Blog 26/2553..Valentine ในความทรงจำ..
To Love Somebody : Bee Geesลองเขียนดูครั้งแรกและคงเป็นครั้งเดียว ต้นกำเนิด.. มาจากการเข้าไปบล็อค"ก๊ะว่าก๋า" เมื่อวันอาทิตย์นี้ 1 กพ. ตอน 3 ทุ่ม ครึ่ง รู้เรื่องโครงการนี้..นานแล้ว แต่ความที่ไม่ชอบเขียนอะไรยาวๆ เขียนไม่เป็นอีกตั่งหาก บอกน้องอ้อน Becoffee ว่า จะๆเขียนก็ได้แต่คิดอยู่ในใจ พอรู้ว่าโครงการจะปิด จึงรีบเขียนเรื่องมา Jam ทันที เกือบไม่ทันเข้าร่วม last activity แห่งประวัติศาสตร์นี้ คิด polt เรื่อง 5 นาทีเอง (เก่งมาก) คิดไปพิมพ์ไปเสร็จ ตอน 5 ทุ่ม 58 นาที ของวันจันทร์แรกของเดือนกุมภาฯ. up bolg ได้ทันเวลา ผู้เขียน (สงวนลิขสิทธิ์) 2 กพ.2553
:: หมายเหตุ :: ข่าวประกาศจากโครงการ ~ ถนนสายนี้มีมิตรภาพ ~ เมื่อเกือบ 1 ปีก่อน... "ถนนสายนี้...มีมิตรภาพ" ได้ก่อกำเนิดขึ้น ด้วยมิตรภาพแห่งตัวอักษรจากสาว สาว สาว ชักชวนเพื่อนในบล็อก มาร่วมก่อสร้างมิตรภาพ จากงานเขียนทุกๆ สองอาทิตย์ในวันจันทร์ ตามแต่หัวข้อที่กำหนดและพาไป วันนี้ที่ถนนสายนี้ปูยาวมาถึงเกือบขวบปี... ได้รับการตอบรับจากมิตรภาพแสนดี หลากหลาย อบอุ่นและนานยาว... งานเขียนที่หลากหลาย สนุกสนาน รอยยิ้ม น้ำตา มิตรภาพใหม่ จากล็อคอินที่ไม่คุ้นเคย กลายเป็นสนิทสนม ตัวอักษรผ่านกล่องสี่เหลี่ยม หยอกล้อ ให้กำลังใจ ชื่นชม แต่ ขณะที่เดินทางมาถึงจุดหนึ่ง... ถนนสายมิตรภาพ ที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ด้วยเหตุผลหลายประการ ของคนหลายคน สาวทั้งสามตกลงใจกัน หยุดพักถนนเส้นนี้เอาไว้ ชั่วคราวสักระยะหนึ่ง ปล่อยให้ความอบอุ่นอวลอยู่ในใจ ปล่อยให้มิตรภาพที่เกิดขึ้น แล้วดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้ถนนสายนี้ ทอดยาวไปตามทางของมัน ปล่อยให้งานเขียนต่าง ๆ คงอยู่อย่างงดงามอย่างนั้น ขอขอบคุณ เพื่อนชาวบล็อกแก๊งค์ที่ร่วมโครงการ ร่วมอ่าน และร่วมผ่านไปผ่านมา ทุกท่านนะคะ เราสาวสาวสาว ซาบซึ้งใจในมิตรภาพที่ได้รับ... แล้วในวันหนึ่งที่เหตุผลทุกประการ กลับมาตรงกันอีกครั้ง ถนนสายนี้... จะมีมิตรภาพอีกครั้งค่ะ...
