ดรรชนีนาง ♥ อิงอร ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ความรัก ... พลานุภาพอันยิ่งใหญ่ที่บันดาลให้ชีวิตรื่นรมย์และระทมทุกข์ได้พร้อมๆกัน บางครั้งความรักประดุจน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่บางครั้งก็ปราศจากความปราณีกัดกร่อนชีวิตและวิญญาณ บางครั้งความรักประดุจแสงตะวันอันอบอุ่นและสว่าง แต่บางครั้งก็ประดุขเหมันต์รัตติกาลอันเยือกเย็นและมืดมิด บงาครั้งความรักอ่อนละมุนประดุจสาลม แต่บางคราวก็ปั่นป่วนราวทะเลบ้า ถ้าเช่นนั้น ... ความรักเป็นฉันใดหนอ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ดรรชนีอาศัยอยู่บนแหลมสนแถบจังหวัดสงขลา วันหนึ่งที่แสนธรรมดาของเจ้าหล่อนต้องเปลี่ยนไปตลอดกาลเมื่อชายหนุ่มหน้าคมตนโก้ได้โผล่ขึ้นมาอย่างเงียบเชียบและติดตราตรึงใจสาวน้อยหน้าหวานจนยากจะหักใจลืมเลือนใบหน้าวงนั้นได้ แล้วอุบัติเหตุได้เกิดขึ้นกับนิ้วของดรรชนี นี่คือที่มาของนวนิยายขนาดสั้นอันแสนเศร้าระทมหัวใจผู้อ่านยิ่งนักมาเนิ่นนานหลายสิบปี ถ้าถามว่าหม่อมเจ้านิรันดร์ฤทธิ์เป็นคนดีไหม .. ก็คงตอบด้วยตัวนวนิยายเองว่าไม่ใช่ เพราะเป็นคนที่มีมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเองเคยกระทำลงไปกับดรรชนีจนเกิดโศกนาฏกรรมอันแสนสลดหดหู่เรื่องนี้ .. ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ลมดึกโชยผิวน้ำ หอบเสียงขลุ่ยหวานเศร้าของชาวเรือดังลอยมาจากหมู่บ้านท้ายแหลม .. เรือบดยังคงลอยเอื่อยตามกระแสน้ำ กรรเชียงคู่หยุดพุ้ยน้ำ แขวนอยู่กับห่วงสีทองเหลืองแคมเรือ คนกรรเชียงเลื่อนตัวมาจากท้ายเรือมาหนุนตักอีกคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่กลางลำ ... ตาเขาปรือรับแสงดาว กลิ่นเหล้าฝรั่งหอมอ่อนๆระเหยปนมากับลมหายใจ “ เริ่มเมาแล้วล่ะสิ ” เจ้าของตักกระเง้าในที “ คนโกง ไม่ยักบอกแต่แรกว่าชอบเหล้า จะได้หลีกเสียให้ไกลร้อยโยชน์พันโยชน์ ดรรชนีไม่เกลียดกลัวอะไรเท่าเหล้า ” เธอถอนหายใจยาว “ พ่อทำให้ดรรชนีกลัวเหล้า แต่ก็กลับมาพบคนชอบเหล้าเข้าอีกจนได้ ” “ ทหารเรือทุกคนต้องรู้จักเหล้า ” หน้าเขาซุกประจบอยู่กับหน้าอกเธอ “ เพราะเรามีชีวิตที่ว้าเหว่กับทะเล ” “ แล้วก็ผู้หญิง ..” หญิงสาวต่ออย่างงอนๆ “ เมื่ออยู่บนบก .. แล้วน้ำตาที่คุณให้เขาเมื่อคุณจากเขาไป” “ ทำไมไม่ว่าน้ำใจ ” เขาถามเสียงอ้อมแอ้ม “ ก็ยังแคลงใจสิคะ เขาว่า ดูความรักชาวเรือรบก็ให้ดูที่สายน้ำ ” “ จริง ! เหมือนสายสมุทร กว้างใหญ่ไพศาลไม่รู้จักจบจักสิ้น ” “ เหมือนมหาสมุทรที่ไม่รู้จักอิ่มด้วย จริงไหมคะ ” “ จริง ! ” เขารับอีกครั้ง “ ใครจะรู้จักอิ่มรักในทะเลน้ำตาลของดรรชนีคนนี้ได้ ” เขาไขว่คว้าหามือดรรชนีมาจูบที่นิ้วเบาๆ ที่นิ้ว และปล่อยให้แนบอยู่กับใบหน้าเขา พึมพำว่า “ จริงหนอ .. เพราะดรรชนีนิ้วนี้ฉันจึงได้ตัวดรรชนีมากอดกับอก พร้อมกับรู้ว่าเธอก็บังเอิญชื่อดรรชนี ใครช่างให้ชื่อ .. เพราะแลเหมาะเจาะเหลือเกิน ..” “ พ่อค่ะ .. พ่อให้ชื่อและบอกให้รู้แต่เด็กๆว่าดรรชนีแปลว่านิ้วชี้ ” “ นิ้วที่เธอต้องเสียเลือดและมีแผลเพราะปราณีฉัน ” ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ด้วยสำนวนภาษาที่แสนวิจิตรบรรจง ผ่านการร้อยเรียงมาอย่างประณีตเหมือนภาพเขียน