างมาก โอกาสในการที่จะเข้าสู่แวดวงการเขียนมีกว้างขวาง หลากหลาย ท้าทาย ส่วนมากมักจะเย้ายวนเสียด้วย เพราะสังเกตได้ว่า มีการจัดประกวดการเขียนแนวต่าง ๆ รวมทั้งที่เป็นชิ้น รวมทั้งที่เป็นเล่ม และให้รางวัลกันสูง ๆ เช่น เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ยินว่า วรรณกรรมอมตะให้รางวัลกันเป็นล้านบาท แล้วอีกมากที่ให้รางวัลกันเป็นหมื่นเป็นแสน อย่างเช่นงานประกวดในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติหรืองานซีไรท์
ผมอยากฝากคนที่อยากเป็นนักเขียน หรือเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วก็ได้ ตอนนี้เราพูดกันมากว่า เมื่อไหร่นักเขียนไทยจะโกอินเตอร์สักที เช่น รางวัลโนเบลไพร์ซ นักเขียนไทยเรา สมองไม่แพ้ใคร เพียงแต่เราติดที่กำแพงภาษา เพราะภาษาของเราไม่ได้เป็นภาษาสากล เพราะฉะนั้นโอกาสจึงมีน้อย
อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่จำเป็นต้องโกอินเตอร์หรือได้รางวัลโนเบล ขอให้ได้ระดับประเทศ ขอให้ทุกคนใช้ความพยายามในการหาประสบการณ์ทั้งทางตรง ซึ่งอาจหายากหน่อย ก็สามารถอาศัยประสบการณ์ทางอ้อม การพบปะบุคคลให้มาก สัมผัสบุคคลอื่น ๆ ให้มาก อ่านหนังสือหลายอย่าง จะเขียนตัวละครอะไรต้องรู้จักตัวละครตัวนั้นจริง ๆ อันนี้จะทำให้บทประพันธ์แนบเนียนขึ้น คนอ่านไม่ปฏิเสธ

วรรณกรรมมันเป็นกระจกสะท้อนผู้เขียน คนเขียนโง่ ๆ ตัวละครไม่มีวันคิดฉลาด แต่ถ้าคนเขียนเป็นคนฉลาดมีวิจารณ์ญาณดีตัวละครจะดี ..
(คอลัมน์คุยนอกรอบ :เวปประพันธ์สาส์น)





Create Date : 04 สิงหาคม 2552
Last Update : 4 สิงหาคม 2552 11:36:58 น.
Counter : 3127 Pageviews.

6 comments
  
เรื่องนี้เมตก็ชอบค่ะ เคยตามอ่านตอนที่ลงในหนังสือขวัญเรือน แต่ไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าไหร่

เล่มไหนพี่สาวซื้อก็ได้อ่าน ดีจังที่มีรวมเล่มแล้ว
โดย: เมต (SingleMate ) วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:12:20:59 น.
  
โดย: wbj วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:12:49:09 น.
  
ชอบนิยายคุณชมัยภรมากค่ะ ตามอ่านประจำในขวัญเรือน ตัวละครจับต้องได้ ใช้ชีวิตเหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ มีผิดมีถูก มีเลือดมีเนื้อสมจริงทางความรู้สึก

อ่านเรื่องนี้แล้วนั่งร้องไห้ไปด้วย ก็ตรงประโยคกลับบ้านกันนั่นแหละค่ะ และตอนนี้ก็กำลังอ่านผู้หญิงสีฟ้าอยู่ ทำไมมันเศร้าอย่างนี้หนอ รังนกบนปลายไม้ก็ชอบค่ะ

สุดยอดเลยค่ะ คำคมของคุณหยก บูรพา เชื่อเรื่องพรแสวงและความพยายามค่ะ แต่คำว่าพยายามมันทำให้เหนื่อยมากอยู่ กำลังจะก้าวมาอยู่บนเส้นทางนักเขียนให้ได้ค่ะ
โดย: อิมาอิซัง วันที่: 4 สิงหาคม 2552 เวลา:22:45:13 น.
  
ชอบอาจารย์ ชมัยภร มากเลย ครั้งหนึ่งอาจารย์เคยไปที่ ม ราชภัฏเพรชบูรณ์ ดีใจมากค่ะ ที่ได้เจอตัวจริง ติดตามงานเขียนของอาจารย์มาหลายเรื่องแล้ว ชอบทุกเรื่องเลย ยิ่งเป็นเรื่อง รังนกบนปลายไม้ชอบที่สุดเพราะเป็นหนังสือเล่มที่มีลายเซ็นของอาจารย์
โดย: ธี เพชรบูรณ์ IP: 192.168.10.132, 203.172.248.252 วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:15:44:36 น.
  
meclizine 25 mg side effects //meclizinex.com/# meclizine 25 mg tab cad
โดย: best motion sickness medicine IP: 37.139.53.22 วันที่: 24 กรกฎาคม 2566 เวลา:13:34:46 น.
  
cialis 10mg preise tadalafilise.cyou/#
โดย: Kevinjoync IP: 37.139.53.22 วันที่: 21 สิงหาคม 2566 เวลา:3:59:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Itsarawut.BlogGang.com

เมฆชรา
Location :
นครราชสีมา  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]

บทความทั้งหมด