" Valentine ในความทรงจำ " ปี 4 แล้วซินะเรา ในมหาลัยที่ผมเรียนคณะเราไม่ใหญ่นัก จะเห็นหน้าเห็นตาจำกันได้เกือบหมด ผม..ตี๋ใสสะอาดมาดนุ่ม มีโต๊ะประจำอยู่ใต้ถุนตึก 2 ที่ตรงมุมตึก เป็นที่น้องๆปี 1 ชอบสิงสถิตกัน ที่โต๊ะปิงปองเก่าๆที่ไม่เคยว่างเว้นคนเล่น เพราะไม่มีโต๊ะนั่งพอ(พี่ๆยึดหมด) เธอ..เด็กสาว Freshy แสนซนมาดเซอร์คนนั้น เดินก้มหน้าก้มตาไม่พูดจากับใคร ขึ้นไปแย่งนั่งเรียนบนตึก 2 (ห้องเรียนรวม)แถวหน้าเสมอๆ เวลาผมเดินผ่านขึ้นเรียนในชั้นถัดไป ไม่ว่าผมจะผ่านมาที่โต๊ะปิงปองคราใด จะเห็นเธอยึดไม้ปิงปองได้เสมอๆ เป็นเวลานานๆ ไม่ค่อยได้อ้าปากพูดจาอะไรกับใคร ในกลุ่มเพื่อนๆ 9-10 คน ของเธอ ความที่ผมว่างมากเพราะใกล้จะจบแล้ว ไม่ค่อยมีชั่วโมงเรียน จากโต๊ะที่ผมนั่งประจำ สายตาของผมชอบเผลอไปจับจ้องเธออยู่เสมอๆ ไม่รู้เป็นอะไร อาจเป็นเพราะความเคยชิน และผมก็เรียนวิชาเอก อยู่คนเดียว(จริงๆ) ไม่มีใครเลือกเรียนเหมือนผม และ อจ.ก็เปิดสอนให้ด้วย ผมไม่เล่นกีฬา ไม่ชอบเข้าห้องสมุด ชอบนั่งใต้ถุนตึก 2 อยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ผู้หญิง+ผู้ชาย 5- 6 คน ซึ่งก็มีแฟนกันไปหมดแล้ว แต่ผมยังไม่มี เป็นตัวเป็นตน เพราะไม่ชอบเอาใจใคร ด้วยความเป็นลูกชายโทน ในครอบครัวคนจีนที่มีธุรกิจเป็นของตนเอง ผมเจอยัยปิงปองเนีย่ะครั้งแรก ตอนเทอมแรกเดือนกรกฏาคม บนรถเมล์จากประตูน้ำแถวบ้านผม และเราก็ลงรถเมล์ป้ายเดียวกัน แล้วไม่ขึ้นรถเมล์ต่อ....เราเลือกที่จะเดินต่อไปมหาลัย ซึ่งก็ประมาณ 2-3 ป้าย..ใครๆก็เดินกัน เมื่อตอนเข้าๆ ประมาณ 7 โมง แดดยังไม่ร้อน ผมทักเธอก่อนตามประสารุ่นพี่ปี 4 ที่เห็นน้องรองเท้าขาว ปี 1 บ้านเธออยู่ไกลกว่าผม(ต้นสายรถเมล์) เธอไม่กระดากอายอะไรเวลาพูดกับผม แต่ถามคำก็ตอบทุกคำ และผมก็เจอเธอเป็นประจำ ในเวลาดังกล่าวที่ผมไปเรียนตอนเช้า จนเป็นความเคยชิน วันไหนไปเช้าหรือไม่เห็นเธอ.. ผมก็เดินช้าๆหน่อย เหมือนคอยมองหาเธอ ผมไม่เคยเห็นเธอคุยกับรุ่นพี่ผู้ชาย หรือผู้ชายคนไหน นอกจากกลุ่มเพื่อนๆของเธอ ผมมีความรู้สึกสบายใจที่ได้พบเห็นเธอ เราไม่เคยพูดคุยกันในมหาลัย เพราะพอเข้าประตู.. เราก็แยกย้ายรีบเข้าห้องเรียน ไปกินข้าว ไปโต๊ะปิงปอง ตามเรื่องตามราว สำหรับผมเองผมไม่รู้ อาจเป็นเพราะผมเกรงจะเสียภาพพจน์ตี๋ขี้เต๊ะ หรืออายที่จะให้เพื่อนๆมาว่าผมหลีเด็ก (ตามแบบที่พี่ๆปี 4 ชอบทำ) เวลาผ่านมาเนิ่นนานไม่มีอะไรในกอไผ่ ทุกอย่างดำเนินไปแบบเดิมๆที่ผ่านมา แต่ในช่วงปีใหม่...