จึงทำให้นวนิยายดรรชนีนางเรื่องนี้โด่งดังในชั่วข้ามคืน .. หนอนสมัยนั้นร้องไห้กับความรักของนางเอก และอยากจะหาทางลงโทษพระเอกที่เป็นคนสับปลับ ไร้จริยธรรม มนุษย์ธรรม เลือดเย็นคนนี้อย่างที่สุด .. นวนิยายรัก สุข โศก สลดหัวใจเรื่องนี้ไม่มีกาลเวลาเลย เพราะเหตุผลที่ว่าความรักที่เป็นพิษร้ายมักจะทำลายผู้ที่อ่อนโยนต่อโลกเสมอ ดังเหมือนดรรชนีน้อยของราชิด .. ต้องมามีมลทินเพราะชายชั่วอย่างหมอ่มเจ้านิรันดร์ฤทธิ์คนนั้น .. อยากจะชวนเชิญเพื่อนหนอนไปอ่านดรรชนีนางกันเยอะๆๆ จะได้รู้ว่านวนิยายที่เขียน และกลั่นออกมาจากความรู้สึกข้างในของผู้ประพันธ์จริงนั้นเป็นอย่างไร .. ทั้งถ้อยคำสนทนาแสนจะชวนเคลิบเคลิ้ม ทั้งฉากที่สวยงามเหมือนจำลองธรรมชาติเมืองสงขลามาไว้ตรงหน้าเรา .. รวมทั้งเหตุการณ์ที่ตัดสลับไปมาให้เราลุ้นจนตัวโก่งเลยว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ แบบนั้นตอลดทั้งเรื่อง .. น่าสนุกจริงๆๆ ..ขอเชิญเพื่อนหนอนไปหาอ่านดรรชนีนางกันนะครับ เรื่องนี้มีความยาวของตอนไม่มาก ๑๒ ตอนพอดิบพอดี .. เฮ้อ .. ความรักที่ไม่สมหวังช่างน่าเศร้าจริงเลย อ่าครับ .. ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ “ เด็กบ้านนอกโง่ๆคนหนึ่งขอซบหัวกราบมายังรอยบาทของหม่อมเจ้านิรันดร์ฤทธิ์ธำรง ..” นี่คือคำขึ้นต้นของจดหมาย .. “ ขออวยพรให้คุณ ... ประทานโทษ ฉันพูดศัพท์เจ้าไม่เป็น อีกประการหนึ่ง เมื่อคุณพบเห็นคุณก็ไม่ได้นำความเป็น “ เจ้าอันสูงศักดิ์” ของคุณไปพบกับฉันด้วย ฉันได้พบชายหนุ่มทหารเรือคนหนึ่ง ซึ่งเรียกตัวเองและขอให้ฉันเรียกเขาว่า “ นิรันดร์ ” เท่านั้น .. ขอให้คุณจวมีความสุขในชีวิตวิวาห์ของคุณตลอดกาล .. ตามความปรารถนาดีของคนๆหนึ่ง คือฉัน ..” “ เมื่อ “ อรุโณทัย ” ถอนสมอออกจากอ่าวสงขลา ฉันเพิ่งจะรู้หลังจากนั้นว่าพร้อมสมอมันถอนเอาทุก ๆ สิ่ง ขณะที่มันจอดอยู่ที่นั่นไปด้วยพร้อมกัน เมื่อพ่อฉันกระเสือกกระสนสืบเสาะมาหาคุณถึงวัง ทั้งๆที่กำลังเจ็บ เพื่อแจ้งข่าวให้คุณทราบหลังจากคุณไม่ตอบจดหมายของฉันสิบกว่าฉบับที่บอกให้รับรู้ว่า .. เลือดในกายของฉันครึ่งหนึ่งของคุณกำลังก่อรูปจำเริญอยู่ในตัวฉัน พร้อมกับความรักที่คุณได้ให้ .. พ่อกลับมาบอกฉันว่า แกมีบุญได้รับการต้อนรับจากคุณแค่เพียงประตูรั้ว และเพราะสำเนียงระรื่นหูของคุณด้วยคำว่า “ ฉันไม่รู้จักแก ไม่รู้จักใครๆทั้งนั้น ตาบ้า! ” พ่อก็อิ่มเอิบใจจนสบายไปแล้ว .. แกตายในวันรุ่งขึ้นนับจากวันที่กลับมาจากมหานคร .. หนีฉันไปนั่งตายอยู่เงียบๆ ใต้โคนสารภีกับศพแม่ในตอนดึก .. ฉันไปพบพ่อเมื่อรุ่งเช้า และจัดการฝังไว้ที่นั่นตามความประสงค์ของพ่อเรียบร้อยไปแล้ว .. เดี๋ยวนี้ฉันอยู่กับลิงและหมาที่จงรักภักดีต่อฉัน ทั้ง ๆ ที่มันเป็นสัตว์เดียรัจฉาน ..” ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ผมยกตัวอย่างบทสนทนาที่เป็นแก่นปมของเรื่องมาเป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆได้ซึมซับการใช้สำนวนภาษาของนักประพันธ์ชั้นครูอย่างอิงอร ซึ่งประวัติของท่านก็น่าสนใจ ลองอ่านดูนะครับศักดิ์เกษม หุตาคม หรือ อิงอร นักเขียนนวนิยายรัก โศกนาฏกรรม และนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียง ฉายา นักเขียนปลายปากกาจุ่มน้ำผึ้ง เกิดที่จังหวัดสงขลา อาศัยอยู่กับมารดาและยาย เพราะกำพร้าบิดาตั้งแต่เด็ก ใช้เวลาว่างเขียนเรื่องสั้นรวมเล่มอ่านกันเอง ใช้ชื่อว่าชาวคณะ "ริ้วอักษร" ต่อมาได้เขียนส่ง หนังสือพิมพ์ ประชามิตร-สุภาพบุรุษ" ซึ่งมีศรีบูรพาเป็นบรรณาธิการ ใช้นามปากกา "อิงอร" ผลงานชิ้นแรกคือเรื่องสั้น "สิ่งที่เหลือ" ตีพิมพ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 และเริ่มมีชื่อเสียงจากเรื่องสั้น "นิทรา-สายัณห์" ซึ่งต่อมาถูกขยายให้ยาวขึ้น และรวมเล่มจำหน่ายในปี พ.ศ. 2488 ผลงานของอิงอรที่มีชื่อเสียง เช่น นิทรา-สายัณห์ / ดรรชนีนาง /ธนูทอง / ช้องนาง / โนรี / บุหรงทอง / ราชันย์ผู้พิชิต / ริมฝั่งเนรัญชลา / กลิ่นยี่โถแดง / เกียรติศักดิ์ทหารเสือ / มดแดง / ปูจ๋า / กบเต้น / ไทยใหญ่ ฯลฯ ล้วนได้รับความนิยม นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ละครเวที และละครโทรทัศน์ ... อิงอร เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๒๙ สิริอายุ 68 ปี ด้วยโรคหัวใจ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ วันนี้เป็นวันแม่ก็ขอให้เพื่อนๆที่น่ารักกราบเท้าแม่ พาแม่ทำบุญมีความสุขในแบบชีวิตที่เจริญๆกันเยอะๆนะครับผม สุขสันต์วันหยุดยาวๆๆ ครับผม .. นายอิส / เมฆชรา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๓ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ชอบหนังสือเล่มนี้ค่ะ ที่อยากได้เป็นเจ้าของและอยากอ่านคือ นิทรา - สายัณห์ หายากมากๆเลยค่ะ
โดย: sawkitty
![]() คงหาอ่านได้ยากมากกกกกกกก แต่จะพยายามหามาอ่านครับ
โดย: F_nakhon
![]() สำนวนภาษาโบราณ ชอบมากกกกกกกก หาอ่านยากแล้วแหละสำหรับสำนวนแบบนี้ในยุคปัจจุบัน
เห็นด้วยกะคห.๒ ท่าทางจะหาอ่านยาก โดย: pimpa_11
![]() ชอบงานและสำนวนของอิงอรมากๆ เลยครับ
อ่านทีไรขนลุกด้วยความทราบซึ้งใจทุกที โดย: Boyne Byron
![]() บทที่ยกมา มันช่างเป็นการบรรจงด่า ตัดพ้อที่นุ่มนวล กระทบกระเทียบจริง ๆ ค่ะ แต่เล่มนี้น่ากลัวจะหาอ่านยากแล้วนะคะ ขนาดเล่มที่พี่อิสถายปกมายังโบราณ คลาสสิคซะขนาดนี้
![]() โดย: Kitsunegari
![]() ช่ายแล้วจิ๊บ ต้องไปคุ้นต้องไปรื้อในงานสัปดาห์ฯ หาได้ก็แทบแย่ อิอิ
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() โดย: เมฆชรา
![]() ขณะนี้ผมอายุ 66 เมื่ออายุ15-25 พยายามหาอ่านหนังสือที่ "อิงอร" เขียน ได้เกือบทุกเนื่อง ชอบมาก
โดย: รปศ. IP: 125.27.145.167 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:18:36:13 น.
ดรรชนีนางอยากได้ไว้อ่านด้วยครับ พอจะมีข้อมูลทางคอมฯให้อ่านบ้างมั้ยครับ
โดย: รพินทร์ IP: 180.183.172.73 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2555 เวลา:8:58:34 น.
รบกวนถามหน่อยนะค่ะ ว่าหนังสือดรรชนีนางนี้สามารถหาซื้อที่ไหนได้บ้างไหมค่ะ
โดย: น้ามมี่ IP: 49.49.110.3 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:11:57:46 น.
อยากอ่านมากๆ เลยค่ะ ... จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ ได้โปรด
โดย: DaoLookKai IP: 49.237.34.238 วันที่: 15 มีนาคม 2558 เวลา:2:26:34 น.
|
บทความทั้งหมด
|