มีขายบัตรงานกลางคืน ผมต้องทำกิจกรรม ..ผมไม่นึกว่าเธอจะได้มา ปรากฏว่าเจอเธอมาช่วยทำกิจกรรมจัดเวที โดยที่เพื่อนๆไปขออนุญาตที่บ้านเธอให้ พองานเริ่มเพื่อนๆเธอสวยๆทั้งนั้นก็ออกไปกิ้วก๊าว หรือมีหนุ่ม+พี่ๆมาขอเต้นรำ.. เผอิญผมก็คุมเครื่องเสียงอยู่บนเวที มองมาเห็นเธอนั่งในมุมมืดๆเหมือนจะซ่อนตัว อะไรไม่รู้ดลใจให้ผมเดินมาที่เธอ และบอกว่า" ป๊ะ....เต้นรำกันนะครับน้อง " เธอหันมามอง และก็เดินตามออกมา ก้มหน้าก้มตาเต้นตรงจุดที่มืดที่สุด เต้นแค่เพียง 2-3 เพลงเร็ว ดนตรีก็เปลี่ยนเป็นเล่นเพลงช้า.. เธอแยกไปสอยดาว(ที่ตัวเองช่วยทำ) ได้รางวัลพิเศษเป็นน้ำหอมผู้ชายแอร์เมส ซึ่งผมชอบมากๆ.. และแบบแพงสุดๆ ผมเอาของผมไปขอแลก.... ขอแลกเท่าไหร่เธอก็ไม่ยอม ผมจึงใช้เป็นข้ออ้างติดรถบัส (รับ-ส่งน้องๆกลับบ้าน) ตื้อเธอไปตลอดทางจนถึงบ้าน.... สงสัยว่าทำไมไม่ใจอ่อน ขัดคำสั่งรุ่นพี่ (ยังมีระบบ SOTUS)ได้อย่างไร..??? เธอบอก.... "ก็พี่อยากได้มาก มันต้องสำคัญ+ดี หนูไม่ให้พี่หรอก.. อย่ามาตื้อซะให้ยากเลย no way ค่ะ" "อ้าว!!!เป็นงั้นไป" ผม คิด..แห้วๆๆๆๆ เวลาผ่านไป..Life goes on เรา 2 คนไม่ได้เจอะเจอกันบนรถเมล์ หรือบนถนนระหว่างทางอีก และผมไม่ค่อยได้มี ชม.เรียน ยุ่งกับการเก็บวิชาและขอจบ ก็บอกแล้วว่าเอกนี้มีผมเรียนคนเดียว ตัดเกรดคนเดียว ต้องสูงๆเข้าไว้ ผมเห็นเธอตามโต๊ะปิงปองบ้าง หรือเดินผ่านกันไปมาบ้าง ก็มองหน้าสบตากันเฉยๆ without any comment .. ผมต้องเติบโตก้าวไปข้างหน้าต่อไป เธอก็มีชีวิตอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ตามวัยของเธอต่อไป จน Valentine มาถึง บังเอิญผมมาสายๆเดินเพลินๆ เธอโผล่มาจากมุมตึกห้องสมุด เสื้อนิสิตสีขาวเลอะไปด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ เธอเข้ามาประชิดตัว ยื่นดอกกุหลาบสีแดงสดมาตรงหน้าแล้วพูดว่า "ให้พี่ค่ะ" ผมเลยตะบะแตกจับดอกไม้และมือเธอไว้ นานเท่าไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกที ที่หน้าโรงหนังย่านสยามสแควร์เสียแล้วThat's my sweet valentine... ของตี๋หล่อเล็กๆ อย่างผม
Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2553
39 comments
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2553 10:06:23 น.
Counter : 2953 Pageviews.